เอาล่ะ ๆ Cosmenet Beauty Class วันนี้ จะมาแนะนำวิธีการใช้คลีนซิ่งที่ถูกต้อง แบบบอกหมดทุกข้อ และวิธีการใช้คลีนซิ่งทุกประเภทกันไปเลยย!
จริง ๆ *Cosmenet เคยเล่าเรื่อง
คลีนซิ่ง vs คลีนเซอร์ต่างกันยังไงแล้วนะ แต่วันนี้จะมาแนะนำแบบเจาะลึกกับเรื่องคลีนซิ่ง แบบละเอียดยิบ แบบจับมือเช็ดหน้าไปเลยสาว ๆ ใครเคยเช็ดหน้าด้วยคลีนซิ่งแล้วยังอุดตัน ยังล้างไม่เกลี้ยง ใช้ยังไงก็ไม่เริ่ด ต้องจดด่วน!
คลีนซิ่งจำเป็นแค่ไหน ควรใช้ทุกวันมั้ย?
คลีนซิ่ง (Cleansing) คือ ผลิตภัณฑ์เช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอาง ครีมกันแดด หรือสิ่งสกปรกต่างๆ ที่ติดอยู่บนผิวหน้า ก่อนที่จะล้างหน้า เพื่อให้สิ่งสกปรกต่าง ๆ นั้นไม่อุดตันบนใบหน้า นั่นหมายความว่า หากโดยปกติเป็นคนที่แต่งหน้าทุกวัน หรือทาครีมกันแดดทุกวัน ก็ควรใช้คลีนซิ่งเช็ดหน้าทุกวัน เพื่อการล้างหน้าที่สะอาดล้ำลึก จะได้ไม่เกิดปัจจัยที่ก่อให้เกิดการอุดตันผิว และนำไปสู่การเกิดสิวนั่นเองค่ะ
วิธีใช้คลีนซิ่งแต่ละประเภทให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
วิธีใช้คลีนซิ่งวอเตอร์ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด: ให้เทคลีนซิ่งวอเตอร์ลงบนสำลี 5 แผ่น แปะลงบนเปลือกตา 2 แผ่น และริมฝีปาก 1 แผ่น ส่วน 2 แผ่นที่เหลือใช้เช็ดบริเวณหน้าผาก หน้าแก้ม และคางก่อนเป็นอย่างแรก พอเช็ดเสร็จแล้วก็เริ่มเช็ดรอบดวงตา เลยขึ้นไปถึงคิ้ว และจึงเช็ดปากเป็นอย่างสุดท้าย
วิธีนี้จะช่วยให้คลีนซิ่งวอเตอร์ ค่อย ๆ สลายเมคอัพในส่วนที่เช็ดออกยากก่อนที่เราจะเช็ดทำความสะอาด ช่วยให้การเช็ดเครื่องสำอางสมูธขึ้น ไม่ต้องถูแรง ไม่ต้องขยี้จนหน้ายับให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้าอีกด้วย
ข้อสำคัญ: อย่าลืมเช็ดกรอบหน้าที่ใกล้ไรผม ใบหู ใต้คาง ข้างจมูกให้หมดเกลี้ยง และเช็ดทั่วทั้งใบหน้าอีก 1-2 รอบให้แน่ใจว่าไม่เหลือเครื่องสำอางแล้วจริง ๆ
วิธีใช้คลีนซิ่งออยล์ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด: การปั๊มออยล์ลงบนฝ่ามือและวน ๆ ให้เกิดความอุ่น และจึงนวดลงบนผิวหน้าทันที ในบริเวณหน้าแก้ม หน้าผาก กรอบหน้า และคาง จากนั้นจึงนวดบริเวณริมฝีปาก รอบดวงตา และคิ้ว ตามลำดับค่ะ
คลีนซิ่งออยล์ จะดึงดูดผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ให้หลุดอออกจากผิวและรูขุมขน รวมถึงสิ่งสกปรกต่าง ๆ ออกมาด้วย สำหรับคนที่ไม่ชอบเช็ดถูใบหน้า คลีนซิ่งออยล์เนี่ยตอบโจทย์สุด ๆ
ข้อสำคัญ: ในการใช้คลีนซิ่งออยล์ให้ได้ประสิทธิภาพ ก็คือ มือและใบหน้าจะต้องไม่เปียกน้ำโดยเด็ดขาด ออยล์จะได้ทำงานได้อย่างเต็มที่ และช่วยละลายเครื่องสำอางได้เป็นอย่างดี แถมไม่ไหลเลอะเข้าตาด้วยค่ะ
วิธีใช้คลีนซิ่งบาล์มให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด: ตักคลีนซิ่งบาล์มออกมาประมาณเหรียญสิบ แล้วแบ่งป้าย 5 จุดทั่วใบหน้า โดยให้เริ่มที่หน้าแก้ม หน้าผาก คาง จมูก และ ปาก โดยให้คิ้วและรอบดวงตาเป็นอย่างสุดท้าย เพราะบาล์มเนื้อค่อนข้างหนัก หากย้อยเข้าดวงตาจะล้างออกยากมากกก ต้องระมัดระวังเลยค่ะ แนะนำให้ล้างออกด้วยน้ำอุ่นจะล้างออกแบบเกลี้ยงเกลา และปิดท้ายด้วยน้ำเย็นเพื่อปิดรูขุมขนคือจบ!
