COSMEX 2025 ประตูสู่โอกาสใหม่ของอุตสาหกรรมความงามระดับสากล
สาระน่ารู้

กินน้ำตาล หน้าแก่? 5 โทษของการกินน้ำตาล ที่ทำให้หน้าแก่ก่อนวัยแบบไม่รู้ตัว

61
5 พ.ย. 2568
กินน้ำตาล หน้าแก่

ใครจะคิดว่า “ของหวาน” ที่เราหลงรักอาจเป็นตัวการทำให้หน้าแก่โดยไม่รู้ตัว! สาว ๆ หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าการกินน้ำตาลในปริมาณมาก ไม่ใช่แค่เพิ่มน้ำหนักหรือทำให้สิวขึ้นเท่านั้น แต่ยังส่งผลเสียต่อ “ผิวหน้า” โดยตรง ทั้งทำให้ผิวหมองคล้ำ เหี่ยวย่น และดูแก่ก่อนวัย วันนี้ Cosmenet* เลยจะพามาเจาะลึก 5 โทษของการกินน้ำตาล พร้อมแนะนำวิธีลดน้ำตาลแบบไม่ทรมาน ถ้าพร้อมแล้วก็ตามาดูกันเลยค่าา~


5 โทษของการกินน้ำตาลมีอะไรบ้าง?


1. เร่งให้คอลลาเจนเสื่อมเร็วขึ้น


เร่งให้คอลลาเจนเสื่อมเร็วขึ้น

เมื่อร่างกายได้รับน้ำตาลมากเกินไป จะเกิดกระบวนการ Glycation ซึ่งทำให้น้ำตาลเข้าไปจับกับโปรตีนในผิว เช่น คอลลาเจนและอีลาสติน ส่งผลให้โครงสร้างผิวแข็งและเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ผิวจึงขาดความยืดหยุ่น เกิดริ้วรอย และดูแก่ก่อนวัย


2. ผิวแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น


ผิวแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น

การกินของหวานบ่อย ๆ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดแกว่งตัว ส่งผลต่อฮอร์โมนที่ควบคุมสมดุลน้ำในผิว เมื่อผิวขาดความชุ่มชื้นก็จะดูแห้งกร้านและเกิดริ้วรอยได้ง่าย


3. ผิวหมองคล้ำ ไม่สดใส


ผิวหมองคล้ำ ไม่สดใส

น้ำตาลส่งผลให้การไหลเวียนเลือดในผิวลดลง และยังรบกวนกระบวนการผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติ ทำให้ผิวดูหม่น หมอง ไม่เปล่งปลั่ง ถึงแต่งหน้าก็ยังดูไม่ผ่องเหมือนก่อน


4. กระตุ้นสิวและการอักเสบ


กระตุ้นสิวและการอักเสบ

น้ำตาลเป็นตัวกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำมันส่วนเกิน และเพิ่มการอักเสบในชั้นผิว ส่งผลให้สิวอุดตันและสิวอักเสบเห่อขึ้นง่าย ผิวดูไม่เรียบเนียนและหมองคล้ำกว่าเดิม


5. ทำให้ร่างกายอ่อนล้า ผิวโทรม


ทำให้ร่างกายอ่อนล้า ผิวโทรม

แม้น้ำตาลจะให้พลังงานรวดเร็ว แต่ก็ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดตกฮวบอย่างรวดเร็วเช่นกัน ส่งผลให้ร่างกายอ่อนเพลีย นอนหลับไม่สนิท และกระทบต่อกระบวนการฟื้นฟูผิวตอนกลางคืน ตื่นมาหน้าจึงดูโทรม หมอง และแก่ลงโดยไม่รู้ตัว


วิธีลดน้ำตาลแบบไม่ทรมาน


วิธีลดน้ำตาลแบบไม่ทรมาน

  • เปลี่ยนมากินนของหวานจากธรรมชาติ : เวลาที่อยากกินของหวาน ลองเปลี่ยนจากขนมเค้กหรือน้ำหวาน มาเป็นผลไม้ที่ให้ความหวานธรรมชาติอย่างกล้วย มะม่วงสุก หรืออินทผลัม นอกจากให้รสหวานพอดี ยังมีใยอาหาร
  • ค่อย ๆ ลดน้ำตาลในเครื่องดื่ม : เริ่มจากลดน้ำตาลในกาแฟหรือชาแก้วโปรดลงครึ่งหนึ่ง แล้วค่อยปรับจนลิ้นชินกับรสธรรมชาติ วิธีนี้ช่วยให้ลดน้ำตาลได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่รู้สึกว่าต้องฝืนใจมากเกินไป
  • สังเกตน้ำตาลแอบแฝงในอาหาร : น้ำตาลไม่ได้มีแค่ในของหวานเท่านั้น แต่ยังซ่อนอยู่ในซอสปรุงรส น้ำสลัด หรือโยเกิร์ตพร้อมทาน ลองหมั่นอ่านฉลากและสังเกตคำอย่าง Sucrose, Fructose, Glucose, หรือ Syrup เพื่อช่วยควบคุมปริมาณน้ำตาลได้อย่างมีสติ
  • ของหวานคือรางวัล ไม่ใช่กิจวัตร : แทนที่จะกินขนมทุกวัน ลองตั้งกติกากับตัวเอง เช่น ให้รางวัลของหวานเฉพาะวันหยุดหรือหลังออกกำลังกาย วิธีนี้ช่วยลดการบริโภคน้ำตาลโดยไม่รู้สึกว่ากำลัง “อด” หรือ “ห้าม” ตัวเองจนเครียด
  • ดื่มน้ำลดความอยากของหวานได้ : หลายครั้งที่เราคิดว่า “อยากของหวาน” แท้จริงร่างกายแค่ “ขาดน้ำ” การดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอตลอดวันจะช่วยลดความอยากน้ำตาลได้ดี แถมยังช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ดูสุขภาพดีจากภายในด้วย


