Profile

ลักษณะแปรง ตัวแปรงจะเป็นรูปทรงวงรี ขนแปรงจะเป็นขนไนลอนที่ออกแบบมาในรูปทรงกลมเป็นลอนสูงต่ำสลับกัน
ขนแปรงค่อนข้างจะนุ่ม และนุ่มกว่าแปรงแต่งหน้าบางตัวซะอีก ใช้แล้วไม่ระคายผิวหน้าค่ะ

แปรงตัวนี้ช่วยกระตุ้นขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพให้หลุดออกไปและเป็นการนวดยกกระชับผ่อนคลายไปในตัว แล้วก็เป็นการเตรียมผิวก่อนการบำรุงค่ะ

ข้อเสียคือเรื่องราคา แต่ก็ถือว่าเป็นการลงทุนครั้งเดียว ใช้แปรงได้นานมากนะคะ

เนื้อบางเบา ซึมซามเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ไม่ทิ้งความเหนอะหนะ ไม่ทำให้ผิวมันขึ้นค่ะ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ชวนให้นึกถึงการนวดอโรม่า

หลังจากใช้งานสัปดาห์แรกก็รู้สึกว่าหน้าดีสดชื่นขึ้น 
     ผ่านไปเกือบเดือน  สังเกตได้ว่าเครื่องสำอางติดทนกว่าเดิม หน้าดูกระจางใสมากขึ้น สิวและรอยแดง อันที่เป็นใหม่ๆจะหายเร็วกว่าปกติ(สังเกตได้จากรูปก่อนและหลังใช้  ต้องบอกก่อนว่าใช้ร่วมกับครีมลบรอยดำนะคะ) คาดว่านอกจากจะเพราะ Oleation oil มีส่วนบำรุงแล้ว ก็น่าจะเป็นเพราะผิวได้มีการผลัดเซลล์ที่เสื่อมสภาพออกไปอย่างต่อเนื่อง แล้วก็ได้กระตุ้นต่อมน้ำเหลือง การไหลเวียนของเหลวบริเวณใบหน้าทุกวัน เซลล์ผิวเลยฟื้นตัวได้เร็ว

     สำหรับเรา นอกจากกลิ่นหอมของ Oleation oil ใช้แล้วรู้สึกผ่อนคลายดีค่ะ รู้สึกเหมือนได้เริ่มต้นวันใหม่ด้วยอารมณ์ดีๆ ส่วนเรื่องผลลัพธ์ถือว่าได้ผลดีเกินคาดค่ะ 

ข้อเสียก็เรื่องราคากับหาซื้อยากค่ะ

ใช้ง่าย ถนัดมือ
สีชัดจริง แต่ไม่ติดทน แห้งช้า 
เลือนง่าย ผิวมันไม่เหมาะกับตัวนี้นะคะ

ล้างออกด้วยน้ำเปล่าง่ายมาก
วาดอายไลเนอร์จะไม่ได้เส้นเล็กเส้นบางๆ 
ความคมชัดกลางๆคะ แต่บางทีมันรู้สึกเหมือนสีออกมาไม่สมำ่เสมอ ไม่รู้ว่าเป็นเฉพาะด้ามที่เราซื้อหรือเปล่านะคะ (ปล. เพิ่งซื้อมาใช้ไม่กี่วัน)

เป็นมอยซ์เจอร์ไรเซอร์บำรุงผิวหน้าที่ให้ความชุ่มชื้นดี แต่บางเบา ซึมเร็ว ไม่ทำให้หน้ามัน แห้งเร็วค่ะ นอกจากนี้ยังมี Ceramind ช่วยบำรุงให้ผิวแข็งแรงขึ้นอีก เหมาะกับผิวที่ใช้ยารักษาสิวแบบเราเลย ช่วยให้เซลล์ผิวแข็งแรงขึ้น แถมมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ตัวนี้ยังช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย P.acnes ลดการอักเสบอีก ชอบมากค่ะ ตอบโจทย์ปัญหาผิวเป็นสิวง่ายแบบเราจริงๆ และราคาไม่แพง หาซื้อง่าย หลังจากการใช้ต่อเนื่องไปจะหมดหลอด ผิวชุ่มชื้นดี รอยดำเล็กๆดูจางลงเล็กน้อยค่ะ พอผิวชุ่มชื่นก็ช่วยให้การแต่งหน้าง่ายขึ้น ติดทนขึ้นค่ะ

