Profile

Vichy Mineral 89 พรีเซรั่มตัวโปรด ใช้หมดมา 3 ขวด แล้ว กำลังใช้ขวดที่ 4 แล้วก็ซื้อตุนไว้อีก 1 ขวดช่วงที่มีโปรโมชั่น เป็นไอเท็มตัวโปรดที่ต้องมีบนโต๊ะเครื่องแป้งเลยค่ะ ใช้แล้วประทับใจมาก จากแต่ก่อนผิวจะหยาบกร้าน หน้าไม่เรียบ พอใช้ Vichy Mineral 89 ผิวกลับมาชุ่มชื่น อิ่มฟู เรียบเนียน สัมผัสนุ่ม ดูเด็กลงจนเพื่อนลูกต้องเรียกพี่ค่ะ จึงพกไปทุกที่ไม่ว่าจะขึ้นรถลงเรือ ขึ้นเหนือเผชิญกับความหนาว Vichy Mineral 89 ก็ช่วยเติมความชุ่มชื้น หรือจะไปทะเล เผชิญกับแดดแผดเผา Vichy Mineral 89 ก็ช่วยปลอบปะโลมผิว อากาศร้อนหรือว่าหนาว สภาวะอากาศแบบไหนก็ไม่สามารถทำร้ายผิวเราได้ เพียงแค่มี Vichy Mineral 89 #ขวดเดียวเอาอยู่

อันตัวเรา ผิวแห้ง หยาบกระด้าง
ทั้งขาดความ ชุ่มชื่น ดูแล้วหมอง
จึงได้ซื้อ Vichy Mineral89 มาทดลอง
ผิวสตรอง มีออร่า สวยทันใจ
สกัดจาก น้ำแร่ ธรรมชาติ
ปราศจาก แอลกอฮอล์ และน้ำหอม
บำรุงผิว อย่างอ่อนโยน แสนถนอม
มีไฮยาลูรอน ช่วยให้ ดูเป๊ะปัง
นวัตกรรมใหม่ เติมเต็มผิว ให้เด้งนุ่ม
ผิวดูชุ่ม เรียบเนียน กระจ่างใส
พร้อมยืดหยุ่น ดุจผิวเด็ก เปล่งประกาย
เดินไปไหน ก็มั่นใจ ไร้กังวล
เหมาะสำหรับ ทุกคน ทุกสภาพผิว
แม้เป็นสิว หรือแพ้ง่าย ก็ใช้ได้
เพียง 28 วัน เห็นผลลัพธ์ น่าประทับใจ
ต้องลองใช้ จะติดใจ อย่างแน่นอน

เป็นคนผิวบอบบาง แพ้ง่ายค่ะ กลายเป็นคนขี้แพ้ ใช้อะไรก็ขึ้นผื่น เลยไม่ค่อยกล้าลองใช้อะไรใหม่ๆ แพ้ทีนึงใช้เวลารักษาอยู่นานเลยค่ะ จนมาได้มาเจอกับเพจนึง ซึ่งได้สอนเกี่ยวกับสกินแคร์อย่างละเอียด อธิบายถึงส่วนประกอบต่างๆ ในสกินแคร์ และก็ได้แนะนำให้ใช้ Cerave เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับผิว จึงกล้าตัดสินใจและเลือกใช้ Cerave Facial Moistursing Lotion
สภาพผิว : เป็นคนผิวผสม ขาดน้ำ จึงเลือกเนื้อ Lotion ซึ่งข้างกล่องบอกว่าเหมาะสำหรับผิวธรรมดาถึงผิวแห้ง และเป็นคนผิวแพ้ง่าย แค่ล้างหน้าก็เป็นรอยแดงแล้ว จึงเลือกสูตร Facial ซึ่งออกแบบมาเพื่อใช้กับผิวหน้าโดยเฉพาะ
ส่วนประกอบ : เซราไมด์ที่จำเป็นต่อผิว 3 ชนิด โดยสกัดจากพืชธรรมชาติ พร้อมผสานด้วยไฮยาลูรอนิกแอซิด เพื่อช่วยชดเชยความชุ่มชื้น, เซราไมด์ที่ขาดหายไป และเสริมสร้างปราการของผิวสัมผัส มาพร้อมกับเทคโนโลยี MVE เพื่อผลลัพธ์ที่ยาวนาน ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของเซราวี ที่จะนำพาเซราไมด์เข้าสู่ผิวหนังอย่างยาวนานและล้ำลึก ที่สำคัญปราศจากน้ำหอม ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน และผ่านการทดสอบบนผิวที่บอบบางระคายเคืองง่าย ภายใต้การควบคุมดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหน้า
เนื้อสัมผัส : เป็นเนื้อโลชั่นสีขาว ไม่มีกลิ่น บางเบา ซึมสู่ผิวอย่างรวดเร็ว ให้ความชุ่มชื้น แต่ไม่ทิ้งความมันบนใบหน้า
แพ็กเกจ : หัวปั้มสุญญากาศ แน่นหนา กดง่าย
วิธีใช้ : ทาผลิตภัณฑ์ให้ทั่วบริเวณที่ต้องการเป็นประจำทุกวันเช้าและก่อนนอน
ผลลัพธ์ : ผิวเนียนนุ่ม ชุ่มชื้น รอยแดงลดลง ไม่แตกลอก ใช้เป็นประจำทุกวันผิวแข็งแรงขึ้น สตรอง ไม่เป็นสาวขี้แพ้อีกต่อไปค่ะ

