Profile

เป็นลิปมันรุ่นแรกๆที่เคยใช้ ราคาไม่แพง หาซื้อได้ง่าย อ่อนโยน ส่วนเรื่องความชุ่มชื่นในระดับนึงค่ะ ทาบ่อยๆไม่ต้องคิดมาก

ตัวนี้พัฒนาจากรุ่นเพราะทำออกมาสำหรับคนหน้ามันเป็นสิวโดยเฉพาะ แต่เรารู้สึกว่าเรื่องสิวไม่ช่วยเท่าไหร่ และเรื่องควบคุมความมันก็เฉยๆ แต่โดยรวมคืออ่อนโยนมาก ล้างแล้วหน้าไม่แฟ้งตึง มีความชุ่มชื่นค่ะ เหมาะกับทึกสภาพผิว

ใช้ดีค่ะ ราคาไม่แพง เราซื้อตอนไปญี่ปุ่นแค่ร้อยกว่าบาท พอเข้าไทยก็ประมาณ 300 ถือว่าจับต้องได้ เนื้อออยล์ทงมีกลิ่นหอมของส้มอ่อนๆ ทำให้ใช้งานง่ายไม่เหม็นหืนกลิ่นน้ำมัน .. ล้างทำความสะอาดเครื่องสำอางได้ดีเลย

ก่อนอื่นเลยเราไม่ชอบกลิ่นค่ะ แต่เนื้อครีมให้ความชุ่มชื่นได้ดี แต่ส่วนตัวยังไม่เห็นผลลัพท์ชัดเจน เราชอบกระปุกแบบสูญญากาศเพราะรู้สึกสะอาด

เราเป็นคนหน้ามัน ใช้แล้วหน้ามันขึ้นไปอีก แต่เรื่องการบำรุงก็โอเคโดยรวม ผลลัพท์ต่างๆอาจจะไม่ค่อยเห็ยเท่าไหร่ แต่เราชอบพกเวลาไปต่างจังหวัด เอาไว้เป็นครีมบำรุงแบบง่ายๆ ไม่ต้องคิดเยอะ

มีกลิ่นหอมอ่อนๆ เหมาะกับคนผิวแห้งเพราะชุ่มชื่นมาก หน้าไม่แห้งเลย ทำความสะอาดได้ดีในระดับนึง แต่เราไม่ชอบตอนสุดท้ายที่ต้องใช้สำลีเช็ดออกเพราะกลัวระคายเคืองผิว

ได้รับ Anti-Melasma Cream ของ Concept จากการร่วมกิจกิจกรรม แต่ก่อนหน้านี้ได้อ่านรีวิวมาบ้างแล้ว รู้สึกว่าน่าใช้เพราะทางแบรนด์เคลมว่าเห็นผลภายใน 3 อาทิตย์ 
ส่วนตัวเราเป็นคนไม่ค่อยมีฝ้าเพราะจะทาครีมกันแดดตลอด (ตรงใต้ตาที่เป็นวงๆไม่ใช่ฝ้านะ อันนั้นเกิดจากความผิดปกติของผิวหน้าส่วนตัว เค้าถามหมอมาแล้ว) อาจจะมีสีผิวไม่สม่ำเสมอบ้างเล็กน้อย เราเคยได้ยินมาตลอดว่า คนที่ใช้ยาทาฝ้า พอหยุดยาปุ๊บฝ้าก็จะกลับมาเป็นมากกว่าเดิม เราจึงกลัวครีมทาฝ้ามาตลอด แต่ของ concept ตัวนี้ เคลมว่าสามารถหยุดทาได้เลย โดยไม่ต้องกลัวว่าฝ้าจะเป็นเยอะขึ้น ไม่มีผลข้างเคียง หน้าไม่บาง ฟังดูแล้วน่าสนใจมาก 
หลอดมีลักษณะปลายแหลม ทำให้สามารถควบคุมปริมาณเนื้อครีมได้ง่าย พอบีบเนื้อครีมออกมา เป็นครีมสีขาวขุ่น เนื้อไม่หนัก และไม่เหลวจนเกินไป ลักษณะครีมกึ่งเจล มีกลิ่นแรงพอสมควร เราว่ากลิ่นมันเหมือนยานะ
ลองทาไปที่แก้มบางๆก่อน ความรู้สึกแรกที่สัมผัสได้เลยคือ แสบๆผิวเล็กน้อย เราไม่เคยใช้ครีมทาฝ้ายี่ห้ออื่นมาก่อนเลยไม่รู้ว่ายี่ห้ออื่นเป็นมั้ย หรือนี่คืออาการแพ้ของเราที่มีต่อยี่ห้อนี้ แต่แสบไม่มาก ไม่ถึง 1 นาทีก็หาย เราเลยไม่ได้ล้างออกอะไร เพราะคิดว่าถ้าแพ้ มันควรจะแสบนานกว่านี้ หรือคันกว่านี้ สรุปเลยทนไปก่อน
วันถัดมาลองใช้อีกครั้ง มีอาการแสบเล็กน้อยเหมือนเดิม เป็นช่วงสั้นๆไม่กี่วินาที แล้วก็หาย หลังจากนั้นอีก 2-3 วัน พอทาครีมตัวนี้ อาการแสบก็ไม่มีแล้ว เราจึงคิดว่า น่าจะเป็นอาการปกติของผู้ใช้เริ่มแรกมากกว่า ตอนนี้ใช้ครบ 4 อาทิตย์แล้ว ก็ไม่มีปัญหาจ้า
ย้อนกลับมาเรื่องระหว่างใช้งาน เนื้อครีมสีขาว พอทาไปที่หน้าจะให้ความรู้สึกชุ่มชื่นเล็กน้อย เราเลือกทาเฉพาะปริเวณแก้มที่มีรอยดำบางๆ เช้าและเย็น หลังจากลงเซรั่มหรือน้ำตบต่างๆ ทาไปไม่นานเนื้อครีมก็ซึมลงผิว มาเหนียว ไม่เหนอะหนะ เกลี่ยง่าย
หลังจากใช้จนครบ 4 สัปดาห์ (เราใช้ 1 เดือนเลย) เรารู้สึกว่าจุดด่างดำจางลง และสีผิวปริเวณแก้มสม่ำเสมอมากขึ้น ฝ้า(ที่มีจางๆ) ก็จางลง เราพยายามถ่าย before กับ after ให้ดู แต่ไม่แน่ใจว่าจะเห็นกันมั้ยนะคะ เพราะใช้กล้องหน้าจากมือถือถ่าย นี่พยายามถ่ายให้ชัดที่สุดแล้ว
สรุป เรามองว่าเป็นครีมที่ฝ้าที่อ่อนโยนนะ เกลี่ยง่าย บางเบา ไม่หนักผิว ที่สำคัญคืออ่อนโยนและไม่ทำร้ายผิวด้วย หยุดทาได้ไม่ต้องกลัวว่าจะเป็นฝ้ามากขึ้น
เราให้ 4/5 คะแนน หักเรื่องกลิ่น รู้สึกเหมือนยาไปหน่อย +ความรู้สึกแสบช่วงแรกๆไปล่ะกัน
 
