บอกต่อ! 11 ยาสีฟันสมุนไพร ยี่ห้อไหนดี แก้ปวดฟัน ลดอาการเหงือกบวมอักเสบ
สาระน่ารู้

Chompink ผู้ช่วย AI ที่เชื่อมโยงผู้บริโภคกับแบรนด์เครื่องสำอาง ในยุค 2025

82
22 พ.ค. 2568

Chompink ผู้ช่วย AI ที่เชื่อมโยงผู้บริโภคกับแบรนด์เครื่องสำอาง ในยุค 2025


         ตอนนี้ AI กำลังเข้ามาเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมความงามอย่างรวดเร็ว และหนึ่งใน AI Beauty Assistant ที่น่าจับตามองคือ Chompink ที่พัฒนาโดยเว็บไซต์ Cosmenet เว็บไซต์จัดอันดับเครื่องสำอางและสกินแคร์ที่มีรีวิวจากผู้ใช้จริง ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยผู้บริโภคเลือกเครื่องสำอางและสกินแคร์ได้ตรงกับความต้องการมากที่สุด พร้อมช่วยแบรนด์เพิ่ม Engagement กับลูกค้า

Chompink มีความสามารถอะไรบ้าง 
และช่วยแบรนด์เครื่องสำอางได้อย่างไร ? วันนี้ Cosmenet* สรุปมาให้อ่านกันค่ะ


         ก่อนอื่นเลยต้องเล่าให้ฟังก่อนว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคค่อนข้างเปลี่ยนไปอย่างมาก หลายคนให้ความสำคัญกับรีวิวจากผู้ใช้จริง และมองหาคำแนะนำที่ Personalized ตรงกับปัญหาผิวหรือความต้องการเฉพาะตัวมากขึ้น นอกจากนี้ผู้บริโภคยังคาดหวังประสบการณ์ที่ดีขึ้นจากแบรนด์อีกด้วย ซึ่งนี่ถือเป็นความท้าทายสำคัญที่แบรนด์เครื่องสำอางต้องเผชิญ

         ทำให้เทรนด์ที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมความงามตอนนี้ คือการนำ AI มาใช้ในการเพิ่มประสบการณ์การซื้อสินค้า ไม่ว่าจะเป็น Personalized Recommendation, การวิเคราะห์รีวิวจากผู้ใช้, หรือแม้แต่การค้นหาสินค้าผ่านภาพ ซึ่ง AI ไม่เพียงแต่ช่วยให้แบรนด์เข้าใจลูกค้าได้ดีขึ้น แต่ยังช่วยเพิ่มโอกาสในการปิดการขายและสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าในระยะยาว เช่นเดียวกับ Chompink AI จาก Cosmenet ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้โดยเฉพาะ


Chompink คืออะไร ?


Chompink เป็น AI Beauty Assistant ที่พัฒนาโดย Cosmenet* ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อเป็น "ผู้ช่วยความงามส่วนตัว" ที่ช่วยแนะนำผลิตภัณฑ์สกินแคร์และเครื่องสำอางที่เหมาะสมกับแต่ละคน โดยใช้ฐานข้อมูลจากเว็บไซต์ Cosmenet แพลตฟอร์มที่รวบรวมรีวิวจากผู้ใช้จริง กว่า 10,000 คน และมากกว่า 100,000 รีวิว (*ข้อมูลอัปเดต ณ วันที่ 22 พฤษภาคม 2568) ทำให้การแนะนำจาก Chompink มีความแม่นยำและเชื่อถือได้มากขึ้น

มากกว่านั้น Chompink ไม่ใช่แค่ Chatbot ธรรมดา แต่เป็น AI Beauty Expert ที่สามารถเข้าใจความต้องการของผู้บริโภค และช่วยให้แบรนด์สามารถเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านฟีเจอร์สำคัญ ดังนี้