- เนื้อกันแดดเป็นครีมสีชมพูอ่อนค่ะ เนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย ไม่มีกลิ่นหอมฉุน (เราไม่ได้กลิ่นหอมเป็นพิเศษ ก็เลยรู้สึกเหมือนไม่ได้กลิ่น) - ทากันแดดแล้วเนื้อครีมจะซึมเนียมใสเข้าผิวค่ะถึงเนื้อครีมจะเป็นสีชมพู แต่พอทาไปแล้ว ไม่ทำให้หน้าขาวลอย เนื้อครีมจะกลืนเข้ากับเนื้อผิวไป ทำให้ผิวดูสว่างดูไบรท์ขึ้นนิดหน่อย - ความรู้สึกจากการใช้งาน คือ เกลี่ยง่าย พอทาไปแล้วผิวดูมีความชุ่มชื้น ครีมซึมเข้าผิวเร็ว ไม่เหนียวหน้าค่ะแต่จะยังรู้สึกได้ถึงเนื่อครีมที่ฝ่ามือ เหมือนรู้สึกมีอะไรเคลือบอยู่เล็กน้อย แต่พอจับหน้า หน้าก็ไม่ได้มันติดมือ ระหว่างวันไม่ทำให้หน้ามัน หรือหน้าหมองลง ใช้แล้วไม่เป็นคราบระหว่างวัน ควบคุมความมันได้ระดับหนึ่งค่ะ เพราะเราแทบไม่ต้องใช้กระดาษซับมันระหว่างวันเลย - จากการใช้งานทุกวันมา 2-3 อาทิตย์นี้ กันแดด กันแสง UV ได้ปกติ ไม่ทำให้ผิวหมองคล้ำขึ้น - แพคเกจ แข็งแรง พกพาสะดวก - เป็นกันแดดที่ใช้เป็นเมคอัพเบสได้ สามารถทางรองพื้นทับได้เลย หรือจะทาแค่แป้งฝุ่นก็ได้ค่ะ ได้ลุคใสๆเบาๆ แบบในรูปที่ลง ปล. ลุคนี้ใช้แค่กันแดด NIVEA Sun Protect & White Instant Aura Serum SPF50+ PA+++ กับแป้งฝุ่น และตามด้วยการเขียนคิ้วเท่านั้นเองค่ะ

ถ้าเป็นสิวอักเสบที่มีอาการคันด้วย ตัวนี้ช่วยฆ่าเชื้อสิวและลดการคันได้ค่ะ บางครั้ง สิวก็ยุบลง บางครั้งสิวก็สุก แห้งหลุดไป แต่ไม่ค่อยได้ผลกับสิวอุดตัน ข้อดีคือราคาไม่แพง หาซื้อง่าย ใช้แล้วไม่ระคายเคือง ผิวไม่แดง

ครีมอาบน้ำขวดที่ใช้เป็นขวดสีชมพู กลิ่น Morning Peony ค่ะ กลิ่นหอมชื่นใจ กลิ่นออกแนวดอกไม้ ไม่ฉุนและไม่หอมเลียนไป รู้สึกสดชื่นผ่อนคลายดี ส่วนเนื้อครีมจะเหลวมาก ถูง่าย ล้างออกก็ง่ายค่ะ ไม่รู้สึกเหนียวตัว หรือไม่รู้สึกว่ายังล้างออกไม่หมด ใช้มือเปล่าก็ตีฟองได้เหมือนกันแต่ได้เล็กน้อย ถ้าอยากได้ฟองเยอะๆต้องใช้อุปกรณ์ตีฟองช่วยนะคะ กลิ่นหอมไม่ได้ติดผิวนานค่ะ สักพักก็จางค่ะ หลังอาบน้ำ ไม่ทำให้ผิวแห้งหรือผิวลื่นเกินไป ปล. รูปที่แนบมา ถูฟองด้วยมือค่ะ

ตัวที่ใช้เป็นรุ่น Ultra HD Invisible Cover Foundation ใช้ได้ทุกผิวเลยค่ะ เหมาะกับคนที่ผิวดี ไม่มีปัญหาผิว เป็นเนื้อลิดขิด บางเบามาก เกลี่ยง่าย เม็ดสีชัด ปกปิดได้น้อย-ปานกลาง ใช้แล้วได้ลุคที่เป็นธรรมชาติ ข้อเสียคือ - ไม่คุมความมันค่ะ สัก2 ชม. หน้าก็จะเริ่มวาวๆแล้ว - ไม่ติดทน ผ่านไปสักพัก พอหน้ามัน จะเห็นว่ารองพื้นจาง แล้วก็ไปตกร่องตามรูขุมขน โดยเฉพาะตรงจมูก ดังนั้นใครรูขุมขนกว้าง อาจจะต้องใช้ไพร์เมอร์ช่วยเยอะๆ - หาซื้อลำบากนิดหน่อย มีเคานเตอร์ไม่กี่แห่ง คิดว่า จะไม่ซื้อต่อ เพราะเจอรองพื้นที่โอเคกว่าแล้ว

ครั้งแรกที่ใช้ รู้สึกล้างออกยาก เพราะโลชั่นอาบน้ำให้ความชุ่มชื้นมาก เวลาล้างเลยรู้สึกว่าโลชั่นยังติดผิวอยู่ แต่พอกลับมาใช้ช่วงหน้าหนาว ผิวแห้งแตก รู้สึกว่ามันดี ชุ่มชื่นจริงๆ ไม่ทำให้ผิวแห้งคันอีก ส่วนตอนล้างออก ตอนนี้ไม่รู้สึกว่าล้างยากแล้วค่ะ อาจจะชินแล้วก็ได้ สรุปว่าดีสำหรับคนที่ผิวแห้งลอกคัน หลังใช้รู้สึกผิวชุ่มชื้นและนุ่นขึ้น

