ใครว่าต้องอายุ 50 ขึ้นไปถึงจะเป็นวัยทอง? เดี๋ยวนี้ยังไม่ถึง 40 อาการวัยทองก็เริ่มมาแล้วค่ะ แค่วัย 30 ปลาย ๆ ก็เริ่มเจออาการฮอร์โมนสวิงแบบไม่รู้ตัว เหวี่ยงง่าย เหงื่อออกกลางคืน นอนไม่หลับ หรือผิวเริ่มแห้ง ทั้งหมดคือสัญญาณของ “วัยทองก่อนวัย” ที่กำลังคืบคลานมาเงียบ ๆ เพราะฉะนั้นสาว ๆ อย่าชะล่าใจ เพราะยิ่งรู้เร็ว ก็ยิ่งดูแลได้ทัน วันนี้ Cosmenet* จะพาทุกคนมา เช็กลิสต์ 6 สัญญาณวัยทองก่อนวัย รู้ไวรับมือได้ ไม่เหวี่ยง ไม่วีน
วัยทองก่อนวัยอันควร คือ?
คือภาวะที่รังไข่หยุดทำงานเร็วกว่าปกติ ทำให้ระดับฮอร์โมนเพศหญิง “เอสโตรเจน” ลดลงเร็วกว่าที่ควรจะเป็น โดยทั่วไปผู้หญิงมักเข้าสู่วัยทองช่วงอายุประมาณ 45–55 ปี แต่หากเกิดการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนตั้งแต่อายุก่อน 40 ปี จะถือว่าเป็นภาวะวัยทองก่อนวัย หรือวัยทองก่อน 40 ซึ่งหมายความว่าร่างกายเริ่มเสียสมดุลเร็วกว่าปกติ
สาเหตุของภาวะวัยทองก่อนวัยอันควร

- พันธุกรรม : พันธุกรรมเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของภาวะวัยทองก่อนวัยอันควร หากในครอบครัวมีคุณแม่ คุณยาย หรือญาติผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่เข้าสู่วัยทองเร็วกว่าปกติ ก็มีโอกาสสูงที่คุณอาจประสบภาวะเดียวกันได้เช่นกัน เพราะ ยีนที่ควบคุมการทำงานของรังไข่และการผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจน สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมจากรุ่นสู่รุ่นได้
- พฤติกรรมการใช้ชีวิต : การนอนดึก พักผ่อนไม่พอ ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ หรือรับประทานอาหารไม่สมดุล ล้วนทำให้ฮอร์โมนในร่างกายแปรปรวน และเร่งให้รังไข่เสื่อมเร็วกว่าปกติ ความเครียดจากการพักผ่อนไม่พอหรือใช้ชีวิตเร่งรีบยังทำให้ฮอร์โมนคอร์ติซอลเพิ่มขึ้น ซึ่งไปยับยั้งการหลั่งฮอร์โมนเพศหญิง ส่งผลให้เกิดความไม่สมดุลของระบบฮอร์โมนโดยรวม
- ความเครียดเรื้อรัง : เมื่อร่างกายเผชิญความเครียดสะสมเป็นเวลานาน จะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลมากเกินไป ซึ่งไปรบกวนสมดุลของฮอร์โมนเพศหญิง ทำให้การทำงานของรังไข่ลดลงเร็วกว่าปกติ ส่งผลให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะฮอร์โมนแปรปรวนและอาจนำไปสู่วัยทองก่อนวัยได้
- ความผิดปกติของภูมิคุ้มกัน : บางครั้งระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอาจทำงานผิดพลาดและโจมตีเซลล์รังไข่โดยไม่ตั้งใจ ส่งผลให้การผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลงเร็วกว่าปกติ จนเกิดภาวะวัยทองก่อนวัยได้ ภาวะนี้มักพบร่วมกับโรคภูมิคุ้มกันอื่น ๆ เช่น ไทรอยด์ผิดปกติ หรือโรค SLE ดังนั้น หากมีโรคเหล่านี้ควรตรวจระดับฮอร์โมนและติดตามสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ
เช็กลิสต์ 7 สัญญาณวัยทองก่อนวัย

1. ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ : เป็นสัญญาณเริ่มต้นที่พบบ่อย รอบเดือนอาจยาวขึ้น สั้นลง หรือขาดไปหลายเดือนโดยไม่ทราบสาเหตุ เกิดจากความไม่สมดุลของฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนที่ควบคุมการตกไข่และรอบเดือน
2. ร้อนวูบวาบ เหงื่อออกกลางคืน : รู้สึกร้อนขึ้นมาทันทีเหมือนอยู่ในที่อุณหภูมิสูง ทั้งที่อากาศปกติ โดยเฉพาะตอนกลางคืนจนรบกวนการนอน อาการนี้เกิดจากระดับเอสโตรเจนที่ลดลง ส่งผลต่อศูนย์ควบคุมอุณหภูมิในสมอง
3. นอนหลับยาก หรือนอนไม่สนิท : การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศทำให้วงจรการนอนถูกรบกวน บางคนหลับยาก ตื่นบ่อย หรือหลับไม่ลึก ส่งผลให้รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีแรงในตอนกลางวัน
4. อารมณ์แปรปรวนง่าย : รู้สึกหงุดหงิด ซึมเศร้า หรืออ่อนไหวมากกว่าปกติ เพราะฮอร์โมนเอสโตรเจนมีผลต่อสารเคมีในสมองที่ควบคุมอารมณ์ เช่น เซโรโทนิน เมื่อระดับฮอร์โมนลดลง สมดุลทางอารมณ์ก็แปรปรวนตามไปด้วย
5. ผิวแห้ง ผมร่วง และช่องคลอดแห้ง : เมื่อเอสโตรเจนลดลง ความชุ่มชื้นของผิว ผม และเยื่อบุช่องคลอดจะลดลงตามไปด้วย ผิวจึงแห้งกร้าน ผมขาดหลุดร่วงง่าย และอาจรู้สึกแสบหรือเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์
6. ความจำและสมาธิลดลง : บางคนเริ่มรู้สึกว่าความจำไม่ดีเหมือนเดิม ลืมง่าย หรือโฟกัสได้ไม่นาน เพราะเอสโตรเจนมีบทบาทสำคัญต่อการทำงานของสมองในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความจำและการจดจ่อ
7. น้ำหนักขึ้นง่ายและกล้ามเนื้อลดลง : ระดับฮอร์โมนที่ลดลงส่งผลให้ระบบเผาผลาญทำงานช้าลง ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้น้อยลง แม้รับประทานเท่าเดิมน้ำหนักก็เพิ่มง่ายขึ้น อีกทั้งยังสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ ทำให้รูปร่างเปลี่ยนไปและไขมันสะสมมากขึ้น
วิธีป้องกันวัยทองก่อนวัยอันควร
แม้ภาวะวัยทองก่อนวัยจะเกิดขึ้นจากหลายปัจจัย แต่สามารถ “ชะลอ” และ “ลดความรุนแรงของอาการ” ได้ หากเริ่มดูแลตัวเองตั้งแต่เนิ่น ๆ ด้วยวิธีต่อไปนี้

- นอนหลับให้เพียงพอ : การนอนอย่างน้อยวันละ 6 - 8 ชั่วโมงจะช่วยให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนได้สมดุล และช่วยลดระดับคอร์ติซอล (ฮอร์โมนความเครียด) ที่ไปรบกวนการทำงานของรังไข่
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ : เลือกทานอาหารที่อุดมด้วยโปรตีน วิตามินบี แคลเซียม และโอเมก้า 3 เช่น ปลา ถั่ว เต้าหู้ ธัญพืช และผักผลไม้สด เพราะช่วยบำรุงฮอร์โมนและชะลอการเสื่อมของรังไข่ หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป ของหวานจัด และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะทำให้ฮอร์โมนเสียสมดุล
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ : การขยับร่างกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที เช่น เดินเร็ว โยคะ หรือปั่นจักรยาน ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ลดความเครียด และส่งเสริมการทำงานของฮอร์โมนเพศหญิง
- จัดการความเครียดอย่างเหมาะสม : หากรู้ตัวว่าเครียด ควรหาวิธีคลายความตึง เช่น ฟังเพลง นั่งสมาธิ หรือใช้เวลาพักผ่อนกับสิ่งที่ชอบ เพราะความเครียดสะสมเป็นตัวเร่งให้ฮอร์โมนแปรปรวนและรังไข่เสื่อมเร็วขึ้น
- งดสูบบุหรี่และลดการดื่มแอลกอฮอล์ : สารพิษในบุหรี่และแอลกอฮอล์ส่งผลโดยตรงต่อการทำงานของรังไข่และระบบไหลเวียนเลือด การงดหรือลดลงได้จะช่วยยืดอายุรังไข่และรักษาสมดุลฮอร์โมนได้ดีกว่า
- ตรวจสุขภาพประจำปี : การตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการตรวจระดับฮอร์โมนและการทำงานของรังไข่ จะช่วยให้รู้ความเปลี่ยนแปลงของร่างกายตั้งแต่ระยะเริ่มต้น และวางแผนการดูแลได้ตรงจุด
-----------------------
Cosmenet* Smart Beauty รีวิวดีบอกต่อ
-----------------------
วัยทองก่อนวัยไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่เป็นสัญญาณให้เราหันมาดูแลตัวเองให้มากขึ้น ทั้งเรื่องพักผ่อน อาหาร และสุขภาพใจ เพราะเมื่อเข้าใจร่างกายตั้งแต่วันนี้ สาว ๆ ทุกคนจะสามารถผ่านช่วงเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนไปได้อย่างราบรื่น
อ่านคอนเทนต์สาระน่ารู้เกี่ยวกับผู้หญิงอื่น ๆ เพิ่มเติมคลิกเลย!