Profile

ส่วนตัวใช้ Senka มาครบทุกสูตรแล้วค่ะ
สูตรนี้พัฒนามาสำหรับคนมีสิวง่ายโดยเฉพาะ ใช้แล้วรู้สึกประทับใจค่ะ
รู้สึกว่าสูตรนี้ทำมาเพื่อเราเลย

เนื้อเป็นสีเขียวขุ่นๆ ตอนไม่ตีฟองจะมีเนื้อละเอียด ล้างแบบไม่ตีฟองก็ได้ค่ะ รู้สึกนุ่มๆ วันไหนที่มีเวลาตีฟอง ฟองก็จะนุ่มฟูขึ้นมากเลยค่ะ

ใช้เป็นประจำทุกวัน รู้สึกว่าลดการเกิดสิวอักเสบ
ใช้ดีมากค่ะ

หลังจากได้ลอง La Roche-Posay Anthelios Shaka Fluid SPF50+ PA++++

วันนี้อยากจะมาแชร์ความรู้สึกค่ะ
เราเป็นคนผิวมันและเป็นสิว ก่อนหน้านี้เคยซื้อรุ่น La Roche-Posay Anthelios Drytouch SPF50+ PA++++ มาลองใช้แล้วรู้สึกว่าไม่ค่อยชอบเพราะ ถึงแม้ว่ามันจะซึมไว ไม่มัน แต่เรารู้สึกว่ามันฝืดเกินไปจนรู้สึกสากๆ เวลาทารองพื้นหรือแต่งหน้าหลังจากลงกันแดด จะรู้สึกไม่โอเคค่ะ เหมือนทำให้ฟืดๆ คราบๆ

พอได้ลองตัวนี้แล้วรู้สึกว่าน้ำเหลวๆ เกลี่ยง่ายกว่าเดิม ซึมไว ไม่เหนอะ แล้วไม่มีความรู้สึกสากๆ เหมือนรุ่นก่อนหน้า แต่ยังมีความฝืดอยู่บ้าง

ด้านประสิทธิภาพกันแดดถือว่าดีมากค่ะ
อยากให้ปรับสูตรให้เกลี่ยแบบไม่ฝืด จะดี Perfect มากค่ะ

เนื้อเจลไร้สี ไร้กลิ่น ไร้ความมัน เวลาใช้ให้นวดลงบนใบหน้าที่แห้งจนเครื่องสำอางหลุด ใช้เวลาไม่นานค่ะ หลังจากนั้นก็ล้างออกด้วยน้ำเปล่าจนสะอาด

ความรู้สึกหลังจากทดลองใช้ รู้สึกว่าอ่อนโยนค่ะ ล้างเสร็จไม่ลื่น ไม่ตึง ไม่แสบผิว

หลังจากล้างเสร็จลองเช็ดตามด้วยโทนเนอร์ พบว่่ามีสิ่งตกค้างเล็กน้อยค่ะ

ไม่มั่นใจว่าถ้าแต่งหน้าจัดๆ จะสามารถทำความสะอาดได้หมดจดรึเปล่า เพราะปกติแล้วเราไม่แต่งหน้าเยอะ

ถ้าแต่งหน้าไม่เยอะ เรารู้สึกว่าโอเคนะคะ ล้างสะอาดในระดับหนึ่งเลย
ให้ 4/5 คะแนนค่ะ

หลังจากที่ทดลองใช้เซรั่ม Mizumi สูตรนี้ วันนี้จะมารีวิวผลลัพธ์จากการทดลองใช้ในระยะเวลาสั้นๆ ค่ะ

ส่วนของเนื้อเซรั่ม
เนื้อเซรั่มไม่มีสี ไม่มีกลิ่นใดๆ ค่ะ เนื้อไม่หนืดหรือเหลวจนเป็นน้ำค่ะ
ทาแล้วซึมง่าย แต่ยังคงให้ความชุ่มชื่นอยู่ ชอบค่ะ คิดว่าใช้ได้ทุกสภาพผิว รวมถึงผิวบอบบางและแพ้ง่ายด้วย

ในส่วนของผลลัพธ์การใช้
ส่วนตัวเป็นคนที่มีผิวขาวเป็นทุนเดิม แต่มีปัญหาสิว และรอยดำ รอยแดงที่ค่อนข้างเยอะ และเห็นได้ชัดเพราะผิวขาว

พอได้มาลองใช้รู้สึกว่าผิวโดยรวม ในจุดที่ไม่มีปัญหา ดูกระจ่างใสขึ้น ไม่เชิงว่าขาวขึ้นนะคะ แต่ดูไบร์ทขึ้น

ในส่วนของรอยดำ รอยแดงจากสิว ถ้าเป็นสิวที่ยุบแล้ว จะเห็นได้ว่าจางลง ส่วนสิวที่ขึ้นมาใหม่และมีรอยแดง จะไม่ช่วยค่ะ คงต้องรอให้ยุบลงก่อน ตามรูปที่ได้วงเป็นจุดๆ จะเห็นว่าสิวที่ยุบ จะจางลงนิดหน่อย ส่วนสิวที่ขึ้นมาใหม่ มันก็จะเห็นรอยแดงชัดอยู่