อันตัวเรา ผิวอ่อนแอ และเสียหาย
จึงได้ใช้ Cerave ลองทาดู
มาซ่อมแซม บำรุงผิว ช่วยฟื้นฟู
ช่างควรคู่ กับเรา เป็นหนักหนา
เวชสำอางค์ พรีเมียม ประสิทธิภาพสูง
ฟื้นบำรุง คืนใบหน้า ให้สวยใส
ผิวสตรอง มีออร่า ปังกว่าใคร
เดินไปไหน ก็มั่นใจ ไร้กังวล

โดยส่วนตัวแล้วเป็นคนไม่ชอบใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เป็นโฟม เพราะล้างแล้วรู้สึกว่าหน้าแห้งตึง จะชอบใช้เป็นเจลล้างหน้ามากกว่า แต่พอได้ลองตัวนี้ คือชอบค่ะ มันล้างแล้วไม่แห้งตึง ไม่ฝืดหน้าเหมือนโฟมที่เคยใช้ ลองใช้ทั้ง 2 แบบ คือ ใช้ตาข่ายตีฟอง กับแบบที่ไม่ใช้ หลังล้างหน้าเสร็จให้ความรู้สึกไม่แตกต่างกัน คือหน้านุ่มมาก ไม่ตึง แต่ถ้าตีฟอง ตอนล้างจะให้ความรู้สึกนุ่มละมุนมากกว่า ส่วนผลลัพธ์ เรื่องสิว พอดีตอนที่ใช้กำลังเป็นสิวเม็ดเล็กๆพอดี รู้สึกว่าหลังใช้วันที่ 2 สิวเริ่มยุบลง แต่ต้องดูผลในระยะยาวว่าถ้าสิวอักเสบเม็ดใหญ่ๆ จะช่วยได้มั้ยค่ะ

เป็นคนที่ขาดครีมกันแดดไม่ได้ ลองใช้มาหลายแบรนด์แล้ว จนได้ลองใช้ครีมกันแดดตัวนี้ ขอบอกก่อนว่า ปกติจะไม่ชอบใช้ครีมกันแดดเนื้อฟลูอิด เพราะรู้สึกว่าแมทเกิน ลงเมคอัพแล้วไม่ติดหน้า แต่พอได้ลองใช้ลาโรชตัวนี้ บอกเลยว่าเลิฟมาก เป็นเนื้อฟลูอิด ที่เกลี่ยง่าย แต่ไม่แมท ยังคงมีความชุ่มชื้นให้กับผิว ระหว่างวันไม่มัน เข้ากับเมคอัพและสกินแคร์ ทาแล้วไม่เป็นคราบ แถมยังช่วยให้เมคอัพติดทนขึ้น เซ็ตตัวได้ดี ตกเย็นมา หน้าก็ยังเป๊ะ เมคอัพไม่ตกร่อง แนะนำว่าต้องลองค่ะ