1. Personalized Beauty Recommendation - การแนะนำความงามแบบเฉพาะบุคคล

         หนึ่งในจุดแข็งของ Chompink คือ การแนะนำผลิตภัณฑ์แบบเฉพาะบุคคล (Personalized Beauty Recommendation) โดยระบบ AI ของ Chompink จะสามารถวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับ สภาพผิว ปัญหาผิว และความต้องการเฉพาะของแต่ละคน ผ่านการโต้ตอบกับผู้ใช้ และประมวลผลข้อมูลจากฐานรีวิวจริงของ Cosmenet

         ยกตัวอย่างเช่น หากผู้ใช้มีปัญหาผิวแห้งและต้องการมอยส์เจอร์ไรเซอร์ Chompink จะเลือกแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับปัญหานี้ พร้อมอธิบายจุดเด่นของแต่ละผลิตภัณฑ์ ถ้าเป็นคนที่มีผิวแพ้ง่าย Chompink จะเลือกเฉพาะสินค้าที่ไม่มีสารก่อการระคายเคือง พร้อมรีวิวที่ครอบคลุมทั้งข้อดีและข้อควรระวัง จากผู้ใช้ที่มีปัญหาผิวหรืออยู่ในกลุ่มเป้าหมายเดียวกัน

         นอกจากการแนะนำผลิตภัณฑ์แล้ว Chompink ยังช่วยให้แบรนด์สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ใช่ ได้อย่างแม่นยำ และเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้อีกด้วย


2. AI-driven Product Insights - ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI

         Chompink ไม่เพียงแค่ช่วยให้ผู้บริโภคเลือกสินค้าที่เหมาะกับตัวเองเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับแบรนด์ ด้วยการดึงข้อมูลจากรีวิวของผู้ใช้จริง และนำมาประมวลผลเพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกที่สามารถนำไปใช้ต่อยอดได้

         ยกตัวอย่างเช่น Chompink สามารถตรวจจับแนวโน้มของผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยม เช่น สินค้าที่กำลังเป็นที่พูดถึงมากที่สุด หรือฟีดแบคจากผู้บริโภคเกี่ยวกับสินค้าชิ้นนั้น ๆ เป็นอย่างไร โดยแบรนด์สามารถใช้ข้อมูลเชิงลึกนี้ ในการปรับปรุงสูตร พัฒนาโปรดักต์ใหม่ หรือกำหนดกลยุทธ์ทางการตลาดให้ตรงกับความต้องการของตลาดได้แม่นยำมากขึ้น


3. Search by Image - การค้นหาสินค้าด้วยภาพ

         หนึ่งในฟีเจอร์ที่เพิ่มความสะดวกให้กับผู้บริโภคมากขึ้นคือ การค้นหาสินค้าด้วยภาพ (Search by Image) ซึ่งทำให้การหาผลิตภัณฑ์เป็นเรื่องง่ายกว่าที่เคย

         ยกตัวอย่างเช่น ผู้ใช้สามารถอัปโหลดภาพของผลิตภัณฑ์ที่สนใจ ไม่ว่าจะเป็นภาพจากอินเทอร์เน็ต ภาพจากรีวิว หรือแม้แต่ภาพจากกล้องมือถือของตัวเอง หลังจากนั้น Chompink จะใช้ AI วิเคราะห์ภาพและ ค้นหาผลิตภัณฑ์ที่คล้ายกัน จากฐานข้อมูลของ Cosmenet พร้อมให้ข้อมูลรายละเอียดของสินค้านั้น ๆ รวมถึงหยิบรีวิวจากผู้ใช้จริงคนอื่น ๆ มาให้ผู้ใช้งานได้อ่านด้วย

         ซึ่งฟีเจอร์นี้จะช่วยเพิ่มโอกาสให้แบรนด์เครื่องสำอางสามารถถูกค้นพบได้มากขึ้น โดยเฉพาะในหมู่ผู้บริโภคที่ยังไม่มีสินค้าหรือแบรนด์ในใจ


4. AI ที่เชื่อมแบรนด์กับผู้บริโภคโดยตรง

         Chompink ไม่ได้เป็นเพียงแค่ AI ที่แนะนำสินค้า แต่ยังเป็นช่องทางที่เอาไว้เชื่อมต่อระหว่างแบรนด์และผู้บริโภคได้โดยตรง ซึ่งช่วยให้แบรนด์สามารถทำตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