 

รีวิว CLINIQUE Even Better Clinical™ Serum Foundation SPF 20 PA+++
ลองใช้รองพื้นเนื้อเซรั่ม รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Clinique เป็นเวลาทั้งหมด 11 วัน ผลลัพท์จะเป็นยังไงบ้าง มาดูกัน^^
(เราใช้สี 63 fresh beige นะ)

ต้องบอกก่อนว่าสภาพผิวเราคือ ผิวมัน เป็นสิวง่าย มีจุดด่างดำจากการแกะสิว รอยดำ รอบแดง และริ้วรอยค่ะ

แพกเกจ : เริ่มจากกล่องเลย ตัวกล่องเป็นลายดอกไม้สีพาสเทลออ่อน สวยหวาน เปิดออกมาข้างในเจอรองพื้นที่มาในรูปแบบกระปุกแก้วเล็กๆ รูปร่างเหมือนไข่ มีความโค้งมน น่ารัก พกพาง่าย เมื่อเปิดฝาออกมา เป็นหัวปั๊มใช้งานสะดวก กดปั๊มได้เลย ให้ความรู้สึกสะอาด อากาศไม่เข้าไปข้างใน

เมื่อบีบผลิตภัณฑ์ออกมา : เนื้อรองพื้นไม่เหลวเกินไป และไม่ข้นจนเกินไป มีกลิ่นของรองพื้นเล็กน้อย แต่กลิ่นไม่แรงมาก ต้องดมใกล้ๆถึงจะได้กลิ่น จริงๆก็แทบจะไม่มีกลิ่นเลยแหละ

เมื่อเกลี่ยลงบนผิว : เราลองทาโดยใช้นิ้วเกลี่ยและใช้แปรงลงรองพื้น ที่เรารู้สึกว่าใช้นิ้วเกลี่ยจทำให้ลงรองพื้นไม่สม่ำเสมอเท่าไหร่ บางจุดหนาเกินไป และบางจุดบางเกินไป จึงเลือกใช้แปรงเกลี่ยซึ่งคิดว่าดีกว่า เมื่อใช้แปรงเกลี่ยสามารถเกลี่ยได้ง่าย กว่าและดูเป็นธรรมชาติกว่า เนื้อรองพื้นซึมเร็ว และไม่เหลือความมันวาวไว้บนผิว ให้ความรู้สึกแมทท์นิดๆ

ผลลัพท์ที่ได้ทันทีหลังจากลงรองพื้นเสร็จ : ผิวเนียนเรียบ ปกปิดจุดด่างดำและรอยแดงได้ดี สีผิวดูสม่ำเสมอและกระจ่างใสขึ้นแบบธรรมชาติ ไม่ได้มีความรู้สึกว่าหนาเหมือนโบกรองพื้นมาหนักๆ ให้ความรู้สึกผิวเบาสบาย และหน้าไม่มันเลย แต่ไม่ได้รู้สึกหน้าแห้ง ถ้าใช้มือจับๆแตะๆที่ผิว ยังคงรู้สึกว่าผิวหายใจได้ และชุ่มชื่นค่ะ

ผลลัพท์หลังจากใช้ 11 วัน : สิวไม่ขึ้น ทุกวันที่ใช้ หน้าไม่มันเพิ่ม (ทั้งๆที่เราเป็นคนผิวมันมาก) แต่ก็ไม่ได้หน้าแห้ง ยังคงมีความรู้สึกชุ่มชื่นที่ผิวอยู่ ผิวดูเรียบเนียน กระจ่างใสแบบธรรมชาติค่ะ สามารถใช้ได้สบายๆในทุกๆวันเลย

และถ้าดูจากรูปถ่าย รูปที่เราใส่เสื้อสีชมพู คือเราทารองพื้นในตอนเช้า และเราไปวิ่งออกกำลังกายในตอนเย็น วิ่งทั้งหมด 10 กิโล ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จะเห็นได้ว่า หน้ายังใส ผิวยังดูสดชื่นอยู่เลย ให้ความเบาสบาย และรองพื้นไม่ไหลเยิ้มเป็นคราบทั้งๆที่เหงื่อออกเยอะมาก กันน้ำกันเหงื่อได้ดีเลย

และจากรูปถ่ายอีกรูปที่เราใส่เสื้อสีเดงๆ คือเราไม่ได้ลงแป้งฝุ่นหรือแป้งผสมรองพื้นตามเลยค่ะ ถ้าจะแต่งหน้าจัดเต็ม แค่ลงรองพื้นตัวนี้ ทาแก้ม ทาปาก ทาตา ก็สวยแซ่บได้แล้ว ไม่ต้องง้อแป้งเลย ^^
แต่ในเรื่องของผิวกระชับ เรายังรู้สึกเฉยๆอยู่ค่ะ เราเพิ่งใช้มา 11 วัน คิดว่าต้องใช้ต่อไปให้นานกว่านี้

สิ่งที่ชอบ :
1. ขวดเล็กน่ารัก พกพาง่าย และขวดสามารถรีไซเคิลได้ด้วย ชอบตรงนี้มากๆ เพราะอยากให้ทุกคนใส่ใจรักษ์โลก
2. เนื้อรองพื้นบางเบากำลังดี ไม่เหลวเกินไป ไม่ข้นเกินไป เกลี่ยง่าย
3. ปกปิดได้ดีในระดับนึง ไม่หนาจนรู้สึกเหมือนกำลังโบกรองพื้นหนักๆ ทำให้รู้สึกเบาสบายหน้า
4. ไม่มีกลิ่นรองพื้นมากวนใจ ถึงมีก็เป็นกลิ่นที่เบามากต้องดมใกล้ๆจริงๆถึงจะได้กลิ่น
5. อ่อนโยน ไม่อุดตัน ไม่ก่อให้เกิดสิว เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว ทั้งผิวแห้ง ผิวมัน ผิวแพ้ง่าย
6. ผิวดูเรียบเนียนและกระชับขึ้นค่ะ

สิ่งที่ไม่ชอบ : พอตกตอนเย็น ปริเวณแก้มที่ใส่ mask รองพื้นจะหลุดเปื้อนและมากองเป็นรอยตามเนื้อผ้าที่โดน mask ค่ะ ถือว่า เป็นคราบเล็กน้อย

