ริ้วรอยมักโผล่มาเหมือนสัญญาณเล็ก ๆ ที่เตือนว่าผิวกำลังเปลี่ยนไป ทั้งหมดนี้เกิดจากผิวที่เริ่มเสียสมดุล ความยืดหยุ่นลดลง ความชุ่มชื้นหายไป และคอลลาเจนสร้างตัวช้าลงตามวัย แต่ข่าวดีคือริ้วรอยไม่ใช่จุดจบของผิวสวย หากเลือกและใช้ครีมลดริ้วรอยได้อย่างเหมาะสม ผิวยังฟื้นตัวได้และกลับมาดูเรียบแน่นขึ้นอย่างเห็นผล
วันนี้ Cosmenet* ขออาสาพาเพื่อน ๆ มาเจาะลึกให้ดูกันแบบชัด ๆ ว่าครีมลดริ้วรอยที่ใช่ต้องคำนึงถึงเรื่องอะไรบ้าง? ไปดูกันเล้ยย
วิธีเลือกครีมลดริ้วรอยให้เหมาะกับสภาพผิว
เป้าหมายของครีมลดริ้วรอยไม่ใช่แค่ “ลดเส้นที่เราเห็น” แต่คือทำให้ผิวกลับมาดูแน่น เด้ง และมีชีวิตชีวาอีกครั้ง ซึ่งกุญแจสำคัญคือ “ต้องเลือกสูตรที่ทำงานเข้ากับผิวของเรา” ให้เหมือนเลือกคู่หูที่ไปด้วยกันได้ ไม่ใช่ไปเพิ่มภาระผิวจนกลายเป็นปัญหาใหม่
นี่คือคู่มือเลือกครีมลดริ้วรอยแบบตรงจุดสำหรับแต่ละสภาพผิวที่เตรียมไว้ให้ครบ จบ อ่านแล้วเลือกได้ทันที
1. ผิวผสม–ผิวมันมาก
สิ่งที่ควรเลือกสำหรับคนผิวผสม-ผิวมันมาก
ให้โฟกัสไปที่สูตรเบาบางที่สุดเท่าที่จะหาได้ เช่น Oil-Free, Water-Based หรือเนื้อเจล / เจลครีม เพราะเนื้อแบบนี้จะซึมซาบไว ไม่ทิ้งความมัน และช่วยลดความเสี่ยงเรื่องรูขุมขนอุดตัน
สิ่งที่ควรเลี่ยงสำหรับคนผิวผสม-ผิวมันมาก
ครีมเนื้อสัมผัสหนักที่มีความเข้มข้นแบบแน่น ๆ หรือสูตรที่มีความมันสูง เพราะจะทำให้ผิวมันกว่าเดิมและอาจอุดตันจนเกิดสิวได้ง่าย
2. ผิวแห้ง–ผิวขาดน้ำ
สิ่งที่ควรเลือกสำหรับคนที่ผิวแห้ง–ผิวขาดน้ำ จะต้องการความชุ่มชื้นแบบกอดเต็ม ๆ ให้เลือกครีมลดริ้วรอยที่มีเนื้อเข้มข้นสูง ที่ช่วยเติมและล็อกความชุ่มชื้นยาวนาน ส่งผลให้ผิวอิ่มฟู พวกริ้วรอยก็จะดูตื้นขึ้นด้วย
สิ่งที่ควรเลี่ยงสำหรับคนที่ผิวแห้ง–ผิวขาดน้ำ อย่าเลือกครีมที่มีเนื้อสัมผัสเป็นเจลบางเบามาก เพราะอาจให้ผิวได้รับความชุ่มชื้นไม่เพียงพอ และควรหลีกเลี่ยงสูตรที่มีแอลกอฮอล์หรือสารที่ทำให้ผิวแห้งเกินไป เพราะจะยิ่งทำให้ริ้วรอยชัดขึ้น
3. ผิวธรรมดา
สิ่งที่ควรเลือกสำหรับคนผิวธรรมดา ข้อดีของผิวธรรมดาคือเลือกง่ายที่สุด แค่เลือกครีมลดริ้วรอยที่ให้ความชุ่มชื้นกำลังดี เนื้อไม่หนักไม่เบา และมีส่วนผสมช่วยให้ผิวยืดหยุ่น เช่น Peptides, Ceramide หรือ Hyaluronic Acid ก็เอาอยู่!
