กิจกรรม :: ชวนยิ่งขยับยิ่งหอมกับ g&h Protect Antiperspirant Deodorant Roll-On สูตรใหม่! จำนวน 50 รางวัล
รีวิว

เทียบชัด 3 ครีมลดริ้วรอยตัวดัง เลือกแบบไหนให้เหมาะกับผิวที่สุด

158
11 ธ.ค. 2568
เทียบชัด 3 ครีมลดริ้วรอยตัวดัง เลือกแบบไหนให้เหมาะกับผิวที่สุด

ริ้วรอยมักโผล่มาเหมือนสัญญาณเล็ก ๆ ที่เตือนว่าผิวกำลังเปลี่ยนไป ทั้งหมดนี้เกิดจากผิวที่เริ่มเสียสมดุล ความยืดหยุ่นลดลง ความชุ่มชื้นหายไป และคอลลาเจนสร้างตัวช้าลงตามวัย แต่ข่าวดีคือริ้วรอยไม่ใช่จุดจบของผิวสวย หากเลือกและใช้ครีมลดริ้วรอยได้อย่างเหมาะสม ผิวยังฟื้นตัวได้และกลับมาดูเรียบแน่นขึ้นอย่างเห็นผล

วันนี้ Cosmenet* ขออาสาพาเพื่อน ๆ มาเจาะลึกให้ดูกันแบบชัด ๆ ว่าครีมลดริ้วรอยที่ใช่ต้องคำนึงถึงเรื่องอะไรบ้าง? ไปดูกันเล้ยย


วิธีเลือกครีมลดริ้วรอยให้เหมาะกับสภาพผิว


เป้าหมายของครีมลดริ้วรอยไม่ใช่แค่ “ลดเส้นที่เราเห็น” แต่คือทำให้ผิวกลับมาดูแน่น เด้ง และมีชีวิตชีวาอีกครั้ง ซึ่งกุญแจสำคัญคือ “ต้องเลือกสูตรที่ทำงานเข้ากับผิวของเรา” ให้เหมือนเลือกคู่หูที่ไปด้วยกันได้ ไม่ใช่ไปเพิ่มภาระผิวจนกลายเป็นปัญหาใหม่

นี่คือคู่มือเลือกครีมลดริ้วรอยแบบตรงจุดสำหรับแต่ละสภาพผิวที่เตรียมไว้ให้ครบ จบ อ่านแล้วเลือกได้ทันที

1. ผิวผสม–ผิวมันมาก

สิ่งที่ควรเลือกสำหรับคนผิวผสม-ผิวมันมาก

ให้โฟกัสไปที่สูตรเบาบางที่สุดเท่าที่จะหาได้ เช่น Oil-Free, Water-Based หรือเนื้อเจล / เจลครีม เพราะเนื้อแบบนี้จะซึมซาบไว ไม่ทิ้งความมัน และช่วยลดความเสี่ยงเรื่องรูขุมขนอุดตัน

สิ่งที่ควรเลี่ยงสำหรับคนผิวผสม-ผิวมันมาก
ครีมเนื้อสัมผัสหนักที่มีความเข้มข้นแบบแน่น ๆ หรือสูตรที่มีความมันสูง เพราะจะทำให้ผิวมันกว่าเดิมและอาจอุดตันจนเกิดสิวได้ง่าย

2. ผิวแห้ง–ผิวขาดน้ำ

สิ่งที่ควรเลือกสำหรับคนที่ผิวแห้ง–ผิวขาดน้ำ จะต้องการความชุ่มชื้นแบบกอดเต็ม ๆ ให้เลือกครีมลดริ้วรอยที่มีเนื้อเข้มข้นสูง ที่ช่วยเติมและล็อกความชุ่มชื้นยาวนาน ส่งผลให้ผิวอิ่มฟู พวกริ้วรอยก็จะดูตื้นขึ้นด้วย