สรุป : เป็นรองพื้นเนื้อเซรั่มที่มีคุณสมบัติในการบำรุงผิวไปด้วย ไม่ใช่แค่ปกปิดอย่างเดียว เนื้อรองพื้นเบาสบาย ใช้แล้วผิวเรียบเนียนและกระจ่างใสแบบธรรมชาติ ไม่โบ๊ะ ไม่หนักผิว ปกปิดได้ดีในระดับนึง และค่อนข้างอ่อนโยน สามารถใช้ได้ทุกวันกับทุกลุคเลยค่ะ

เป็นเจลล้างหน้าที่หาซื้อได้ง่าย ทั้งตามร้านขายยา ห้างสรรพสินค้า และพวกร้านสะดวกซื้อ ราคาไม่แพงมา
เนื้อเจลใส เราจำไม่ได้ว่ามีกลิ่นหอมอ่อนๆมั้ย (แต่คิดว่าน่าจะมีนะ ถ้าจำไม่ผิด) เป็นเจลไม่มีฟองค่ะ ใช้ตอนแรกอาจจะไม่ค่อยชิน แต่ใช้ไปเรื่อยๆก็เริ่มชินค่ะ
ตัวนี้อ่อนโยนมาก ถ้าแต่งหน้ามาต้องเช็ดเครื่องสำอางให้สะอาดให้หมดก่อน เพราะไม่งั้นจะล้างหน้าไม่สะอาด
ผลลัพท์หลังใช้คือ หน้านุ่ม ชุ่มชื่นมากๆ ค่ะ ผิวไม่แห้งไม่เอี๊ยดเลย เหมาะสำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่าย ผิวแห้ง และทุกสภาพผิวค่ะ แต่ที่ให้ 3 ดาวเพราะเราไม่ชินกับเจลหรือโฟมล้างหน้าที่ไม่มีฟอง และเราว่าเจลตัวนี้อ่อนโยนจนเกินไปค่ะ :)

เป็นยาแต้มสิวแรกๆที่รู้จัดและได้ลองใช้ ยาขวดนี้หาซื้อง่าย ราคาไม่แพง ซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป เหมาะสำหรับการรักษาสิวอักเสบ แต่ถ้าแกะสิวและหน้ามีแผลจะแสบมากๆค่ะ ถ้าใช้ต่อเนื่องผิวบริเวณอาจจะแห้งและระคายเคืองได้ ต้องแต้มเฉพาะจุดเท่านั้นนะคะ
เหมาะจะเป็นยารักษาสิวประจำโต๊ะเครื่องแป้งแหละ ถ้าสิวอักเสบผุดขึ้นมา คิดอะไรไม่ออกก็โบกๆตัวนี้ได้อยู่ค่ะ

เราใช้แล้วเฉยๆนะ ไม่ได้รู้สึกว้าวอะไรขนาดนั้น ใช้หมดไป 1 ขวดก็ยังรู้สึกธรรมดาค่ะ อาจจะเพราะตอนนั้นที่ใช้เป็นช่วงที่ผิวกำลังดี ใช้แล้วเลยไม่ค่อยรู้สึกอะไร แต่เนื้อเซรั่มซึมง่าย เกลี่ยง่ายดีค่ะ

ส่วนตัวไม่ค่อยเห็นผลลัพท์เท่าไหร่ค่ะ เราไม่ชอบกลิ่น และมีคามรู้สึกว่าทาแล้วโลชั่นแค่ไปปิดๆสิวไว้ แต่ไม่ช่วยรักษาสิวเท่าไหร่ ใช้แล้วเฉยๆค่ะ

เป็นลิปถูกและดีที่ผู้หญิงต้องมีติดโต๊ะเครื่องแป้งค่ะ เพราะมีให้เลือกหลากหลายเฉดสี เม็ดสีแน่น ทาง่าย และราคาไม่แพงค่ะ เนื้อค่อนข้างครีมมี่ เนื้อลื่น มีความชุ่มชื้น
finished look จะมีความชุ่มชื่นฉ่ำๆนะคะ

ข้อเสียอย่างเดียวสำหรับเราคือไม่ค่อยติดทนเท่าไหร่ ถ้ากินน้ำหรือกินข้าวเสร็จ ต้องเติมค่ะ แต่โดยรวมก็ยังถือว่าโอเคมากๆ เพราะราคาแค่แท่งละร้อยกว่าบาทเองค่ะ

เป็นแชมพูที่เราชอบมากกกก เราหาซื้อไม่ได้อีกเลย นึกว่าเลิกปลิตไปแล้ว ใครยังซื้อได้ที่ไหนช่วยบอกที เราชอบทั้งสูตรสีชมพูและสีส้ม
แชมพูตัวนี้เก่นเรื่องผมหอมค่ะ หอมมาก หอมติดผม ฟองเยอะ ล้างออกง่าย
แต่ด้วยความที่ฟองเยอะ เราเลยไม่แน่ใจว่าสารเคมีที่ทำให้เกิดฟองจะเยอะตามไปด้วยรึเปล่า คนที่หนังศรีษะอ่อนแอต้องระวังด้วยนะคะ
ความรู้สึกหลังใช้คือ ผมหอมมากกกก นุ่มลื่น ชอบมากค่ะ ราคาไม่แพงด้วย

เคยใช้ตั้งแต่สมัยวัยรุ่น หาซื้อง่าย ราคาไม่แพงค่ะ ให้ความชุ่มชื่นได้ในระดับนึง พกติดกระเป๋าไว้เติมบ่อยๆก็พอได้อยู่ค่ะ

เราเคยใช้ตั้งแต่สมัตวัยรุ่นค่ะ ตอนนั้นใช้ตอนเรียนมหาวิทยาลัย จำได้ว่าเป็นยี่ห้อแรกๆที่ทำ tint ออกมาเลย
ราคาไม่แพง แท่งละร้อยกว่าบาท สีติดทนในระดับนึงค่ะ แต่เราไม่ชอบรุ่น gel tint แบบนี้ ชอบรุ่นเก่าที่เป็นลักษณะเหมือน gloss มากกว่า รุ่นนี้ทาปากแล้วสีเข้ม น่ากลัวไปหน่อยค่ะ
ระดับความติดทนกลางๆ

เราซื้อมาตอนที่ละครช่อง 3 เรื่องสามีตีตรากำลังดัง ซื้อตามพลอยเฌอมาลย์ เพราะตอนนั้นนางทาลิปสีออกส้มๆ คนก็ไปหากันว่าใช้ลิปยี่ห้ออะไร สีอะไร และเค้าก็วอแวกัยว่ายี่ห้อนี้ แต่เราจำสีไม่ได้แล้วแหละ
ราครไม่แพงค่ะ 139 บาทถ้าจำไม่ผิด แต่เราใช้แล้วไม่รอด ตกร่องอย่างแรง ทาแล้วไม่สวยเลย ใช้ไม่กี่ครั้งขอผ่านดีกว่า เนื้อลิปก็ธรรมดาค่ะ ไม่ได้ว้าวอะไร ทาแล้วเป็นคราบที่ปากด้วย