         ยกตัวอย่างเช่น Chompink สามารถแสดงโปรโมชัน ข่าวสาร และข้อมูลสินค้า จากแบรนด์ที่ลงโฆษณาบน Cosmenet ได้แบบเรียลไทม์ อีกทั้งหากมีสินค้าที่กำลังลดราคาหรือมีโปรพิเศษ Chompink ก็สามารถแจ้งเตือนผู้ใช้ที่มีความสนใจในสินค้านั้น ๆ ได้โดยตรง ซึ่งจะช่วยเพิ่ม Conversion Rate (อัตราการเปลี่ยนจากผู้ชมเป็นลูกค้า) และเพิ่มโอกาสในการปิดการขายให้กับแบรนด์นั้น ๆ ได้




อะไรที่ทำให้ Chompink แตกต่างจาก AI ตัวอื่นในตลาด ?


อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจสงสัยว่า น้อง Chompink มีจุดเด่นอะไรที่ทำให้แตกต่างจาก AI ตัวอื่นในตลาด ? คำตอบคือ Chompink ไม่ใช่แค่ AI ทั่วไป แต่ถูกพัฒนาให้เป็น AI Beauty Expert ที่เข้าใจอุตสาหกรรมความงามเชิงลึก และสามารถช่วยทั้งผู้บริโภคและแบรนด์ความงามได้อย่างแม่นยำ ผ่าน 3 จุดเด่น ได้แก่

  • เจาะลึกด้านความงามโดยเฉพาะ

         Chompink ไม่ใช่ AI อเนกประสงค์ แต่ถูกออกแบบมาให้เป็น Beauty Expert ที่มีความเชี่ยวชาญด้าน เครื่องสำอางและสกินแคร์โดยเฉพาะ โดยระบบ AI ของ Chompink จะสามารถวิเคราะห์จุดเด่นหรือคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ แนวโน้มความนิยมของผู้บรโภค และความเหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล ทำให้การแนะนำผลิตภัณฑ์มีความแม่นยำและตรงจุดกว่าการค้นหาข้อมูลทั่วไป

  • ใช้รีวิวจากผู้ใช้จริงเพื่อความแม่นยำสูง

         แทนที่จะดึงข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตแบบ AI ทั่วไป แต่ Chompink จะใช้ฐานข้อมูลรีวิวจากผู้ใช้จริงบน Cosmenet ซึ่งเป็นรีวิวจากผู้บริโภคที่มีประสบการณ์การใช้งานจริง ทำให้ Chompink สามารถให้คำแนะนำที่ละเอียด แม่นยำ และน่าเชื่อถือ มากกว่าการอ้างอิงข้อมูลจากโฆษณาหรือรีวิวที่ไม่ผ่านการคัดกรอง

  • รองรับภาษาไทยแบบเป็นธรรมชาติ

         AI ทั่วไปอาจมีข้อจำกัดเรื่องภาษาไทย แต่ Chompink ถูกพัฒนาให้ใช้ Natural Language Processing (NLP) ขั้นสูง ทำให้สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้ภาษาไทยได้ลื่นไหล เป็นธรรมชาติ และให้ความรู้สึกเหมือนคุยกับ Beauty Advisor ตัวจริง ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้นกว่าเดิม




Chompink กับโอกาสสำหรับแบรนด์เครื่องสำอาง


Chompink ไม่ใช่แค่ผู้ช่วยเลือกผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังเป็น เครื่องมือทางการตลาดอัจฉริยะ ที่ช่วยให้แบรนด์ เครื่องสำอาง นักการตลาด และเอเจนซีสามารถ เข้าถึงลูกค้าได้ตรงกลุ่ม สร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่เป็นส่วนตัว และเพิ่มอัตราการปิดการขาย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แล้ว Chompink สามารถช่วยใครได้บ้าง ? มาดูกัน