ถ้าใช้ไปอีกสักระยะ ได้ผลเป็นอย่างไร จะมาอัพเดตเพิ่มเติมอีกนะคะ

โดยรวมสรุปได้ว่า ถ้าหวังถึงความกระจ่างใส สามารถช่วยได้เลยค่ะ ดูไบร์ทขึ้น ในส่วนของรอยดำ รอยแดงจากสิวที่ยุบไปแล้ว ช่วยได้บ้าง ส่วนรอยแดงจากสิวที่เกิดขึ้นใหม่จะไม่ช่วย ต้องรอยุบลงก่อนค่ะ
ให้คะแนน 4/5 ดาวค่ะ

ล่าสุดได้มีโอกาสได้ไปรับการวิเคราะห์สภาพผิว และรับผลิตภัณฑ์ทดลองใช้ของ Clinique iD ซึ่งเป็นสกินแคร์ที่เราสามารถออกแบบได้ตามความต้องการของผิว โดยที่สามารถปรับแต่งได้ถึง 15 สูตรด้วยกัน

BA ใจดีมาก ให้คำแนะนำและให้ผลิตภัณฑ์มาทดลองใช้ถึง 3 สูตร

จากจากวิเคราะห์สภาพผิว พบว่าผิวมีความเหนื่อยล้า ไม่เปล่งประกาย มีปัญหารูขุมขนกว้าง และมีจุดด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ

และมีพื้นฐานผิวคือผิวมัน

หลังจากวิเคราะห์สภาพผิวก็ได้ทำการเลือกสูตรมอยส์เจอไรเซอร์จากทั้งหมด 3 สูตร
- Dramatically Different™ Moisturizing Lotion+ เหมาะสำหรับผิวแห้งมากถึงผิวผสมค่อนข้างแห้ง
- Dramatically Different™ Oil-Control Gel เหมาะสำหรับผิวผสม ผิวมันถึงมันมาก
- Dramatically Different™ Hydrating Jelly เหมาะสำหรับผิวทุกประเภท
{เราเลือกเป็นสูตร Hydrating Jelly}

หลังจากนั้นก็เลือกบูสเตอร์ตามความต้องการ หรือปัญหาผิวของเรา จากทั้งหมด 5 สูตร

- สีฟ้า: สำหรับผิวที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง ไม่เรียบเนียน
- สีเขียว: สำหรับผิวบอบบางหรือแพ้ง่าย
- สีส้ม: สำหรับผิวที่เหนื่อยล้าไม่สดใส
- สีขาว: สำหรับสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ
- สีม่วง: สำหรับผิวที่มีริ้วรอย และรอยย่น
{เราได้มา 3 สูตร คือสีฟ้า สีส้ม และสีขาว}

หลังจากได้ทดลองแล้วรู้สึกว่า

- เนื้อผลิตภัณฑ์บางเบา ซึมง่าย ไม่ทิ้งความมันบนใบหน้า แต่ยังคงให้ความชุ่มชื่น ทำให้ผิวรู้สึกฉ่ำ
- อ่อนโยนสำหรับผิวบอบบาง แพ้ง่าย เพราะไม่มีน้ำหอม พาราเบน พาทาเลต
- รู้สึกว่าผิวหน้าไม่มันระหว่างวัน แต่งหน้าติดทนขึ้น ไม่ไหลเยิ้ม รู้สึกชอบมากค่ะ
- ในส่วนของบูสเตอร์ เรารู้สึกว่าหลังจากใช้บูสเตอร์สีส้มแล้วหน้าไบร์ทขึ้น ไม่หมอง ส่วนสูตรสีฟ้าและสีขาวยังเห็นผลไม่ชัดเจน เนื่องจากได้เป็นขนาดทดลองใช้ คงจะต้องไปตำไซต์จริงมาแล้วล่ะค่ะ

ส่วนตัว ติดใจสูตรสีส้มมากค่ะ เนื่องจากหลังจากใช้ขนาดทดลองมาทั้ง 3 สูตร รู้สึกว่าสูตรสีส้มเห็นผลได้ชัดสำหรับเรามากที่สุดค่ะ

ขอให้คะแนนดังนี้เลยค่า
- เนื้อผลิตภัณฑ์: 5/5 คะแนน
- ความชุ่มชื้น: 4/5 คะแนน
- ประสิทธิภาพ: 5/5 คะแนน
- ความพึงพอใจ: 5/5 คะแนน

ส่วนตัวเป็นคนไม่ชอบทาครีมเพราะเป็นคนผิวมัน ปกติจะทาแต่เซรั่มค่ะ เพราะรู้สึกว่าครีมไม่ตอบโจทย์เนื่องจากทั่วๆ ไปจะเนื้อหนัก ไม่เหมาะกับผิวมัน
พอได้มาลองตัวนี้แล้วรู้สึกเนื้อวิปเค้าจะละเอียด นุ่มกว่าเนื้อครีมและซึมไวด้วยค่ะ ไม่เหนอะหนะ จึงทดลองใช้มาเรื่อยๆ สิ่งที่ชอบสำหรับผลิตภัณฑ์ตัวนี้คือ