สิ่งที่ควรเลี่ยงสำหรับคนที่ผิวแห้ง–ผิวขาดน้ำ อย่าเลือกครีมที่มีเนื้อสัมผัสเป็นเจลบางเบามาก เพราะอาจให้ผิวได้รับความชุ่มชื้นไม่เพียงพอ และควรหลีกเลี่ยงสูตรที่มีแอลกอฮอล์หรือสารที่ทำให้ผิวแห้งเกินไป เพราะจะยิ่งทำให้ริ้วรอยชัดขึ้น

3. ผิวธรรมดา

สิ่งที่ควรเลือกสำหรับคนผิวธรรมดา ข้อดีของผิวธรรมดาคือเลือกง่ายที่สุด แค่เลือกครีมลดริ้วรอยที่ให้ความชุ่มชื้นกำลังดี เนื้อไม่หนักไม่เบา และมีส่วนผสมช่วยให้ผิวยืดหยุ่น เช่น Peptides, Ceramide หรือ Hyaluronic Acid ก็เอาอยู่!

สิ่งที่ควรเลี่ยงสำหรับคนผิวธรรมดา ควรหลีกเลี่ยงครีมลดเลือนริ้วรอยสูตรที่เนื้อหนักเกินไปจนทำให้ผิวมัน หรือสูตรที่มีสารระคายเคืองสูงโดยไม่จำเป็น

4. ผิวแพ้ง่าย–ผิวเป็นสิว

สิ่งที่ควรเลือกสำหรับคนผิวแพ้ง่าย–ผิวเป็นสิว ให้เน้นที่สูตรอ่อนโยนเป็นหลัก เช่น Hypoallergenic, Fragrance-Free และ Non-Comedogenic เลือกเนื้อสัมผัสที่บางเบา และส่วนผสมที่มีส่วนช่วยลดเลือนริ้วรอยอย่างอ่อนโยน

สิ่งที่ควรเลี่ยงสำหรับคนผิวแพ้ง่าย–ผิวเป็นสิว ควรเลี่ยงส่วนผสมของน้ำหอม แอลกอฮอล์ หรือครีมลดริ้วรอยที่มีเนื้อสัมผัสหนัก ๆ นี่ข้ามไปได้เลย เพราะเสี่ยงอุดตันง่าย แถมอาจทำให้สิวเห่อ ลอก และระคายเคืองได้ง่าย


ประเภทผิว

สิ่งที่ควรเลือกสิ่งที่ควรเลี่ยง
ผิวผสม–ผิวมันมาก
สูตรเบาบาง ซึมไว ไม่ทิ้งความมัน และช่วยลดความเสี่ยงเรื่องรูขุมขนอุดตัน

ครีมเนื้อสัมผัสหนักที่มีความเข้มข้นแบบแน่น ๆ หรือสูตรที่มีความมันสูง
ผิวแห้ง–ผิวขาดน้ำเลือกครีมที่มีเนื้อเข้มข้นสูง เน้นเติมและล็อกความชุ่มชื้นยาวนาน
อย่าเลือกครีมที่มีเนื้อบางเบามาก เพราะอาจทำให้ผิวได้รับความชุ่มชื้นไม่เพียงพอ

ผิวธรรมดา

ครีมที่ให้ความชุ่มชื้นกำลังดี
เนื้อไม่หนัก และมีส่วนช่วยให้ผิวยืดหยุ่น

ควรหลีกเลี่ยงครีมลดเลือนริ้วรอยสูตรที่เนื้อหนักเกินไปจนทำให้ผิวมัน
ผิวแพ้ง่าย–ผิวเป็นสิว
เน้นสูตรอ่อนโยน เนื้อสัมผัสบางเบา และส่วนผสมอ่อนโยนต่อผิว


ควรเลี่ยงส่วนผสมของน้ำหอม แอลกอฮอล์ หรือครีมที่มีสัมผัสหนัก 


สารบำรุงที่ควรมองหาเมื่อต้องเลือกครีมลดริ้วรอย


เทียบชัด 3 ครีมลดริ้วรอยตัวดัง เลือกแบบไหนให้เหมาะกับผิวที่สุด

หลายคนจะเจอคำเคลมสวย ๆ เต็มไปหมด แต่หัวใจหลักของครีมลดเลือนริ้วรอยนั้นไม่ได้อยู่ที่คำโฆษณา แต่ขึ้นอยู่กับ “สารบำรุง” ที่ทำงานกับผิวได้จริง ถ้าได้ตัวจึ้งก็ถือว่าชนะครึ่งทางแล้วเรามาดูกันดีกว่าว่าสารบำรุงตัวไหนที่ควรมองหากัน