จริงๆ ได้ยินเสียงร่ำรืออันดีงามของ Biotherm life plankton มานานแล้วค่ะ หลายๆคนบอกว่าดีมากๆๆ แต่ก็มีเสียงส่วนน้อยที่ว่าใช้แล้วแพ้ สิวขึ้น เสียงเหล่านี้ทำให้เราไม่กล้าซื้อมาลองมานาน แต่ปีนี้ เจอปัญหาผิวรุมเร้า เดิมเป็นพวกผิวบอบบาง แพ้ระคายเคืองง่ายอยู่แล้ว ดันเจอปัญหาสิวเข้ามาอีก สิวขึ้นเยอะมากค่ะ ทายา กดสิว หาหมอตลอด ทำให้ผิวเริ่มแห้ง+รูขุมขนกว้างขึ้่น+มีทั้งสิว ทั้งรอยแดงรอยดำ+หน้าตาหมองคล้ำ ไม่น่ามองเลยค่ะ เราก็อยากจะใช้อะไรดีๆมาบำรุงผิวระหว่างที่รักษาสิวไปพร้อมกัน ก็เลยใช้ Biotherm life plankton essence ขวด 125 ml ขวดแรกในชีวิต ราคาค่อนข้างสูงอยู่ ถ้าซื้อกับเคานเตอร์ มักจะได้ของแถม sample มาลองใช้ + สะสมแต้ม ก็ดีไปอีกแบบนะคะ *** ผลการใช้งานอย่างต่อนเนื่อง 86 วัน *** จากที่เราใช้มาได้พักใหญ่ ก็ใกล้จะ 3 เดือนแล้ว ถือว่าได้ผลลัพธ์ดี น่าพอใจมากค่ะ ปัจจุบัน ปัญหาสิวอุดตัน สิวผดเล็กๆ น้อยลงไปมาก รูขุมขนดูกระชับขึ้นมาก ที่เห็นได้ชัดคือ ผิวดูมีความชุ่มชื้น กระชับขึ้นมาก รอบแดงจางลง ผิวดูใสขึ้นค่ะ และไม่มีปัญหาแพ้ระคายเคืองแต่อย่างใด โชคดีมากๆ กลังจากรวบรวมข้อมูลมาสักพัก ก็ได้เวลารีวิวค่ะ ^^ ** ก่อนอื่นมาพูดถึงลักษณะผลิตภัณฑ์ essence กันก่อนค่ะ ** - เป็น essence แบบเหลว มีสีใสออกขาวขุ่นๆ - มีกลิ่นอ่อนๆ จัดว่าเป็นกลิ่นหอมน้อยๆ - essence ซึมเข้าผิวง่าย จัดว่าซึมเข้าผิวเร็วค่ะ ** วิธีการใช้ของเรา คือ ** - เราจะใช้ Biotherm life plankton essence เป็นตัวแรก เพื่อช่วยเปิดผิวให้พร้อมรับการบำรุงในขั้นต่อไป โดยใช้เป็นประจำ ใช้ทุกครั้งหลังล้างหน้า เช้าและเย็น - ก่อนใช้งาน ก็จะเขย่าขวด เพื่อให้ essence เข้ากัน แล้วก็เทบนฝ่ามือ และทำการวอร์ม essence บนฝ่ามือก่อนจะแนบลงไปทั่วไปหน้า พอทั่วแล้วก็ใช้ปลายนิ้วค่ะ เคาะๆแท็ปๆไปให้ทั่ว โดยไล่จากคางขึ้นไปข้างบน หรือกระจายไปข้างๆ บางครั้วก็จะแนบฝ่ามือทับไปอีกรอบ ** ความรู้สึกหลังทา ** - ไม่รู้สึกว่าหน้าเหนียวหรือ มือเหนียวเหนอะหนะค่ะ - ช่วยให้ครีมบำรุงตัวถัดไป ซึมเข้าผิวได้ดี บำรุงผิวได้ดีขึ้น เรามีรูปเปรียบเทียบ โดยมีรูปก่อนใช้และ รูปในแต่ละวันที่ใช้ Biotherm life plankton essence เป็นเวลา 8 วันต่อเนื่องกัน (ตามรูปที่อัพแนบมานะคะ) ก่อนใช้ - ผิวหน้าค่อนข้างแห้ง เป็นขุยเล็กบริเวณแก้ม รูขุมขนกว้าง มีรอยสแดง รอยดำจากสิวเต็มไปหมด วันที่ 1 - ผิวที่เป็นขุยหายไป หน้าดูมีความชุ่มชื้น มีน้ำมีนวลขึ้่นชัดเจน วันที่ 2 ถึงวันที่ 5- ผิวดูชุ่มชื้นขึ้นเรื่อยๆ วันที่ 6 ถึงวันที่ 7 - ผิวดูกระจ่างใสขึ้น พอสังเกตได้ว่ารอยแดงรอยดำเริ่มจางลง สิวผดดูยุบไป วันที่ 8 - ผิวดูแข็งแรงสุขภาพดีขึ้น มีความชุ่มชื่น กระจ่างใสขึ้น รอยแดงรอยดำจางลง ผิวหน้าดูเรียบเรียน รูขุมขนดูกระชับขึ้นเมื่อเทียบกับก่อนเริ่มใช้ สำหรับเราแล้ว Biotherm life plankton essence สามารถช่วยแก้ปัญหาผิวต่างๆที่เป็นได้มากกว่า 80 % เราคิดว่ามันดีมากค่ะ ยิ่งถ้าเลือกใช้กับครีมบำรุงตัวต่อไปดีๆ ผิวจะยิ่งดีขึ้น

กดแค่ครั้งเดียว มูสออกมาเยอะพอสำหรับล้างได้ทั้งหน้า โฟมล้างหน้าเนื้อมูสละเอียด และนุ่มมากค่ะ จับตัวกันดี ถึงควำ่ฝ่ามือก็ไม่หล่น แต่ว่าตอนที่กำลังล้าง เรารู้สึกแสบค่ะ หลังล้างหน้า หน้าดูมีชุ่มชื่น แต่รู้สึกหน้าตึงๆเหมือนกัน สูตรที่ใช้คือ Pearl White ค่ะ คิดว่า ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ ไม่เหมาะกับคนผิวระคายเคือง แพ้ง่ายนะคะ