- กลิ่นหอมอ่อนๆ 
- เนื้อครีมนิ่ม บางเบา แต่ให้ความชุ่มชื่นทั้งวัน
- ใช้ไปเรื่อยๆ รู้สึกว่าผิวมันน้อยลง
- ไม่อุดตันผิว แต่งหน้าติดทนนานขึ้นด้วยค่ะ โดยรวมแล้วทำให้ผิวสุขภาพดีขึ้นค่ะ

ให้คะแนน 5/5 เลยค่ะ

ครีมอาบน้ำเนื้อน้ำนม ฟองนุ่มค่ะ กลิ่นหอมสดชื่นทุกสูตร ที่ชอบที่สุดจะเป็นกลิ่น White Perfect หอมกลิ่นดอกไม้มากค่ะ

ผลลัพธ์หลังใช้: หลังอาบเสร็จไม่รู้สึกว่าผิวลื่นหรือแห้งจนเกินไปค่ะ กลิ่นติดตัวอยู่ประมาณ 2 ชั่วโมง 

ครีมกันแดด ถือเป็นสกินแคร์จำเป็นสำหรับชีวิตประจำวันมากๆ เลยค่ะ และก็เป็นชิ้นที่เลือกให้ถูกใจยากมาก ส่วนตัวแล้วเราลองมาหลากหลายยี่ห้อมาก บางทีก็เจอแบบคุมมันนะ แต่แห้งไป ทำให้แต่งหน้าต่อไม่ได้ พอทารองพื้นแล้วเป็นคราบบ้าง บางทีก็มันเกินไป ทำให้หน้าเยิ้ม รองพื้นไหลได้อีก

เราก็เลยลองมาเรื่อยๆ ค่ะ จนมาเจอกันแดดตัวนี้แหล่ะ Concept Physical Sun Protection Cream ที่รู้สึกว่าชอบ ตอบโจทย์อะไรหลายๆ อย่างในชีวิตประจำวัน

ส่วนตัวเลยเป็นคนที่มีปัญหาเหล่านี้ค่ะ

-   ผิวขาว สภาพผิวมันแต่ขาดน้ำ เป็นสิวและระคายเคืองง่ายค่ะ สิวขึ้นทุกเดือนถ้ามีประจำเดือน

-   ทำงานไกลต้องตื่นแต่เช้า ระยะเวลาในการอาบน้ำ แต่งตัวแต่งหน้าต้องทำทุกอย่างให้เสร็จภายใน 1 ชั่วโมง

-   ใช้ชีวิตอยู่กทม. ทั้งฝุ่นและมลภาวะ เจออากาศร้อนๆ หนาวๆ จากอุณหภูมิทั้งภายนอกและในออฟฟิต

สิ่งที่ชอบและคิดว่ากันแดดตัวนี้ตอบโจทย์คือ

1.   คุณสมบัติของกันแดดที่กันแดดได้ถึง SPF 50 PA+++ สามารถป้องกันได้ทั้งรังสี UVA และ UVB อีกทั้งยังกันแดด ได้ยาวนานถึง 12 ชั่วโมง มีส่วนผสมของโปรตีนเปปไทด์ และสารสกัดธรรมชาติเพื่อผิวขาว ใส 10 ชนิด ช่วย ฟื้นฟู ดูแลผิว ลดเลือนริ้วรอย เพิ่มความกระจ่างใสให้ผิวหน้า และไม่มีสารที่ทำให้เกิดการระคายเคืองหรือแพ้

จุดนี้คือชอบเพราะเป็นคนแพ้ง่าย ใช้ตัวนี้แล้วโอเคค่ะ ไม่รู้สึกระคายเคืองหรือแสบ ในส่วนของฟื้นฟูผิว และริ้วรอย ยังเห็นไม่ชัดเท่าไรค่ะ เพราะเพิ่งทดลองได้ไม่นาน

2.  เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นครีมสีเบส พอทาลงบนผิวจะรู้สึกว่ามันแตกตัวเป็นน้ำ ซึมลงไปอย่างรวดเร็ว ไม่ทำให้ผิวมัน ระหว่างวันก็ไม่ไหลเยิ้มค่ะ ตอบโจทย์มาก

3.   สามารถทาแทนรองพื้นได้เลย จากรูปที่ให้ดูจะเห็นได้ชัดว่ารอยแดงจางลง รอยดำก็เช่นกันค่ะ แต่ก็ไม่หายไปหมด หากจะให้เนียนเลย อาจจะต้องเพิ่มคอนซีลเลอร์เข้าไป แต่สำหรับคนที่ผิวดีกว่าเรา เราคิดว่าคงชอบมากแน่ๆ ค่ะ สำหรับเราให้ 4/5 เปอร์เซ็น ถือว่าทำได้ดีค่ะ เพราะจริงๆ แล้วเค้าคือกันแดด ไม่ใช่รองพื้น แต่ใช้ทาแทนในวันเร่งรีบและไม่ต้องการความเป๊ะมากได้ค่ะ

ข้อมูลอื่นๆ:

