Profile

ราคาดีงาม กันน้ำ แปรงใช้ง่ายค่ะ ตัวมาสคาร่าไม่เกาะตัวกันหนาเป็นก้อน ให้ลุคแบบธรรมชาติ คนตายาวขึ้น

พกพาใช้ฉีดเติมระหว่างวัน สะดวกดีค่ะ ฉีดบนผิวแล้วเย็นๆ ไม่เหนอะหนะ ช่วยให้มั่นใจในประสิทธิภาพกันแดดมากขึ้น
แต่รู้สึกว่าหมดไวไปหน่อย

กลิ่นหอมติดทนมาก กลิ่นแนวดอกไม้ฟุ้งๆ หวานๆ เพิ่มความกรุ่นด้วยวนิลลาและ amber แต่ไม่สูงวัย คิดว่าเหมาะกับการอยู่ในอากาศเย็นๆ ห้องแอร์ ฉีดเยอะไปอาจจะฉุนได้

เป็นน้ำหอมแบบแต้มนะคะ หมุนฝาออกมาแล้วจะมีน้ำหอมติดขึ้นมาให้หยดบนจุดชีพจร กลิ่นมีความเป็นมะลิผสมกับมัส หอมแบบอโรม่า ผ่อนคลายมากค่ะ

สาวก Jadore ไม่ควรพลาดค่ะ น้ำหอมมีความคลาสสิก กลิ่นหอมเย้ายวนมีกลิ่นกุหลาบและจัสมินที่โดดเด่น ตัดกลิ่นกระดังงาที่ทำให้ตึ๊บๆ ออกไป

กลิ่นเปิดสดชื่น มีความเป็นฟรุตตี้บวกกับดอกไม้ขาว ดูอ่อนวัยก่อน J'adore รุ่นอื่นๆ แต่กลิ่น พอทิ้งไว้สักพัก กลิ่นท้ายจะเป็นพีชที่มีความสังเคราะห์ค่ะ กลิ่นท้ายจะมีความไม่ธรรมชาติเท่าไร
ตอนนี้เหมือนจะเลิกผลิตไปแล้วนะคะ

ยอมรับเลยค่ะว่าเสียเงินเพราะ Package KUMAMON เลยค่ะ น่ารักม๊ากกก
เห็นปุ๊บ เสียเงินปั๊บเลยค่ะ

เฉดที่ซื้อมาคือเบอร์ C1 สำหรับผิวขาวอมชมพู

เนื้อแป้งฝุ่น จะเป็นสีเนื้อที่ทำมาให้เหมาะกับผิวขาวนะคะ เนื้อละเอียดไม่หยาบ และเมื่อเกลี่ยจะมีชิมเมอร์เม็ดเล็กๆ อยู่ พอเราเกลี่ยลงบนผิวจะช่วยกระจายแสงทำให้ผิวดูสว่างขึ้นค่ะ

ความรู้สึกหลังใช้ ตอนแรกยอมรับเลยว่าไม่ได้คาดหวังเรื่องประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์มากนัก ซื้อเพราะแพคเกจล้วนๆ แต่พอใช้ไปสักระยะหนึ่ง รู้สึกประทับใจมากค่ะ เนื้อแป้งละเอียดมาก ทาแล้วหน้าไม่ลอย เนื้อแป้งจะกลืนไปกับสีผิว แถมยังมีชิมเมอร์เนื้อละเอียด ที่ไม่ได้เป็นเม็ดใหญ่ เม็ดจะละเอียดมาก ช่วยกระจายแสงให้กับผิว ทำให้ผิวผ่องขึ้นค่ะ ช่วยปกปิดได้ในระดับนึง แต่ไม่มากเท่ากับแป้งตลับผสมรองพื้น ที่สำคัญเลยที่ชอบคือช่วยคุมมัน ตลับขนาดพอดีมือไม่ใหญ่ไป สามารถพกพาไปเติมระหว่างวันได้ค่ะ พัฟที่ให้มาในตลับนุ่มลื่น ไม่แข็ง ใช้งานได้จริง

ราคาก็ดีงามมากค่ะตลับละ 295 บาท ได้ทั้งความน่ารักของ KUMAMON และคุณสมบัติคุมมัน กระจายแสง ผิวผ่อง

ให้ไปเลย 5 ดาวค่ะ เลิฟมากๆ แนะนำค่ะ

เนื่องจากช่วงนี้อยากได้รองพื้นที่มีความฉ่ำ งานผิว แต่ปกปิดรอยสิว รอยแดง รอยกระได้ พอเห็น BSC ออกรองพื้นตัวใหม่มาคือรุ่น BSC Bio Velvet Radiant Serum Foundation SPF 30 PA+++ เราก็รีบซื้อเลยค่ะ

