
กลิ่นหอมไม่ใช่แค่เรื่องของความสะอาด แต่คือเสน่ห์อีกอย่างที่ช่วยบ่งบอกสไตล์และบุคลิกของผู้ชายได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ และยังช่วยเสริมลุคเพิ่มความมั่นใจเวลาที่ต้องพบปะผู้คน ไม่ว่าจะวันทำงานหรือวันชิล ๆ แค่เลือกกลิ่นน้ำหอมที่เหมาะกับตัวเอง ก็เพิ่มเสน่ห์ให้ดูน่าดึงดูดขึ้นได้ค่ะ วันนี้ Cosmenet* เลยถือโอกาสแนะนำ 10 น้ำหอมผู้ชายกลิ่นหอมสะอาด ดูแพง และติดทนนาน เรียกได้ว่าหยิบมาใช้ได้ทุกโอกาส ว่าแล้วก็ตามมาดูกันเลยค่า~
10 น้ำหอมผู้ชาย ยี่ห้อไหนดี
ประเภทของน้ำหอมผู้ชายที่ควรรู้ก่อนเลือกซื้อ
ก่อนจะเลือกซื้อน้ำหอมสักขวด สิ่งหนึ่งที่ควรรู้ไว้คือ “ประเภทของน้ำหอม” เพราะแต่ละแบบมีความเข้มข้นของกลิ่นและความติดทนต่างกัน ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อฟีลลิ่งและการใช้งาน โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้
- Eau de Cologne (EDC) : ความเข้มข้นของน้ำหอมประมาณ 2-5% กลิ่นเบา สดชื่น เหมาะกับใช้หลังอาบน้ำหรือวันที่อากาศร้อน เพราะให้ความรู้สึกสะอาด สบาย แต่จะติดไม่นานมาก ประมาณ 2-3 ชั่วโมง
- Eau de Toilette (EDT) : เป็นประเภทที่ได้รับความนิยมที่สุดในหมู่ผู้ชาย เพราะกลิ่นไม่แรงเกินไปและใช้ได้ทุกวัน ความเข้มข้นอยู่ที่ราว 5-15% ติดทนประมาณ 4-6 ชั่วโมง เหมาะกับใช้ไปทำงานหรือออกเดตเบา ๆ
- Eau de Parfum (EDP) : ความเข้มข้นอยู่ที่ 15-20% กลิ่นจะชัด ละเมียด และติดทนนานกว่า EDT เหมาะกับโอกาสพิเศษ หรือวันที่อยากให้กลิ่นอยู่ได้ทั้งวัน
- Parfum / Extrait de Parfum : เป็นระดับที่กลิ่นเข้มข้นที่สุด (มากกว่า 20%) ใช้เพียงเล็กน้อยแต่ติดทนนานทั้งวัน เหมาะกับคนที่ชอบความหรูหรา หรืออยากให้กลิ่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
เคล็ดลับการเลือกน้ำหอมผู้ชายให้เหมาะกับตัวเอง
- เลือกให้เหมาะกับบุคคลิกของตัวเอง : เลือกน้ำหอมให้เข้ากับบุคลิกของตัวเองจะช่วยเสริมเสน่ห์ได้มากขึ้น ถ้าเป็นสายคลีน มินิมอล ชอบความสดชื่นสบาย ๆ แนะนำกลิ่นแนว Citrus, Aquatic หรือ Green ที่ให้ฟีลสะอาดและเรียบง่าย ถ้าเป็นสายอบอุ่น สุขุม นุ่มนวล ลองแนว Woody, Amber หรือ Musk ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและดูมีสไตล์ ส่วนใครเป็นสายแฟ ชอบความโดดเด่นไม่ซ้ำใคร กลิ่นแนว Oriental หรือ Spicy จะช่วยเพิ่มคาแรกเตอร์ให้ดูน่าค้นหาและมีเอกลักษณ์ขึ้นทันที