หาซื้อง่าย ราคาโอเคไม่แพงมาก และช่วยลดสิวได้จริงค่ะ แต่ต้องใช้เวลาหน่อยนะคะ ไม่ใช่วันสองสันเห็นผลเลย เพราะครีมเค้าอ่อนโยนมากๆ ช่วยรักษาสิวได้หลายประเภท โดยเฉพาะสิวอักเสบหรือสิวหัวช้างที่เจ็บๆ และกำลังจะนูนๆค่ะ .. และด้วยความอ่อนโยนนี้เอง เวลาใช้หน้าก็ไม่ลอก ไม่พังค่ะ

เป็น cleansing ลูกรักอีก 1 ตัวค่ะ ด้วยความที่หาซื้อง่าย ราคาไม่แพง ราคาสบายกระเป๋าและขวดใหญ่ จึงถือว่าคุ้มค่าคุ้มราคามาก

คลีนซิ่งแบ่งออกเป็น 3 ชั้น ก่อนใช้ต้องเขย่าให้เนื้อเข้ากันให้ดีก่อน ส่วนเรื่องการทำความสะอากเราว่าเช็ดสะอาดได้ดีในระดับนึง แต่ถ้าแต่งหน้าหนักมากๆอาจจะต้องเช็ดหลายรอบหน่อย เราคิดว่าเหมาะจะเป็นคลีนซิ่งที่เช็ดสำหรับการแต่งหน้าในทุกๆวันมากกว่า

ส่วนเรื่องความอ่อนโยนให้เต็ม 10 คะแนนเลยค่ะ อ่อยโยนมาก และ feeling หลังจากเสร็จเสร็จคือหน้านุ่ม และรู้สึกสะอาดมาก แบรนด์เคลมมาบอกว่าไม่ต้องล้างหน้าตามก็ได้ ซึ่ง biore ตัวนี้ทำให้เรารู้สึกอย่างงั้นจริงๆค่ะ คือไม่ต้องล้างหน้าต่อก็ได้ เพราะรู้สึกสะอาดเหมือนล้างหน้าจริงๆ (ต่างกับแบรนด์อื่นที่พอเช็ดแล้ว เรายังอยากที่จะล้างหน้าตาม ทั้งๆที่เค้าบอกว่าไม่ต้องก็ได้)

ชอบมากๆค่ะ แต่ที่ให้ 4/5 เพราะถ้าแต่งหน้าหนักจริงๆอาจจะต้องเช็ดหลายรอบ
โดยรวม ok มากๆ เป็นลูกรักที่สามารถกลับมาซื้อซ้ำได้อย่างแน่นอน

เป็นโทนเนอร์รุ่นแรกๆที่เราซื้อใช้ โทนเนอร์ตัวนี้ช่วยให้ผิวเขากระจ่างใสจริงค่ะ เห็นผลชัดเลยเรื่องความขาว ลดจุดด่างดำได้ดีเลย แต่แอลกอฮอล์แรงมาก และอาจจะแรงไปสำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่าย สำหรับใครที่ผิวแห้งและแพ้ง่ายต้องระวังเรื่องการระคายเคืองด้วยนะคะ คนผิวธรรมดา-ผิวมันใช้ได้สบายค่ะ

เคยใช้ตั้งแต่สมัยเรีบยมหาวิทยาลัย ตอนที่ผลิตภัณฑ์ออกมาใหม่ๆ เนื้อมูสนุ่ม ลื่นไปกันผิว ทาแล้วผิวลื่นดีค่ะ เนื่องจากมีซิลิโคนค่อนข้างเยอะ ต้องล้างหน้าให้สะอาดเพราะอาจจะอุดตันได้ง่าย

ตอนที่เราไปซื้อ BA แนะนำสีไม่ค่อย match กับผิวเราเท่าไหร่ ทาออกมาหน้าเลยคล้ำ
และเราไม่ค่อยชอบแพกเกจแบบนี้ เพราะเวลาจะใช้ต้องเอามาลงไปแตะที่เนื้อมูส ถ้าล้างมือไม่ดีเชื้อโรคอาจจะตกลงไปได้

เราว่าเหมาะกับคนผิวธรรมดา-ผิวมันนะคะ ผิวแห้งไม่หน้าจะเหมาะ คิดว่าเนื้อซิลิโคนไม่น่าจะเข้ากับหน้าค่ะ

ตัวนี้หาซื้อง่าย ราคาสบายกระเป๋า เน้นเรื่องของความสว่างกระจ่างใส แต่ไม่เน้นเรื่องริ้วรอยเท่าไหร่ ส่วนตัวเราใช้แล้วเฉยๆ แต่ชอบที่ใช้งานง่ายเพราะแพกเกจเป็นลูกกลิ้งค่ะ

เป็นออยที่มีกลิ่นชัดเจนมากค่ะ ส่วนใหญ่จะได้กลิ่นสไตล์นี้ตามผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของหัวหอม ซึ่งหลายผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดเลือนริ้วรอยก็ชอบใช้สารสกัดจากหัวหอมมาใส่ในผลิตภัณฑ์

ออยตัวนี้สีใส มาในขวพลาสติด พกพาง่าย เราใช้ทาบำรุงผิวในส่วนที่ผิวแห้งมากๆ ซึ่งก็ช่วยให้ความชุ่มชื้นได้ในระดับนึงค่ะ เราชอบเอามาทาตามข้อศอก เข่า รู้สึกทำให้ผิวนุ่มขึ้น

ราคาไม่แพง หาซื้อง่าย

ซื้อมาทานเพราะตอนนั้นออกผลิตภัรฑ์มาใหม่ๆ เห็นโฆษณาบ่อยเลยเหมือนเป็นการป้ายยาไปในตัว แต่พอทานแล้วเฉยมากค่ะ รู้สึกเสียดายเงิน
ความจริงเราใช้แล้วไม่เห็นผลอะไรนะคะ อยากจะติ๊กช่องว่าไม่เห็นผลมากกว่า แต่ไม่มีช่องให้ติ๊ก เลยจำเป็นต้องติ๊กว่า "ช่วยให้ผ่อนคลายค่ะ"