เฉดสีที่ซื้อมาคือเบอร์ C1 ที่เหมาะกับคนผิวขาว เราซื้อมาแล้วพอดีกับผิวเลยค่ะ สีไม่หมองไป หรือติด undertone ชมพูเกินไป เหมาะกับผิวชาวเอเชีย
มาในบรรจุภัณฑ์ขวดแก้วทรงกลม หัวดรอปเปอร์แบบเซรั่มเลยค่ะ ซึ่งทำให้ Control ปริมาณในการใช้ได้ง่าย

เนื้อผลิตภัณฑ์จะเป็นรองพื้นสูตรน้ำ ที่เนื้อค่อนข้างข้น แต่ไม่หนืดนะคะ ไม่เหลวมากจนเกินไป เป็นรองพื้นที่สูตรเซรั่มมีความเป็นรองพื้นและสกินแคร์ค่ะ ให้ความชุ่มชื่น ไม่ได้แห้งไว้จนเกินไป เนื้อมีความฉ่ำแบบ Velvet ให้ฟินิชลุคที่มีความฉ่ำไม่แมทนะคะ ซึ่งเนื้อแบบนี้จะให้ผิวที่ดูสุขภาพดี ดูมีความผ่องมากค่ะ

ความรู้สึกหลังทดลองใช้ รู้สึกว่าเป็นรองพื้นที่เกลี่ยง่ายมาก ทาครั้งแรกจะให้ความปกปิดระดับปานกลาง ถ้าใครที่ผิวดีเป็นทุนเดิม สามารถทารอบเดียวจบเลย ได้ลุคที่ฉ่ำ บางเบามากค่ะ ส่วนตัวของเราเป็นคนที่มีรอยสิว รอยแดง กระ กระจายทั่วไปหน้า เราจะใช้วิธีการลงบางๆ ด้วยแปรง 1 รอบ และรอสักพักให้รองพื้นเซ็ทตัว หลังจากนั้นก็ใช้นิ้วแต้มเฉพาะจุดที่มีรอยดำรอยแดงจากสิวเพื่อบิ้วเลเยอร์ไปอีกรอบ รู้สึกว่าปกปิดได้เนียนเลยค่ะ บิ้วเลเยอร์ได้ไม่เป็นคราบค่ะ ไม่ได้ดูหนาเตอะ ยังมีความงานผิว ซึ่งตรงนี้ชอบมากค่ะ ปกปิดแต่ไม่หนา พอเซ็ทตัวให้ลุคที่ฉ่ำ มีความดิวอี้เล็กน้อยแต่ไม่มันเยิ้ม ลงแป้งฝุ่นทับ เพิ่มด้วยไฮไลท์ ละแต่งหน้าส่วนอื่นๆ ตามจะได้ผิวสุขภาพดีมาก ข้อเสียของรุ่นนี้คือเรื่องของการคุมมันค่ะ เนื่องจากเป็นรองพื้นที่ค่อนข้างเน้นงานผิว เน้นชุ่มชื่นให้ผิวดูเปล่งปลั่ง เรื่องการคุมมันเลยทำได้ไม่ค่อยดีค่ะ สาวที่ผิวมันมากๆ อาจจะต้องดูเป็นรุ่น Matte แทนค่ะ

ส่วนตัวเราเป็นคนผิวมันแต่ขาดน้ำ ใช้ตัวนี้แล้วซับหน้าระหว่างวันบ้าง พอมีเหงื่อผิวก็ยิ่งสวยค่ะ ที่สำคัญเลยปกติถ้าเราใช้รองพื้นเนื้อแมทมากๆ จะเห็นเลยว่าเป็นรอยคราบแบบผิวเราลอกเพราะขาดน้ำ ใช้ตัวนี้แล้วไม่เป็นเลยค่ะ เนียนเรียบกลืนไปกับผิว คิดว่าสาวๆ ผิวธรรมดา หรือผิวแห้งน่าจะชอบมากค่ะ

สาวๆ คนไหนมองหารองพื้นที่ให้ลุคฉ่ำ ผิวผ่อง ดูสุขภาพดี ปกปิดแต่ไม่หนาเราว่าตัวนี้เหมาะมากๆ เลยค่ะ
ปริมาณ 30 มล. ราคา 850 บาท คุณภาพคุ้มราคามากค่ะ

หลังจากที่ได้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ POND'S Age Miracle Ultimate Youth Essence +  Mask มามากกว่า 1 เดือน จนเซรั่มหมดไปครึ่งขวดแล้ว วันนี้อยากจะมาบอกเล่าความประทับใจสักหน่อยค่า

ขอเกริ่นก่อนว่าช่วงที่ได้รับผลิตภัณฑ์มาทดลองใช้ เป็นช่วงที่เซรั่มที่ใช้ประจำหมดไป ก็ไม่ได้ทาสกินแคร์ไปพักหนึ่ง บวกกับเป็นช่วงที่เตรียมงานเพื่อมา Business trip ที่ต่างประเทศเป็นเวลายาวนานเกือบเดือน ทำให้อดหลับอดนอนค่ะ ยารักษาสิวก็เอาไม่อยู่เพราะนอนน้อยกว่า  4 ชั่วโมงต่อวัน จะสังเกตได้ชัดเลยว่าสิวขึ้น หน้าโทรม