เป็นคนที่ชอบใช้ Mask Sheet เป็นประจำอยู่แล้ว มาส์กตัวนี้ถือว่าดีงามเลยทีเดียว เซรั่มที่ให้มาไม่เยอะจนไหลเยิ้มจนเกินไป แผ่นมาส์กหนากำลังพอดี ตื่นขึ้นมารู้สึกว่าน่าใส ผิวกระชับ เนียนนุ่ม เป็นมาส์กที่ต้องซื้อซ้ำแน่นอนค่ะ

เป็นเซรั่มที่เนื้อดีมาก ซึมไว ไม่หนัก ไม่ทิ้งความมันบนใบหน้า กลิ่นหอมอ่อนๆ หลังทาทันทีรู้สึกว่าผิวหน้านุ่มมาก ใช้เป็นประจำผิวเรียบเนียนขึ้น ส่วนริ้วรอยไม่ค่อยเห็นผลอะไร คงเพราะโดยส่วนตัวแล้วไม่มีปัญหาริ้วรอยเลยไม่ค่อยเห็นชัดเท่าไหร่ ส่วนกระเล็กๆ รู้สึกว่าจางลงนิดหน่อย โดยรวมแล้วชอบค่ะ เพราะสามารถทาร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่นโดยไม่ทำให้เป็นคราบ แล้วก็รู้สึกว่าลงเมคอัพแล้วหน้าเนียนขึ้นค่ะ

เชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้จักมอยส์เจอไรเซอร์ของ Clinique และเกิดความสงสัยว่า Clinique iD ต่างจากตัวเดิมยังไง ขอบอกว่า Clinique iD ตัวนี้ช่วยลดขั้นตอนการบำรุงผิวที่ยุ่งยากให้เหลือเพียงขั้นตอนเดียว  โดยเป็นมอยส์เจอไรเซอร์ที่ให้คุณเลือกจับคู่กับสารบำรุงเข้มข้นสูตรเฉพาะจากคลินิกข์ได้เอง เพื่อฟื้นฟูและบำรุงผิวของคุณให้แข็งแรงขึ้นได้อย่างตรงจุดที่สุด ซึ่งสามารถสร้างสรรค์สูตรได้เองถึง 15 สูตร! 

ขั้นตอนที่ 1 : เลือกสูตรมอยส์เจอไรเซอร์ที่เหมาะกับสภาพผิว
- Dramatically Different™ Moisturizing Lotion+ เหมาะสำหรับผิวแห้งมากถึงผิวผสมค่อนข้างแห้ง
- Dramatically Different™ Oil-Control Gel เหมาะสำหรับผิวผสม ผิวมันถึงมันมาก
- Dramatically Different™ Hydrating Jelly เหมาะสำหรับผิวทุกประเภท
ขั้นตอนที่ 2 : เลือกบูสเตอร์ ซึ่งเป็นสารสำคัญเข้มข้นสูตรเฉพาะจากคลีนิกข์เพื่อแก้ปัญหาผิวของคุณให้ตรงจุด
- สีเขียว สำหรับผิวบอบบางหรือแพ้ง่าย 
- สีฟ้า สำหรับผิวที่มีรูขุมขนกว้าง ไม่เรียบเนียน
- สีขาว สำหรับสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ  
- สีส้ม สำหรับผิวเหนื่อยล้าไม่สดใส
- สีม่วง สำหรับผิวที่มีริ้วรอย และรอยย่น
ขั้นตอนที่ 3 : ใส่หลอดบูสเตอร์ที่เลือกลงในขวดมอยส์เจอไรเซอร์ที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณ เพื่อสร้างสรรค์ Clinique iD ในแบบของตัวเอง

สำหรับตัวเองแล้วตัดสินใจซื้อขวดใหญ่เลยค่ะ เพราะปัจจุบันใช้ Dramatically Different™ Oil-Control Gel อยู่ หมดไปหลายขวดแล้ว มั่นใจในผลิตภัณฑ์ว่าต้องสามารถแก้ปัญหาผิวหน้าได้อย่างแน่นอนค่ะ

สภาพผิว
- เป็นคนผิวมัน ปัญหาที่ทำให้ขาดความมั่นใจ คือ รูขุมขุนกว้าง

สูตรที่เลือกใช้
- Dramatically Different™ Oil-Control Gel + สีฟ้า

ราคา : 1,900 บาท ขนาด 125 มล. (มอยส์เจอไรเซอร์ 115 มล. + บูสเตอร์ 10 มล.)

