15 มอยเจอร์ไรเซอร์ เพิ่มความชุ่มชื้นอิ่มน้ำ คนผิวมันเป็นสิวก็ใช้ได้
ไลฟ์สไตล์

ท้องไหม?! เช็กให้ชัวร์กับวิธีตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตัวเอง

1,540
25 ส.ค. 2566
วิธีตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตัวเอง ใช้อะไรบ้าง

ท้องไหม? เช็กยังไงให้ชัวร์ ต้องลองตรวจการตั้งครรภ์ด้วยด้วยตัวเองกันแล้วค่า ~ เพราะการที่ประจำเดือนขาดหายหลังมีเพศสัมพันธ์ กับอาการปั่นป่วนทางสุขภาพนั้น อาจเป็นสัญญาณว่าเรากำลังตั้งครรภ์อยู่ก็ได้ วิธีที่ทำให้มั่นใจและชัวร์ได้ที่สุดก็คือการตรวจด้วยอุปกรณ์ตรวจการตั้งครรภ์ไปเลยค่ะ แล้วอุปกรณ์ตรวจการตั้งครรภ์แบบไหนที่จะให้ผลแม่นยำที่สุด และแต่ละตัวมีราคาประมาณเท่าไหร่กันบ้าง ก็ไปดูกันเลยค่าา


ประจําเดือนไม่มา เกิดจากอะไรได้บ้าง?


สาเหตุของภาวะประจำเดือนขาด ประจำเดือนไม่มา

สาเหตุที่ทำให้ประจำเดือนขาด หรือประจำเดือนไม่มา มีได้หลากหลายอย่างเลยค่ะ หลัก ๆ จะขึ้นอยู่กับสุขภาพและการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ดังนี้

  • ตั้งครรภ์ : แน่นอนว่าเมื่อตั้งครรภ์ จะทำให้วงจรการตกไข่และการลอกตัวของผนังมดลูกหยุดลง จึงทำให้ประจำเดือนไม่มาได้
  • กินยาคุมกำเนิด : เมื่อมีการใช้ยาคุมกำเนิด จะทำให้ฮอร์โมนในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงไป ทำให้เกิดภาวะประจำเดือนขาด หรือประจำเดือนไม่มาชั่วคราว
  • อายุมากขึ้น : พออายุเพิ่มขึ้น การทำงานของรังไข่จะชะลอลง ทำให้ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ และค่อยๆ เว้นระยะรอบเดือนขึ้นเรื่อย ๆ จนประจำเดือนไม่มาเลยอีกต่อไป
  • ออกกำลังกายมากไป : หากออกกำลังกายมากเกินไป หรือลดน้ำหนักผิดวิธี ร่างกายจะคิดว่าเราอยู่ในภาวะวิกฤต และพยายามเซฟพลังงานเอาไว้ ส่งผลให้ประจำเดือนขาดไปชั่วคราวได้
  • ความเครียด : หากร่างกายได้รับความเครียดมากเกินไป แน่นอนว่ากระทบกับฮอร์โมนในร่างกายอยู่แล้ว ถ้าช่วงไหนที่สาว ๆ มีความเครียดสูง ก็จะทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ หรืออาจจะประจำเดือนไม่มาชั่วคราวได้นั่นเอง
  • ความผิดปกติของร่างกาย : หากมีโรคประจำตัว โรคแฝง ร่างกายได้รับบาดเจ็บ หรือ ผ่านการผ่าตัดมาไม่นาน อาจทำให้ร่างกายบอบช้ำ และฮอร์โมนแปรปรวนจนทำให้ประจำเดือนขาดหายได้ชั่วคราวค่ะ

แต่หากคิดว่าตัวเองมีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์อย่างแน่นอน แนะนำให้ทำการตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตัวเองที่บ้านก่อนเลยค่ะ แล้วต้องใช้อุปกรณ์อะไรบ้าง ตรวจตอนไหนผลแม่นสุด ต้องทำยังไงบ้าง ไปดูกันเลย
~


อุปกรณ์และวิธีใช้ที่ตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตัวเอง


อุปกรณ์ที่ใช้ตรวจตั้งครรภ์ด้วยตัวเอง มีทั้งหมด 4 แบบ ได้แก่ แบบจุ่ม แบบหยด แบบปัสสาวะผ่าน และแบบดิจิทัล โดยแต่ละแบบก็จะมีราคาและความแม่นยำแตกต่างกันดังนี้เลยค่ะ