หลังจากได้รับผลิตภัณฑ์มา เราก็พกมาต่างประเทศด้วยค่ะ และใช้สกินแคร์แค่ไม่กี่ตัว เพราะไม่ได้พกมาเยอะ ที่พกมาก็จะเป็น Pre-Serum และ Serum ของ POND'S Age Miracle Ultimate Youth Essence +  Mask แค่นั้นค่ะ จึงทำให้ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ทุกวัน และสามารถรู้ประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ได้อย่างชัดเจน

ความรู้สึกแรกหลังจากเปิด:

ในส่วนของเซรั่ม

-  เนื้อผลิตภัณฑ์: เป็นเซรั่มสีขาว เนื้อไม่เหลว ตอนหยดลงมามีความหนืด แต่พอทาลงบนผิวแล้วซึมลงผิวได้ไวค่ะ ไม่เหนอะหนะ คนผิวมัน เป็นสิวง่ายอย่างเราสามารถใช้ได้เลย หลังแต่งหน้าก็ไม่ทำให้เมคอัพเยิ้มหรือเป็นคราบค่ะ

-  กลิ่น: กลิ่นหอมมากค่ะ ไม่ฉุน กลิ่นหวานๆ สำหรับสาวๆ ที่แพ้น้ำหอม อยากให้ทดลองทาที่ท้องแขนก่อนจนครบ 24 – 28 ชม.นะคะ ถ้าไม่มีอากาศอะไรค่อยใช้ค่ะ

ในส่วนของ Mask

-  เนื้อผลิตภัณฑ์: เป็น Mask sheet ที่มีเนื้อฉ่ำ เข้มข้น แต่ซึมง่ายนะคะ ตัวมาร์คกระชับใบหน้าดีมากค่ะ แผ่นมาร์คก็นุ่ม รู้สึกว่าผิวสัมผัสดีค่ะ พอใช้ครบ 10 นาทีแล้วนวด รู้สึกว่าซึมไวมาก

-  กลิ่น: กลิ่นหอมมากเหมือนกันค่ะ

ผลลัพธ์หลังทดลองใช้

หลังจากทดลองใช้ผ่านไป 1 สัปดาห์ที่เราถ่ายรูปเก็บไว้จะเห็นได้ชัดเลยว่าสิวอักเสบที่ขึ้นมาก่อนหน้าที่จะใช้ได้ยุบไปหมดเลยค่ะ เพื่อนๆ อาจจะสงสัยว่า เซรั่มตัวนี้ไม่ได้เคลมเรื่องสิวนะ แล้วเกี่ยวอะไรกัน เราก็ได้ไปหาข้อมูลจากส่วนผสมของเซรั่มตัวนี้ ซึ่งส่วนผสมที่เราคิดว่ามีส่วนช่วยเรื่องสิวก็จะเป็น FERMENTED BIFIDA คุณสมบัตินางคือ ฟื้นบำรุงและเสริมเกราะป้องกันให้ชั้นผิว หรือ Skin barrier ซึ่ง ผิวเราจะสวยเด้งหรือจะผิวเสีย ก็ขึ้นอยู่กับ Skin barrier นี่แหล่ะค่ะ นางคือเซลล์ที่ประกอบไปด้วยไขมันที่อยู่ชั้นบนสุดของผิว ป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรก สิ่งแปลกปลอมหลุดเข้ามาในชั้นผิว ถ้า Skin barrier แข็งแรงสิ่งสกปรก แบคทีเรีย ก็จะหลุดเข้ามาในชั้นผิวได้ยากขึ้น และช่วยให้ผิวเก็บกักความชุ่มชื่นได้มากขึ้นค่ะ

จากส่วนผสมนี้เองค่ะที่ทำให้ผิวเราโดยรวมแข็งแรงขึ้น เพราะผลิตภัณฑ์ได้เข้าไปช่วยเสริมเกราะป้องกันให้ผิว สิ่งที่ตามมาแบบรู้สึกได้เลย หน้ามันน้อยลงค่ะ สิวไม่เห่อ ถึงแม้จะยังนอนไม่ค่อยพอในแต่ละวัน ผิวไม่แพ้ง่ายเหมือนแต่ก่อน ผิวดูเปล่งปลั่งขึ้น ไม่หมองค่ะ

และอีกอย่างที่รู้สึกได้คือผิวฟูขึ้นค่ะ ร่องแก้มดูเต็มขึ้น สามารถดูได้จากภาพเลยค่ะ