- เลือกกลิ่นน้ำหอมให้เหมาะกับโอกาส : ในวันทำงานควรใช้กลิ่นแนว Citrus หรือ Fresh Woody ที่ให้ความรู้สึกสะอาด สดชื่น และไม่ฉุนเกินไป ส่วนวันสบาย ๆ แนะนำกลิ่นเบา ๆ อย่าง Marine หรือ Green ที่ให้ฟีลชิลล์และเข้ากับบรรยากาศได้ทุกวัน แต่ถ้าเป็นวันออกเดตหรือไปปาร์ตี้ กลิ่นแนว Oriental หรือ Leather จะช่วยเพิ่มเสน่ห์และความน่าค้นหาได้แบบมีสไตล์
- ทดสอบกลิ่นก่อนซื้อ : ก่อนตัดสินใจซื้อน้ำหอม อย่าเพิ่งเลือกจากกลิ่นแรกที่ได้กลิ่น เพราะน้ำหอมจะค่อย ๆ เปลี่ยนกลิ่นตามเวลา แนะนำให้ลองฉีดที่ข้อมือ แล้วปล่อยไว้ประมาณ 15-30 นาที เพื่อให้กลิ่นเซตตัวจนถึง “กลิ่นปลาย” (Base Note) ซึ่งเป็นกลิ่นที่อยู่กับผิวจริง ๆ และสะท้อนคาแรกเตอร์ของเรามากที่สุด ถ้าช่วงนี้ยังหอมและเข้ากับผิว แปลว่าน้ำหอมขวดนั้นใช่เลย
แนะนำ 10 น้ำหอมกลิ่นผู้ชาย

ใครสายยูนีคต้องรู้จักน้ำหอมกลิ่นผู้ชาย AnOther 13 ของ Le Labo แน่นอน เพราะเจ้าตัวนี้เค้าเกิดจากโปรเจกต์พิเศษที่ทำร่วมกับ AnOther Magazine ตั้งแต่ปี 2010 กลายเป็นน้ำหอมกลิ่นเฉพาะตัวที่ทั้งชวนหลงใหลและมีเสน่ห์แบบไม่ซ้ำใคร กลิ่นหลักคือ Ambroxan มัสก์สังเคราะห์แนวแอแนิมัล ให้ฟีลเย้ายวนชวนค้นหา ผสมกับส่วนผสมอีก 12 ชนิด เช่น มะลิ มอส และ Ambrette Seeds Absolute ที่ทำให้กลิ่นมีความคมและเปล่งประกาย ดูแพงแต่ไม่เยอะจนเว่อร์ และที่สำคัญคือกลิ่นติดผิวขั้นสุด!
- โทนกลิ่น : กลิ่นสะอาด อบอุ่น และหรูหรา
- ราคา : 50 ml. / 8,500 บาท
- ช้อปออนไลน์ : King Power, Konvy
2. Diptyque Tam Dao

ใครชอบกลิ่นหอมสไตล์ Woody ลึกลับ หน้าค้นหา ขอแนะนำน้ำหอมสำหรับผู้ชาย Diptyque กลิ่นนี้เลย เพราะเค้ามาพร้อมกลิ่นไม้นุ่ม ๆ หอมละมุนและให้ความรู้สึกอบอุ่น จากไม้แซนดัลวู้ดจากเมืองมัยซอร์ ประเทศอินเดีย ผสานความเย็นสดชื่นจากต้นไซปรัสและดอกเมอเทิล ทำให้กลิ่นหอมสงบและมีสไตล์ ซึ่งเป็นกลิ่นที่มีความ Unisex สามารถใช้ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง
- โทนกลิ่น : กลิ่นโทน Woody-Ambery อบอุ่น นุ่มลึก มีมิติ
- ราคา : 75 ml. / 10,200 บาท
- ช้อปออนไลน์ : King Power, Central
- อ่านรายละเอียดและรีวิว น้ำหอมกลิ่นผู้ชาย Diptyque เพิ่มเติมได้ที่นี่ -
3. Yves Saint Laurent Y Eau de Toilette