- ผลิตภัณฑ์เป็นเนื้อครีมเข้มข้น เกาะตัวกันดีค่ะ ไม่ไหลเยิ้ม - ตอนเทครีม จะได้กลิ่นกันแดดอ่อนๆ - ตอนทา รู้สึกครีมเป็นครีม ใช้เวลาสักพักถึงจะซึมเข้าผิว เมื่อครีมซึมเข้าผิวดีแล้วจะไม่เหนียวเหอะหนะ ไม่ได้กลิ่นกันแดด - ช่วยให้ผิวชุ่มชื่นขึ้น+นุ่มขึ้นเล็กน้อย - SPF สูงค่ะ ข้อเสียคืิอ ไม่กันน้ำ จากที่ใช้ ไม่มีอาการแพ้หรือคันค่ะ

โลชัั่นสูตรที่เราเลือกใช้ Rose & Argan Oil เพราะว่า Argan Oil มีสารแอนตีออกซิแดนท์ ช่วยให้ผิวนุ่มนวลดูอ่อนเยาว์ ซึ่งน่าจะเหมาะกับผิววัย 30+ อย่างเราๆ ลักษณะเนื้อผลิตภัณฑ์ เป็นเนื้อโลชั่น ทาง่าย เกลี่ยง่าย หลังใช้รู้สึกว่าผิวดูชุ่มชื่นนานขึ้นกว่านีเวียรุ่นอื่น และถึงจะมี Argan Oil ผสมอยู่ แต่ทาแล้วไม่ทิ้งความเหนียว เหนอะหนะ ไว้นะคะ แป็บเดียวก็ซึมเข้าผิวค่ะ โลชั่นมีกลิ่นหอมของดอกไม้อ่อนๆบวกกับกลิ่นแป้งเด็กค่ะ เมื่อทาไปสักพักกลิ่นก็จางไป ขวดโลชั่นและฝาขวดแข็งแรงค่ะ พกพาไปไหนมาไหนได้ สรุปแล้ว ให้ความชุ่มชื่นดี ไม่ทำให้ผิวเหนียวเหนอะหนะ ราคาไม่แพง แนะนำให้ลองใช้ค่ะ

Pond’s Age Miracle Wrinkle Corrector Day Cream SPF 18 PA++ Day cream ตัวใหม่นี้ เนื้อครีมสีชมพูอ่อนๆ จะสีสดใสกว่า Night Cream เล็กน้อยค่ะ มีกลิ่นหอมและมีกันแดดผสมอยู่เล็กน้อย Day Cream ตัวนี้มีเทคโนโลยี่ใหม่ Retinol-C Complex เข้ามาช่วยเรื่องการกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนให้ผลิตใหม่ขึ้นอีก จะได้มาช่วยลดเลือนริ้วรอยให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น และตัวหลักๆอย่าง Vitamin B3 ก็ยังมีเหมือนเดิมค่ะ ตัวนี้จะเน้นเรื่องการฟื้นฟูผิว เพิ่มความชุ่มชื้น ช่วยให้ริ้วรอย จุดด่างดำ ร่องลึกดูจางลง เป็นส่วนผสมหลักๆที่ทางPond ใส่เข้ามากับแทบทุกผลิตภัณฑ์ที่ออกมา ลักษณะเนื่อผลิตภัณฑ์ และการใช้งาน เนื้อครีมเข้มข้นมาก เวลาทาควรจะวอร์มฝ่ามืิอก่อนนะคะ ใช้แค่ปริมาณน้อย แต้ม 5 จุดทั่วหน้าก็เพียงพอค่ะ วอร์มฝ่ามือแล้วเกลี่ยให้ทั่วใบหน้า ทาบๆตบเบาๆเพื่อให้ครีมซึมเข้าผิวให้หมด ระหว่างทา อาจจะรู้สึกหนึบหนับๆ แต่พอซึมเข้าผิวดีแล้วจะไม่เหนอะหนะค่ะ ความรู้สึกหลังทา ให้ความชุ่มชื่นแต่ไม่เหนียวเหนอะหนะค่ะ หน้าจะมีวิ้งๆนิดๆ ดูขาวชมพูสว่างใสขึ้น ปล. Day Cream ตัวนี้ เหมาะกับคนผิวแห้งมากๆค่ะ ส่วนผิวมันผิวผสม ก็ใช้ได้เช่นกัน แต่เราว่าอาจจะไม่ค่อยชอบความรู้สึกตอนเกลี่ยครีม

จากการใช้ครีมบำรุงตัวนี้ก่อนนอน ทาเป็นตัวสุดท้าย เนื้อครีมสีขาว ตอนแรกที่เห็นคิดว่าเนื้อครีมคงเข้มข้นหนักผิวแน่ๆ แต่ว่าพอเกลี่ยลงไปแล้วไม่รู้หนักผิว ซึมเร็ว และ หน้าไม่ได้ดูมัน ส่วนตัวแล้วคิดว่า Night cream ตัวนี้ออกแนวเนื้อครีมกึ่งเนื้อเจลมากกว่า ให้ความชุ่มชื่นดีค่ะ ตื่นนอนมาแล้วหน้าไม่ดูแห้ง รู้สึกว่าผิวกระจ่างใส หน้าสว่างขึ้น ดูผิวอิ่มน้ำ น่าจะเพราะว่าตัวครีมมีส่วนผสมของ Retinol และ AHA