  • Retinol / Retinoids : แม่ทัพใหญ่ของจักรวาลลดเลือนริ้วรอย เพราะมีส่วนช่วยผลัดเซลล์ผิว เสริมสร้างคอลลาเจน และทำให้ผิวแน่นขึ้นแบบรู้สึกได้ สายริ้วรอยเส้นเล็ก ๆ มีร่องใต้ตา หรือความหย่อน จบได้ด้วยเรตินอลถ้าใช้ถูกวิธี
  • Ceramides : กองทัพปราการผิวที่ช่วยเสริมเกราะป้องกันไม่ให้ผิวสูญเสียน้ำ พร้อมลดการระคายเคืองและทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น เมื่อผิวชุ่มชื้นและเสถียร ริ้วรอยเล็ก ๆ จะดูจางลงและผิวดูอิ่มฟูเป็นพิเศษ
  • Peptides : สารประจำผิวที่ช่วยกระตุ้นให้ผิวซ่อมแซมตัวเองอย่างเป็นระบบ ส่งผลให้ผิวดูยืดหยุ่น กระชับ และเฟิร์มขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อใช้ต่อเนื่อง จุดเด่นคืออ่อนโยน ใช้ได้กับแทบทุกสภาพผิว

รีวิวครีมลดริ้วรอย 3 ยี่ห้อยอดนิยม ตัวไหนเหมาะกับใคร?


1. No7 Pure Retinol Night Repair Cream

เทียบชัด 3 ครีมลดริ้วรอยตัวดัง เลือกแบบไหนให้เหมาะกับผิวที่สุด

No7 Pure Retinol Night Repair Cream เป็นครีมลดเลือนริ้วรอยสำหรับกลางคืนที่ใช้ Pure Retinol เป็นตัวหลัก มุ่งดูแลสัญญาณแห่งวัยทั้ง 10 ประการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องริ้วรอย จุดด่างดำ ผิวแห้ง ผิวทูโทน ความหย่อนคล้อย ขาดความกระชับ หรือผิวที่ดูไม่เรียบเนียน เป็นต้น โดยสูตรนี้ถูกออกแบบให้เรตินอลค่อย ๆ ทำงานอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อฟื้นฟูผิวให้กลับมาดูเนียนใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมลดโอกาสเกิดการระคายเคืองระหว่างการใช้งาน

เทียบชัด 3 ครีมลดริ้วรอยตัวดัง เลือกแบบไหนให้เหมาะกับผิวที่สุด

เรตินอล No7 มีเนื้อสัมผัสของครีมเข้มข้นแต่ไม่หนักผิว เกลี่ยง่ายลื่นมือ และซึมค่อนข้างไว พอเซตตัวแล้วจะทิ้งความนุ่มชุ่มแบบบางเบาไว้บนผิว ไม่เหนอะ ไม่เป็นคราบ และให้ความรู้สึกผิวได้รับการเคลือบด้วยความชุ่มชื้นแบบพอดี ๆ เหมาะสำหรับใช้ก่อนนอน เพื่อให้ผิวได้ฟื้นตัวตลอดคืน

  • จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ : ช่วยดูแลริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็น Pure Retinol ที่อ่อนโยน พร้อมส่วนผสมที่ช่วยปลอบประโลมและเสริมความยืดหยุ่น ทำให้ผิวดูเรียบเนียน กระชับ และสดใสขึ้นแบบเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับใช้ก่อนนอน
  • ส่วนผสมสำคัญ :
    • Pure Retinol : เป็นหัวใจสำคัญในการจัดการริ้วรอยแห่งวัยอย่างตรงจุด
    • Retinol Optimiser : ช่วยผลักเรตินอลให้ซึมเข้าสู่ผิวอย่างช้า ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเรตินอล
    • Retinol Soother : เพื่อให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นและลดการระคายเคือง
    • คอลลาเจนเปปไทด์ MATRIXYL 3000 PLUS™ : คอลลาเจนรูปแบบใหม่ช่วยเสริมความยืดหยุ่นให้ผิวดูแน่นกระชับและเรียบเนียนขึ้น
  • เนื้อสัมผัส : ครีมเข้มข้นแต่ไม่หนักผิว เกลี่ยง่ายลื่นมือ และซึมค่อนข้างไว
  • เหมาะกับผิวแบบไหน : ผิวเป็นสิว , ผิวที่มีริ้วรอยชัดเจนและมีจุดด่างดำ
  • ราคา / ปริมาณ : 1,350 / 50ml

เช็คส่วนลดและช้อปออนไลน์ครีมลดเลือนริ้วรอย No7 คลิกเลย!



2. Innisfree Collagen Green Tea Ceramide Bounce Cream

เทียบชัด 3 ครีมลดริ้วรอยตัวดัง เลือกแบบไหนให้เหมาะกับผิวที่สุด

Innisfree Collagen Green Tea Ceramide Bounce Cream หนึ่งในครีมลดเลือนริ้วรอยที่ทำออกมา เพื่อตอบโจทย์ผิวที่ต้องการฟื้นฟูแบบอ่อนโยน โดยผสานคอลลาเจนเข้มข้นเข้ากับเซราไมด์จากชาเขียว ที่ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิวและเติมความชุ่มชื้นซึมลึกถึงผิว 15 ชั้น* ส่งผลให้ผิวดูยืดหยุ่นขึ้นตามธรรมชาติ เมื่อใช้ต่อเนื่องผิวที่เคยดูไม่กระชับหรือแห้งง่ายจะเริ่มฟื้นแรงขึ้น เหมือนได้คืนความแน่นและความเรียบเนียนกลับมา

เทียบชัด 3 ครีมลดริ้วรอยตัวดัง เลือกแบบไหนให้เหมาะกับผิวที่สุด

เนื้อสัมผัสของครีมลดริ้วรอย Innisfree ตัวนี้เป็นแบบเจล-ครีมที่เบาสบายผิวและซึมไวมาก เกลี่ยแล้วลื่นไปกับผิวทันที ทิ้งสัมผัสชุ่มเด้งแบบไม่เหนอะและไม่มัน เหมาะกับทั้งเช้าและก่อนนอน โดยเฉพาะวันที่ผิวรู้สึกอ่อนล้าใช้แล้วเริ่ด ๆ เลยแหละ

  • จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ : ฟื้นผิวให้กลับมาดูเด้งแน่น ช่วยลดริ้วรอย ช่วยเสริมเกราะผิวและเพิ่มความชุ่มชื้นอย่างยาวนานถึง 72 ชม. ทำให้ผิวดูสดใสและเรียบเนียนขึ้นหลังใช้ 14 วัน เหมาะกับทั้งเช้าและก่อนนอน
  • ส่วนผสมสำคัญ :
    • Green Sea Fingers Collagen : ช่วยเสริมความยืดหยุ่นและความเด้งของผิวให้ดูแน่นขึ้นตามธรรมชาติ
    • Green Tea Ceramide : ช่วยฟื้นฟูเกราะป้องกันผิว กักเก็บความชุ่มชื้น และลดความแห้งกร้าน ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและแข็งแรงขึ้น
  • เนื้อสัมผัส : เนื้อเจล-ครีมที่เบาสบายผิวและซึมไวมาก เกลี่ยแล้วลื่นไปกับผิวทันที
  • เหมาะกับผิวแบบไหน : ผิวแพ้ง่าย , ผิวที่มีริ้วรอยจากการขาดความชุ่มชื้น
  • ราคา / ปริมาณ : 1,429 / 50ml

เช็คส่วนลดและช้อปออนไลน์ครีมลดเลือนริ้วรอย Innisfree คลิกเลย!