สิ่งที่ควรเลี่ยงสำหรับคนผิวธรรมดา ควรหลีกเลี่ยงครีมลดเลือนริ้วรอยสูตรที่เนื้อหนักเกินไปจนทำให้ผิวมัน หรือสูตรที่มีสารระคายเคืองสูงโดยไม่จำเป็น
4. ผิวแพ้ง่าย–ผิวเป็นสิว
สิ่งที่ควรเลือกสำหรับคนผิวแพ้ง่าย–ผิวเป็นสิว ให้เน้นที่สูตรอ่อนโยนเป็นหลัก เช่น Hypoallergenic, Fragrance-Free และ Non-Comedogenic เลือกเนื้อสัมผัสที่บางเบา และส่วนผสมที่มีส่วนช่วยลดเลือนริ้วรอยอย่างอ่อนโยน
สิ่งที่ควรเลี่ยงสำหรับคนผิวแพ้ง่าย–ผิวเป็นสิว ควรเลี่ยงส่วนผสมของน้ำหอม แอลกอฮอล์ หรือครีมลดริ้วรอยที่มีเนื้อสัมผัสหนัก ๆ นี่ข้ามไปได้เลย เพราะเสี่ยงอุดตันง่าย แถมอาจทำให้สิวเห่อ ลอก และระคายเคืองได้ง่าย
ประเภทผิว
| สิ่งที่ควรเลือก | สิ่งที่ควรเลี่ยง |
| ผิวผสม–ผิวมันมาก |
สูตรเบาบาง ซึมไว ไม่ทิ้งความมัน และช่วยลดความเสี่ยงเรื่องรูขุมขนอุดตัน
| ครีมเนื้อสัมผัสหนักที่มีความเข้มข้นแบบแน่น ๆ หรือสูตรที่มีความมันสูง |
| ผิวแห้ง–ผิวขาดน้ำ | เลือกครีมที่มีเนื้อเข้มข้นสูง เน้นเติมและล็อกความชุ่มชื้นยาวนาน |
อย่าเลือกครีมที่มีเนื้อบางเบามาก เพราะอาจทำให้ผิวได้รับความชุ่มชื้นไม่เพียงพอ
|
ผิวธรรมดา
|
ครีมที่ให้ความชุ่มชื้นกำลังดี
เนื้อไม่หนัก และมีส่วนช่วยให้ผิวยืดหยุ่น
| ควรหลีกเลี่ยงครีมลดเลือนริ้วรอยสูตรที่เนื้อหนักเกินไปจนทำให้ผิวมัน |
| ผิวแพ้ง่าย–ผิวเป็นสิว |
เน้นสูตรอ่อนโยน เนื้อสัมผัสบางเบา และส่วนผสมอ่อนโยนต่อผิว
|
ควรเลี่ยงส่วนผสมของน้ำหอม แอลกอฮอล์ หรือครีมที่มีสัมผัสหนัก
|
สารบำรุงที่ควรมองหาเมื่อต้องเลือกครีมลดริ้วรอย
หลายคนจะเจอคำเคลมสวย ๆ เต็มไปหมด แต่หัวใจหลักของครีมลดเลือนริ้วรอยนั้นไม่ได้อยู่ที่คำโฆษณา แต่ขึ้นอยู่กับ “สารบำรุง” ที่ทำงานกับผิวได้จริง ถ้าได้ตัวจึ้งก็ถือว่าชนะครึ่งทางแล้วเรามาดูกันดีกว่าว่าสารบำรุงตัวไหนที่ควรมองหากัน
- Retinol / Retinoids : แม่ทัพใหญ่ของจักรวาลลดเลือนริ้วรอย เพราะมีส่วนช่วยผลัดเซลล์ผิว เสริมสร้างคอลลาเจน และทำให้ผิวแน่นขึ้นแบบรู้สึกได้ สายริ้วรอยเส้นเล็ก ๆ มีร่องใต้ตา หรือความหย่อน จบได้ด้วยเรตินอลถ้าใช้ถูกวิธี
- Ceramides : กองทัพปราการผิวที่ช่วยเสริมเกราะป้องกันไม่ให้ผิวสูญเสียน้ำ พร้อมลดการระคายเคืองและทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น เมื่อผิวชุ่มชื้นและเสถียร ริ้วรอยเล็ก ๆ จะดูจางลงและผิวดูอิ่มฟูเป็นพิเศษ
