ปรัศว์ หงส์ลดารมภ์ (ที่สองจากซ้าย) ผู้จัดการผลิตภัณฑ์โดฟ กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลและบำรุงเส้นผม
สินี สุริยพัฒนพงศ์ (ที่สามจากซ้าย) ผู้ช่วยผู้จัดการผลิตภัณฑ์โดฟ กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลและบำรุงเส้นผม
ธนภัทร บารมีแสงเพชร (ที่สามจากขวา) ผู้จัดการแผนกพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ส่วนบุคคล บริษัทยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง และทีมผู้บริหารจากบริษัทยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง ร่วมแนะนำครีมนวดผม
“โดฟ คอนดิชันเนอร์ สูตรใหม่” ให้ผมแข็งแรงยิ่งกว่า พร้อมให้ความรู้สึกเบาสบายมีชีวิตชีวากว่าที่เคย
ดังนั้นสถาบันวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ยูนิลีเวอร์ ประเทศอังกฤษ จึงตั้งใจที่จะพัฒนาเทคโนโลยีที่ทั้งบำรุงอย่างล้ำลึกทั้งให้ความรู้สึกเบาสบายมาตอบสนองความต้องการของสาว ๆ จนได้เป็นนวัตกรรม
“เคราติน รีแพร์ แอ็คทีฟ*” และ
“ไมโครชีท” ในผลิตภัณฑ์
“โดฟ คอนดิชันเนอร์ สูตรใหม่” ที่พร้อมแล้วที่จะคืนสุขภาพดีให้กับเส้นผม พร้อมให้ผู้หญิงทุกคนได้อวดเส้นผมที่แข็งแรงจากภายใน นุ่มลื่นสวยถึงภายนอก และให้ความรู้สึกเบาสบายมีชีวิตชีวาอย่างแท้จริง
สำหรับ 3 เทรนด์ผมฮิตที่โดฟจัดอันดับว่าทำร้ายผมสาวไทยมากที่สุด พิจารณาจากความรุนแรงในการทำร้ายผมและความนิยมในหมู่ผู้หญิงไทย
อันดับ 1 ได้แก่ทรง Fuzzy Curls การม้วนผมด้วยแกนไฟฟ้า เพื่อให้ผมฟูฟุ้งสวยมีมิติเป็นสาเหตุให้ทำผมเสียไร้น้ำหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาว ๆ ที่อยากได้ลอนเด้งตลอดวันแล้วตั้งค่าความร้อนเกิน 180 องศาเซลเซียสขึ้นไป
อันดับ 2 ได้แก่ทรง Super Straight Hair เทรนด์ผมตรงเรียบจรดปลายที่เป็นที่นิยมของสาว ๆ ทุกยุคสมัยทำให้ผมต้องเจอกับการไดร์ตรงที่ใช้ความร้อน แม้ความร้อนจากไดร์เป่าผมจะไม่ได้สูงเท่าทรงแรก แต่กว่าจะได้ลุคสวยหวานก็ต้องไดร์เป็นเวลานาน อีกทั้งยังต้องไดร์ทุกวันทำให้เส้นผมแห้งเสียในระยะยาว
อันดับ 3 ได้แก่ทรง Vintage Big Hair ตั้งแต่ภาพยนตร์ The Great Gatsby ออกฉาย กระแสผมหยอกพองฟูแบบวินเทจสไตล์ดาราฮอลลีวู้ดกำลังเข้าสู่เมืองไทย ซึ่งนอกจากต้องใช้พลังความร้อนสูงในการทั้งเป่าและเซ็ตผมแล้ว สาว ๆ หลายรายก็ยังนิยมยีผมเพื่อเพิ่มวอลลุ่มให้โคนผมอีกด้วย ซึ่งเป็นการเปิดเกล็ดผม ดังนั้นกว่าจะได้ทรงสวยเนี้ยบเก๋ก็ทำให้ผมเสียได้เช่นกัน