ทานประจำสลับกับขององค์การเภสัชกรรมค่ะ บางครั้งที่ทานขององค์การเภสัชกรรมเพราะราคาถูกกว่ามาก แต่แบรนด์นี้ก็น่าเชื่อถือกว่า ตัวนี้ช่วยหลายเรื่อง ทั้งเรื่องผิว และสุขภาพ ทำให้ไม่เป็นหวัดง่าย เราเป็นคนเป็นภูมิแพ้เลยจะทางวิจามันซีเป็นประจำ จริงๆไม่ได้เห็นผลชัดเจนอะไรขนาดนั้น แต่เราเน้นทานในระยะยาว เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาวค่ะ

เป็นครีมอาบน้ำที่เข้าใจว่ากลายพันธุ์มาจากสบู่ก้อนนกแก้ว (Parrot) กลิ่นหอม ใช้งานง่ายเพราะเป็นสบู่เหลว ขวดปั๊มกดง่ายค่ะ อานแล้วรู้สึกสดชื่น แต่เราว่ากลิ่นไม่ติดตัวเท่าสบู่ก้อน

สิ่งที่ไม่ชอบคือ เราว่าฟองบางเบาไปหน่อย เป็นฟองบางๆ เนื้อไม่หนัก (ไม่ใช่ฟองหนักๆ) และเนื้อครีมค่อนข้างใส ทำให้ต้องใช้ในบริมาณเยอะ
โดยรวมกลิ่นหอมและอาบสะอาดดีค่ะ

เป็นโฟมล้างหน้าที่อ่อนโยนมากๆสำหรับเรา ไม่มีฟอง ตอนล้างเหมือนจะไม่สะอาด แต่ความจริงสะอาดนะ เพราะเป็นโไมไม่มีฟองเลยทำให้ตอนแรกๆเราไม่ชินเลย แต่ใช้ไปบ่อยๆก็จะชินเอง ตัวนี้ให้ความชุ่มชื่นดีมาก ล้างแล้วผิวไม่เอี๊ยดเลย รู้สึกสดชื่นสุดๆ แต่มราให้แค่ 3 ดาว เพราะคุณสมับติในการรักษาสิวไม่เท่าไหร่ค่ะ เฉยๆมาก ไม่ได้ลดสิว แต่สิวก็ไม่เพิ่มค่ะ ..เหมาะสำหรับล้างหน้าธรรมดาปกติในทุกๆวันมากกว่า

เป็นน้ำหอมกลิ่นดอกไม้ที่เราชอบมากกกก ปกติไม่ชอบกลิ่นดอกไม้เลย ตอนนั้นหยิบมาลองดมเล่นๆ แต่กลายเป็น first impression มากๆ อดใจไม่ไหวต้องซื้อมา

เราไปซื้อที่ duty free ที่นิวซีแลนด์เพราะถูกกว่า king power ที่เมืองไทยเยอะมาก

กลิ่นดอกไม้ก็จริง แต่หอมหวาน และผู้ดีมากๆ กลิ่นนุ่มมาก ไม่ฉุน ไม่แก่ ไม่เวียนหัว หอมดอกไม้มาทั้งทุ่งแบบผู้ดีสุดๆ ชอบมากๆ แต่กลิ่นไม่ติดทนเท่าไหน่นะคะ ช่วงบ่ายกลิ่นเริ่มจางค่ะ เป็นกลิ่นดอกไม้ที่ชอบที่สุด ทำให้เรารู้สึกชอบกลิ่นดอกไม้ไปเลย

ของดี ราคาไม่แพง หาซื้อง่ายค่ะ เขียนง่ายด้วย ตัวนี้ใช้งานง่ายพอๆกับยี่ห้อ Kate เราว่าสามารถใช้แทนกันได้เลย เฉดสีก็โอเคเหมาะกับเรา และเหมาะกับคนไทยค่ะ ราคาสบายกระเป๋า ^^

เคยใช้แบรนด์นี้ตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย มีผลิตภัณฑ์ให้เลือก-ให้เล่นเยอะดีค่ะ
แป้งตัวนี้เนื้อละเอียดบางเบา กลิ่นหอมอ่อนๆ กลิ่นค่อยข้างผู้ดี แต่กลิ่นไม่ติดทนเท่าไหร่ ทาคนเดียวได้กลิ่นคนเดียวค่ะ ^^

เคยได้เป็นของแถมจากเซ๊ทของคุณแม่ค่ะ เป็น mask ที่ราคาสูงที่สุดเท่าที่เคยใช้มา และผลลัทธ์ที่ได้คือ ตื่นเช้าขึ้นมาหน้านุ่มมากกกกกกกกกก สังเกตุได้อย่าชัดเจน หน้าอิ่ม ฟู ผิวดูสดชื่นสุดๆ ผิวไม่มันแต่รู้สึกชุ่มชื่นจากภายใน ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะเห็นความแตกต่างได้ขนาดนี้ ของเค้าดีจริงๆ แพงแต่ดีสมราคาสมคุณภาพ ยอมเค้าเลยค่ะ

บอกตามตรงเราซื้อเพราะคำว่า "Benzac" เลย เพราะเราเป็นคนที่มีสิวอุดตัน และใช้ยาแต้มสิว Benzac เป็นประจำ พอคลีนเซอร์ตัวนี้ออกมาเราต้องรีบซื้อมาลองทันที

ชอบความที่ขวดเล็ก กระทัดรัด พกพาง่าย แถมหัวบีบปั๊มโฟมแบบนี้ก็ใช้ง่าย รู้สึกสะอาด
โฟมที่ได้นุ่มละมุน ถ้าจำไม่ผิดมีกลิ่นอ่อนๆ (ตอนนี้เราเลอกใช้ไปนานแล้วเลยจำเรื่องกลิ่นไม่ค่อยได้)

เรื่องการรักษาสิวเราว่าเฉยมาๆนะ ด้วยความที่มันอ่อนโยนมาก เลยไม่รู้สึกว่าช่วยเรื่องสิวเท่าไหร่ แต่ล้างหน้าได้โอเค อ่อนโยน ไม่แห้งตึง เรื่องสิวเฉยๆจ้า ซื้อขวดเดียวไม่ได้ซื้อซ้ำ

เคยใช้ตั้งแต่สมัยเป็นวัยรุ่น ตอนยังเรียนมหาวิทยาลัย แต่เดี๋ยวนี้ไม่ได้ใช้แล้วค่ะ
ตัวนี้เป็นแบบ 2 อิน 1 คือไม่ต้องพกแปรงไปเลย พกตัวนี้ตัวเดียวปัดแก้มแล้วจบ ถามว่าดีมั้ยก็ดีตรงที่สะดวกไม่ยุ่งยาก แต่เราว่าข้อเสียคือ ควบคุมสียากค่ะ เพราะผงฝุ่นจะอยู่ด้านใน บางครั้งเราไม่รู้ว่าผงบรัชจะมากองอยู่ข้างในเยอะหรือน้อย ทำให้ควบคุมสียากเพราะเรามองไม่เห็น (เนื่องจากรูปล่อยผงสีอยู่ด้านใน)