1. สำหรับแบรนด์เครื่องสำอาง

  • ช่วยเพิ่ม Engagement กับลูกค้า : Chompink ช่วยให้แบรนด์สามารถ สื่อสารและโต้ตอบกับลูกค้าแบบเฉพาะบุคคล (Personalized Interaction) ผ่านคำแนะนำที่ตรงกับ สภาพผิว ความต้องการ และพฤติกรรมของผู้ใช้ ทำให้ลูกค้ารู้สึกได้รับการดูแลเป็นพิเศษ และสร้างความผูกพันกับแบรนด์มากขึ้น
  • ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้เร็วขึ้น : ด้วยคำแนะนำที่แม่นยำจาก AI Chompink ช่วยให้ลูกค้าพบ ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ได้อย่างรวดเร็ว ลดความลังเลในการเลือกซื้อ ลดระยะเวลาในการตัดสินใจ และช่วยให้แบรนด์สามารถเพิ่ม Conversion Rate ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าในระยะยาวด้วย AI : Chompink ไม่เพียงช่วยปิดการขายในระยะสั้น แต่ยังสามารถ วิเคราะห์และจดจำพฤติกรรมของลูกค้า เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ คำแนะนำ หรือโปรโมชั่นที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล สร้าง Customer Journey ที่ต่อเนื่อง ทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ และสร้าง Brand Loyalty ในระยะยาว

2. สำหรับนักการตลาดสายความงาม

  • ช่วยยกระดับ Personalized Marketing ด้วย AI : Chompink ช่วยให้นักการตลาดสามารถสร้างแคมเปญที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่มได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การส่งโปรโมชันเฉพาะบุคคล หรือ การปรับแต่งเนื้อหาให้เหมาะกับลูกค้าแต่ละประเภท ทำให้การสื่อสารของแบรนด์มีประสิทธิภาพและตรงใจลูกค้ามากขึ้น
  • ใช้ Data-driven Insights เพื่อปรับกลยุทธ์การตลาด : ข้อมูลเชิงลึกที่ Chompink วิเคราะห์จะช่วยให้นักการตลาดเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค แนวโน้มตลาด และความต้องการของลูกค้าได้อย่างละเอียด ซึ่งช่วยให้แบรนด์นำไปปรับกลยุทธ์ได้แม่นยำขึ้น อีกทั้งยังช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย

3. สำหรับพนักงานในบริษัทเครื่องสำอาง

  • ลดภาระของทีม Customer Support ด้วย AI : Chompink สามารถตอบคำถามเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และแนะนำสินค้าที่เหมาะสมได้แบบอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยลดภาระงานที่เป็น Routine หรืองานที่ต้องคอยตอบคำถามซ้ำ ๆ ของทีม Customer Support อีกทั้ง Chompink ยังช่วยจัดการคำถามทั่วไปได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ทีมสามารถโฟกัสกับงานที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญและการดูแลลูกค้าเชิงลึกมากขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ยกระดับ Customer Experience ให้ดียิ่งขึ้น : ด้วยความสามารถของ Chompink ในการให้คำแนะนำที่แม่นยำ ตรงจุด และรวดเร็ว ส่งผลให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้นในทุกขั้นตอนของการเลือกซื้อสินค้า ซึ่งส่งผลให้เกิด Brand Loyalty และเพิ่มโอกาสที่ลูกค้าจะกลับมาซื้อซ้ำในระยะยาว

4. สำหรับ Agency การตลาด

  • ยกระดับแคมเปญโฆษณาด้วย AI-driven Insights : Chompink สามารถวิเคราะห์แนวโน้มตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคแบบเรียลไทม์ ช่วยให้ Agency ออกแบบแคมเปญโฆษณาที่ตรงกลุ่มเป้าหมายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดการลองผิดลองถูก และเพิ่ม ROI ของแคมเปญได้อย่างชัดเจน
  • นำเสนอแนวทางใหม่ให้ลูกค้าแบรนด์เครื่องสำอาง : Agency สามารถใช้ Chompink ทำการตลาดเพื่อเสิร์ฟลูกค้าต่อได้ เช่น