-   Packaging: เป็นหลอดบีบ สีส้มค่ะ ซื้อแบบขนาด 30 ml มา ถือว่าพอดีมือ บีบผลิตภัณฑ์ออกมาได้ง่ายค่ะ ปริมาณที่บีบออกมาไม่เยอะจนเกินไป

-   กลิ่น: เป็นกลิ่นอ่อนๆ บอกไม่ถูกว่ากลิ่นอะไร


ผลลัพธ์หลังใช้:

-   รู้สึกว่าผิวดูสว่างขึ้นทันทีหลังใช้ รอยดำ รอยแดงจากสิวจางลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ว่าไม่ได้กริบเหมือนรองพื้นแบบ Full coverage ระหว่างวันหน้าไม่มัน ไม่หมอง ไม่คราบ ไม่เยิ้ม

-   กันแดดได้ดีค่ะ ปกติแดดจ้าๆ จะแสบผิว ผิวลอก แต่หลังใช้ตัวนี้ไม่ลอกค่ะ หน้าไม่หมองคล้ำ

-   กันแดด เนื้อไม่แห้งจนเกินไป เนื้อเนียนละเอียด

-  ความพอใจโดยรวมให้ 4.5 คะแนนเลยค่ะ หักเรื่องการปกปิดและเรื่องเฉดสีของกันแดด ที่เราคิดว่ามันค่อนข้างออกมาทางขาวค่ะ ส่วนตัวเราผิวขาวจึงรู้สึกว่าพอดีผิวเป๊ะ ไม่ลอยค่ะ แต่สำหรับสาวผิวแทนเราแนะนำให้ดูรีวิวเพิ่มเติมจากสาวผิวแทนนะคะว่าจะเข้ากับสีผิวรึเปล่า ผลลัพธ์ส่วนตัวโดยรวมสำหรับเราคือโอเคมากค่ะ เป็นกันแดดตัวนึงที่รักเลยค่ะ

สามารถดูคะแนนได้จากในภาพได้เลยนะคะ

เนื้อโลชั่นซึมไว กลิ่นหอมมากค่ะ ใช้แล้วรู้สึกผิวชุ่มชื่น ตอนนี้ใช้ใกล้หมดขวดแรกแล้วค่ะ รุ้สึกผิวกระจ่างใสขึ้นค่ะ

สีสวยมาก มีกลิ่นหอม มีประกายเล็กน้อย ดูที่แท่งเป็นสีชมพู แต่พอทาที่ปากจะออกเป็นสีใสๆ เป็นกลอสที่ไม่เหนอะปากค่ะ

กลิ่นหอมสดชื่น ส่วนตัวใช้รุ่นปรับปรุงกลิ่นใหม่ปี 2019 มีความเป็นฟรุตตี้ฟลอรัล แต่ไม่ค่อยชอบกลิ่นท้ายเท่าไรค่ะ

เนื้อเซรั่มเหลวเป็นน้ำ อารมณ์เหมือนน้ำตบเลยค่ะ เหมาะสำหรับผิวมัน
แต่ถ้าเป็นผิวมันขาดน้ำ อาจจะต้องบำรุงตามด้วยเซรั่มตัวอื่น่ที่ให้ความชุ่มชื่นมากกว่านี้

ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ใช้แล้วไม่แพ้ค่ะ ในเรื่องของสิว ยังเห็นผลไม่ชัดเจนมากค่ะ แต่รู้สึกว่าผิวมันน้อยลงค่ะ

เช็ดทำความสะอาดผิวหลังการล้างหน้า รู้สึกว่าผิวสะอาดหมดจดขึ้นค่ะ
รู้สึกว่าช่วยลดความมันบนใบหน้า

แต่ขอหักคะแนนเรื่องกลิ่นแอลกอฮอลที่แรงไปหน่อย
และอยากให้ไม่มีน้ำหอมมากกว่าค่ะ

เนื้อครีมอาเนื้อครีมอาบน้ำเป็นสีชมพูมุกๆ ไม่เหลวจนเกินไปค่ะ สูตรที่ได้เป็นกลิ่น Peony อาบแล้วกลิ่นหอมติดผิว 2 - 3 ชม. เลยค่ะ


ล้างออกง่าย แต่ไม่รู้สึกว่าทำให้ผิวแห้งนะคะ

ใช้ดีมากค่ะ เนื้อสีชัดเจน กลบสีปากได้มิด มีความชุ่มชื่น ไม่เป็นคราบ มีโทนสีให้เลือกหลากหลาย ชอบค่ะ

กลิ่นหอมหวานเหมือนดอกไม้ค่ะ ส่วนตัวคิดว่ากลิ่นหวานกว่า My Burberry EDP ดูเป็นสาวหวาน อบอุ่นมากค่ะ

ลิปทาง่าย เนื้อสีชัด มีสีให้เลือกหลายหลายมาก ชอบในความชุ่มชื่นของ Lip Dior ไม่ทำให้ปากแห้ง ไม่เป็นคราบ ไม่ตกร่อง แต่สีอาจจะติดไม่ค่อยทนเท่าไรนะคะ

เป็นน้ำหอมหนึ่งในดวงใจสำหรับผู้ชายเลยค่ะ ฉีดแล้วหอม ลุคอบอุ่น สมาร์ท กลิ่นติดตัวนาน และฟุ้งกระจายดีค่ะ