คุณธนภัทร บารมีแสงเพชร ได้ฝากถึงการใช้ครีมนวดผมอย่างถูกวิธีว่า
“เราควรชโลมทันทีหลังจากสระผมเสร็จ ขณะที่ผมเปียกหมาดๆ เพื่อให้สารบำรุงในครีมนวดผมสามารถตรงเข้าสู่เซลล์ผมได้อย่างเต็มที่ โดยหากผมยาวประมาณครึ่งหลัง ควรใช้ปริมาณครีมนวดผมประมาณหนึ่งฝ่ามือ แต่หากผมยาวมากหรือหนาเป็นพิเศษก็ควรเพิ่มปริมาณให้มากขึ้น หลังจากบีบครีมนวดผมมาได้ในปริมาณพอเหมาะ ให้ชโลมครีมนวดผม โดยเริ่มจากกึ่งกลางผมแล้วลูบไปตามความยาวของเส้นผม โดยเน้นบริเวณปลายผมให้มาก แล้วทิ้งไว้ 1-2 นาที เพื่อช่วยให้ครีมนวดผมสามารถเข้าถึงเส้นผมได้ทั่วถึงที่สุด จากนั้นล้างออกด้วยน้ำตั้งแต่โคนไปสู่ปลายผม ซึ่งจะช่วยปิดเกล็ดผมและเก็บกักความชุ่มชื้นไว้ภายใน”
เปรียบเทียบผลลัพธ์จากการใช้ครีมนวดผมธรรมดากับครีมนวดผมโดฟ คอนดิชันเนอร์ สูตรใหม่ ด้วยการใช้ปอยผมถ่วงน้ำหนักผ่านแปรงหวีผม โดยใช้ปอยผม 2 ปอย โดยที่ปอยหนึ่งผ่านการใช้ครีมนวดผม โดฟ คอนดิชันเนอร์ สูตรใหม่ และอีกปอยหนึ่งใช้ครีมนวดผมธรรมดา เมื่อนำลูกตุ้มถ่วงน้ำหนักถ่วงเส้นผมทั้งสองปอยด้วยน้ำหนักที่เท่ากันจะพบว่า ปอยผมที่ผ่านการใช้ครีมนวดผม โดฟ คอนดิชันเนอร์ สูตรใหม่มีความนุ่มลื่นมากกว่า และสามารถหวีผ่านได้ง่าย
สัมผัสกับมิติใหม่แห่งการฟื้นบำรุงถึงชั้นเซลล์ผมได้แล้ววันนี้กับครีมนวดผม
“โดฟ คอนดิชันเนอร์ สูตรใหม่” ให้ผมแข็งแรงยิ่งกว่าตั้งแต่โคนจรดปลาย ไม่ขาดง่ายในขณะสระผม พร้อมให้ความรู้สึกเบาสบายมีชีวิตชีวากว่าที่เคย มาพร้อมกับขวดรูปโฉมใหม่จับถนัดมือกว่าเดิม โดยมีให้เลือก
4 สูตรเพื่อจัดการกับทุกปัญหาเส้นผมได้แก่
- โดฟ คอนดิชันเนอร์ อินเทนซ์ รีแพร์ (สำหรับสาวผมเสียมาก) ดูแลล้ำลึกจากภายในด้วยเคราติน รีแพร์ แอ็คทีฟ เพื่อจัดการทุกปัญหาผมเสีย
- โดฟ คอนดิชันเนอร์ นอริชชิ่ง ออยล์ แคร์ (สำหรับสาวผมแห้ง) ผสานพลังนูทริ-ออยล์ บำรุงให้ผมนุ่มลื่นขึ้น ลดการชี้ฟู ให้คงความนุ่มสลวยและเปล่งประกายเงางาม
- โดฟ คอนดิชันเนอร์ แฮร์ ฟอล เรสคิว (สำหรับสาวผมขาดหลุดร่วง) ผสานเทคโนโลยีไตรคาโซล แอ็คทีฟ ช่วยป้องกันผมขาดหลุดร่วงจากโคนผม และ
- โดฟ คอนดิชันเนอร์ สเตรท แอนด์ ซิลกี้ (สำหรับสาวผมชี้ฟูเรียงตัวไม่เป็นระเบียบ) มาพร้อมกับพลังไมโครมอยส์เจอร์เซรั่ม หยุดผมชี้ฟูไร้น้ำหนัก ให้ผมเรียงตัวสวยเส้นต่อเส้น
มีให้เลือก
5 ขนาด ได้แก่ 70 มล
(29 บาท) 160 มล
(69 บาท) 330 มล
(135 บาท) 460 มล
(159 บาท) 650 มล
(199 บาท)