อุปกรณ์ตรวจการตั้งครรภ์แบบจุ่ม

1. อุปกรณ์ที่ใช้ตรวจตั้งครรภ์แบบแถบจุ่ม (Test Strip) เป็นอุปกรณ์ที่หาซื้อได้ตามร้านขายยา และห้างสรรพสินค้าทั่วไป ใน 1 ชุด จะประกอบไปด้วย แผ่นทดสอบการตั้งครรภ์ และถ้วยรองปัสสาวะ

วิธีตรวจการตั้งครรภ์ : เก็บปัสสาวะลงในถ้วยตวง แล้วนำแผ่นทดสอบจุ่มลงในถ้วยตวงประมาณ 3 วินาที แล้วนำออกมาจากถ้วย วางทิ้งไว้ในแนวราบประมาณ 5 นาทีเพื่อรออ่านผลตรวจครรภ์

ราคา : 100-300 บาท แล้วแต่แบรนด์และแหล่งจัดจำหน่าย
ข้อดี : ค่อนข้างแม่นยำ และมีราคาถูกที่สุดเมื่อเทียบกับรุ่นอื่น
ข้อเสีย : ลำบากนิดหน่อยตอนเก็บปัสสาวะ และมีความแม่นยำน้อยกว่าแบบหยด และแบบปัสสาวะผ่านค่ะ



อุปกรณ์ตรวจการตั้งครรภ์แบบหยด

2. อุปกรณ์ที่ใช้ตรวจตั้งครรภ์แบบหยด (Pregnancy Test Cassette) เป็นอุปกรณ์การตรวจตั้งครรภ์ที่หาซื้อได้ตามร้านขายยาและห้างสรรพสินค้าทั่วไป ภายในกล่องจะประกอบไปด้วย หลอดหยด ตลับตรวจครรภ์ และถ้วยรองปัสสาวะ

วิธีตรวจการตั้งครรภ์ : เริ่มเก็บปัสสาวะลงในถ้วยรอง จากนั้นนำหลอดหยดมาดูดน้ำปัสสาวะจากถ้วย แล้วหยดลงในตลับตรวจครรภ์ประมาณ 3-4 หยด จากนั้นให้วางตลับทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีแล้วผลการตรวจจึงจะปรากฏขึ้นมาค่ะ

ราคา : 300-500 บาท แล้วแต่แบรนด์และแหล่งจัดจำหน่าย
ข้อดี : แม่นยำ มีราคากลาง ๆ และมีอุปกรณ์หลากหลายชิ้นให้ใช้ในการตรวจสอบ
ข้อเสีย : ผลลัพธ์แม่นยำน้อยกว่าที่ตรวจแบบดิจิทัล



อุปกรณ์ตรวจการตั้งครรภ์แบบปัสสาวะผ่าน

3. อุปกรณ์ที่ใช้ตรวจตั้งครรภ์แบบปัสสาวะผ่าน (Pregnancy Midstream Tests) เป็นอุปกรณ์การตรวจตั้งครรภ์ที่มีรูปแบบเป็นแท่งคล้ายปากกาแบน ๆ ทำให้สะดวกในการใช้งาน

วิธีตรวจการตั้งครรภ์ : ยืน / นั่งปัสสาวะ โดยให้ปลายอุปกรณ์ตรวจตั้งครรภ์สัมผัสกับน้ำปัสสาวะโดยตรงจนเปียกชุ่ม หรืออย่างน้อย 5-30 วินาที จากนั้นวางทิ้งไว้ในแนวราบประมาณ 5 นาทีเพื่อรออ่านผลตรวจครรภ์

ราคา : 500-800 บาท แล้วแต่แบรนด์และแหล่งจัดจำหน่าย
ข้อดี : ผลลัพธ์แม่นยำมากกว่าแบบจุ่มและแบบหยด
ข้อเสีย : มีความยากนิดหน่อยตอนต้องกะระยะและปริมาณปัสสาวะให้เพียงพอ