น้ำหอมแบรนด์ผู้ชายจาก Yves Saint Laurent ตัวนี้ เค้ามาพร้อมกลิ่นหอมสดชื่นและเท่ในโทนเดียว ด้วยกลิ่นหลักโทน Fruity-Woody มอบความสดชื่นจากแอปเปิ้ลเขียวและลูกแพร์ ผสมกลิ่นกลางอย่างโหระพา ไวโอเล็ต และเจอราเนียม ทำให้ฟีลสะอาด ละมุน ปิดท้ายด้วยเบสโน้ตซีดาร์วู้ด ไม้สน และมัสก์ เพิ่มความอบอุ่นและเสน่ห์แบบผู้ใหญ่ เหมาะสำหรับผู้ชายวัยทำงานที่ต้องการเสริมลุคให้มั่นใจ มีพลัง และน่าเชื่อถือ
- อ่านรายละเอียดและรีวิว น้ำหอมกลิ่นผู้ชาย Yves Saint Laurent เพิ่มเติมได้ที่นี่ -

หนุ่ม ๆ คนไหนที่กำลังมองหาน้ำหอมผู้ชายกลิ่นสะอาด ต้องไม่พลาดกับ Aqva Pour Homme EDT จาก Bvlgari น้ำหอมผู้ชายที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความสดชื่นของท้องทะเลและธรรมชาติใต้น้ำ กลิ่นอยู่ในโทน Aqua ให้ความรู้สึกสะอาด สดชื่น และเย็นสบาย เปิดมาด้วยกลิ่นสดชื่นจากส้มและส้มแมนดาริน สดชื่นจากผสมกับกลิ่นกลางอย่างดอกส้มและพืชสมุนไพรทะเล ก่อนจะปิดจบด้วยเบสโน้ตของมัสก์และไม้สน
- โทนกลิ่น : กลิ่นโทน Aqua สะอาด สดชื่น
- ราคา : 100 ml. / 5,250 บาท
- ช้อปออนไลน์ : Central, Konvy, Lazada
น้ำหอมแบรนด์ผู้ชายจาก Diptyque กลิ่นนี้โดดเด่นด้วยความหอมแบบยูนีคอยู่ในโทน Floral-Musk ให้ฟีลนุ่ม ๆ เซ็กซี่แบบเบา ๆ ได้แรงบันดาลใจจากความหอมอ่อน ๆ ของผิวหนัง กลิ่นเปิดด้วยดอกไม้และเครื่องเทศอ่อน ๆ กลางน้ำหอมจะมีโน้ตของมัสก์และแอมบร็อกซานที่ทำให้กลิ่นอบอุ่นและมีมิติ ส่วนเบสโน้ตช่วยให้ติดผิวดีและละมุนสุด ๆ
- โทนกลิ่น : โทน Floral-Musk หอมละมุนปนเซ็กซี่
- ราคา : 75 ml. / 10,200 บาท
- ช้อปออนไลน์ : King Power, Central
“สดชื่น เท่ และติดทน” เป็นนิยามของน้ำหอมผู้ชาย Dolce & Gabbana ตัวนี้เป็นเวอร์ชันเข้มข้นของ Light Blue Pour Homme ให้ฟีล Citrus-Aromatic สดชื่น เย็นสบาย แต่แฝงพลังแบบผู้ชายมั่นใจ กลิ่นเปิดมากับส้มซิตริสและเกรปฟรุต สดชื่นจนอยากฉีดซ้ำ กลางน้ำหอมมีโรสแมรี่และพริกไทยเพิ่มความเท่และคาแรกเตอร์ ส่วนเบสโน้ตเป็นมัสก์ ไม้ซีดาร์ และแอมเบอร์ ทำให้กลิ่นติดผิวดีและอบอุ่น
- โทนกลิ่น : โทน Citrus-Aromatic สดชื่น เย็นสบาย
- ราคา : 100 ml. / 4,700 บาท
- ช้อปออนไลน์ : Sephora, Beautrium, Konvy
น้ำหอมกลิ่นผู้ชายในตำนานจากแบรนด์ Calvin Klein ที่เป็นสัญลักษณ์ของความเยาว์วัย บริสุทธิ์ และมั่นใจแบบไม่แบ่งเพศ เพราะเค้ามาพร้อมกลิ่นหอมแบบ Unisex ใช้ได้ทุกเพศ เปิดมาด้วยกลิ่นหอม สดชื่น ๆ แนวซิตรัส ผสมชาเขียว มะละกอ และมะกรูด ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและสดใส กลิ่นกลางน้ำหอมจะมีลูกจันทน์เทศ กระวาน และดอกกุหลาบเพิ่มความนุ่มละมุน ส่วนเบสโน้ตเป็นมัสค์และอำพันให้ฟีลอบอุ่น ใช้แล้วรู้สึกสะอาด สดชื่น และทันสมัย