หลังจากใช้มา 1 เดือน จนเซรั่มหมดไปครึ่งขวดแล้วรู้สึกว่า

-  ทุกวันนี้แทบไม่ต้องแต้มยาสิวเลยค่ะ มีขึ้นมาบ้างช่วงมีประจำเดือน ชอบมากๆ รู้สึกผิวแข็งแรง อิ่มฟูขึ้น

-  ผิวชุ่มชื่น ความมันบนผิวลดลง คงเพราะว่าผิวรักษาความชุ่มชื่นได้ดีขึ้น และตัวผลิตภัณฑ์เองก็มีส่วนผสมของไฮยาลูรอน ที่ช่วยเรื่องความชุ่มชื่นอยู่แล้ว ทำให้ผิวสมดุล ไม่มัน

-  ผิวหน้าดูนุ่มขึ้นค่ะ รู้สึกรักผิวตัวเองมากขึ้นเลย ปลื้มมาก

-  ผิวดูอิ่มฟูขึน

--------
คุณสมบัติอื่นที่แบรนด์เคลมไว้แต่เราเห็นผลไม่ค่อยชัดก็มีบ้างค่ะ
-  ในส่วนที่แบรนด์เคลมว่า ลดเลือน ฝ้า กระ จุดด่างดำเราไม่ค่อยเห็นความแตกต่างมาก จางลงเล็กน้อย เพราะรอยเราเป็นรอยสิวที่ค่อนข้างใหญ่ และเห็นชัดเพราะเราผิวขาวเป็นทุนเดิม อาจจะต้องใช้เวลามากกว่านี้ ส่วนเรื่องกระเราว่าไม่ว่าสกินแคร์แบรนด์ไหนๆ ก็ช่วยได้เพียงเล็กน้อย ต้องพึ่งแพทย์ให้เลเซอร์ค่ะ

สรุปเลยสำหรับเรา

จะเห็นผลในแง่ของทำให้ผิวแข็งแรง ไม่แพ้ง่ายค่ะ สิวลดลงเพราะผิวแข็งแรงขึ้น และผิวสามารถเก็บกักความชุ่มชื่นได้ดี ทำให้ผิวมันน้อยลง ไม่หมอง ไม่โทรมค่ะ ผิวเปล่งปลั่งขึ้น แต่ไม่ถึงขนาดว่ากระและจุดด่างดำหายไป แต่โดยรวมแล้วดีกว่าเดิมมาก เพราะปัญหาสิวและผิวหมองก็เป็นปัญหาหลักของเราค่ะ ผลิตภัณฑ์ช่วยจุดนี้เราก็ชอบมาก อีกเรื่องคือผิวดูอิ่มฟู เหมือนร่องแก้มจะเต็มขึ้นนิดหน่อย รู้สึกว่าดูเด็กลง ปลื้มสุดๆ ค่า

ขอให้คะแนนดังนี้ค่ะ

-  ผลลัพธ์ : ให้ 4/5 ค่ะ ความดีงามของนาง ตามที่อธิบายไปด้านบนค่ะ
-  ราคา: ให้ 5/5 ราคาดีมากค่ะ 30 กรัม ในราคา 599 บาท ราคาไม่แพง แต่ได้ส่วนผสมดีงาม ใช้แล้วได้ผลจริงค่ะ
-  กลิ่นเนื้อผลิตภัณฑ์: ให้ 5/5 ค่ะ เนื้อไม่เหลวเกินไป มีความเข้มข้น แต่ซึมไว ชอบค่ะ
-  แพคเกจ: ให้ 4/5 ออกแบบมาให้สวยงามดูแพงค่ะ แต่เราว่ามันกดยากนิดนึง ชอบแบบขวดเซรั่มหัวดรอปแบบบีบๆ ธรรมดามากกว่า ขวดแบบนี้เราต้องกดไปประมาณ 2 รอบถึงจะได้ปริมาณที่ต้องการ แบบว่าเซรั่มไม่ค่อยเข้ามาในหลอดค่ะ ขวดแบบนี้ น่าจะเหมาะกับเซรั่มที่มีน้ำเหลวมากกว่านี้

หวังว่ารีวิวจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ สำหรับการตัดสินใจเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช่ให้ตัวเองนะคะ

ใช้แทนน้ำตบค่ะ เสริมชั้นผิวให้แข็งแรงขึ้น ชุ่มชื่น ไม่มีน้ำหอม ไม่มีสารระคายเคืองด้วย ใช้ดีมากๆ ค่ะ ผิวชุ่มชื่น เนียนขึ้นจริงๆ ค่ะ

เป็นคนผิวมันแต่ขาดน้ำ รูขุมขนกว้าง เป็นสิวง่าย มีรอยแดงง่าย เคยอ่านจากเพจต่างๆ เขาให้เน้นเสริมชั้นผิวให้แข็งแรง สุดท้ายก็เลือกใช้ตัวนี้เพราะเห็นว่ามี MLE และไม่มีสารที่ทำให้ระคายเคือง ใช้มาประมาณ 3 ขวดแล้ว รู้สึกผิวแข็งแรงขึ้นสุขภาพดีขึ้น รอยแดงดูดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมากค่ะ ผิวไม่ลอกเป็นขุยด้วยค่ะ

