Profile
littlecat
ผิวผสม แก้มแห้ง T-zone มัน สีไม่ขาวจัด มี undertone เหลืองมากกว่าชมพู ไม่มีปัญหาแพ้เครื่องสำอาง เริ่มดูแลความกระชับและลดริ้วรอยมากขึ้นตามวัย
ตอนแรกก็กลัวว่าจะเป็นครีมแบบหนักๆ เหนอะๆ แต่อุตส่าห์ไปถึงญี่ปุ่นทั้งที ก็ควรจะหิ้วมาสักนิดชิมิ ^^ พอได้ใช้จริงๆ แล้วพบว่ามันซึมเร็วมากอย่างไม่น่าเชื่อ ถ้าใช้กลางคืน ตื่นเช้ามาก็จะรู้สึกผิวอิ่มฟู ใช้มาจนจะหมดกระปุกแล้ว สังเกตได้เลยว่ารอยที่ร่องแก้มและหน้าผากตื้นขึ้น รูขุมขนตรงปลายจมูก และด้านข้างสันจมูกกระชับขึ้น เวลาลงรองพื้นและแป้งจะไม่เห็นแป้งตกร่องเป็นจุดๆ ถ้าใช้ตอนกลางวันและกลัวหน้ามัน ลงครีมอย่างเบามือนิดนึง หน้าก็ไม่เยิ้มละจ้า ถ้าจะนึกเสียใจตอนนี้คงมีเรื่องเดียว คือทำไมไม่ซื้อมามากกว่านี้ 5555
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : เคยใช้
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : อ่อนโยน, ชุ่มชื้น
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : เคาน์เตอร์เครื่องสำอาง
ได้รับตัวอย่างจาก Vanilla แต่ที่มารีวิวช้าเพราะอยากลองใช้กับเครื่องสำอางหลายๆ แบบ และรอดูเรื่องสิวอุดตันด้วย ชอบมากที่สุดคือกลิ่นตะไคร้ เพราะเป็นคนชอบตะไคร้อยู่แล้ว เนื้อ oil ไม่ข้นหนืดเกินไป ทำให้คลึงบนใบหน้าได้ง่ายมาก และล้างด้วยน้ำออกได้อย่างง่ายดายเช่นกัน สำหรับประสิทธิภาพในการล้างเครื่องสำอาง เราใช้ water proof mascara แต่ไม่ได้เขียน eye liner และใช้ลิปสติกธรรมดา ไม่ใช่แบบติดทนเว่อร์ ส่วนรองพื้นที่คิดว่าติดทนสุด น่าจะเป็น Double Wear ของ Estee Lauder ... ทั้งหมดที่กล่าวมาเราว่า cleansing oil ตัวนี้ก็ล้างได้เกลี้ยงดีนะ ไม่มีสิวอุดตันในระยะยาวด้วย สิ่งเดียวที่ขอหัก 1 ดาวคือ หัวปั๊มที่ดุดัน มันทำให้ oil กระฉอกออกจากมือทุกครั้งที่ปั๊มเลยอ้ะ ไม่ว่าจะพยายามเบามือขนาดไหนก็ยังไม่สำเร็จ ถ้าเทียบกับหัวปั๊มของผลิตภัณฑ์สัญชาติญี่ปุ่นและเกาหลี จะมีความนุ่มนวลมาก ไม่เคยเจอเหตุการณ์ผลิตภัณฑ์กระเด็นเลย <3
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : เคยใช้
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : ทำความสะอาดได้ดี, อ่อนโยน, ล้างเครื่องสำอางได้หมดจด
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : อื่นๆ
งานเนียนต้องยกให้เลย แต่งานคุมมันให้แต้มไม่ได้จริงๆ ทาไปไม่กี่ชั่วโมง T-zone มันแผล็บ และถ้าชอบหน้าสว่าง ให้เลือกสีสว่างกว่าผิวจริงเล็กน้อย เพราะถ้าเลือกสีพอดีกับผิว พอเหงื่อและน้ำมันออก จะดูหมองลงไป
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : เคยใช้
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : เรียบเนียน
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : เคาน์เตอร์เครื่องสำอาง
เราเป็นคนผิวสองสี ชอบดูดกลืนแสงแดดมาเก็บไว้กับตัว แถมยังไม่ชอบปล่อยมันออกจากผิวอีก พูดง่ายๆ คือดำง่ายแต่คลายยาก หลังเที่ยวตากแดดจัดช่วงสงกรานต์ จังหวะดีที่ห้างมีโปร SK-II Genoptics Aura Essence และ SK-II Genoptics Spot Essence ขนาด 50 ml เลยได้เอามาลองใช้ทั้งสองตัวคู่กัน เพื่อให้เห็นผลจากผลิตภัณฑ์สองตัวนี้แบบจริงจัง เราเลยหยุดใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงยี่ห้ออื่น และเปลี่ยนใช้ผลิตภัณฑ์ของ SK-II เกือบครบชุด ขั้นตอนการใช้เริ่มจากตอนเช้าเราใช้แค่โฟมล้างหน้ากลุ่ม Whitening สัญชาติฝรั่งเศส ส่วนตอนเย็นจะล้างเครื่องสำอางด้วย Clensing Oil สัญชาติญี่ปุ่น ตามด้วยโฟมล้างหน้า ควบคู่กับการใช้แปรงขัดหน้า ส่วนการบำรุงจะมีลำดับดังนี้ - เช็ดหน้าด้วย SK-II Facial Treatment Clear Lotion - เพิ่มความฉ่ำให้หน้าด้วย SK-II Cellumination Mask-in Lotion - เสริมพลังด้วยน้ำป้าเจี๊ยบ SK-II