อุปกรณ์ตรวจการตั้งครรภ์แบบดิจิทัล

4. อุปกรณ์ที่ใช้ตรวจตั้งครรภ์แบบดิจิทัล (Digital Pregnancy Test) เป็นที่ตรวจครรภ์ในกลุ่มของที่ตรวจครรภ์แบบปัสสาวะผ่านเช่นกันค่ะ มีลักษณะคล้ายกับที่ตรวจครรภ์แบบปากกาทั่วไป แตกต่างที่มีหน้าจอแสดงผลแบบดิจิทัลทำให้อ่านผลลัพธ์การตั้งครรภ์ได้เข้าใจง่ายมากกว่าเดิม

วิธีตรวจการตั้งครรภ์ : ยืน / นั่งปัสสาวะ โดยให้ปลายอุปกรณ์ตรวจตั้งครรภ์สัมผัสกับน้ำปัสสาวะโดยตรงอย่างน้อย 5-30 วินาทีหรือจนเปียกชุ่ม และรอผลลัพธ์การตรวจที่จะขึ้นบนหน้าจอดิจิทัล 3-5 นาที

ราคา : 500-2,000 บาท แล้วแต่แบรนด์และแหล่งจัดจำหน่าย
ข้อดี : อ่านค่าได้แม่นยำกว่า แสดงผลลัพธ์ที่เข้าใจง่าย คือ "Pregnant" แปลว่า ตั้งครรภ์ หรือ "Not Pregnant" แปลว่า ไม่ตั้งครรภ์
ข้อเสีย : มีราคาสูงกว่าที่ตรวจการตั้งครรภ์แบบอื่น ๆ



ช่วงเวลาที่เหมาะกับการตรวจตั้งครรภ์


ช่วงที่เหมาะสมกับการตรวจการตั้งครรภ์ด้วยปัสสาวะ

ควรตรวจตั้งครรภ์ตอนไหนดี? จริง ๆ ช่วงเวลาที่เหมาะกับการตรวจการตั้งครรภ์แนะนำให้ตรวจในช่วงเช้าจะดีที่สุด เพราะช่วงเวลาเช้าเป็นช่วงเวลาที่ปัสสาวะของเรามีความเข้มข้นสูงกว่าช่วงเวลาอื่น ๆ และฮอร์โมนตั้งครรภ์จะอยู่ในระดับสูง ทำให้ผลการตรวจครรภ์ในช่วงเช้ามีความแม่นยำสูงมากนั่นเองค่ะ

ตรวจตั้งครรภ์ เร็วสุดกี่วัน? ถ้าหากใจร้อนอยากรู้ผลเร็ว ๆ สามารถใช้ปัสสาวะในการตรวจตั้งครรภ์ด้วยตัวเองได้ หลังมีเพศสัมพันธ์ 12-14 วันไปแล้วค่ะ

สำหรับคนที่อยากได้ความชัวร์ไม่อยากตรวจเอง สามารถไปให้คุณหมอตรวจการตั้งครรภ์ด้วยการตรวจเลือดได้นะคะ โดยต้องเว้นระยะเวลา 8-10 วัน หลังจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดค่ะ แถมวิธีนี้ยังเป็นวิธีที่รู้ผลไวและแม่นยำที่สุดด้วยค่า



ผลตรวจครรภ์ขึ้นกี่ขีดแปลว่าท้อง ?