3. Olay Regenerist Super Collagen-Peptides Moisturiser

เทียบชัด 3 ครีมลดริ้วรอยตัวดัง เลือกแบบไหนให้เหมาะกับผิวที่สุด

ครีมลดเลือนริ้วรอย Olay Regenerist Super Collagen-Peptides Moisturiser เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการความเด้งกระชับแบบเห็นทีละสเต็ป เพราะมีซุปเปอร์เปปไทด์ถึง 5 ชนิด ที่ช่วยเสริมความยืดหยุ่นให้ผิวค่อย ๆ แน่นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ผสานกับไนอะซินาไมด์บริสุทธิ์ 99% ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นและทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น พอใช้ต่อเนื่อง ผิวที่เคยดูแห้ง ล้า หรือไม่สม่ำเสมอ จะค่อย ๆ ฟื้นกลับมาดูนุ่มฟูและสดใสขึ้นภายใน 28 วัน*

เทียบชัด 3 ครีมลดริ้วรอยตัวดัง เลือกแบบไหนให้เหมาะกับผิวที่สุด

ด้านเนื้อสัมผัสของครีมลดเลือนริ้วรอย Olay ตัวนี้เป็นแบบครีมนุ่มเบา เกลี่ยง่ายและซึมไว ไม่เหนอะ ไม่มัน และให้ฟีลผิวนิ่มเด้งทันทีหลังทา เหมาะทั้งตอนเช้าและก่อนนอน โดยเฉพาะวันที่ผิวดูอ่อนแรง ใช้แล้วคือผิวดูสดใส เตรียมพร้อมสำหรับวันต่อไปได้แบบสวย ๆ

  • จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ : เน้นไปที่การฟื้นผิวให้ดูกระชับและเด้งขึ้น ด้วยซุปเปอร์เปปไทด์ 5 ชนิดที่ช่วยเสริมความยืดหยุ่น พร้อมไนอะซินาไมด์ที่เติมความชุ่มชื้นและปรับผิวให้ดูเรียบเนียน เหมาะกับผิวที่เริ่มอ่อนล้า ไม่กระชับ หรือมีริ้วรอยเล็ก ๆ
  • ส่วนผสมสำคัญ :
    • Super Collagen-Peptides Complex : ช่วยเสริมความยืดหยุ่นให้ผิวเด้ง ฟู และแน่นขึ้นในทุกวัน
    • Niacinamide 99% : ช่วยให้ผิวแข็งแรงชุ่มชื้นยาวนาน 24 ชม. และดูเรียบเนียนสม่ำเสมอมากขึ้น
  • เนื้อสัมผัส : เนื้อครีมนุ่มเบา เกลี่ยง่ายและซึมไว ไม่เหนอะ ไม่มัน และให้ฟีลผิวนิ่มเด้งทันทีหลังทา
  • เหมาะกับผิวแบบไหน : ผิวแห้งขาดน้ำ, ผิวที่เริ่มมีริ้วรอยตื้น
  • ราคา / ปริมาณ : 1,399 / 45g

เช็คส่วนลดและช้อปออนไลน์ครีมลดเลือนริ้วรอย Olay คลิกเลย!



ทริคการใช้ครีมลดริ้วรอยที่ทำได้กับทุกสภาพผิว


แม้ครีมลดริ้วรอยจะมีหลายสูตร แต่สิ่งที่ทำให้เห็นผลจริงอยู่ที่ “วิธีใช้” และขั้นตอนที่ถูกต้อง ผลลัพธ์จะมาเร็วขึ้นแบบชัดเจนเลย มาดูทริคที่ใช้ได้กับทุกสภาพผิวกันดีกว่า