เป็น remover ที่อ่อนโยนมาก ใช้แล้วไม่แสบตา ดีงามมากๆ ทำความสะอาดอายไลเนอร์กันน้ำออกได้ดีด้วย รอบเดียวก็เอาอยู่ และก็ยังให้ความชุ่มชื้นรอบดวงตา แต่ไม่ได้ทิ้งคราบมันไว้ แต่อายไลเนอร์ที่ติดทนมากๆบางตัวก็ลบออกยากค่ะ เช็ดง่าย ไม่เคืองตา ขนาดเล็กพกพาง่าย มีขนาดเดียวคือ 75 ml ราคา 270 บาท ราคากับปริมาณก็อาจจะดูแพงกว่ายี่ห้ออื่นนิดหน่อย แต่ยังถูกกว่าเคานเตอร์แบรนด์เยอะค่ะ

ดินสอเนื้อนิ่ม เขียนง่าย ไม่ปาดผิด ติดทนกันน้ำกันเหงื่อได้ระดับหนึ่ง แต่ถ้าเอามือลูบๆ ก็มีเลือนตามปกติ มีสีให้เลือกน้อย แต่สีจะออกธรรมชาติ เราใช้สีเบอร์1 ออกน้ำตาล คนผมดำสนิทก็ใช้ได้ค่ะ ไม่ดูหลอกตา แต่ทำให้หน้าดูซอฟต์ขึ้น

ตอนที่ลองใช้เป็นช่วงที่สิวบุกหนักมากและต่อเนื่อง รักษาสิวก็ทำให้หน้าแห้งลอก ซึ่ง 1 สัปดาห์แรกที่ลองใช้ตัวนี้ร่วมกับ Shiseido Ultimate ขวดแดง ค่อยๆรู้สึกได้ว่าหน้ามีน้ำมีความชุ่มชื้น ดูแข็งแรงขึ้น รูขุมขนดูกระชับขึ้นนิดๆ สิวเล็กๆแบบสิวผดดูจะยุบเล็กน้อยแต่ดูจะไม่ได้ผลกับพวกสิวอุดตัน 2 สัปดาห์ฺที่ใช้ ผลลัพธ์ดี สังเกตว่ารอยสิวดูจางเร็วขึ้น รูขุมขนดูกระชับขึ้น ผิวดูชุ่มชื้นดีอยู่ถึงว่าเราจะทายารักษาสิวอยู่ แตไม่หยุดเรื่องสิวอุดตันสิวฮอร์โมนนะคะ เนื้อสัมผัสดี ซึมเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ กลิ่นไม่ค่อยหอมเท่าไร

ข้อดี คือ - เนื้อครีมไม่จับตัวแน่นไป ให้ความชุ่มชื่นดี - เนื้อบางเบา ไม่่มีสีไม่มีกลิ่น - ไม่ผสมแอลกอฮอลล์แต่เกลี่ยง่ายและซึมเร็วมากๆ - ไม่ทิ้งความมันบนใบหน้าด้วย ดังนั้นคนผิวผสม-ผิวมันก็ใช้ได้ ข้อเสีย คือ - เป็นแบบกระปุก ดังนั้นต้องระวังเรื่องความสะอาด ถ้าเอามือควักครีมขึ้นมา ต้องให้แน่ใจว่ามือสะอาดจริงๆ

พอปกปิดรอยแดงได้ ครีมสีเนื้อ ทาแล้วเนียน เกลี่ยง่าย คุมมันได้ ใช้แล้วหน้าไม่เทา ไม่วอก ไม่เป็นคราบระหว่างวัน

ได้ Caring Micellar Water (Normal Skin) สำหรับผิวปกติทั่วไปมาใช้ตอนที่เป็นสิวพอดี่ค่ะ จากที่ลองใช้มาสักพัก ถือว่าเป็นคลีนซิ่งที่อ่อนโยนสำหรับผิวที่ระคายเคืองแพ้ง่าย และเป็นสิว สามารถเช็ดบริเวณรอบดวงตาได้โดยไม่ทำให้แสบตา เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นแบบน้ำที่ไม่เหลวเกินไป มีความลื่นระดับหนึ่งทำให้เช็ดทำความสะอาดหน้าได้ง่าย เนื้อผลิตภัณฑ์ไม่มีกลิ่น มีสารบำรุงอยู่ด้วย ทำให้หลังเช็ด ไม่ทำให้หน้าแห้งตึง package สวย และแข็งแรง ฝาปิดแน่น ไม่มีปัญหาหกเลอะเทอะ การทำความสะอาด ถ้าเป็นเมคอัพทั่วๆไป สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ดี แต่ถ้าเป็นเมคอัพที่ติดทน กันน้ำ ลิปเนื้อแมต จะเช็ดออกได้ไม่หมดจนเท่า lip & eye remover โดนตรง เวลาเราเช็ดหน้า จะทำการเช็ดออกจากการใบหน้าออกไป และเช็ดไปในทางเดียวกัน พอเช็ดแล้วไม่มีอาการคัน ระคายเคืองสิว หรือโดนแผลสิวแล้วแสบแผล ไม่ทำให้หน้าแดง เราจะเช็ดทำความสะอาดจนกว่าสำลีจะไม่มีคราบติด ก็ใช้ประมาณ 3-4 แผ่นใน 1 ครั้งค่ะ ขึนกับรองพื้นที่ใช้ในวันนั้น