เนื้อผลิตภัณฑ์
- บางเบา ซึมง่าย ไม่ทิ้งความมันบนใบหน้า แต่ยังคงความชุ่มชื่น หัวปั๊มจะมี 2 รู สำหรับมอยส์เจอไรเซอร์และบูสเตอร์ เวลากดจะออกมาพร้อมกัน 2 รู ตอนแรกที่ใช้ใหม่ๆ จะออกมาแต่มอยส์เจอไรเซอร์ ไม่ต้องตกใจค่ะ พอกดไปเรื่อยๆ บูสเตอร์ก็จะออกมา (ไม่รู้ว่าขวดอื่นจะเป็นมั้ย)

วิธีใช้
-  ทาต่อจากโทนเนอร์และน้ำตบ วันละ 2 ครั้ง เช้า และก่อนนอน หลังจากนั้นค่อยลงผลิตภัณฑ์อื่นๆ ตาม


ผลลัพธ์หลังใช้
- หน้าสด : หลังใช้ 7 วัน รู้สึกเลยว่าได้ผลเกินคาด เรื่องความชุ่มชื่นไม่ต้องพูดถึง เพราะใช้เป็นประจำของเค้าดีอยู่แล้ว แต่ที่เห็นการเปลี่ยนแปลงได้ชัด คือ รูขุมขนเล็กลง โอ้ว! แม่เจ้า ไม่เคยใช้อะไรเห็นผลชัดเจนแบบนี้มาก่อน สัมผัสแล้วผิวเนียนเรียบ
- แต่งหน้า : ปกติแล้วเวลาที่แต่งหน้า พอผ่านไปครึ่งวัน เครื่องสำอางจะไหลเยิ้มมากองกัน เป็นคราบ เครื่องสำอางตกร่อง หลังจากที่ใช้ Clinique iD แล้วต้องร้องว้าว! เย็นมาหน้ายังเป๊ะ เนียนเรียบ ไม่เป็นคราบเหมือนก่อน น้ำตาสิไหล เลิฟๆ เลยค่ะ



สรุป
- เนื้อผลิตภัณฑ์ : 5/5
- ให้ความชุ่มชื้น : 5/5
- ผลลัพธ์ : 5/5
- ราคา : 5/5

ความประทับใจแรก คือ เปิดออกมากลิ่นหอมมาก ให้ความรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลาย เวลาที่ทา เนื้อครีมซึมง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ ให้ความชุ่มชื้นระดับปานกลาง ใช้เป็นประจำต่อเนื่องรู้สึกว่าผิวใสขึ้นค่ะ

เป็นสเปรย์กันแดดตัวแรกที่เคยใช้ ละอองฝอยเล็กมาก เวลาฉีดรู้สึกเย็นสดชื่น ซึมสู่ผิวไวมากๆ หลังลูบไล้ยังคงมีความมันนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมาก ไม่วอก ไม่ลอย กลืนไปกับผิว ชอบที่สุด คือ ใช้งานง่าย ไม่ต้องเสียดายเวลานานในการเกลี่ยเหมือนครีมกันแดดค่ะ

สิ่งที่ประทับใจอันดับแรกเลย คือ ความหอม แค่เปิดขวดออกมาก็หอมมาก กลิ่นฟลอรอล รู้สึกผ่อนคลาย เนื้อครีมอาบน้ำนุ่มละมุน แต่ฟองน้อยไปหน่อย ล้างออกง่าย แต่ไม่รู้สึกตึงผิว ใช้แล้วชอบมากค่ะ

สภาพผิว : เป็นผิวผสม มีริ้วรอยบริเวณรอบดวงตา
ลักษณะครีม : เป็นครีมข้น สีเหลืองอ่อน กลิ่นหอมมาก เกลี่ยง่าย ซึมไว ไม่หนักหน้า ระหว่างวันไม่ทิ้งความมัน
วิธีใช้ : ทาทุกวันเช้า-เย็น
ผลลัพธ์ : หลังใช้ 1 สัปดาห์ การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเลย คือ ริ้วรอยบริเวณรอบดวงตาลดลง ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น กระจ่างใส ประทับใจมากค่ะ