  1. หากต้องการใช้ Retinol ต้องเริ่มแบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้ผิวได้ทำความรู้จักและปรับตัว ลดโอกาสแห้งลอกหรือระคายเคือง จากนั้นค่อยเพิ่มความถี่เมื่อผิวเริ่มรับไหว
  2. ใช้ครีมหรือเซรั่มเพิ่มความชุ่มชื้น ควบคู่ทุกครั้งที่ใช้ครีมลดริ้วรอย เพราะความชุ่มชื้นจะช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น ฟื้นตัวไวขึ้น และช่วยเสริมให้ผลลัพธ์ดูชัดเจนกว่าเดิม
  3. ห้ามลืมทากันแดดในตอนเช้า เพราะไม่ว่าจะใช้ครีมลดริ้วรอยดีแค่ไหน ถ้าผิวโดนแดดทำร้ายซ้ำ ๆ รอยและริ้วลึก ๆ ก็จะไม่ดีขึ้น แถมอาจชัดกว่าเดิมด้วย
  4. ทำความเข้าใจธรรมชาติของผิวว่าริ้วรอยเล็ก ๆ มักตอบสนองเร็วกว่า ส่วนร่องลึกต้องใช้เวลานานกว่า จึงต้องอาศัยความสม่ำเสมอและการดูแลต่อเนื่องเพื่อให้เห็นผลชัดเจน

สรุปเลือกครีมลดเลือนริ้วรอยตัวไหนดีที่สุด?

รูปภาพสินค้าชื่อผลิตภัณฑ์จุดเด่นเหมาะสำหรับส่วนผสมสำคัญราคาปริมาณซื้อได้ที่
No7 Pure Retinol Night Repair Cream
No7 Pure Retinol Night Repair Creamลดเลือน 10 สัญญาณผิวแก่ เห็นผลได้ใน 2 สัปดาห์* ด้วยเรตินอลแท้ ประสิทธิภาพสูงผิวเป็นสิว , ผิวที่มีริ้วรอยชัดเจนและมีจุดด่างดำPure Retinol เรตินอลทรงประสิทธิภาพ ช่วยจัดการริ้วรอยแห่งวัยได้ตรงจุด1,42950mlShopeeLazada
Innisfree Collagen Green Tea Ceramide Bounce Cream
Innisfree Collagen Green Tea Ceramide Bounce Creamบำรุงลึกถึงผิว 15 ชั้น* เพื่อผิวเนียนแน่นเต่งตึงขึ้นกว่าที่เคยผิวแพ้ง่าย , ผิวที่มีริ้วรอยจากการขาดความชุ่มชื้นGreen Tea Ceramide เซราไมด์บริสุทธิ์เข้มข้น 21 เท่า*1,35050mlShopeeLazada
Olay Regenerist Super Collagen-Peptides Moisturiser
Olay Regenerist Super Collagen-Peptides Moisturiserลดเลือน 5 ริ้วรอยแห่งวัยอย่างเห็นได้ชัด ภายใน 28 วัน*ผิวแห้งขาดน้ำ, ผิวที่เริ่มมีริ้วรอยตื้นซุปเปอร์เปปไทด์ 5 ชนิด ซึ่งมีมวลโมเลกุลระดับไมโครที่ซึมเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น1,39945gShopeeLazada