ถ้าจำไม่ผิดตัวนี้ขนแปรงเป็นขนม้า ซึ่งเป็นขนธรรมาติก็ดีแหละ แต่ข้อเสียคือ เมื่อใช้ไปนานๆ น้ำมันบนแก้มเราไปจับที่ขนแปรง ทำให้ขนแปรงเหนียวและแข็ง กลายเป็นบาดหน้าแทน และเราก็ไม่สามารถถอดขนแปรงมาทำความสะอาดได้ค่ะ

แต่สีสวย ติดทนค่ะ

เป็นครีมกันแดดที่เวลาไปญี่ปุ่นทีไรต้องซื้อกลับมาทุกครั้งค่ะ ตอนนี้วัตสันนำเข้ามาขายแล้วดีมากๆเลย เนื้อเจลบางเบา เกลี่ยง่าย ซึมง่าย กันแดดได้ดี มันมันไม่เหนียวเหนอะหนะ เราว่าเหมาะกับคนผิวมันค่ะเพราะช่วยคุมมันด้วย ตัวนี้มีแอลกอฮอล์เยอะอยู่นะคะ คนผิวแห้งหรือผิวแพ้ง่าย ควรทดสอบก่อนจ้า

ซับมันได้ดีค่ะ กระดาษนุ่ม ไม่บาดหน้า เราไม่ชอบอย่างเดียวคือแผ่นเล็กไปหน่อย จับไม่ถนัดมือ บางครั้งซับๆอยู่ก็ทำตกค่ะ ^^

เป็นยาสีฟันที่อ่อนโยน ไม่แสบปาก หอมกลิ่นมิ้นต์ ให้ฟองกำลังพอดี ไม่มากเกินไปไม่น้อยเกินไป เราว่ามันคล้ายๆกับยาสีฟันของแอมเวย์เลย
สูตรนี้เป็นสูตร white ช่วยเรื่องฟันขาว แต่ส่วนตัวเราเฉยๆค่ะ ไม่ได้เห็นผลอะไรเท่าไหร่ค่ะ

ส่วนตัวยังรู้สึกเฉยๆค่า ให้ความชุ่มชื่นได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ถ้าส้นเท้าแตกมากๆไปแล้วเราคิดว่าเอาไม่อยู่อยู่ดี ทางที่ดีคือ ต้องใช้หินขัดขุยของเศษเนื้อให้เรียบเนียนก่อน หลังจากนั้นค่อยบำรุงด้วยครีมตัวนี้ และต้องใช้ประจำอย่างต่อเนื่องค่ะ

เป็นออยทาผิวที่ต้องมีไว้ประจำในห้องน้ำค่ะ แต่ส่วนใหญ่เราจะใช้เฉพาะช่วงหน้าหนาวที่โลชั่นเอาไม่อยู่ วิธีการใช้ของเราก็คือ หลังอาบน้ำเสร็จ จะลูบออยให้ทั่วตัว ในขณะที่ผิวยังเปียกน้ำอยู่ เมื่อลูบเสร็จ ถึงจะซับตัวด้วยผ้าเช็ดตัวค่ะ แค่นี้เอง ผิวจะนุ่มชุ่มชื้นขึ้นมาเลย แต่หลายคนมักจะทาหลังจากอาบน้ำหลังจากที่เช็ดตัวเสร็จเรียบร้อย ซึ่งนั่นจำทำให้ออยไม่ซึมลงผิว แนะผิวเหนอะหนะได้ค่ะ

Babi Mild Ultra Mild White Sakura Baby Oil ตัวนี้จะมีกลิ่นหอมอ่อนๆตอนที่ทา แต่กลิ่นไม่ติดผิวเท่าไหร่ อ่อนโยน และชุ่มชื่นค่ะ ช่วงหน้าหนาว ถ้าผิวแห้งมากๆ ทาตัวนี้ก่อน แล้วหลังจากนั้นตามด้วยโลชั่นอีกรอบคือที่สุดของความชุ่มชื่นเลย :)

เป็นน้ำตบเค้าเตอร์แบรนด์ที่ลงทุนซื้อ ต้องบอกก่อนว่าเราเป็นคนผิวมันมาก และเป็นสิวง่ายค่ะ
ใช้น้ำตบตัวนี้แล้วรู้สึกว่าหน้าโดยรวมใสขึ้น ผิวชุ่มชื่นดูสุขภาพดี ผิวนุ่มฟูมีน้ำมีนวล ช่วยแก้ปัญหาผิวโทรมได้เป็นอย่างดีค่ะ

แต่สำหรับเรา ข้อเสียอย่างเดียวคือเหนอะหนะมากเกินไปค่ะ ทาตอนกลางวันจะเหนียวนิดๆ เราเลยเอามาทาตอนกลางคืนที่นอนอยู่ในห้องแอร์ ตื่นเช้ามาหน้าเด้งมากค่ะ

สรุป เหมาะกับคนที่ผิวขาดการบำรุง ผิวแก่ ผิวโทรม ผิวไม่สดใส ใช้แล้วผิวโดยรวมดูดีขึ้นมากค่ะ

ชอบมากกกก เป็นสบู่ก้อนที่รู้จักมาตั้งแต่เด็กๆ ไม่ได้ใช้ประจำ อารมร์ประมาณว่า ถ้าใช้หมดก็จะเปลี่ยนไปใช้ยี่ห้ออื่นบ้าง แล้วนานๆก็จะกลับมาใช้อีก
ชอบทุกกลิ่นค่ะ แต่กลิ่นที่ชอบที่สุดค่ะ White Thanaka เพราะหอมมากกกกก มีคนบอกว่าหอมเหมือนโจมาโลน แต่เราไม่เคยใช้โจมาโลนเราเลยไม่รู้ว่ากลิ่นเป็นยังไง แต่ที่แน่ๆคือกลิ่นหอมมาก กลิ่นผู้ดี กลิ่นแพง และที่สำคัญคือหอมติดตัวด้วย หอมจนอยากให้ทำเป็นน้ำหอมออกมาก
ส่วนสีอื่นๆก็หอมค่ะ เราชอบสีเหลืองกลิ่นมะลิ สีเขียวน้ำทะเลก็หอมติดผิว กลิ่นเหมือนธูปหอมค่ะ แต่ไม่ค่อยให้ความรู้สึกเญ้นเท่าไหร่ เฉยมาๆ
สีชมพูก็หอม ซากุระก็หอม สีน้ำเงินก็หอม สรุปหอมทุกกลิ่นค่ะ

เวลาใช้ให้ฟองกำลังพอดี ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป อาบสะอาด แต่เวลาอาบเสร็จอาจจะผิวแห้งนิดนึงแต่ก็เป็นเรื่องปกติของสบู่ก้อน