อันตัวเรา ผมเสีย ปลายก็แตก
    ทั้งกรอบแห้ง หยาบกระด้าง ไม่สลวย
    จึงลองใช้ Aveda Damage Remedy เป็นตัวช่วย
    ผมนุ่มสวย เรียบลื่น และอยู่ทรง
    สกัดจาก พืชพรรณ ธรรมชาติ
    สระสะอาด ได้ผลลัพธ์ เต็มประสิทธิภาพ
    ผมแข็งแรง แสนสตรอง ไม่หลุดขาด
    สวยผุดผาด เดินไปไหน ไร้กังวล

    เป็นคนผมชี้ฟู เหมือนฝอยขัดหม้อ ต้องใช้ที่หนีบผม ทำให้สัมผัสความร้อนโดยตรง จึงทำให้ผมกรอบแห้ง แตกปลาย พอได้ใช้ Aveda Damage Remedy Conditioner ผลลัพธ์ออกมาเกินคาด เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ ผมเรียบลื่น นุ่มมาก ไม่พันกัน เมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง ผมกลับมาแข็งแรง ไม่ชี้ฟู จนไม่ต้องใช้ที่หนีบผมอีกต่อไป ประทับใจมากๆ ค่ะ จะลองซื้อมาใช้ครบชุด รับรองว่าเพียงแค่สะบัดบ๊อบ ผู้เดินตามแน่นอนค่ะ อิอิ

เป็นแฟนคลับของแบรนด์ Lancome ใช้มาหลายตัวแล้ว ออกตัวใหม่มา Advance Genifique Sensitive จะพลาดได้ไงค่ะ ด้วยความแปลกใหม่ที่ต้องผสมสารสำคัญกับเบสก่อนใช้ เป็นเซรั่มผสมสด แล้วก็เห็นรีวิวจากบล็อกเกอร์หลายคน จึงทำให้ตัดสินใจซื้อในทันควัน ซื้อมาตั้งแต่ออกมาใหม่ๆ แต่เพิ่งได้ลองใช้ เพราะเพิ่งกลับมาจากการนั่งรถเดินทางตากแดดมาหลายวัน กลับถึงบ้านส่องกระจก น้ำตาแทบไหล หน้าพังมาก มีรอยแดงเต็มไปหมด สัมผัสก็รู้สึกหยาบกร้าน ผิวหน้าแสบสุดๆ หันไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง เห็น Advance Genifique Sensitive จึงหยิบมาลองใช้
#ลักษณะเนื้อเซรั่ม มีกลิ่นคาวๆ นิดหน่อย ไม่แรงมาก โดยมีลักษณะเหลว สีขาวขุ่น แต่เข้มข้น ซึมลงสู่ผิวได้ดี ไม่เหนอะ ไม่ทิ้งความมันบนใบหน้า รู้สึกได้ถึงความชุ่มชื่นทันทีที่ใช้
#หลังใช้10วัน รอยแดงหายไปหมด รอยดำจางลง ผิวหายแสบ แข็งแรงขึ้น เนียนเรียบ ละเอียดขึ้น รูขุมขนเล็กลง อิ่มฟู หน้ากระจ่างใส มีออร่า และผิวชุ่มชื่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัดค่ะ
#สรุป Advance Genifique Sensitive ช่วยสามารถกู้ผิวใน #วันผิวไม่ดี ให้กลับมาสวยเด้งดังเดิม ช่วยเรียกความมั่นใจกลับคืนมาค่ะ