ข้อสำคัญ: หากบาล์มมีเนื้อที่หนักและแข็งเกินไป ไม่ควรนำมาป้ายบนหน้าในทันที ให้นวดบนมือเพื่อกระจายเนื้อบาล์มออกจากกัน ก่อนนำมาถูบนหน้า จะได้ไม่กระตุ้นให้ผิวเกิดการอักเสบหรือเกิดริ้วรอยนะคะ
วิธีใช้คลีนซิ่งเจลให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด: บีบคลีนซิ่งเจลในปริมาณน้อย ๆ ผสมน้ำให้เกิดฟองเล็กน้อย จากนั้นจึงนวดวนบนผิวไปตามแนวขนเรื่อย ๆ สำหรับรอบดวงตา จริง ๆ แนะนำให้ใช้ point remover มากกว่านะคะ แต่ถ้ามีคลีนซิ่งเจลสูตรอ่อนโยนที่สามารถใช้กับรอบดวงตาได้ ก็ขอให้นวดอย่างเบามือสุด ๆ อย่าถูแรงเกินไป นอกจากจะกระตุ้นให้เกิดการอักเสบได้แล้ว อาจก่อให้เกิดริ้วรอยได้ด้วยค่ะ
ข้อสำคัญ: หากรู้สึกว่ายังล้างหน้าไม่สะอาดเพียงพอ หรือชะล้างเครื่องสำอางออกได้ไม่หมด ให้ค่อย ๆ เพิ่มจำนวนคลีนซิ่งเจลทีละนิด เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดการะคายเคือง หรือเกิดการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่มากเกิน ก็จะทำให้เกิดอาการผิวแห้งตึงได้ในบางสูตรนะคะ
Q&A ทุกเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับคลีนซิ่ง (Cleansing)
Q: เช็ดคลีนซิ่งแล้วไม่ล้างหน้าได้ไหม?
A: ไม่ได้ค่ะ แม้ว่าคลีนซิ่งจะช่วยขจัดเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกได้ แต่ก็ควรล้างหน้าอีกครั้ง ด้วยคลีนเซอร์หรือโฟมล้างหน้าที่มีอยู่เพื่อชะล้างสิ่งสกปรก หรือความมันส่วนเกินที่ตกค้าง สำหรับใครที่กลัวว่าจะรบกวนผิวเกินไปก็ให้เลือกใช้ทั้งคลีนซิ่งและคลีนเซอร์เป็นสูตรอ่อนโยนหรือสูตรออร์แกนิคนะคะ
Q: ต้องใช้คลีนซิ่งทุกวันไหม?
A: สำหรับผู้ที่แต่งหน้าและทาครีมกันแดดทุกวัน ก็ควรใช้ทุกวัน เพื่อชะล้างเครื่องสำอางและครีมกันแดดออกจากผิว จะได้ไม่เกิดสิวอุดตันค่ะ
Q: ผิวมันใช้คลีนซิ่งแบบไหนได้บ้าง?
A: คลีนซิ่งวอเตอร์ และคลีนซิ่งเจล เพราะช่วยกำจัดสิ่งสกปรกและความมันส่วนเกิน โดยไม่ทิ้งความมันรบกวนผิว
Q: ผิวแห้งใช้คลีนซิ่งแบบไหนได้บ้าง?
A: คลีนซิ่งวอเตอร์ คลีนซิ่งออยล์ และคลีนซิ่งบาล์ม เน้นให้เป็นสูตรที่กักเก็บความุช่มชื้นให้ผิวจะยิ่งดีค่ะ
Q: ผิวเป็นสิวใช้คลีนซิ่งแบบไหนได้บ้าง?
A: คลีนซิ่งวอเตอร์ คลีนซิ่งเจล และคลีนซิ่งบาล์มบางสูตร เน้นเป็นสูตรที่อ่อนโยนต่อผิว ควบคุมความมัน และมีสารสกัดที่ช่วยปลอบประโลมผิว จะช่วยลดการอักเสบได้ค่ะ
Q: จำเป็นต้องใช้น้ำอุ่นล้างหน้าหลังใช้คลีนซิ่งทุกครั้งมั้ย?
A: ไม่เสมอไปค่ะ กรณีนี้แนะนำให้ใช้น้ำอุ่นหลังใช้คลีนซิ่งบาล์มหรือคลีนซิ่งออยล์ก็เพียงพอ เพื่อเคลียร์ความมันส่วนเกินออกจากผิวและทำให้การล้างหน้าขั้นต่อไปนั้นง่ายขึ้น ไม่หลงเหลือความมันของผลิตภัณฑ์อยู่บนหน้าให้รู้สึกไม่สบายผิวหรืออาจอุดตันผิวเท่านั้นเองค่ะ
เป็นยังไงกันบ้างเอ่ย กับเรื่องราวของการใช้คลีนซิ่งให้ถูกวิธี ใครที่เคยใช้คลีนซิ่งแล้วอุดตันผิวไม่ไหว ลองเปิดใจทำตามวิธีของ *Cosmenet ดู บอกเลยว่าคลีนซิ่งแบบไหนก็ทำให้ผิวเราเป็นสิวไม่ได้อีกต่อไป เพราะชั้นใช้เป็นแล้วจ้าา ~
-----------------------
*Cosmenet Smart Beauty รีวิวดีบอกต่อ
ค้นหารีวิวเครื่องสำอาง สกินแคร์ แบบจริงใจได้ที่นี่ www.cosmenet.in.th
-----------------------