FAQs : 5 คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับครีมลดริ้วรอย

Q: อายุเท่าไหร่ถึงควรเริ่มใช้ครีมลดริ้วรอย?
A: ส่วนใหญ่จะเริ่มใช้กันในช่วงอายุประมาณ 25 ปีขึ้นไป เพราะเป็นเวลาที่คอลลาเจนลดลงตามธรรมชาติ แต่ถ้าเป็นคนผิวแห้ง ขาดน้ำ นอนดึก หรือเจอแดดบ่อย ก็สามารถเริ่มใช้เร็วกว่านั้นเพื่อป้องกันริ้วรอยตั้งแต่ยังไม่เกิดได้ ถือเป็นการดูแลผิวเชิงป้องกันที่ดีมาก
Q: ถ้าเพิ่งเริ่มใช้ครีมลดริ้วรอย ควรเริ่มจากสูตรแบบไหนดี?
A: ควรเริ่มจากสูตรที่อ่อนโยน เน้นความชุ่มชื้น และไม่ทำให้ผิวระคายเคือง เพื่อให้ผิวได้ปรับตัวก่อน จากนั้นเมื่อเริ่มคุ้นเคยค่อยปรับไปใช้สูตรที่เข้มข้นขึ้นตามความต้องการของผิว
Q: ครีมลดริ้วรอยใช้เวลาเห็นผลกี่สัปดาห์?
A: ส่วนใหญ่ต้องใช้เวลาประมาณ 4 ถึง 12 สัปดาห์กว่าจะเห็นผลที่ชัดเจน เพราะผิวต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูตัวเองและความสม่ำเสมอในการใช้ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากในการเห็นผลลัพธ์ระยะยาว
Q: ครีมลดริ้วรอยใช้เฉพาะกลางคืนอย่างเดียวได้ไหม?
A: สามารถใช้เฉพาะกลางคืนได้ ขึ้นอยู่กับลักษณะของผลิตภัณฑ์ ถ้าเป็นสูตรที่ไวต่อแสงมักใช้กลางคืนเท่านั้น ส่วนสูตรทั่วไปสามารถใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน แต่ตอนกลางวันควรทาครีมกันแดดร่วมด้วยเสมอ
Q: เป็นสิวง่ายควรเลือกครีมลดริ้วรอยแบบไหน?
A: ควรเลือกสูตรที่ไม่หนักผิว ไม่อุดตันง่าย และมีความอ่อนโยนเป็นหลัก เพื่อหลีกเลี่ยงการกระตุ้นให้สิวเห่อหรือระคายเคือง
What's new
เทียบชัด 3 ครีมลดริ้วรอยตัวดัง เลือกแบบไหนให้เหมาะกับผิวที่สุดรีวิวเจาะลึกแชมพูขจัดรังแค VICHY บอกลาความมัน บรรเทาอาการคันได้อยู่หมัด รีวิว MizuMi โทนเนอร์แพดล่องหน 3 สูตร แผ่นบาง ฉ่ำน้ำ ปัญหาผิวแบบไหนก็เอาอยู่COSMEX 2025 ประตูสู่โอกาสใหม่ของอุตสาหกรรมความงามระดับสากลเช็ค 4 ปีชง 2569 มีนักษัตร์ไหนบ้าง พร้อมแจกพิกัดและวิธีแก้ชง 10 โรลออนผู้หญิง ยี่ห้อไหนดี ลดกลิ่นตัว หอมติดทนไม่ทิ้งคราบ8 รองพื้นแบบแท่ง ยี่ห้อไหนดี ใช้งานง่าย ผิวสวยธรรมชาติภายใน 5 นาทีอัปเดต! ดวงปี 2568 ทั้ง 12 ราศีเกิด แบบเจาะลึกตามไตรมาส  การงาน การเงิน สุขภาพ และความรักแนะนำสถานที่ไหว้พระ ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เสริมดวงทั้ง 12 ราศี ช่วงเดือนตุลาคม - ธันวาคม 2568กิจกรรม :: ชวนยิ่งขยับยิ่งหอมกับ g&h Protect Antiperspirant Deodorant Roll-On สูตรใหม่! จำนวน 50 รางวัล
COMMENTS
7 ความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
ขอบคุณค่ะ
11 ธ.ค. 2568 เวลา 17:23 น.
ความคิดเห็นที่ 6
ขอบคุณค่ะ
11 ธ.ค. 2568 เวลา 16:38 น.
ความคิดเห็นที่ 5
ขอบคุณค่ะ
11 ธ.ค. 2568 เวลา 15:15 น.
ความคิดเห็นที่ 4
Thanks
11 ธ.ค. 2568 เวลา 15:12 น.
ความคิดเห็นที่ 3
ขอบคุณค่ะ
11 ธ.ค. 2568 เวลา 14:58 น.
ความคิดเห็นที่ 2
ขอบคุณ​คะ
11 ธ.ค. 2568 เวลา 14:33 น.
ความคิดเห็นที่ 1
No.7 เคยใช้แล้ว แต่อีก 2 ตัวยังไม่เคยใช้ แต่อยากลอง Innisfree มากค่า
11 ธ.ค. 2568 เวลา 13:30 น.