- Peptides : สารประจำผิวที่ช่วยกระตุ้นให้ผิวซ่อมแซมตัวเองอย่างเป็นระบบ ส่งผลให้ผิวดูยืดหยุ่น กระชับ และเฟิร์มขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อใช้ต่อเนื่อง จุดเด่นคืออ่อนโยน ใช้ได้กับแทบทุกสภาพผิว
รีวิวครีมลดริ้วรอย 3 ยี่ห้อยอดนิยม ตัวไหนเหมาะกับใคร?
No7 Pure Retinol Night Repair Cream เป็นครีมลดเลือนริ้วรอยสำหรับกลางคืนที่ใช้ Pure Retinol เป็นตัวหลัก มุ่งดูแลสัญญาณแห่งวัยทั้ง 10 ประการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องริ้วรอย จุดด่างดำ ผิวแห้ง ผิวทูโทน ความหย่อนคล้อย ขาดความกระชับ หรือผิวที่ดูไม่เรียบเนียน เป็นต้น โดยสูตรนี้ถูกออกแบบให้เรตินอลค่อย ๆ ทำงานอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อฟื้นฟูผิวให้กลับมาดูเนียนใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมลดโอกาสเกิดการระคายเคืองระหว่างการใช้งาน
เรตินอล No7 มีเนื้อสัมผัสของครีมเข้มข้นแต่ไม่หนักผิว เกลี่ยง่ายลื่นมือ และซึมค่อนข้างไว พอเซตตัวแล้วจะทิ้งความนุ่มชุ่มแบบบางเบาไว้บนผิว ไม่เหนอะ ไม่เป็นคราบ และให้ความรู้สึกผิวได้รับการเคลือบด้วยความชุ่มชื้นแบบพอดี ๆ เหมาะสำหรับใช้ก่อนนอน เพื่อให้ผิวได้ฟื้นตัวตลอดคืน
- จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ : ช่วยดูแลริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็น Pure Retinol ที่อ่อนโยน พร้อมส่วนผสมที่ช่วยปลอบประโลมและเสริมความยืดหยุ่น ทำให้ผิวดูเรียบเนียน กระชับ และสดใสขึ้นแบบเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับใช้ก่อนนอน
- Pure Retinol : เป็นหัวใจสำคัญในการจัดการริ้วรอยแห่งวัยอย่างตรงจุด
- Retinol Optimiser : ช่วยผลักเรตินอลให้ซึมเข้าสู่ผิวอย่างช้า ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเรตินอล
- Retinol Soother : เพื่อให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นและลดการระคายเคือง
- คอลลาเจนเปปไทด์ MATRIXYL 3000 PLUS™ : คอลลาเจนรูปแบบใหม่ช่วยเสริมความยืดหยุ่นให้ผิวดูแน่นกระชับและเรียบเนียนขึ้น
- เนื้อสัมผัส : ครีมเข้มข้นแต่ไม่หนักผิว เกลี่ยง่ายลื่นมือ และซึมค่อนข้างไว
- เหมาะกับผิวแบบไหน : ผิวเป็นสิว , ผิวที่มีริ้วรอยชัดเจนและมีจุดด่างดำ
- ราคา / ปริมาณ : 1,350 / 50ml
เช็คส่วนลดและช้อปออนไลน์ครีมลดเลือนริ้วรอย No7 คลิกเลย!