-----------------------
*Cosmenet Smart Beauty รีวิวดีบอกต่อ
ค้นหารีวิวเครื่องสำอาง สกินแคร์ แบบจริงใจได้ที่นี่ www.cosmenet.in.th
-----------------------


สาว ๆ คนไหนไม่อยากหน้าแก่ก่อนวัย แนะนำให้ลองนำวิธีลดน้ำตาลแบบไม่ทรมานไปปรับใช้โดยอาจจะเริ่มต้นจากการลดน้ำตาลเพียงเล็กน้อยในแต่ละวัน นอกจากจะช่วยควบคุมน้ำหนักแล้ว ยังทำให้ผิวใส ไร้สิว แถมหน้าเด็กขึ้นได้โดยไม่ต้องเข้าคลินิกเลยค่ะ


อ่านคอนเทนต์เคล็ดลับดูแลตัวเองอื่น ๆ เพิ่มเติมคลิกเลย!

FAQs : คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการลดน้ำตาล

Q: ลดน้ำตาลแล้วเวียนหัวเกิดจากอะไร?
A: การลดน้ำตาลแบบหักดิบอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงเร็วเกินไป จนเกิดอาการเวียนหัว เหนื่อย หรืออ่อนแรงได้ เพราะฉะนั้นจึงควรค่อย ๆ ลดทีละน้อย เลือกกินโปรตีนและคาร์บเชิงซ้อนอย่างข้าวกล้องหรือมันเทศ ดื่มน้ำและพักผ่อนให้เพียงพอ หากอาการเวียนหัวเกิดบ่อยควรปรึกษาแพทย์ เพราะการลดน้ำตาลที่ดีควรค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้สุขภาพและผิวสวยไปพร้อมกัน
Q: 1 วันควรกินน้ําตาลปริมาณเท่าไหร่?
A: องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้บริโภคน้ำตาล “ไม่เกิน 10%” ของพลังงานที่ร่างกายต้องการต่อวัน หรือถ้าอยากควบคุมน้ำหนักและผิวให้ดีขึ้น ควรลดเหลือ “ไม่เกิน 5%” ต่อวัน ซึ่งเท่ากับน้ำตาลประมาณ 25 กรัม หรือราว 6 ช้อนชา สำหรับผู้ใหญ่ การลดน้ำตาลให้อยู่ในปริมาณนี้จะช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคอ้วน เบาหวาน และปัญหาผิวแก่ก่อนวัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
What's new
รีวิวเจาะลึกแชมพูขจัดรังแค VICHY บอกลาความมัน บรรเทาอาการคันได้อยู่หมัด รีวิว MizuMi โทนเนอร์แพดล่องหน 3 สูตร แผ่นบาง ฉ่ำน้ำ ปัญหาผิวแบบไหนก็เอาอยู่รีวิวเจาะลึกรองพื้น BSC Authentiq Bio Glow Fluid Foundation ผิวโกลว์สวยเล่นแสง ปกปิดฟินิชวาวCOSMEX 2025 ประตูสู่โอกาสใหม่ของอุตสาหกรรมความงามระดับสากลCosmenet* เปิดเกมรุกในงาน COSMEX 2025 จัดดีลพิเศษ! ปลุกกระแสให้แบรนด์เป็นที่พูดถึงและน่าจับตามองบนโลกออนไลน์10 มอยส์เจอร์ไรเซอร์ สำหรับผิวมัน เนื้อสัมผัสบางเบา ไม่อุดตันผิว9 สกินแคร์ลดริ้วรอย อายุ 40 ยี่ห้อไหนดี ที่ควรมีในรูทีนบำรุงผิว ดูดวงความรัก การงาน การเรียน การเงิน ระหว่าง 2 - 8 พ.ย. 68 (ทุกราศี) แนะนำสถานที่ไหว้พระ ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เสริมดวงทั้ง 12 ราศี ช่วงเดือนตุลาคม - ธันวาคม 2568ชวนสาว ๆ มาเป็น Beauty Tester ร่วมรีวิวและทดลองใช้สกินแคร์ เมคอัพแบรนด์ดังฟรี !!
COMMENTS