Facial Treatment Essence - มาถึงผลิตภัณฑ์ที่รอคอย... SK-II Genoptics Aura Essence ตัวนี้จะใช้ตอนกลางวัน ส่วนกลางคืนจะใช้เป็น SK-II Genoptics Spot Essence โดยเน้นนวดตรงจุด่ดางดำให้นานหน่อย (สลับเวลาใช้ผลิตภัณฑ์อย่างละตัว เพราะเกรงว่าใช้พร้อมกันสองตัวมันจะเยอะเกิ๊นนน) - ตามด้วย Moisturizer ซึ่งตอนนี้จะใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่มยกกระชับละ (ป้าแก่แล้ว จะมัวห่วงขาวใสอย่างเดียวไม่ด๊ายยยย) ตอนนี้ใช้ Organic Day creamNight cream สัญชาติฝรั่งเศสอยู่ เลยใช้ต่อไปให้หมดก่อนเพราะไม่อยากเปิดผลิตภัณฑ์ organic ทิ้งไว้นานๆ - แล้วก็มาลง Eye cream สัญชาติฝรั่งเศสอีกเช่นกัน - ถ้าเป็นตอนกลางวัน จะลงครีมกันแดดตัวโปรดที่ใช้แล้วไม่เคยเปลี่ยนใจเลยอีก 1 ชั้น เป็นอันเสร็จพิธี ผลการใช้มาประมาณ 5 สัปดาห์ พบว่าใบหน้าโดยรวมขาวขึ้นเร็วกว่าตอนที่ไม่ได้กระหน่ำใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่ม Whitening (ปรกติต้องใช้เวลาสัก 2-3 เดือนเป็นอย่างน้อย ถึงจะกลับมายืนที่เดิม) ส่วนจุดด่างดำจางลงบ้าง แต่หวังว่าถ้าใช้ต่อจนครบ 8 สัปดาห์ มันจะจางลงในระดับที่น่าพอใจกว่านี้ (เราไม่หวังให้จางอย่างรวดเร็วนะ เพราะถ้าเร็วขนาดนั้นมันดูอันตรายเกินไป แต่หวังว่าจะค่อยๆ จางจนเห็นได้ยากขึ้นถ้าไม่สังเกต) ที่ชอบอีกอย่างคือซึมเร็วและไม่ทำให้หน้ามัน รวมทั้งเข้ากับผลิตภัณฑ์อื่นที่เราใช่อยู่ได้ดี Dropper ก็ช่วยให้ควบคุมปริมาณผลิตภัณฑ์สะดวก จะติบ้างก็เรื่องขวดทึบแสง เวลาของใกล้หมดมันจะดูยากมากว่าหมดจริงหรือเปล่า ราคาก็แรงไม่ใช่เล่น อยากใช้อย่างคุ้มค่าน่ะ .. รวมๆ ข้อที่อยากให้ปรับปรุงแล้วขอหัก 1 ดาว ถ้าหมดขวดนี้ ตั้งใจว่าจะซื้อมาใช้ต่อเพื่อให้เห็นผลที่ต่อเนื่องกันค่ะ
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : กระจ่างใส, ชุ่มชื้น, ลดจุดด่างดำ, ไม่ระคายเคือง, ไม่เหนอะหนะ
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : เคาน์เตอร์เครื่องสำอาง
คือปลื้มอ้ะ... มันกำลังดีระหว่างรองพื้นแบบปกปิดกับ moisturizer ที่บางเบา ไม่หนักหน้า แถมยังกันแดดระดับ SPF 50+ อีก ใช้งานง่าย ไม่ต้องการอุปกรณ์อะไรเยอะ พกพาก็สะดวก เพราะไม่มีอะไรหกเลอะเทอะเลย คุมมันกำลังดี ให้ความเป็นธรรมชาติ ช่วงแก้มไม่แห้งเกินไป แต่ T-zone ก็ไม่ได้เยิ้ม เติมระหว่างวันได้โดยไม่เป็นคราบ นางคู่ควรกับคำว่า Queen of Cushion จริงๆ ส่วนที่ขอหัก 1 ดาวคือเรื่องราคาตลับที่แรงเว่อร์ไปมาก ถ้าไม่พิจารณาให้ดี ระวังคนหนีไปซื้อตลับของแบรนด์อื่นแทนนะจ๊ะ
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : ควบคุมความมัน, กันแดดได้ดี, ไม่เป็นคราบ
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : เคาน์เตอร์เครื่องสำอาง
Lancome Cushion Blush Subtil #025 Sorbet Grenadine (Available as One Shot Limited Edition) สีนี้ช่างดีงามเหมาะกับสาวไทยผิวไม่ขาวจัด โทนสีชมพูอมส้มคล้ายบ่มแดดกำลังงาม แถมยังเหมาะกับสาวไม่ขยัน ไม่อยากพกอุปกรณ์ และไม่อยากเสียเวลาล้างอุปกรณ์ด้วย เพราะอันนี้ใช้พัฟแตะหรือใช้นิ้วเกลี่ยได้เลย อยากได้เข้มมากเข้มน้อยก็กำหนดได้ตามสะดวก คนแก้มแห้งอย่างเราไม่มีประเด็นว่าใช้แล้วจะแห้งไปหรือมันเยิ้ม เรื่องความติดทนถือว่าดีในระดับที่น่าพอใจ เพราะนอนเอาแก้มแนบมือแนบหมอนไป 3 ตื่น สียังอยู่บนแก้มดี พกพาก็แสนง่ายเพราะตัว Cushion ช่วยกันเนื้อผลิตภัณฑ์หกไหลเลอะเทอะ สรุปว่าพุ่งไปซื้อสีนี้มาอีกตลับด้วยความงก
- เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
- รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
- ผลลัพธ์หลังการใช้ : -
- ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : เคาน์เตอร์เครื่องสำอาง