Innisfree Collagen Green Tea Ceramide Bounce Cream หนึ่งในครีมลดเลือนริ้วรอยที่ทำออกมา เพื่อตอบโจทย์ผิวที่ต้องการฟื้นฟูแบบอ่อนโยน โดยผสานคอลลาเจนเข้มข้นเข้ากับเซราไมด์จากชาเขียว ที่ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิวและเติมความชุ่มชื้นซึมลึกถึงผิว 15 ชั้น* ส่งผลให้ผิวดูยืดหยุ่นขึ้นตามธรรมชาติ เมื่อใช้ต่อเนื่องผิวที่เคยดูไม่กระชับหรือแห้งง่ายจะเริ่มฟื้นแรงขึ้น เหมือนได้คืนความแน่นและความเรียบเนียนกลับมา
เนื้อสัมผัสของครีมลดริ้วรอย Innisfree ตัวนี้เป็นแบบเจล-ครีมที่เบาสบายผิวและซึมไวมาก เกลี่ยแล้วลื่นไปกับผิวทันที ทิ้งสัมผัสชุ่มเด้งแบบไม่เหนอะและไม่มัน เหมาะกับทั้งเช้าและก่อนนอน โดยเฉพาะวันที่ผิวรู้สึกอ่อนล้าใช้แล้วเริ่ด ๆ เลยแหละ
- จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ : ฟื้นผิวให้กลับมาดูเด้งแน่น ช่วยลดริ้วรอย ช่วยเสริมเกราะผิวและเพิ่มความชุ่มชื้นอย่างยาวนานถึง 72 ชม. ทำให้ผิวดูสดใสและเรียบเนียนขึ้นหลังใช้ 14 วัน เหมาะกับทั้งเช้าและก่อนนอน
- ส่วนผสมสำคัญ :
- Green Sea Fingers Collagen : ช่วยเสริมความยืดหยุ่นและความเด้งของผิวให้ดูแน่นขึ้นตามธรรมชาติ
- Green Tea Ceramide : ช่วยฟื้นฟูเกราะป้องกันผิว กักเก็บความชุ่มชื้น และลดความแห้งกร้าน ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและแข็งแรงขึ้น
- เนื้อสัมผัส : เนื้อเจล-ครีมที่เบาสบายผิวและซึมไวมาก เกลี่ยแล้วลื่นไปกับผิวทันที
- เหมาะกับผิวแบบไหน : ผิวแพ้ง่าย , ผิวที่มีริ้วรอยจากการขาดความชุ่มชื้น
- ราคา / ปริมาณ : 1,429 / 50ml
เช็คส่วนลดและช้อปออนไลน์ครีมลดเลือนริ้วรอย Innisfree คลิกเลย!
