ใครจะคิดว่า “ของหวาน” ที่เราหลงรักอาจเป็นตัวการทำให้หน้าแก่โดยไม่รู้ตัว! สาว ๆ หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าการกินน้ำตาลในปริมาณมาก ไม่ใช่แค่เพิ่มน้ำหนักหรือทำให้สิวขึ้นเท่านั้น แต่ยังส่งผลเสียต่อ “ผิวหน้า” โดยตรง ทั้งทำให้ผิวหมองคล้ำ เหี่ยวย่น และดูแก่ก่อนวัย วันนี้ Cosmenet* เลยจะพามาเจาะลึก 5 โทษของการกินน้ำตาล พร้อมแนะนำวิธีลดน้ำตาลแบบไม่ทรมาน ถ้าพร้อมแล้วก็ตามาดูกันเลยค่าา~
5 โทษของการกินน้ำตาลมีอะไรบ้าง?
1. เร่งให้คอลลาเจนเสื่อมเร็วขึ้น
เมื่อร่างกายได้รับน้ำตาลมากเกินไป จะเกิดกระบวนการ Glycation ซึ่งทำให้น้ำตาลเข้าไปจับกับโปรตีนในผิว เช่น คอลลาเจนและอีลาสติน ส่งผลให้โครงสร้างผิวแข็งและเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ผิวจึงขาดความยืดหยุ่น เกิดริ้วรอย และดูแก่ก่อนวัย
2. ผิวแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น
การกินของหวานบ่อย ๆ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดแกว่งตัว ส่งผลต่อฮอร์โมนที่ควบคุมสมดุลน้ำในผิว เมื่อผิวขาดความชุ่มชื้นก็จะดูแห้งกร้านและเกิดริ้วรอยได้ง่าย
3. ผิวหมองคล้ำ ไม่สดใส
น้ำตาลส่งผลให้การไหลเวียนเลือดในผิวลดลง และยังรบกวนกระบวนการผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติ ทำให้ผิวดูหม่น หมอง ไม่เปล่งปลั่ง ถึงแต่งหน้าก็ยังดูไม่ผ่องเหมือนก่อน
4. กระตุ้นสิวและการอักเสบ
น้ำตาลเป็นตัวกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำมันส่วนเกิน และเพิ่มการอักเสบในชั้นผิว ส่งผลให้สิวอุดตันและสิวอักเสบเห่อขึ้นง่าย ผิวดูไม่เรียบเนียนและหมองคล้ำกว่าเดิม
5. ทำให้ร่างกายอ่อนล้า ผิวโทรม
แม้น้ำตาลจะให้พลังงานรวดเร็ว แต่ก็ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดตกฮวบอย่างรวดเร็วเช่นกัน ส่งผลให้ร่างกายอ่อนเพลีย นอนหลับไม่สนิท และกระทบต่อกระบวนการฟื้นฟูผิวตอนกลางคืน ตื่นมาหน้าจึงดูโทรม หมอง และแก่ลงโดยไม่รู้ตัว
วิธีลดน้ำตาลแบบไม่ทรมาน

- เปลี่ยนมากินนของหวานจากธรรมชาติ : เวลาที่อยากกินของหวาน ลองเปลี่ยนจากขนมเค้กหรือน้ำหวาน มาเป็นผลไม้ที่ให้ความหวานธรรมชาติอย่างกล้วย มะม่วงสุก หรืออินทผลัม นอกจากให้รสหวานพอดี ยังมีใยอาหาร
- ค่อย ๆ ลดน้ำตาลในเครื่องดื่ม : เริ่มจากลดน้ำตาลในกาแฟหรือชาแก้วโปรดลงครึ่งหนึ่ง แล้วค่อยปรับจนลิ้นชินกับรสธรรมชาติ วิธีนี้ช่วยให้ลดน้ำตาลได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่รู้สึกว่าต้องฝืนใจมากเกินไป
- สังเกตน้ำตาลแอบแฝงในอาหาร : น้ำตาลไม่ได้มีแค่ในของหวานเท่านั้น แต่ยังซ่อนอยู่ในซอสปรุงรส น้ำสลัด หรือโยเกิร์ตพร้อมทาน ลองหมั่นอ่านฉลากและสังเกตคำอย่าง Sucrose, Fructose, Glucose, หรือ Syrup เพื่อช่วยควบคุมปริมาณน้ำตาลได้อย่างมีสติ
- ของหวานคือรางวัล ไม่ใช่กิจวัตร : แทนที่จะกินขนมทุกวัน ลองตั้งกติกากับตัวเอง เช่น ให้รางวัลของหวานเฉพาะวันหยุดหรือหลังออกกำลังกาย วิธีนี้ช่วยลดการบริโภคน้ำตาลโดยไม่รู้สึกว่ากำลัง “อด” หรือ “ห้าม” ตัวเองจนเครียด
- ดื่มน้ำลดความอยากของหวานได้ : หลายครั้งที่เราคิดว่า “อยากของหวาน” แท้จริงร่างกายแค่ “ขาดน้ำ” การดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอตลอดวันจะช่วยลดความอยากน้ำตาลได้ดี แถมยังช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ดูสุขภาพดีจากภายในด้วย
-----------------------
*Cosmenet Smart Beauty รีวิวดีบอกต่อ
-----------------------
สาว ๆ คนไหนไม่อยากหน้าแก่ก่อนวัย แนะนำให้ลองนำวิธีลดน้ำตาลแบบไม่ทรมานไปปรับใช้โดยอาจจะเริ่มต้นจากการลดน้ำตาลเพียงเล็กน้อยในแต่ละวัน นอกจากจะช่วยควบคุมน้ำหนักแล้ว ยังทำให้ผิวใส ไร้สิว แถมหน้าเด็กขึ้นได้โดยไม่ต้องเข้าคลินิกเลยค่ะ
อ่านคอนเทนต์เคล็ดลับดูแลตัวเองอื่น ๆ เพิ่มเติมคลิกเลย!