- AI-powered Content หรือการใช้ AI สร้างและปรับแต่งคอนเทนต์ให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย เช่น แนะนำบทความเกี่ยวกับเทรนด์ความงาม ช่วยปรับแต่งแคปชันโฆษณาแบบเฉพาะบุคคล หรือสร้างวิดีโอรีวิวสินค้าโดยอัตโนมัติจากข้อมูลผู้ใช้จริง

- Chatbot Chatbot-based Engagement หรือการใช้ Chatbot อัจฉริยะ ที่สามารถตอบคำถามเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์แบบเรียลไทม์ ให้คำแนะนำเรื่องการเลือกสินค้าตามสภาพผิว หรือช่วยปิดการขายโดยแนะนำโปรโมชั่นที่เหมาะกับลูกค้าแต่ละราย

- Dynamic Product Recommendations หรือการใช้ AI วิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค เช่น ประวัติการซื้อสินค้า การค้นหา และการอ่านรีวิว เพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าแบบอัตโนมัติ

         ทั้งหมดนี้ทำให้ Chompink ไม่เพียงช่วยให้แบรนด์เข้าถึงลูกค้าได้แบบ Personalized แต่ยังยกระดับ Customer Experience ให้โดดเด่นเหนือคู่แข่ง และทำให้แบรนด์สามารถแข่งขันในตลาดความงามที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย


อนาคตของ AI ในอุตสาหกรรมความงาม


         เมื่อก่อนการปรับแต่งเฉพาะบุคคลในอุตสาหกรรมความงาม อาจหมายถึงการเลือกเฉดสีลิปสติกที่เข้ากับชุดโปรด หรือเลือกสกินแคร์ตามประเภทผิวแบบกว้าง ๆ แต่วันนี้ AI (Artificial Intelligence) กำลังเปลี่ยนทุกอย่าง จากการเลือกสีลิปสติก สู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ "เข้าใจ" ผิวของคุณจริง ๆ โดย AI ไม่ได้แค่ช่วยให้แบรนด์สามารถเสนอสินค้าให้ลูกค้าได้ตรงใจมากขึ้น แต่มันสามารถวิเคราะห์สภาพผิว สภาพอากาศ และพฤติกรรมการซื้อ เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับแต่ละบุคคลได้แบบเรียลไทม์ และอีกหนึ่งในเทคโนโลยีที่ทำให้ AI ทรงพลังยิ่งขึ้นก็คือ AR (Augmented Reality) ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถลองเครื่องสำอางผ่านหน้าจอ หรือแม้แต่จำลองทรงผมใหม่ ๆ โดยไม่ต้องสัมผัสผลิตภัณฑ์จริง

         มากไปกว่านั้น AI ไม่ได้แค่ช่วยลองสีเมคอัพ แต่สามารถสแกนและวิเคราะห์สภาพผิวอย่างลึกซึ้ง ตั้งแต่ระดับความชุ่มชื้น จุดด่างดำ ริ้วรอย ไปจนถึงการคาดการณ์แนวโน้มปัญหาผิวในอนาคต ทำให้แบรนด์สามารถ พัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้อย่างแม่นยำและเฉพาะบุคคลยิ่งขึ้น

         นอกจากนี้ ข้อมูลจาก InsightAce Analytic ยังระบุว่าตลาด AI ในอุตสาหกรรมความงาม มีมูลค่า 3.22 พันล้านดอลลาร์ในปี 2022 และคาดว่าจะพุ่งสูงถึง 15.75 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2031 เติบโตด้วยอัตราเฉลี่ย 19.6% ต่อปี (อัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี ของตลาดในช่วงระหว่างปี 2023 ถึง 2031)

         เห็นแล้วว่า AI ไม่ใช่แค่ช่วยให้แบรนด์ขายสินค้าได้มากขึ้น แต่มันกำลังเปลี่ยนแปลงวิธีที่ผู้บริโภคมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ ทำให้ความงามไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของผลิตภัณฑ์อีกต่อไป แต่กลายเป็น "ประสบการณ์" ที่ออกแบบมาเพื่อลูกค้าโดยเฉพาะแทน