เป็นคุชชั่นที่สามารถปกปิดเป็นเมคอัพและมอยเจอไรเซอร์ไปในตัว ซึ่งนางดีงามมาก นางปกปิดในระดับกลาง ใช้แล้วผิวชุ่มชื่น ไม่แห้ง

เนื้อรองพื้น้กลี่ยง่ายมาก เกลี่ยเสร็จจะแห้งเหมือนเราทาแป้ง ถ้าใครหน้าไม่มัน ไม่ต้องทาแป่งก็ได้ ตัวนี้ตัวเดียว จบ

เป็นแป้งทรานลูเซนต์ที่มาในรูปแบบตลับ ชอบมากค่ะเพรสะพกพาง่าย สะดวกกว่าแบบผง ส่วนคุณภาพก็ดีมากค่ะ

เนื้อรองพื้นเหลว ซึมไว ไม่คราบ ไม่เยิ้ม มีเฉดสีที่เข้ากับคนไทย แต่ไม่ค่อยปกปิดนะคะ เน้นงานผิวมากกว่า

เป็นบรัชที่สีสวยมาก ชิมเมอร์ละเอียด เกลี่ยง่าย พิกเม้นดีมาก ถือว่าคุ้มราคามากค่ะ

ใช้ดีมาก สีชัด ติดทน ให้เส้นที่เล็ก สามารถวาดเป็นเส้นคิ้วได้เลยไม่ต้องฝนให้เล็ก ไม่หักง่าย คุ้มมากค่ะ

บรัชตัวนี้ดังมาก คนรีวิวเยอะ คนชอบเยอะมาก พอเราไปลองสวอช เรารู้สึกเฉยๆ ไม่ได้ว้าวอะไร ชิมเมอร์ไม่ค่อยละเอียด ส่วนเนื้อแมทโอเคกว่าชิมเมอร์ค่ะ

เป็นลิปจิ้มจุ่มที่เนื้อดีมาก ทาแล้วปากไม่แห้ง ไม่ตกร่อง เม็ดสีชัดเจน ติดทนนานมาก แถมยังราคาน่ารัก

เนื้อโลชั่นเป็นน้ำเหลว ซึมได้ง่าย ช่วยเติมความชุ่มชื่นให้แก่ผิว เราผิวมันขาดน้ำ ใช้ตัวนี้แล้วรู้สึกว่าผิวสมดุลขึ้นค่ะ

กลิ่นหอมมาก เป็นน้ำหอมที่ชอบที่สุด กลิ่นดอกไม้หวานๆ เข้ากับเคมีผิวเราที่สุด ไม่หวานเลี่ยน สำหรับเรามันเป็นกลิ่นดอกไม้ที่ใช้ได้ทุกวัน

แปรงจับถนัดมือ มีมา 2 ด้าน ขนนุ่มทั้งคู่ค่ะ แข็งแรงทนทาน คุ้มค่าแก่การลงทุนมากค่ะ

สั่งออนไลน์มาจาก Sephora ในช่วงลดราคา เพราะเห็นสีน่ารักออกแนวพาสเทล แต่พอลองสวอชสีจริงรู้สึกว่าเม็ดสีไม่ค่อยแน่นเหมือน Palette อื่นของแบรนด์นี้ สีเบากว่าที่คิด เม็ดสีไม่ค่อยแน่น ค่อนข้างผิดหวังกับ Palette นี้ค่ะ

อายชาโดว์เนื้อดี ไม่ค่อย Fall out เบลนได้ง่าย ราคาไม่แพงเกินไป คุณภาพคุ้มราคา โทนสีจะออก Everyday look เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น หรือผู้ที่ชอบแต่งโทนสุภาพค่ะ

บรรจุมาในรูปแบบแคปซูลทำให้รักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ได้นาน ใช้วันละ 1 แคปซูล ลักษณะจะเป็นออยบำรุงผิว ใช้เฉพาะตอนกลางคืน แต่ไม่มันนะคะ ซึมไว ช่วยฟื้นฟูผิวเหนื่อยล้าให้กลับมาผ่อง เด้ง ใส แต่ราคาแอบแรงมาก

เป็น Essence ที่ซึมไว ช่วยให้ผิวดูแข็งแรงเปล่งปลั่ง เราใช้เป็นประจำทุกวัน ช่วยเสริมการทำงานคู่กับ ANR ใช้แล้วพึงพอใจกับผลลัพธ์ค่ะ รู้สึกว่าสิวผด และรอยแดงลดลง ดูผิวผ่องขึ้น ชุ่มชื่น

Essense ซึมไวไม่เหนียวเหนอะหนะ

เนื้อเนียน ปกปิดระดับกลางค่ะ เอามาปิดแพนด้าใต้ตาได้ดี เฉดสีน้อยไปหน่อย แต่มีสีที่เข้ากับเราอยู่ค่ะ

ชอบทิ้นท์สีส้มมาก ใช้สมัยเรียน มันสวยมาก เสียดายที่แบรนด์เลิกผลิตแล้ว ราคาน่ารักมาก