ผู้ชายสายสปอร์ตที่ชอบกลิ่นหอมสดชื่น เย็นสบาย แต่มีพลัง ต้องลอง ISSEY MIYAKE กลิ่นนี้เลยค่ะ เพราะเค้าเป็นเวอร์ชันสปอร์ตของรุ่นคลาสสิก L'Eau D'Issey Pour Homme อยู่ในโทน Aquatic-Citrus ใช้แล้วฟีลกระปรี้กระเปร่าเหมาะกับวันทำงานวันชิลล์ ๆ หรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง กลิ่นแรกเปิดมาด้วยเกรปฟรุต มะนาว และพริกไทย สดชื่นสุด ๆ กลางน้ำหอมมี ลาเวนเดอร์และพืชสมุนไพร เพิ่มความสะอาดและเท่ ส่วนฐานเป็นมัสค์ ไม้ซีดาร์ และแอมเบอร์ ให้ความรู้สึกอบอุ่น
- โทนกลิ่น : โทน Aquatic-Citrus สดชื่น เย็นสบาย
- ราคา : 75 ml. / 3,200 บาท
- ช้อปออนไลน์ : Sephora
น้ำหอมผู้ชายระดับตำนานจาก Davidoff ที่มาในโทน Aqua ใช้แล้วฟีลเหมือนมีลมทะเลพัดผ่านให้ความสดชื่นสุด ๆ เหมาะกับวันทำงาน และวันพักผ่อนสบาย ๆ เปิดมากับมินต์ ลาเวนเดอร์ และส้ม สดชื่นจนอยากฉีดซ้ำ ผสานกลิ่นกลางจากพืชสมุนไพรและดอกไม้ เพิ่มความสะอาดและนุ่มละมุน ส่วนฐานเป็นมัสค์ ไม้ซีดาร์ และแอมเบอร์ นอกจากจะให้ความรู้สึกอบอุ่นแล้ว ยังทำให้กลิ่นติดผิวดีอีกด้วย

สำหรับหนุ่ม ๆ ที่รักในการผจญภัยและดื่มด่ำกับธรรมชาติ ต้องลองน้ำหอมกลิ่นผู้ชาย Giorgio Armani กลิ่นนี้เลยค่ะ ด้วยกลิ่นท็อปโน้ตหอมสดชื่นจากมะนาว มะกรูด และส้มซิตรัส ให้ความรู้สึกกระปรี้กระเปร่า สดใสสุด ๆ ผสานกลิ่นกลางจากดอกไม้และสมุนไพร เพิ่มความนุ่มละมุนและเท่ ปิดท้ายด้วยมัสค์ ไม้ซีดาร์ และแอมเบอร์ ที่ถ่ายทอดความเป็นชายที่เท่แต่เรียบง่าย ผ่อนคลาย ฟีลผู้ชายอบอุ่น
- โทนกลิ่น : กลิ่นหอมสะอาด สดชื่น แฝงไปด้วยความเท่
- ราคา : 125 ml. / 5,300 บาท
- ช้อปออนไลน์ : Central, Sephora, Konvy
-----------------------
Cosmenet* Smart Beauty รีวิวดีบอกต่อ
-----------------------
ไม่ว่าจะชอบกลิ่นสดชื่น คลีน นุ่มละมุน หรือเท่แบบแมน ๆ ทั้ง 10 น้ำหอมที่เราแนะนำล้วนช่วยเสริมบุคลิกให้ดูดี มีสไตล์ และติดทนตลอดวัน เลือกกลิ่นที่ใช่แล้วหยิบมาใช้ทุกวัน นอกจากจะช่วยเสริมลุคแล้ว ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจในทุกลุคและทุกโอกาสด้วย
อ่านคอนเทนต์แนะนำน้ำหอมอื่น ๆ เพิ่มเติมคลิกเลย!