เนื้อครีมอาบน้ำไม่เหลวจนเกินไป ค่อนข้างข้นให้ฟองหนานุ่ม ชอบกลิ่นมาก กลิ่นแนววนิลลากรุ่นๆ ผ่อนคลายมากค่ะ

แผ่นค่อนข้างหนา นุ่ม ไม่ขาดง่าย ใช้หยดเซรั่มแล้วเอามาเป็นชีทมาร์คได้ด้วยค่ะ พกพาสะดวกค่ะ

สำหรับคนที่คิดว่ากลิ่น For Her รุ่นอื่นๆ กลิ่นแรงไป แน่นไป ผู้ใหญ่ไป เราว่าตัวนี้ดูเด็กสุด ใสสุด ใช้ง่ายสุดในบรรดา For Her เพราะกลิ่นมัสจะอ่อนกว่ารุ่นอื่น แต่จะมีความฟลอรัลเพิ่มขึ้นมา มีความครีมมี่ๆ ด้วยค่ะ ความติดทนจะน้อยกว่า For Her รุ่นอื่นๆ นะคะ ใช้ง่ายกว่า เหมาะกับอากาศร้อนด้วยค่ะ

ขวดสวยหรูดูแพงมากค่ะ โลชั่นหอมกลิ่นมัสแต่ไม่หนักไป กลิ่นแบบ Skin Scent นวลๆ ละมุนมาก แถมยังให้ความชุ่มชื่นผิวด้วยค่ะ ทาหลังอาบน้ำ แล้วฉีดน้ำหอม Narciso EDP แล้วจะยิ่งหอมมาก

ซื้อเพราะแพคเกจมีสีชมพูแบบกุหลาบๆ กลิ่นกุหลาบด้วยค่ะ ล้างได้ดีไม่แพ้สูตรอื่นๆ คือใช้เช็ดหน้า ล้างคราบเครื่องสำอางได้สะอาด สามารถล้างเครื่องสำอางกันน้ำได้ค่ะ

ใช้เช็ดเครื่องสำอางกันได้สะอาดค่ะ เครื่องสำอางกันน้ำก็เช็ดออกง่ายค่ะ ตัวเดียวจบเลย

แฟนใช้เป็นประจำค่ะ กลิ่นค่อนข้างแรงเหมือนกลิ่นน้ำหอมของผู้ชาย ล้างหน้าได้สะอาดหมดจด หน้าไม่มันเลยค่ะ

GARNIER Light Complete White Speed Super Essence เป็นเซรั่มที่ถูกและดี วิตามินซีที่ใส่มาคือคาดหวังผลได้ในเรื่องของความกระจ่างใสค่ะ อาจจะไม่ได้ขาวไว แต่ค่อยๆ ใสขึ้น เราใช้หมดขวดคือรู้สึกได้เลยว่าใสขึ้น พวกรอยดำจากสิวจางลงค่ะ

กันแดด Biore ดีทุกรุ่นจริงๆ ค่ะ รุ่นนี้เนื้อบางเบา ไม่ทำให้หน้ามัน จุดเด่นคือเนื้อของกันแดดพอทาลงบนผิวแล้วผิวดูสว่างดูไบร์ทขึ้น 1 เฉดค่ะ ใช้แทนเบสได้เลย

แต่ก่อนไม่ชอบทากันแดดเลยค่ะ เพราะรู้สึกว่าเหนียวและหนักหนา เพราะเราเป็นคนหน้ามันด้วย พอได้ลองใช้บิโอเรคือทำให้เราเริ่มหันมาทากันแดดค่ะ เพราะเนื้อเค้าเบามากไม่หนักเป็นน้ำเหลวๆ หน้าไม่มันเลยซึมไวมาก

ใช้พกพาสำหรับล้างเมคอัพเวลาเดินทาง มันเช็ดเครื่องสำอางออกได้หมดจด ล้างมาสคาร่าก็ออกค่ะ สะดวกมาก ไม่อุดตันด้วยค่ะ สิวไม่ขึ้น

โฟมล้างหน้า Senka เราลองใช้มาแล้วทุกสูตรเลยค่ะ ชอบในเนื้อฟองที่เนียนนุ่มแบบวิปโฟม ไม่ตีฟองก็เนื้อเนียนไม่บาดผิว อ่อนโยนใช้ได้กับทุกสภาพผิว