ลิปสติกเนื้อดีมาก เม็ดสีแน่น กลบสีปากได้มิด ชุ่มชื่น ปากไม่แห้งเป็นขุย สีสวย ทาง่าย

กลิ่นหอมหวานมาก แต่ต้องสเปรระหว่างวันบ่อยๆ เพราะเป็นแค่บอดี้มิส ทำให้ติดไม่ทนค่ะ

เป็น Primer สำหรับปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนก่อนการแต่งหน้า ลักษณะเป็นเจลใสๆ เกลี่ยง่ายซึมไว ไม่คราบ ช่วยให้ผิวดูเฟรชและเครื่องสำอางทนขึ้นค่ะ

สวัสดีค่า Senka เค้าออกสูตรใหม่มาอีกแล้วจ้า
ออกมาพร้อมกัน 2 สูตร ได้แก่
- สูตร White: เน้นให้ความชุ่มชื่น ผิวดูกระจ่างใส
- สูตร Fresh: เน้นควบควมความมันส่วนเกิน

เราไม่รอช้า รีบไปตำมาอย่างด่วนเลยกับ Senka Perfect Whip ทั้ง 2 สูตร
ซึ่งรีวิวนี้จะรีวิวในส่วนของสูตร Fresh นะคะ

เนื่องจากเรามีผิวหน้ามันและเป็นสิวง่ายม๊ากกกก และชอบวิปโฟมของ Senka สุดๆ ในที่สุดเค้าก็ออกสูตรตอบโจทย์คนหน้ามัน เป็นสิวสักที ไม่รอช้า รีวิวกันเลยค่ะ

เนื้อผลิตภัณฑ์:
- เนื้อโฟมหนา แน่น บีบแล้วคงรูปได้ รู้สึกว่าจะแน่นกว่าสูตร White นิดหนึ่งด้วย วิปโฟมที่ตีฟองออกมาได้ก็แน่นกว่าเดิม คงรูปได้นานกว่าเดิม ทิ้งไว้สักพักก็ยังไม่เหลวเป็นน้ำ ชอบจุดนี้มากค่ะ

กลิ่น:
- กลิ่นหอมแบบ Fresh ตามชื่อสูตรเค้าเลย กลิ่นแบบดอกไม้อ่อนๆ

ความรู้สึกในขณะที่ใช้:
- วันไหนที่ตีฟองด้วยตาข่าย จะรู้สึกว่าฟองหนานุ่ม สัมผัสบนผิวหน้าแล้วสบายผิวมาก ไม่รู้สึกว่ามือเสียดสีไปกับผิวหน้าเลย ส่วนวันไหนที่ใช้มือตีฟองจะรู้สึกว่าฟองเค้าแน่นละเอียดนุ่มลื่น 
- พอล้างออกแล้วไม่รู้สึกเอี๊ยดๆ หรือแห้งตึงเกินไป หรือก็ไม่ได้ลื่นจนเกินไปจนเหมือนว่าล้างไม่สะอาด
- ไม่แสบผิว อ่อนโยนมากค่ะ
- ถึงแม้เค้าจะเคลมว่าช่วยควบคุมความมัน แต่เค้าไม่แห้งนะ เพราะนอกจากผิวมันจะใช้ได้แล้ว ผิวผสมก็ใช้ได้ด้วย อันที่จริงทุกสภาพผิว เราว่าใช้ได้หมด เพราะไม่ใช่โฟมที่แรง

ผลลัพธ์หลังการใช้มาประมาณ 2 สัปดาห์:
- ผลลัพธ์โดยรวมผิวไม่ค่อยมัน แทบไม่ได้ซับหน้าระหว่างวันเลย แต่ถ้าวันไหนต้องลุยแดด ลุยลมก็จะมีซับบ้าง ซึ่งจำนวนกระดาษซับหน้าที่ใช้จะน้อยลงกว่าปกติด้วย
- สิวผดลดลงอย่างเห็นได้ชัด และไม่มีสิวอุดตันคิดว่าเป็นผลมาจากการที่โฟมตัวนี้ช่วยควบคุมความมัน และขจัดสิ่งสกปรกบนผิวหน้าได้ดี เริ่ดมาก เหมือนเจอโฟมที่ตามหามานานแสนนาน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนผิวมัน เสี่ยงที่จะเป็นสิวง่าย
- ประทับใจที่สามารถควบคุมความมันโดยที่ไม่ทำให้ผิวแห้งขาดน้ำ ยังคงความชุ่มชื่นของผิวได้เป็นอย่างดี ผิวไม่เสียสมดุลค่ะ ปกติโฟมที่ขจัดความมันนี่เราเคยเจอแต่แรงๆ ล้างทีนี่รู้สึกเลยว่าเอี๊ยดๆ และทำให้ผิวแห้ง ยิ่งผิวแห้งยิ่งกระตุ้นให้ผลิตน้ำมัน แต่ตัวนี้ไม่เลย ยังคงความชุ่มชื่น อิ่มน้ำ