ผลตรวจการตั้งครรภ์แต่ละขีด หมายความว่าอะไรบ้าง

ผู้ที่ใช้ที่ตรวจการตั้งครรภ์แบบจุ่ม แบบหยอด และแบบปัสสาวะผ่านแบบธรรมดา จะมีผลการตรวจตามนี้เลยค่า ~
  • ผลตรวจครรภ์ขึ้นหนึ่งขีด หมายความว่า ไม่พบการตั้งครรภ์ โดยขีดผลลัพธ์นั้นจะขึ้นที่ขีด C เพียงอย่างเดียว แสดงว่าได้ผลลัพธ์เป็นลบ อาจไม่ตั้งครรภ์ หรือเป็นช่วงแรกเริ่มและยังตรวจไม่พบ
  • ผลตรวจครรภ์ขึ้นสองขีดจาง ๆ หมายความว่า อาจตั้งครรภ์ โดยขีดผลลัพธ์การตรวจจะขึ้นทั้งที่ขีด C และ ขีด T โดยหากขีด T เป็นขีดจาง ๆ แนะนำให้ตรวจซ้ำอีกครั้งภายใน 2-3 วัน เพื่อความแม่นยำอีกครั้ง
  • ผลตรวจครรภ์ขึ้นสองขีด หมายความว่า ตั้งครรภ์ โดยขีดผลลัพธ์การตรวจจะขึ้นทั้งที่ขีด C และ ขีด T อย่างชัดเจน แปลว่าผู้ตรวจได้ตั้งครรภ์แล้วเรียบร้อยค่ะ
  • หากใช้อุปกรณ์ตรวจการตั้งครรภ์แบบดิจิทัล จะมีเพียง 2 ผลลัพธ์ ได้แก่ 1. ขึ้น "Not Pregnant" แปลว่า “ไม่ตั้งครรภ์” และ 2. ขึ้นว่า "Pregnant" แปลว่า “ตั้งครรภ์”
อย่างไรก็ตาม หากไม่มั่นใจในผลลัพธ์ที่ตัวเองตรวจไป หรือตรวจเองแล้วไม่ขึ้นขีดอะไรแต่คิดว่ามีความเสี่ยง ให้เว้นระยะ 2-3 วันแล้วตรวจซ้ำอีกครั้ง หรือไปตรวจที่คลินิคและสถานพยาบาลใกล้บ้านได้นะคะ สำหรับการตรวจการตั้งครรภ์ด้วยปัสสาวะเบื้องต้นมีราคาประมาณ 100 บาทขึ้นไป ส่วนการตรวจด้วยเลือดจะมีตั้งแต่ราคา 700 บาทขึ้นไปถึง 2,000 บาท ราคาแตกต่างกันตามแหล่งที่อยู่ของคลินิค / สถานพยาบาล ลองโทรสอบถามราคาเบื้องต้นก่อนได้ค่า ~


และนี่ก็เป็น วิธีการตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตัวเอง สำหรับใครที่ไม่แน่ใจว่าเราท้องหรือไม่ ประจำเดือนขาดไปแปลก ๆ หลังมีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุด ก็ทำการตรวจเลยเพื่อความสบายใจนะคะ หากตั้งครรภ์แนะนำให้ปรึกษาคู่ของตัวเองและวางแผนในการจัดการกันต่อไปค่าา อย่าลืมไปหาคุณหมอเพื่อตรวจสุขภาพทั้งแม่และเบบี๋ในท้องด้วยน้า

รู้สึกแปลก ๆ ทั้งคลื่นไส้ ทั้งอ่อนเพลีย หรือเราท้องไม่รู้ตัว ไปดูกัน!

ท้องไม่รู้ตัว อาการคนท้อง ท้องจริง ท้องมโน ไปดูกัน
What's new
คัดแล้ว 4 คลีนเซอร์ล้างหน้าเพื่อผิวบอบบาง อ่อนโยน ละมุนผิวคัดเน้น ๆ 17 แชมพูลดผมร่วง 2024 บอกลาผมบาง ต้อนรับผมหนาอีกครั้ง!หนาวนี้ อยากผิวชุ่มชื้นต้อง! Cetaphil Moisturising Cream รีวิวครีมทาผิวที่คนผิวแห้งต้องเลิฟสุดฟิน!! Dyson คว้า JISOO BLACKPINK นั่งแท่นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรกน้องสาวมีกลิ่น ทำไงดี? 7 อาหารจิมิหอม สุขภาพดี หมดปัญหากลิ่นปลาเค็ม13 เซรั่มลดรอยสิว ยี่ห้อไหนดี 2024 กู้หน้าพังให้กลับมาเนียนใสไร้ที่ติ15 มอยเจอร์ไรเซอร์ เพิ่มความชุ่มชื้นอิ่มน้ำ คนผิวมันเป็นสิวก็ใช้ได้ดูดวงความรัก การงาน การเรียน การเงิน ระหว่าง 3 - 9 ธ.ค. 66 (ทุกราศี) ตารางสีเสื้อมงคล เสริมดวงปัง ตลอดปี 2567กิจกรรม :: ชวนทดลองใช้ “แชมพูข้าวก่ำน้ำผึ้ง” Herbal Ground Black Berry Rice & Honey Shampoo จำนวน 50 รางวัล
COMMENTS
1 ความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ขอบคุณความรู้ดีๆค่ะ💛💗💚🧡💙
28 ส.ค. 2566 เวลา 9:13 น.