ปกติเราเป็นคนชอบแต่งหน้าเป็นประจำค่ะ ส่วนใหญ่ก็จะแต่งครบจัดเต็มเลย ไม่ว่าจะเป็นการทารองพื้นแบบกันน้ำปกปิดขั้นสุด ทาอายชาโดว์ ใช้อายไลน์เนอร์ มาสคาร่า และลิปสติกที่กันน้ำทนทานสุดๆ เพราะเป็นคนไม่ชอบเติมหน้าบ่อยๆ

ดังนั้นการให้ความสำคัญกับการล้างหน้าจึงจำเป็นมากค่ะ เรามักจะใช้ Makeup Remover หลายขั้นตอน เพราะตรงเมคอัพตาจะเป็นจุดที่ล้างออกยากมาก บางทีพอเราใช้ไมเซล่าจะรู้สึกว่าผิวบริเวณนั้นห้งจึงต้องใช้แบบออย ซึ่งถ้าจะเปลี่ยนมาใช้แบบออยทั้งหน้าก็รู้สึกไม่ชอบเอาซะเลยค่ะ รู้สึกเหนอะหนะ ดังนั้นการล้างเมคอัพแต่ละทีใช้เวลานานพอสมควรเลยค่ะเพราะต้องแยกว่าผิวหน้าใช้แบบไมเซล่า ส่วนดวงตาและปากใช้แบบออย

พอ Senka ออกผลิตภัณฑ์ใหม่เป็นตัว All Clear Milky Water จึงลองซื้อมาใช้ดูเพราะส่วนตัวใช้โฟมล้างหน้าของ Senka เป็นประจำอยู่แล้วค่ะ รู้สึกอ่อนโยนและไม่แห้งตึงแถมยังอ่อนโยน ไม่มีแอลกอฮอล์ สารแต่งสีและน้ำหอม รู้สึกว่าน่าสนใจมากๆ

ตัวผลิตภัณฑ์จะมี 2 เลเยอร์นะคะ
- เลเยอร์ที่เป็นน้ำสีใสๆ จะเป็นไมเซล่า ซึ่งมีประสิทธิ์ภาพล้างเมคอัพที่ติดทน
- ชั้นสีขาวด้านบนจะเป็นน้ำนม ช่วยบำรุงผิว มอบความรู้สึกสดชื่น อุดมไปด้วย เจแปนนีส ซอยบีน หรือส่วนผสมบำรุงผิวที่สกัดจากถั่วเหลืองจากประเทศญี่ปุ่น ด้วยคุณสมบัติ Antioxidant และช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิว พร้อมบำรุงผิวให้เนียนนุ่ม ชุ่มชื่น

ก่อนใช้ต้องเขย่าๆ ให้สองชั้นผสมกัน เทลงบนสำลีชุ่มๆ เลยค่ะ
หลังจากทดลองใช้แล้ว รู้สึกว่าสามารถล้างเมคอัพได้อย่างมีประสิทธิภาพเลยค่ะ
ตรงตา เอาสำลีแปะๆ ทิ้งไว้แล้วใช้มือนวดๆ กดๆ เบาๆ พอยกออก ตัวเมคอัพก็หลุดติดสำลีมาอย่างง่ายดาย แถมไม่รู้สึกว่าแห้ง หรือระคายเคือง สามารถใช้ตัวเดียวครอบคลุมทั้งหน้าเลย ชอบมากค่ะ
รู้สึกว่าการล้างเมคอัพเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ประหยัดเวลามากขึ้น แถมผิวก็มีสุขภาพดี


230 ml. ราคา 199 บาท หาซื้อได้ง่ายมากๆ ราคาและความคุ้มค่าดีมาก
ผลลัพธ์การใช้ก็ดี ปลื้มสุดๆ

ให้ไปเลยค่ะ 5 ดาว ไม่ลังเล
แนะนำสำหรับสาวๆ ที่รักการแต่งหน้า และต้องการ Makeup remover ที่ล้างเครื่องสำอางติดทนนาน โดยไม่ทำให้ผิวแห้งระคายเคืองผิว ตัวนี้ตอบโจทย์มากๆ ค่ะ

เป็นแป้งที่ดีไซน์แพคเกจสวยมากค่ะ ดูมีความเป็นไทย แต่ไม่ดูเชย ดูสวยมีคลาสค่ะ เนื้อแป้งก็ละเอียดดี ช่วยกระจายแสงให้ใบหน้า ไม่ทำให้สีของรองพื้นดรอปหรือลอยค่ะ ส่วนราคา ถ้าเทียบกับปริมาณวัดกับเคาท์เตอร์แบรนด์ก็ไม่ถือว่าถูกนะคะ เพราะได้ปริมาณที่ไม่ได้เยอะ แต่ก็ถือว่าราคาเข้าถึงได้ง่ายค่ะ