ข้อดีสิ่งที่ชอบ - ใช้มาได้อาทิตย์ สิวที่กำลังขึ้นอยู่แห้ง และสุกเร็ว หลุดเร็วขึ้นค่ะ - ล้างหน้าตอนที่เป็นแผล สิวเพิ่งหลุด ก็ไม่รู้สึกแสบแผล -ใช้แล้ว ผิวหน้าไม่แห้ง ให้ความชุ่มชื้นดี ข้อเสียสำหรับเรา - ล้างหน้าแล้วรู้สึกหน้าลื่นๆ เท่าไร - ราคา 50 ml 320 บาท แอบแพงเหมือนกัน เราใช้2-3ปั๊มต่อครั้ง

คุณภาพกลางๆค่ะ ใช้แล้วไม่แพ้ ไม่ระคายเคือง มีกลิ่นหอมเล็กน้อย แปรงนุ่ม ไม่ปาดหน้า เนื้อแป้งปกปิดเล็กน้อยถึงน้อยมาก ไม่ติดทน ต้องเติมบ่อยๆ

เนื้อออยล์เหลวกว่าลื่นกว่า DHC แต่ถุ้าเทียบกับขวดสีชมพู สูตร pore clarifying แล้ว ตัวสูตร anti-oxi จะมีความหนืดกว่า ทำความสะอาดได้ดี กลิ่นหอม ใช้แล้วไม่ทำให้สิวขึ้น ไม่ทำให้แพ้ เราเคยใช้อยู่ 2 ขวด ตอนนี้ไม่ติดจะซื้อรุ่นนี้ใช้ต่อ เพราะไปติดใจสูตรอื่น นั่นคือ ขวดชมพู pore clarifying กับขวดทอง Ulimate ตอนนี้เราใช้สลับกันอยู่

ขอบคุณกิจกรรมดีๆจากทาง cosmenet.in.th และผลิตภัณฑ์ดีๆจากทางศรีจันทร์นะคะที่ได้มอบโอกาสให้เราได้ลองใช้ จากการลองใช้ แป้งผสมรองพื้น ศรีจันทร์ ลูมิเนสเซนส์ โกลว์อิง บริเลี่ยน เพอร์เฟคติ้ง พาวเดอร์ มาสักพัก ก็ได้เวลารีวิวความรู้สึกจากการใช้งานจริงแล้วค่ะ ในส่วนของเนื้อแป้ง - ถือว่าบางเบา ทาแล้วยังเป็นธรรมชาติอยู่ - ปกปิดได้เล็กๆน้อยๆ ถ้าเป็นรอยแดงรอยดำของสิวที่ยังชัดอยู่ จะ ต้องใช้คอนซิลเลอร์ช่วย - คุมมันกลางๆ ประมาณ 5-6 ชม.ถ้าอยู่ห้องแอร์ แต่ถ้าเจออากาศร้อนๆมากๆ ก็จะคุมได้น้อยลง - ไม่ระคายเคือง ไม่อุดตัน ไม่เป็นสิว - ทาทับได้โดยไม่เป็นคราบ - กันแดดได้เล็กน้อย - ชอบที่ไม่ผสมแอลกอฮอลล์ พาราเบน สารกันเสีย ทำให้คนแพ้ง่ายใช้ได้ สีแป้ง - ผิวเรา เฉดสีประมาณNC 30 ใช้ได้ทั้งเบอร์ SC10 Ivory กับ SC30 Warm Beige ต่างกันที่ว่าเบอร์ SC30 มันจะกลืนผิวไป เวลาทาจะรู้สึกผิวออกแทนๆนิดๆ แต่ถ้าเบอร์ SC10 จะสว่างกว่าหน่อย คือจะชอบเบอร์ 10 ก็ตรงนี้ละคะ ทาแล้วสว่าง ดูผ่องทั้งวันดี ถ้าใช้เบอร์ SC10 ทาทั้งหน้า เราจะใช้เบอร์ SC30 เป็นคอนทัวร์ หรือถ้าใช้เบอร์ SC30 ลงทั้งหน้า ก็จะใช้เบอร์ SC10 เป็นไฮไลท์ตามทีโซนและแก้มค่ะ พัฟฟองน้ำ - นุ่ม ละเอียด พอใช้กับแป้งรองพื้นแล้วรู้สึกว่าทาหน้าได้เนียนดี ไม่กินเนื้อแป้ง - กดปาดง่าย ไม่ปาดหน้า แพกเกจ - ตลับทำออกมาใช้ง่าย ปิดล็อคได้ดี - ดูทันสมัยเข้ากับปัจจุบันมากกว่าตลับแป้งฝุ่น - การออกแบบให้มีที่เก็บพัฟฟองน้ำอยู่ด้านหลังรองพื้น ดีค่ะ เป็นระเบียบ ตัวพัฟจะสะอาดกว่า แต่พลาดตรงที่ไม่มีที่เปิด ทำให้เวลาจะหยิบพัฟฟองน้ำจะยากหน่อย วิธีแก้ของเราคือคว่ำตลับลง ให้ตลับแยกที่เผยอออก ก็ช่วยให้ได้ฟองน้ำเร็วขึ้น ลงรูปที่แต่งหน้าโดยใช้แค่กันแดดศรีจันทร์และแป้งผสมรองพื้น ศรีจันทร์ ลูมิเนสเซนส์ โกลว์อิง บริเลี่ยน เพอร์เฟคติ้ง พาวเดอร์ เบอร์ SC10 Ivory เท่านั้นค่ะ จะเห็นว่าแป้งจะเนื้อแมตต์คุมมันได้ทันที หลังจากทาแล้ว พอแป้งเซ็ตตัวเข้ากับผิว จะได้ผิวที่ดูเป็นธรรมชาติ ปล. ใช้แป้งรองพื้นเดี่ยวๆก็ดูดีแล้วใช่ไหมคะ แต่ถ้าใช้คู่กับรองพื้นศรีจันทร์ด้วยแล้ว จะติดทนกว่าอีกนะ แนะนำว่าใครยังไม่ได้ลองใช้คู่กับรองพื้น ไปลองเลยค่ะ ไม่เป็นคราบเลย