ครีมลดเลือนริ้วรอย Olay Regenerist Super Collagen-Peptides Moisturiser เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการความเด้งกระชับแบบเห็นทีละสเต็ป เพราะมีซุปเปอร์เปปไทด์ถึง 5 ชนิด ที่ช่วยเสริมความยืดหยุ่นให้ผิวค่อย ๆ แน่นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ผสานกับไนอะซินาไมด์บริสุทธิ์ 99% ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นและทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น พอใช้ต่อเนื่อง ผิวที่เคยดูแห้ง ล้า หรือไม่สม่ำเสมอ จะค่อย ๆ ฟื้นกลับมาดูนุ่มฟูและสดใสขึ้นภายใน 28 วัน*
ด้านเนื้อสัมผัสของครีมลดเลือนริ้วรอย Olay ตัวนี้เป็นแบบครีมนุ่มเบา เกลี่ยง่ายและซึมไว ไม่เหนอะ ไม่มัน และให้ฟีลผิวนิ่มเด้งทันทีหลังทา เหมาะทั้งตอนเช้าและก่อนนอน โดยเฉพาะวันที่ผิวดูอ่อนแรง ใช้แล้วคือผิวดูสดใส เตรียมพร้อมสำหรับวันต่อไปได้แบบสวย ๆ
- จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ : เน้นไปที่การฟื้นผิวให้ดูกระชับและเด้งขึ้น ด้วยซุปเปอร์เปปไทด์ 5 ชนิดที่ช่วยเสริมความยืดหยุ่น พร้อมไนอะซินาไมด์ที่เติมความชุ่มชื้นและปรับผิวให้ดูเรียบเนียน เหมาะกับผิวที่เริ่มอ่อนล้า ไม่กระชับ หรือมีริ้วรอยเล็ก ๆ
- ส่วนผสมสำคัญ :
- Super Collagen-Peptides Complex : ช่วยเสริมความยืดหยุ่นให้ผิวเด้ง ฟู และแน่นขึ้นในทุกวัน
- Niacinamide 99% : ช่วยให้ผิวแข็งแรงชุ่มชื้นยาวนาน 24 ชม. และดูเรียบเนียนสม่ำเสมอมากขึ้น
- เนื้อสัมผัส : เนื้อครีมนุ่มเบา เกลี่ยง่ายและซึมไว ไม่เหนอะ ไม่มัน และให้ฟีลผิวนิ่มเด้งทันทีหลังทา
- เหมาะกับผิวแบบไหน : ผิวแห้งขาดน้ำ, ผิวที่เริ่มมีริ้วรอยตื้น
- ราคา / ปริมาณ : 1,399 / 45g
เช็คส่วนลดและช้อปออนไลน์ครีมลดเลือนริ้วรอย Olay คลิกเลย!
ทริคการใช้ครีมลดริ้วรอยที่ทำได้กับทุกสภาพผิว
แม้ครีมลดริ้วรอยจะมีหลายสูตร แต่สิ่งที่ทำให้เห็นผลจริงอยู่ที่ “วิธีใช้” และขั้นตอนที่ถูกต้อง ผลลัพธ์จะมาเร็วขึ้นแบบชัดเจนเลย มาดูทริคที่ใช้ได้กับทุกสภาพผิวกันดีกว่า
- หากต้องการใช้ Retinol ต้องเริ่มแบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้ผิวได้ทำความรู้จักและปรับตัว ลดโอกาสแห้งลอกหรือระคายเคือง จากนั้นค่อยเพิ่มความถี่เมื่อผิวเริ่มรับไหว
- ใช้ครีมหรือเซรั่มเพิ่มความชุ่มชื้น ควบคู่ทุกครั้งที่ใช้ครีมลดริ้วรอย เพราะความชุ่มชื้นจะช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น ฟื้นตัวไวขึ้น และช่วยเสริมให้ผลลัพธ์ดูชัดเจนกว่าเดิม
- ห้ามลืมทากันแดดในตอนเช้า เพราะไม่ว่าจะใช้ครีมลดริ้วรอยดีแค่ไหน ถ้าผิวโดนแดดทำร้ายซ้ำ ๆ รอยและริ้วลึก ๆ ก็จะไม่ดีขึ้น แถมอาจชัดกว่าเดิมด้วย
- ทำความเข้าใจธรรมชาติของผิวว่าริ้วรอยเล็ก ๆ มักตอบสนองเร็วกว่า ส่วนร่องลึกต้องใช้เวลานานกว่า จึงต้องอาศัยความสม่ำเสมอและการดูแลต่อเนื่องเพื่อให้เห็นผลชัดเจน