         ซึ่ง Chompink เองก็ไม่ได้เป็นเพียงแค่ AI ที่ช่วยผู้บริโภคค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ตรงใจ แต่ยังเป็นเครื่องมือทางธุรกิจอัจฉริยะ สำหรับแบรนด์เครื่องสำอาง นักการตลาด และเอเจนซี่ ด้วยข้อมูลเชิงลึกจากพฤติกรรมผู้บริโภค Chompink จะช่วยให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ พร้อมนำเสนอสินค้าและโปรโมชั่นแบบ Hyper-Personalization ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่ม และเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

         สุดท้ายแล้ว AI ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือในการค้นหาสินค้าอีกต่อไป แต่กำลังก้าวขึ้นมาเป็นหัวใจสำคัญในการเชื่อมต่อแบรนด์กับลูกค้าในระดับที่ลึกซึ้งกว่าเดิม และในตลาดที่การแข่งขันสูงขึ้นเรื่อย ๆ แบรนด์ที่นำ AI มาใช้ก่อน ย่อมได้เปรียบก่อน..


ถ้าอยากรู้ว่า Chompink AI สามารถช่วยแบรนด์ทำการตลาดได้อย่างไร ?
ลองให้ Chompink เป็นผู้ช่วยแนะนำสินค้าของคุณดูสิ


-----------------------
Cosmenet* Smart Beauty รีวิวดีบอกต่อ
ค้นหารีวิวเครื่องสำอาง สกินแคร์ แบบจริงใจได้ที่นี่ www.cosmenet.in.th
-----------------------


อ่านบทความด้านการตลาดเครื่องสำอางอื่น ๆ คลิก

สนใจลงโฆษณากับ Cosmenet* ติดต่อได้ที่
  • กรอกข้อมูลเพื่อให้ทีมงานติดต่อกลับ >> คลิก!
  • ติดต่อสอบถามผ่านช่องทาง Inbox Facebook
  • E-mail : pr@cosmenet.in.th / Tel. 089-515-9530 (คุณหมวย)

What's new
เจาะลึก BSC Authentiq Collection เมคอัพที่ตอบโจทย์สาว ๆ ยุคใหม่พาส่อง 5 อันดับครีมทาฝ้า กระ จุดด่างดำ ที่รีวิวจากผู้ใช้จริงยกให้เป็นลูกรักตามรอยตัวมัม! รีวิว HAUS LABS by Lady Gaga เมคอัพที่สายบิวตี้ไม่ควรพลาดFIIT Cosmetics เปิดตัวดีไซน์ใหม่ ยกระดับความทันสมัยและใส่ใจสิ่งแวดล้อมChompink ผู้ช่วย AI ที่เชื่อมโยงผู้บริโภคกับแบรนด์เครื่องสำอาง ในยุค 20259 ครีมนวดผมสีม่วง บำรุงผมนุ่มลื่น พร้อมล็อกสีผมให้ติดทนนาน10 แชมพูม่วง ยี่ห้อไหนดี สำหรับผมทำสี ล็อคสีผมให้ติดแน่น หมดปัญหาสีหลุด!ดูดวงความรัก การงาน การเรียน การเงิน ระหว่าง 18 - 24 พ.ค 68 (ทุกราศี) 5 เคล็ดลับดูแลผมช่วงหน้าฝน ให้สวยเป๊ะไม่ชี้ฟู อากาศจะชื้นแค่ไหนก็ไม่หวั่น!ชวนสาว ๆ มาเป็น Beauty Tester ร่วมรีวิวและทดลองใช้สกินแคร์ เมคอัพแบรนด์ดังฟรี !!
COMMENTS
3 ความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
Thanks
22 พ.ค. 2568 เวลา 21:27 น.
ความคิดเห็นที่ 2
ขอบคุณค่ะ
22 พ.ค. 2568 เวลา 20:59 น.
ความคิดเห็นที่ 1
ขอบคุณค่ะ
22 พ.ค. 2568 เวลา 15:55 น.