ราคาสบายกระเป๋า หาซื้อง่าย และที่สำคัญคือละลายช้ามาก แม่เราชอบเอามาทำเป็นสบู่ล้างมือ เพราะทั้งหอมติดผิว ล้างฟองออกง่าย และกำจัดความมันได้ดีค่ะ

สรุป จัดได้ว่าเป็นสบู่ประจำบ้านที่ต้องมีติดบ้านไว้จริงๆ

เราว่าเป็นครีมกันแดดที่เนื้อหนักมากกกก และเหนียวมากๆค่ะ กลิ่นกันแดดแรง เป็นกลิ่นเคมีเลย ทาแล้วเหนียวตัว ไม่สบายผิวที่สุด มันเยิ้มด้วย ถึงแม้จะมีคุณสมบัติในการกันน้ำและเหงื่อ และสารกันแดดที่มีคถณภาพสูงแต่เราว่าเหนียวเกินไป ไม่ไหว ขอผ่านค่ะ

ใช้ดีค่ะ ถ้าเป็นสิวที่เห่อหนักๆเมื่อไหร่ต้องกลับมาซบตัวนี้ ที่สำคัญคือราคาไม่แพงเลย หาซื้อง่ายด้วย กลิ่นหอมอ่อนๆ กลิ่นเหมือนยา แต่เราชอบนะ เป็นกลิ่นสะอาดๆ ดี
เวลาใช้จะมีฟองเล็กน้อย ฟองไม่เยอะมาก เวลาล้างหน้าออกแล้วชุ่มชื่นดีค่ะ ผิวไม่เอี๊ยดเลย
สามารถใช้คู่กับยารักษาสิวได้ด้วย เราว่าเป็นครีมล้างหน้าที่อ่อนโยนดีนะ ถ้าสิวบุกสิวเห่อมากๆ เราชอบกลับมาใช้ตัวนี้ ต้องมีติดห้องน้ำค่ะ

เป็นโลชั่นที่ต้องมีติดบ้านค่ะ ใช้ง่าย เพราะเนื้อครีมบางเบา ซึมง่าย เกลี่ยง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ เราว่าสามารถใช้ได้ทุกฤดู ไม่ว่าจะเป็นหน้าร้อนหรือหน้าหนาว เพราะหน้าร้อนก็ไม่เหนียวเหนอะหนะเกินไป ส่วนหน้าหน้าก็ชุ่มชื่นในระดับนึง แต่ถ้าหนาวมากๆเราว่าเอาไม่อยู่ต้องทาซ้ำ
เนื้อครีมมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ใช้ง่ายค่พ

กลิ่นหอมกุหลาบอ่อนๆ ไม่ฉุน ไม่แรงเกินไปค่ะ เราซื้อจาก eve and boy ช่วงโปร 1 แถม 1 คือคุ้มมาก เช็ดทำความสะอาดได้ดีในระดับหนึ่ง เราใช้เป็นตัวที่เช็ดทุกๆวันสำหรับการแต่งหน้าปกติ คือลงรองพื้นและแป้ง แต่ถ้าแต่งหน้าหนักกว่านั้นอาจจะไม่ได้สะอาดหมดจด ต้องเช็ดซ้ำหลายรอบ แต่โดยรวมก็ถือว่าอ่อนโยนดีค่ะ พอเช็ดเสร็จหน้าจะมีความชุ่มชื้น ไม่แห้งตึง อาจจะมีความเหนอะผิวนิดๆนะคะ

เป็นมาสคาร่าที่ใช้ตั้งแต่วัยรุ่นเลยค่ะ เพราะตอนนั้นเริ่มแต่งหน้าและยังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ เลยจะเลือกซื้อเครื่องสำอางที่ไม่แพงมาก ตัวนี้ราคาแค่หลักร้อย แต่คุณภาพใช้ได้เลย เรายังใช้มาอยู่จนถึงทุกวันนี้ ถ้าแต่งหน้าและไม่ติดขนตาปลอม เราปัดซ้ำ 3 รอบคือเด้งมากๆค่ะ

ชอบใช้ช่วงหน้าหนาวค่ะ เพราะบางครั้งโลชั่นเอาไม่อยู่ ต้องใช้เบบี้ออยมาเสริม วิธีการใช้ของเราคือ หลังจากอาบน้ำเสร็จ ตอนที่ตัวเปียกๆ ลงเบบี้ออยเลยค่ะ ลูบให้ทั่วตัวในขณะที่ยังมีน้ำเกาะผิวนี่แหละ หลังจากนั้นใช้ผ้าเช็ดตัวเช็ดน้ำออกตามปกติ ผิวจะนุ่มเลย (แต่ถ้าทาตอนที่ตัวแห้ง เบบี้ออยจะไม่ซึมลงผิว จะเหนียวมากๆค่ะ) เป็นไอเทมที่ต้องมีติดบ้านจริงๆ

ใช้ดีค่ะ อ่อนโยนมาก ไม่ค่อยมีฟอง เป็นเจลล้างหน้าสูตรอ่อนโยนที่เภสัชแนะนำให้เราใช้ตอนที่เราสิวเห่อ สามารถใช้อาบน้ำได้ด้วย แต่เรื่องการรักษาสืวคือจะเห็นผลในระยะยาวนะคะ ถ้าใครใจร้อนอาจจะไม่เหมาะ จริงๆแล้วเราว่าคลีนเซอร์ตัวนี้จะเหมาะกับคนที่ไม่มีปัญหาเรื่องสิวมากกว่า เหมาะกับคนที่มีผิวบอบบาง ผิวแห้งมากๆ แพ้ ระคายเคืองมากๆค่ะ ล้าฃเสร็จหน้าไม่แห้ง ไม่เอี๊ยดค่ะ

เป็นครีมลดเลือนริ้วรอยยี่ห้อแรกๆที่ทำออกมา และเป็นครีมวิตามินอีที่เข้มข้นมากค่ะ ใช้ทาบำรุงทั่วหน้าได้เลย หรือจะทาเฉพาะจุดก็ได้ ตัวนี้ให้ความชุ่มชื่นกับผิวดีค่ะ ค่อนข้างอ่อนโยน เรื่องจุดด่างดำก็ช่วยได้ แต่ส่วนตัวเรามองว่าต้องใช้ระยะเวลาหน่อยค่ะ ถือว่าเป็นครีมที่ดี เป็นเหมือนครีมที่ต้องมีติดบ้านค่ะ กลิ่นหอมอ่อนๆ เหมาะกับทุกสภาพผิว แต่ถ้าทาเพื่อบำรุงทั่วหน้า คนที่ผิวมันอาจจะทำให้หน้ามันได้นะคะ