เนื้อครีมกันแดดสีขาว เมื่อทาลงผิวแล้วไม่ทำให้หน้าขาวหน้าลอย เนื้อบางเบาให้ความชุ่มชื่น ไม่เหนียวหน้า ซึมเร็วค่ะ

ผิวNC30 ค่ะ จากที่ลองรองพื้น 2 เบอร์ คือ SC20 Beige เหมาะกับสาวผิวสีขาวเหลือง SC30 Natural เหมาะกับสาวผิวสองสี จากที่ลองใช้ๆมา รู้สึกว่า SC20 จะเข้ากับผิวได้ดีกว่า SC30 จะเข้มกว่านิดนึง ลองดูจากรูปที่แนบมาได้ค่ะ ทางซ้ายใช้ SC30 จะดูหน้าเข้มกว่าด้านขวาที่ใช้ SC20 นิดหน่อย เนื้อรองพื้น - เม็ดสีชัด แน่น ทำให้ไม่ต้องใช้รองพื้นเยอะ - เนื้อรองพื้น เกลี่ยง่าย - เนื้อไม่หนา ทาแล้วยังดูเป็นธรรมชาติ - ปดปิดรองแดงดำได้กลางๆ ถ้ารอยชัดก็ปิดไม่มิด - ผิวทีโซนอย่างเราใช่ได้ ทาแล้วไม่ลอก ไม่เป็นขุย และไม่ทำให้หน้ามัน หลังจากใช้มาระยะหนึ่ง ยังไม่มีอาการแพ้ระคายเคืองค่ะ เป็นรองพื้นอีกตัวที่อยากจะแนะนำให้หลายๆคนได้ลอง

หัวดินสอกลมและเล็ก เหมาะกับการวาดโครงและวาดหางคิ้วมากๆ สีเบอร์2 ออกน้ำตาล ใช้แล้วหน้าดูอ่อนโยนขึ้น ไม่ดูน้ำตาลไป คนผมดำใช้ได้ เนื้อดินสอนิ่ม ลื่น เขียนง่าย เนื้อนิ่มแต่ไม่หักง่าย แท่งเล็ก พกพาง่าย

ไม่แพ้ ไม่ระคายเคือง ทำความสะอาดได้ดีค่ะ ใช้แล้วสิวอุดตันไม่ขึ้นมา และไม่ทำให้หน้าแห้งตึง แต่ยังไม่ลื่นเท่า MizuMi มีทั้งขวดใหญ่ขวดเล็ก ปริมาณและราคาคิดแล้วราคาถูกค่ะ ใช้ได้เยอะไม่ต้องกลัวเปลือง

ทำความสะอาดเครื่องสำอางได้ดีกว่าแบบเจลที่เคยใช้ เราใช้ 3 ปั๊ม นวดสักพัก แล้วก็พรมน้ำเติมเข้าไปเรื่อยๆ นวดจนรู้สึกหน้าไม่หนืดมือแล้วค่อยล้างน้ำออกค่ะ เราลองเช็ดตลีนซึ่งวอเตอร์ตาม พบว่ามีคราบรองพื้นแป้งติดออกมากน้อยกว่าตอนที่ใช้เจลทำความสะอาด กลิ่นเราไม่รู้สึกอะไร เฉยๆ ตอนนวดออย รู้สึกว่าหน้าอุ่นๆระหว่าวนวด ล้างแล้วหน้าไม่แห้งตึง ไม่แพ้ ไม่อุดตัน ราคาสูงนิดนึง แต่ก็ยังรับได้ หาซื้อง่ายขึ้น มีขายตามร้านของญี่ปุ่น อย่าง Tsuruha MatsuKiyo

เนื้อผลิตภัณฑ์เหลว ใช้เวลาในการซึม พอซึมแล้วก็แห้ง กลิ่นแอลกอฮอลล์แรงมากๆ แต่ ***ไม่เหมาะกับผิวแพ้ง่าย*** คือว่าเราทาเช้า บ่ายๆก็โดนทัก แบบว่าจู่สิวผดขึ้นหลายเม็ด เสียดาย เพิ่งใช้ไป 2 ครั้งเองค่ะ

ตอนทา ซึมยาก ต้องใช้เวลาในการทาครีม เพิ้อนวดๆเกลี่ยๆให้ซึมเข้าไป เมื่อซึมแล้ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ให้ความชุ่มชื่นใช้ได้ เราทำงานห้องแอร์ เวลาทา กลิ่นจะติดสักพัก รู้สึกเหม็น กลิ่นฉุนติดจมูก ราคาถูกค่ะ ทาแล้วดูผิวใสขึ้น แต่ไม่แน่ใจว่าที่ดูใสเพราะมีการนวดให้ครีมซึมเข้าผิวก่อนหน้านั้นหรือเปล่า ปล.ไม่ได้ใช้ต่อเนื่องค่ะ ซื้อจาก 7-11 มาเพราะลืมทาโลชั่นมาทำงาน