สรุปแล้วเราชอบตัว Fresh นี้มาก ถ้าให้เปรียบเทียบระหว่างสูตร White กับสูตร Fresh เราชอบทั้งคู่ เนื่องจากเราผิวมันจึงเอนเอียงมาที่สูตร Fresh มากกว่า เพราะเราเน้นควบคุมความมันมากกว่าผิวกระจ่างใสค่ะ ถ้าใครชอบความกระจ่างใส ซื้อสูตร White เลยค่ะ ไม่ผิดหวังเพราะดีทั้งคู่

ปริมาณ 100 กรัม ราคา 179 บาท
โดยรวม ใครที่ผิวหน้ามัน หรือผิวผสม และอยากใช้วิปโฟมเราแนะนำให้ใช้ตัวนี้เพราะตอบโจทย์มาก ผู้ที่เป็นสิวก็สามารถใช้ได้

เรามีรีวิวสูตร White ด้วย สามารถเข้าไปดูรีวิวได้นะคะ

หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ

เปิดตัวใหม่อีกแล้วกับ Senka Perfect Whip
ซึ่งออกมาพร้อมกัน 2 สูตร ได้แก่
- Senka Perfect Whip White
- Senka Perfect Whip Fresh

เรานี่รีบพุ่งตัวไปซื้อเลยค่ะ ซื้อมาทั้ง 2 สูตรเลย เลือกไม่ถูก อยากลองใช้ทั้งคู่เลยว่าจะเป็นยังไงเพราะแต่ละรุ่นที่ออกมาคือของเค้าดีจริงๆ แต่กว่าจะได้มาใช้ตระเวนหาหลายสาขาเลยค่ะ ของหมด อะไรจะขายดิบขายดีขนาดนั้น 
หลังจากทดลองใช้ก็ชอบเหมือนเดิมค่ะ รีวิวนี้จะเน้นสูตร White นะคะ

เนื้อผลิตภัณฑ์:
วิปโฟมเค้าแน่นละเอียดหนานุ่ม รู้สึกว่าสูตรใหม่ๆ จะทำวิปโฟมละเอียดมากกว่าเดิม ถามยังคงรูปได้นานมาก พลิกคว่ำก็ไม่หยด ยิ่งกว่าไอศกรีมเดลี่ควีนอีก

สีผลิตภัณฑ์:
สีชมพูมุกๆ สีดูน่าใช้มากค่ะ

กลิ่นผลิตภัณฑ์:
กลิ่นหอมดอกไม้อ่อนๆ เหมือนกัน Perfect Whip รุ่นก่อนๆ เลยค่ะ ซึ่งเราว่ากลิ่นนี้ดีอยู่แล้ว ใช้แล้วรู้สึกผ่อนคลาย ไม่ฉุน กลิ่นหอมดอกไม้กำลังดี ทำให้รู้สึกสะอาดสดชื่นตอนล้างด้วยค่ะ

ความรู้สึกในขณะที่ใช้:
- วันไหนที่ตีโฟมจนฟองหนานุ่ม จะรู้สึกเหมือนเราล้างหน้าด้วยปุยฝ้าย คือมันนุ่มมาก รู้สึกว่ามือเราไม่ได้เสียดสีกับผิวหน้า มันเบาสบาย ส่วนวันไหนที่ไม่ได้ตีฟองจนหน้ามาก ใช้มือตีฟอง ก็รู้สึกว่าตัวฟองจะละเอียดกว่าโฟมล้างหน้าทั่วไป
- ไม่ตึงผิวเวลาล้างออก
- เราผิวแพ้และระคายเคืองง่าย ก็รู้สึกว่าไม่ได้แสบผิว อ่อนโยน สามารถใช้ได้ทุกวัน

ผลลัพธ์หลังการใช้มาประมาณ 2 สัปดาห์:
- ผลลัพธ์โดยรวมผิวชุ่มชื่นขึ้น ไม่ลอกเป็นขุย เราเป็นคนผิวมันแต่ขาดน้ำ เวลาล้างด้วยโฟมล้างหน้าที่แรง จะรู้สึกว่าผิวแดงหลังล้างหน้า แต่พอใช้ Senka ไม่มีปัญหานั้นเลยค่ะ ผิวไม่แดง ไม่แสบผิว และรู้สึกว่าชุ่มชื่นกว่าตัว Fresh นิดหน่อย
- ผิวดูกระจ่างใสขึ้นเพราะโฟมช่วยจัดการกับสิ่งสกปรก และเซลผิวที่ตายแล้ว ทำให้ผิวดูเนียนสว่างขึ้น
- รูขุมขนเคลียร์ ไม่อุดตัน สิวผดบนหน้าผากของเราลดลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะโฟมตัวนี้สามารถล้างได้สะอาด และไม่ตกค้างใดๆ เราเป็นคนที่แต่งหน้าเป็นประจำ ก่อนอื่นก็เช็ดหน้าด้วยไมเซล่าของ Senka นี่แหล่ะ แล้วล้างตามด้วยวิปโฟม Senka ไม่ได้เช็ดโทนเนอร์ แต่ก็ไม่มีสิวอุดตันนะคะ ล้างได้สะอาดหมดจดเลยชอบมากเลยค่ะ