ส่วนตัวเอามาทาจุดทีแห้งกร้านบ้าง ช่วยได้ในระดับนึงแต่จะทิ้งความเหนียวเหนอะหนะไว้ค่ะ ถ้าเอามาทาปากเป็นลิปบาล์มก็พอได้ แต่เรามีความรู้สึกเหมือนมันแค่แค่เคลือบๆปากเฉยๆ ไม่ได้รู้สึกว่ามันซึมลงไปที่ผิวหนัง แต่ก็พอได้ค่ะ ยังไงก็เป็น item ที่ต้องมีติดบ้าน

รีวิว Olay White Radiance Niacinamide + Cica Super Serum
พักหลังๆมานี้ได้ยินเรื่องของ Cica หรือสารสกัดที่มาจากใบบัวบกเยอะมาก วันนี้เรามีโอกาสได้ลอง olay white radiance สูตรที่มี cica เป็นส่วนประกอบ ตื่นเต้นมากค่ะ

สภาพผิวเรา : มีรอยดำจากการแกะสิว รอบแดง รอยช้ำจากการกดและบีบสิว สีผิวไม่สม่ำเสมอ รูขุมขนกว้าง หน้าลอกจากการใช้ยารักษาสิวบางจุด มีริ้วรอย ผิวโทรมจากความเครียดและการทำงาน ผิวไม่กระจ่างใส

แพกเกจ : เป็นขวดแก้ว สีขาว ฝาสีเงินสวยหรู หัวเป็นดรอปเปอร์ ถ้าหมุนฝาเปิดแล้ว เวลาดูดเซรั่มให้กดดูดจากด้านบน

เนื้อเซรั่ม : เป็นเนื้อสีขาวอมเขียนอ่อนๆ มีกลิ่นหอมของสมุนไพร เข้าใจว่าเป็นกลิ่นของใบบัวบกรึเปล่า (เราไม่รู้ว่าใบบัวบกกลิ่นยังไง) แต่หอมดี ไม่ฉุน เนื้อเซรั่มค่อนข้างเหลว

เมื่อทาลงบนผิว : จะได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ผ่อนคลายมาก เนื้อเซรั่มซึมไว ไม่เหนียวเนอะหนะ เมื่อทาเสร็จให้ความรู้สึกชุ่มชื่นทันที

เมื่อใช้ต่อเนื่อง 17 วัน : ถ้าสังเกตที่แก้มด้านซ้าย ก่อนใช้เราจะมีรอยดำจากการแกะสิวที่แก้ม แต่หลังจากที่ใช้มา 17 วัน รอบดำจางลงอย่างเห็นได้ชัด ทั้งๆที่ไม่ได้ใช้เจลลดรอยแผลเป็นเลย สิวใบหน้าบริเวณอื่นๆที่เป็นจ้ำๆแดงๆ ก็หาย ไม่มีรอยจ้ำแดงแล้วค่ะ สีผิวสม่ำเสมอขึ้น ผิวที่บริเวณโหนกแก้ม ก่อนหน้านี้จะลอกเพราะยาแต้มสิว แต่หลังจากใช้ 17 วัน ผิวชุ่มชื่น ไม่แห้งลอก ภาพรวมผิวดูเรียบเนียนและกระจ่างใสขึ้น ดูมีน้ำมีนวล ผิวดูสดใสสุขภาพดีขึ้น แต่เรื่องริ้วรอยไม่เห็นผลอะไรเท่าไหร่ค่ะ

สิ่งที่ชอบ :
- กลิ่นหอมอ่อนๆ ใช้แล้วผ่อนคลาย
- อ่อนโยน เราไม่แพ้ ไม่อุดตันรูขุมขน สิวไม่ขึ้น
- ใช้แล้วหน้าไม่มัน (เราเป็นคนผิวมัน) เหมาะกับทุกสภาพผิว
- เนื้อเซรั่มเกลี่ยง่าย ซึมไว
- ช่วยเรื่องรอยดำ รอยแดงได้จริง รอยช้ำจากการกดสิวคือหายไปเลย ใช้เพียง 17 วันก็เห็นผลนิดหน่อยแล้ว ถ้าใช้นานกว่านี้น่าจะเห็นผลชัดเจนกว่านี้
- เราชอบคุณสมบัติของ Cica ที่บอกว่าจะช่วยเรื่องผิวเหลืองตามวัย เพราะเรากลัวมาก ไม่อยากอายุเยอะขึ้นแล้วผิวเหลืองเหมือนคนแก่

สิ่งที่ไม่ชอบ :
- เราไม่ชอบหัวที่เป็น Dropper แบบนี้ เพราะเวลาที่ดึงออกมาใช้แล้วจะใส่กลับคืน ต้องเล็งที่รูดีๆ บางทีที่เล็งไม่ดี เนื้อเซรั่มอาจจะเปื้อนขอบๆได้ เราชอบแพกเกจแบบกดแล้วบีบออกมาเป็นสุญญากาศมากกว่า รู้สึกสะอาดกว่าด้วย
- และสำหรับราคา เราว่าแอบสูงไปนิดนึง เพราะเกือบ 1,000 บาทเลย ถ้าอยู่ในเรท 700 - 800 จะดีมาก
***ถึงแม้จะไม่ค่อยชอบหัว Dropper แต่ก็ขอชื่นชมที่เป็นหัวสมัยใหม่ คือเวลาที่เราปิดฝา หัวจะทำหน้าที่ดูดเซรั่มให้ทุกครั้งที่ปิดคลิ๊กถึงล๊อคของมัน ทำให้เราไม่ต้องมากดหัวคอยดึงเซรั่มเอง แต่ทุกครั้งที่ปิด ฝาจะทำหน้าที่ดึงเซรั่มขึ้นมาให้เต็มทุกครั้งค่ะ อันนี้เพิ่มความสะดวกมากๆเลยค่ะ***

สรุป : เป็นเซรั่มที่ช่วยเรื่องรอยดำ รอยแดงได้ดี เห็นผลจริง และช่วยให้หน้ากระจ่างใส สดชื่น ช่วยแก้เรื่องผิวโทรมได้ดีเลย ผิวดูมีชีวิตชีวาขึ้น สามารถใช้ได้ทุกสภาพผิว ให้ความชุ่มชื่นในระดับนึง (แต่คนที่ผิวแห้งมากๆอาจจะต้องใช้สูตรไฮยารูรอน หรือใช้ตัวอื่นช่วย) เรื่องริ้วรอยไม่เห็นผลอะไรนัก อาจจะเพราะเซรั่มตัวนี้ไม่ได้เน้นเรื่องนั้นค่ะ

ให้ 4/5 ดาว ขอหักเรื่องราคานิดนึงค่ะ ^^