มันเป็นลิปที่เป็นเนื้อฝุ่น แต่ทาแล้วมันติดบนปากอ่ะค่ะ สีสวยมากเหมือนมีชิมเมอร์เงานิดหน่อยแต่ไม่ได้เงาเว่อร์จนดูตลก ดูปากมีมิติ สวยมากค่ะ ชอบมากจริงๆ ไม่เคยเห็นจากแบรนด์ไหน ทำสีมาได้ดี ใช้ได้ในชีวิตประจำวันค่ะ

แพคเกจค่อนข้าวหรูและมีน้ำหนักค่ะ กดตรงโลโกัที่เป็นรูปดอกไม้ ลิปก็จะดีดออกด้านล้างแล้วใช้มือดึงออกอีกที
หากใครเป็นคนชอบลิปแมทไปเลย รุ่นนี้แนะนำนะคะ เพราะเนื้อค่อนข้างแมทมากๆ และติดทนด้วยค่ะ แต่ต้องบำรุงปากไม่ให้ปากแห้งนะคะ ไม่งั้นอาจจะตกร่องได้ สีค่อนข้างชัดเลยค่ะ

เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำให้เราเปลี่ยนจากการล้างหน้าด้วยไมเซล่ามาชอบการล้างหน้าแบบออยเลยค่ะ เพราะเป็นออยที่เนื้อเบาสบาย ไม่เหนอะหนะ ไม่เหนียว ปั้มสองปั้มก็ใช้ได้ทั่วหน้าเลยค่ะ พอโดนน้ำจะเปลี่ยนเป็นน้ำนม ราคาแรงแต่ใช้ได้นานนะคะ ใช้ดี สะดวก สะอาด ไม่เปลืองสำลีด้วยค่ะ

เนื้อดีมากค่ะ ฉ่ำๆแต่ไม่เหนอะหนะ มีให้เลือกหลายสีมากๆ ใช้แล้วสีติดค่อนข้างทน ไ่ม่เป็นคราบ ปากไม่แห้งด้วยค่ะ

เป็นเซรั่มวิตซีที่ราคาถูก แต่เราใช้แล้วเฉยๆ ไม่ได้ว๊าวอะไร ไม่เห็นผลลัพธุ์อะไรชัดเจน

เป็นแป้งที่เคยใช้แล้วชอบมากค่ะ เนื้อแป้งเนียนละเอียด ปกปิดได้ดี แต่ผิวเราค่อนข้างขาว เนื้อแป้งจะหมองกว่าสีผิวเราหน่อยค่ะ เลยไม่ได้ใช้ต่อ ใครที่ผิวไม่ได้ขาวมากเราว่าใช้ดีนะคะ ส่วนตัวคิดว่าทำเฉดสีมาเหมาะกับคนไทยค่ะ

เป็นน้ำหอม niche brand โดย Perfumer Francis Kurkdjian ซึ่งเป็นคนคิดกลิ่น My Burberry และ Burberry Her ด้วยค่ะ

ตัวนี้เป็นคนละรุ่นกับรุ่น EDP อันโด่งดัง ราคาแรงกว่ารุ่น EDP เพราะมีความเข้มข้นของหัวน้ำหอมมากกว่า กลิ่นมีความนุ่มความนวล มีกลิ่นอัลม่อน และมีความวู๊ดดี้ แอบมีความพลาสติกๆ อธิบายไม่ถูกค่ะ

Girl of Now Elie Saab กลิ่นหวานๆ แบบมีกลิ่นอัลม่อนผสมดอกไม้ คือหอมหวานมากๆ คะ ไม่ฉุน ไม่เลี่ยน แถมยังติดทนนานสุดๆ

กลิ่น Classic แนว Warm spicy ตอนนี้น่าจะ discontinue ไปแล้ว เป็นกลิ่นแบบเขียวๆ จะว่าฉุนก็ฉุน แบบมีกลิ่นกระดังงาค่อนข้างชัด และกลิ่นแพชชูรี่

เป็นเมคอัพเบสที่เป็นสกินแคร์ด้วยค่ะ กลิ่นหอมๆ เนื้อจะเป็นเหมือนเซรัมที่ไม่ได้เหลวมากนะคะ เวลาทาจะเหมือนมีชิมเมอร์เล็กๆ ช่วยกระจายแสง ปรับสีผิวให้ดูโกลวขึ้น

กลิ่นแพชชูรี่แน่น ติดทนมากค่ะ หวานแบบตึ๊บๆ แน่นๆ เหมาะสำหรับอากาศเย็นมากค่ะ ใช้แล้วดูลึกลับหน้าค้นหา ไม่ใช่น้ำหอมสไตล์ใสๆ นะคะ ค่อนข้างใช้ยากสำหรับบ้านเรา เพราะอากาศบ้านเราร้อน ตัวนี้กลิ่นแน่นแบบน้ำหอมอาหรับเลยค่ะ