มีโอกาสได้ใช้ Lancome Advance Genifique Serum เพราะได้ขนาดทดลองตอนที่ซื้อ Advance Genifique Sensitive โดยส่วนตัวแล้วเป็นคนรูขุมขนกว้าง มีริ้วรอย ผิวหน้าไม่เรียบเนียน วันนั้นเพิ่งกลับมาจากการนั่งรถเดินทางตากแดดมาหลายวัน กลับถึงบ้านส่องกระจก น้ำตาแทบไหล หน้าพังมาก มีรอยแดงเต็มไปหมด สัมผัสก็รู้สึกหยาบกร้านยิ่งกว่าเดิม จึงได้หยิบ Advance Genifique Serum มาใช้ #ลักษณะเนื้อเซรั่ม มีกลิ่นหอมอ่อนๆ เนื้อเซรั่มสีใส ซึมลงสู่ผิวได้ดี ไม่เหนอะ ไม่ทิ้งความมันบนใบหน้า รู้สึกได้ถึงความชุ่มชื่นทันทีที่ใช้ #หลังใช้ 3 วัน รอยแดงหายไปหมด ผิวชุ่มชื่น เนียนเรียบ #หลังใช้ 7 วัน รอยดำจางลง ผิวละเอียด สัมผัสนุ่ม รูขุมขนเล็กลง อิ่มฟู ดูกระชับมากขึ้น ริ้วรอยตื้นขึ้น หน้ากระจ่างใส มีออร่ามากๆ ค่ะ #สรุป Advance Genifique serum ต่อโปรให้ผิวได้ใน 3 วัน สวยเห็นผลทันทีที่ใช้ ช่วยเรียกความมั่นใจกลับคืนมา ต้องซื้อขวดจริงมาใช้ต่อแน่นอนค่ะ

#สภาพปัญหาผิว เป็นคนมีปัญหารูขุมขนกว้าง ยิ่งอายุมากขึ้น รูขุมขนก็กว้างขึ้นเรื่อยๆ ตามหาผลิตภัณฑ์ที่จะมาแก้ปัญหานี้ทั้งชีวิต ใช้ทุกอย่างที่เค้าบอกว่าดี แรกๆ ก็เห็นผล แต่พอใช้ไปเรื่อยๆ ก็กว้างขึ้นเหมือนเดิม จนไม่กล้าโผล่หน้าคุยกับใครใกล้ๆ โดยเฉพาะหนุ่มๆ จึงต้องคอยโบกเมคอัพเหมือนฉาบปูน คอยปิดรูขุมขนอยู่ตลอด แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือ รูขุมขนอุดตัน เกิดเป็นสิวตามมา จนรู้สึกท้อ ล่าสุดได้ใช้ Biotherm life plankton essence ด้วยสโลแกนของผลิตภัณฑ์ที่ว่า ผิว เยาว์ลงร่วม 3 ปี ใน 8 วัน พร้อมกับสรรพคุณที่ผ่านการวิจัยมาแล้ว Life plankton TM จึงเป็นเอกสิทธิ์การันตีด้วยสิทธิบัตร 8 ใบของ Biotherm ที่ใครก็เอาไปใช้ไม่ได้ เกิดเป็นมหัศจรรย์แห่งผิว 8 ประการ ได้แก่ - ผิวเปล่งปลั่ง - ลดริ้วรอย - สีผิวสม่ำเสมอ - ผิวเรียบเนียนขึ้น - ผิวชุ่มชื้น - ผิวยืดหยุ่นกว่าที่เคย - ผิวนุ่มนวลขึ้น - ผิวอิ่มเอิบ #ลักษณะผลิตภัณฑ์ เป็นน้ำใสๆ หนืดเล็กน้อย มีกลิ่นเล็กน้อย ซึมสู่ผิวได้ ไม่เหนอะหนะ #ผลลัพธ์หลังจากใช้ติดต่อกัน8วัน ได้ผลเกินคาด รู้สึกว่าหน้าเนียนขึ้น ผิวนุ่ม ที่สำคัญปัญหาที่คอยบั่นทอนความมั่นใจ คือ รูขุมขนเล็กลงอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน ผิวดูกระจ่างใส เปล่งประกาย ใครๆ ก็ทักว่าผิวดีขึ้น จนกลายเป็นไอเท็มลูกรักที่ขาดไม่ได้ค่ะ #ความประทับใจ มีโมเม้นท์ที่สามารถโชว์หน้าสดได้อย่างมั่นใจ ไปดินเนอร์ใต้แสงเทียนกับแฟน โดยไม่ต้องง้อเมคอัพ แสงเทียนจะส่องขนาดไหน จะใกล้แค่ไหน แม้ในระยะเพียง 5 ซม.ก็ไม่หวั่น แค่มีผิวสวยใส หน้าเรียนเรียบ ไร้รูขุมขน ก็ช่วยเพิ่มความมั่นใจ เดินไปไหนไร้กังวลค่ะ