เป็นออยที่นวดหน้าง่ายค่ะ สำหรับคนแต่งหน้าอยากเรา เวลาใช้ต้องใช้เยอะหน่อย ใช้ตอนที่หน้าและมือแห้ง จะนวดทำความสะอาดได้ดีกว่า สักพักค่อยใช้น้ำพรมแล้วนวดต่อ ทำความสะอาดได้ดีระดับหนึ่งค่ะ ต้องใช้ออยล์เยอะหน่อยค่ะ จริงๆตัวนี้ไม่ต้องล้างหน้าอีกรอบนะคะ แต่เราไม่ค่อยชิน ก็เลยต้องล้างหน้าด้วยเจลล้างหน้าอีกรอบ เพื่อความสะบายใจ ไม่สามารถลบเครื่องสำอางกันน้ำได้หมด ดังนั้นควรตา ปาก ต้องแยกเช็ดค่ะ มีกลิ่นแปลกๆ ไม่ได้เหม็นนะคะ แต่บอกไม่ถูกว่ากลิ่นอะไรคะ ใช้แล้วยังไม่พบการแพ้ หรืออุดตัน อยากให้ 4 ดาวแต่เหมือนมันยังไม่สามารถข้ามกำแพงจิตใจเราได้ ขอเป็น 3 ดาวครึ่งล่ะกันค่ะ

ใช้ทาใต้ตา โอเค แต่เรื่องปกปิดรอยแดงดำ ยังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร เวลาแตะๆแต้มๆ ก็มักจะหลุดเลือนออกมาด้วย ระหว่างวัน ติดทนพอควร แต่ก็มีหลุดเลือนไปบ้าง สีมีให้เลือกน้อย แต่ราคาถูก ใช้เยอะได้

ปกปิดได้ดีมาก ดีที่สุดในบรรดาคอนซิลเลอร์ที่ใช้มาจริงๆ ติดทนดี ตอนแตะปิดรอย จะไม่หลุดติดออกมาง่ายแบบพวก drug storeแบรนด์วัยรุ่น โดยเฉพาะ ผลลัพธ์ในเรื่องการปกปิดรอยดำนี่จะแตกต่างชัดเจนมากๆ สำหรับการปกปิดรอยดำรอยแดงจากสิว ตัวนี้ดีมาก และคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป

ไม่อุดตัน สิวไม่ขึ้น ปกปิดได้เล็กน้อย ให้ความชุ่มชื่น ไม่คุมมัน ใช้แล้วหน้าดรอปเร็วมาก

แป้งออกโทนชมพู มีวิ้งน้อยๆๆๆๆ ไม่ได้โปร่งแสงอย่างที่คิดไว้ เพราะวิงค์เล็กๆที่ใส่มา ทำให้บางทีก็ดูหน้ามัน แต่คุมมันใช้ได้ ส่วนตัวรู้สึกว่าเนื้อแป้งค่อนข้างหนา ระหว่างวันถ้าซับหน้าเติมแป้ง จะเป็นคราบ

เนื้อแป้งเนียนละเอียด ไม่ทำให้หน้าแห้ง ติดทนอยู่ คุมมันระดับนึงสัก 4-5ชม. ปกปิดกลางๆ อำพรางรูขุมขนได้ ปิดรอยแดงรอยดำได้ระดับนึง แต่ก็ยังคงดูบางเบา ทาแล้วดูผิวดีเป็นธรรมชาติ

ใช้เบอร์ 796 Cuir Cannage เม็ดสีแน่น และทนมากๆ กันน่ำได้ดีมาก ไม่ต้องใช้ primer ยอมรับว่าติดทนกว่า UD เยอะ สีสมำเสมอกว่า Stila แต่เรื่องการกันน้ำใช้ได้ทั้งคู่ ถ้าเทียบราคากับคุณภาพ ถือว่าไม่แพง ซื้อของดีมาใช้ได้อย่างคุ้มค่า

- เม็ดสีค่อนข้างแน่น ชัด ติดทนยกเว้นสีแมทค่ะ ที่เวลาทาต้องลงซ้ำๆ สีแมทอ่อนๆบางตัว เอามาใช้ไฮไลท์หรือเฉดดิ้งแทน - ราคากลางๆ 1280 บาท คุณภาพและความคุ้มค่าเกินราคา - ไม่จำเป็นต้องใช้ primer บางครั้งเราใช้โดยไม่ลง primer ขอบอกว่า ติดทน สียังชัดอยู่

เม็ดสีชัด สม่ำเสมอค่ะ ทาแล้วเช็ดออก สียังติดทนอยู่เลย ระหว่างทา ไม่รู้สึกว่าปากแห้ง ปากไม่ลอก

ล้างเครื่องสำอางได้ดีกว่าหลายยี่ห้อ แต่ไม่ได้ล้างออกหมดนะคะ ใครแต่งหน้าจัดเต็มมาก็ควรใช้เช็ดออกก่อน ตัวนี้ถือว่าล้างหน้าได้ดีค่ะ ไม่แห้งตึง ล้างสะอาด ชอบมาก