เป็นคุชชั่นที่เหมาะสำหรับคนที่ผิวค่อนข้างดี ไม่มีจุดด่างดำอะไร เพราะไม่ค่อยปกปิดเท่าไรค่ะ แต่จะเน้นให้ผิวสว่างขึ้นและมีความฉ่ำ ไม่แมทจนเกินไป ไม่เหมาะกับสาวผิวมันนะคะ สาวผิวธรรมดา ผิวแห้งน่าจะชอบค่ะ

เป็นกันแดดที่มีประสิทธิภาพสูงถึง SPF 50 PA++++ เนื้อจะเหลวๆ สีขาว แต่ไม่ใช่เนื้อเจลนะคะ เป็นเหมือนน้ำนมอะไรแบบนี้มากกว่า ทาแล้วซึมไวค่ะ เนื้อเป็นสีขาว ช่วยปรับสีผิวให้ขาวขึ้น 1 เฉด ไม่ทำให้หน้ามันด้วยค่ะ ชอบค่ะ

กลิ่นมีความ Powdery ดูเป็นผู้ใหญ่ ทางการหน่อยๆ กลิ่นติดทนค่ะ ใส่ไปทำงานได้ แต่ต้องระวังมือในการฉีด เหมาะสำหรับทำงานออฟฟิต ห้องแอร์นะคะ อากาศร้อนคิดว่าไม่น่ารอดเท่าไรค่ะ

กลิ่นเหมือนแยมบลูเบอร์รี่ แต่พอไปเซิร์สในโน๊ต จะเป็น black currant ซึ่งพอมาอยู่บนน้ำหอมเราว่ามันไม่เหมาะกับอากาศร้อนอ่ะค่ะ มันฉุนกึ๊ก เวียนหัว บอกไม่ถูก ไม่ปลื้มค่ะ

กลอ่นโทนซิตรัส สวีท กลิ่นเปิดแบบน้ำส้มคั้นมากๆ หลังจากนั้นจะมีกลิ่นคล้ายๆ ลูกกวาดค่ะ สดใสๆ เด็กๆ น่ารักๆ

แอบเกลียดขวดค่ะ หน้าตาเหมือนจานบิน ขวดไม่สวยเลยค่ะ ส่วนกลิ่นจะมีความหอมสไตล์ฟลอรัลแบบดอกไม้สีขาว หวานแต่ไม่แก่ ไม่ฉุน

เป็นกลิ่นฟลอนัลฟรุตตี้ที่มีความหวานจนเหมือนขนม เปิดมาด้วยกลิ่นผลไม้แบบเปรี้ยวๆ สดชื่นฉ่ำๆ หลังจากนั้น middle note จะเป็นกลิ่นเหมือนเค้กหวานจ๋าเลยค่ะ ถ้าอากาศร้อนต้องฉีดแบบเบามือนะคะ บอกเลยว่าติดทนมากๆ

กลิ่นแนวฟรุตตี้หวานๆ ซ่อนเปรี้ยว แบบเฟรชๆ สดใสสไตล์ผลไม้สีเขียว ไม่เหมาะกับลุคทางการเท่าไรนะคะ เหมาะกับลุคสบายๆ อากาศร้อนใช้ได้ไม่ชวนเวียนหัวค่ะ

แป้งแบ่งเป็น 2 ชั้น คือชั้นที่เป็นแป้งผสมรองพื้น เนื้อค่อนข้างเนียน และอีกชั้นที่เป็นแป้งที่มีชิมเมอร์ช่วยกระจายแสงให้ผิวค่ะ

ใช้แล้วรู้สึกว่าไม่ค่อยปกปิดหรือคุมมันเท่าไร

เป็นแปรงที่ทน คุณภาพดี ขนแปรงนิ่ม จิกสีได้ดี ราคาจับต้องได้ ใช้มาหลายปีแล้ว ขนแปรงยังคงดีไม่เปลี่ยนค่ะ

เป็นกันแดดที่เนื้อไม่หนา บางเบา และมีสีเบส สามารถทาแล้วไม่ต้องลงรองพื้นทับก็ได้ ครีมกันแดดช่วยปรับสีผิวพอสมควร อาจจะไม่เนียนกริบเท่าลงรองพื้น แต่วันไหนแต่งหน้าบางๆ เอาอยู่นะคะ

เป็นน้ำใสๆ เหลวเลยเหมือนน้ำตบค่ะ ไม่ได้ทำให้ผิวระคายเคือง แต่ไม่แน่ใจว่าเห็นผลรึเปล่าเพราะไม่เห็นผลชัดค่ะ เฉยๆ

เป็นครีมอาบน้ำที่หาซื้อได้ที่ Boots ทุกครั้งที่จัดโปรจะไม่เคยพลาดเลยค่ะ กลิ่นเขามีเอกลักษณ์ หอมมาก คล้ายๆ Dior Blooming Bouquet แต่มีความครีมมี่ แบบนมๆ ขนมๆ กว่า หอมติดผิวมาก ล้างแล้วผิวจะรู้สึกลื่นหน่อยๆ ค่ะ