โดยรวมแล้วตั้งแต่ใช้มาก็ยังคงจะใช้ต่อไป ไม่ว่า Senka จะออกมากี่สูตร เราก็จะตามซื้อไปเรื่อยๆ ค๊า ส่วนราคาก็ยังราคาเดิมนะคะ 179 บาท ปริมาณ 100 กรัมค่ะ

เรามีรีวิวสูตร Fresh สำหรับผิวผสมและผิวมันด้วย สามารถเข้าไปดูรีวิวได้เลยนะคะ

เป็นโฟมล้างหน้าที่ใช้มาอย่างยาวนาน เพราะอ่อนโยน เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย ไม่มีฟองด้วย เวลาล้างแล้วรู้สึกว่าผิวไม่แห้งตึง ชอบมากค่ะ

เป็นไมเซล่าที่อ่อนโยน ลดการเกิดสิว เหมาะสำหรับผิวที่เป็นสิวง่าย แพ้ง่ายมากเลย แต่ถ้าใครแต่งหน้าจัดๆ หนักๆ เราว่าตัวนี้อาจจะเอาไม่อยู่ เพราะมันอ่อนโยนมาก อาจจะล้างเครื่องสำอางค์ชนิดที่ติดทนๆ ไม่อยู่ ถ้าใครแต่งหน้าแบบสบายๆ เอาอยู่จ้า

เป็นลิปแมทที่ไม่แห้ง เนื้อดีมากนึกว่า Counter Brand ทาแล้วชุ่มชื่น ไม่เป็นคราบ แถมยังออกมาหลายสี จัดโทนได้ดี คือดีงามมาก ซื้อมาสีหนึ่งติดใจต้องไปซื้อเพิ่มลูกเพิ่มหลายขึ้นมา หักคะแนนตรงที่ตัวลิปใหญ่ เราปากเล็ก ทาแล้วชอบเลอะมานอกกรอบปาก

เป็นแป้งที่แพคเกจสวย เลอค่า น่ารักมาก สำหรับผิวที่มีปัญหาเยอะๆ แบบเรา มันยังไม่ตอบโจทย์ เพราะแทบไม่ปกปิดเลย เนื้อแป้งเค้าดีมากนะคะ ละเอียดบางเบา สำหรับสาวผิวธรรมดาที่ไม่มีปัญหาอะไรมาก คงจะรักมากเลยค่ะ

บรัชออนตัวดังของ Nars สีชมพูอมส้ม ประกายชิมเมอร์สีทอง เราว่าสามารถใช้ได้ทุกสีผิว สาวผิวขาวเหลืองใช้แล้วจะขับสีผิวมาก หน้าดูผ่อง
แอบหักคะแนนตรงที่ตลับเค้าเลอะง่าย เลอะทีนี่กรังมาก เช็ดยากลำบากเหลือเกิน

กลิ่นหอมหวาน มีความเป็นผู้หญิงสูงมาก แต่ไม่ฉุน และสำหรับเราไม่เลี่ยนเลยค่ะ ใช้ได้ทุกวัน แต่ติดไม่ค่อยทนเท่าไร จะต้องเติมระหว่างวัน ขอหัก 1 คะแนนค่ะ

ชอบกลิ่นออกแนวผู้หญิงอบอุ่นหวานๆ ได้กลิ่นวนิลา แต่กลิ่นติดไม่ทนเลยค่ะ เพราะเป็น EDT 

เป็นรองพื้นที่เน้นความเป๊ะ ปกปิด แต่ต้องเกลี่ยดีๆ เราว่าต้องใช้ฟองน้ำถึงจะเป๊ะเพราะเค้าแห้งไวมาก ถ้าเกลี่ยไม่ดีอาจจะเป็นคราบได้

เป็นน้ำหอมกลิ่นดอกไม้ ที่เหมือนความหอมของดอกไม้สีขาว หลังฝนตก
สำหรับเรามันหอมหวานและมีความเป็นผู้หญิงมาก เข้ากับเคมีเรา เพราะเราฉีดกลิ่นแนวฟรุ๊ตตี้ไม่ค่อยเข้า กลิ่นโชยตามลม มีความกระจายตัวดีค่ะ
ติดทนประมาณ 4 - 5 ชม.

ซื้อมาใช้สลับกับ Lancome advanced genifique
รู้สึกชอบค่ะ เนื้อเซรั่มเข้มข้นแต่ซึมไว ตัวชูโรงของเค้าคือ bifida ferment lysate ซึ่งช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น เนื่องจากเราใช้ของ Lancome ซึ่งมีตัว bifida ferment lysate อยู่แล้ว จึงไม่ได้เห็นผลแบบว๊าวมาก เพราะผิวฟื้นฟูจากตัวที่ใช้มาอยู่ก่อนแล้วค่ะ

ส่วนตัวนี้ก็ชอบเช่นกันเพราะไม่มีน้ำหอม ของ Lancome มีน้ำหอม และตัวนี้สารบำรุงเยอะกว่า Lancome

ใช้ตัวใดตัวหนึ่งก็ได้นะคะ สำหรับเราถ้า Lancome หมดก็จะเปลี่ยนมาใช้ตัวนี้เพราะไม่มีน้ำหอมและสารบำรุงเยอะกว่าค่ะ