รีวิว My Nighttime Skincare Routine ก่อนนอนทาครีมอะไร (ฉบับคนขี้เกียจ แต่อยากสวยมาก)

สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้บีแวะมาเม้ามอยกันอีกแล้ว แล้ววันนี้ก็จะมาพูดถึงสกินแคร์ที่บีใช้ทุกวันก่อนนอนเป็นกิจวัตรเลย ซึ่งก็ไม่ได้มีขั้นตอนมากมายแบบคนอื่น เพราะต้องยอมรับว่าบีเป็นคนขี้เกียจพอสมควร555 แต่ก็พยายามฝืนตัวเองว่า เอาหน่อยน่า.. ทาหน่อยเถอะ5555 วันนี้ก็เลยคัดเฉพาะตัวที่รู้สึกว่าไม่ค่อยพลาด หมายถึงว่าในวันนั้นๆ จะขี้เกียจยังไง ก็ต้องพยายามทาครีมพวกนี้ให้ได้ในทุกวัน เอาล่ะ ไปดูตัวหลักๆ กันเลยค่ะ

หมายเหตุตัวใหญ่ บีมีสภาพผิวแห้ง (ก่อนหน้านี้สมัยเด็กๆ มีความผิวผสมนิดนึง และตั้งแต่อายุ 24 ขึ้นมาจนถึงตอนนี้ มันกลายเป็นผิวแห้งแบบเต็มตัวค่ะ) ปัญหาผิวที่บีมีหลักๆ และบีให้ความสนใจคือ เรื่องความชุ่มชื้น และริ้วรอยค่ะ

เริ่มจากมาส์กหน้าเลย บีมาส์กหน้าบ่อยพอสมควร อาทิตย์ละ 2-3 วัน

มาส์กที่ใช้บ่อยๆ คือ

Dr. Jart Soothing Hydra Solution Mask

ตัวนี้ส่วนผสมหลักคือว่านหางจระเข้ และเค้าจะช่วยในเรื่องความชุ่มชื่นเป็นหลักค่ะ หลังใช้จะรู้สึกได้เลยว่าผิวอิ่มน้ำ นุ่มนิ่มขึ้น สมมติช่วงไหนหน้าลอกๆ แห้งๆ ลองมาส์กตัวนี้วันเว้นวัน ก็จะรู้สึกว่าอาการผิวแห้งดีขึ้นแบบทันตาเลย

อ้อ ลืมบอกว่าก่อนมาส์กหน้า บีได้ใช้โทนเนอร์ไปแล้ว (วันปกติที่ไม่มาส์กหน้า ก็จะใช้โทนเนอร์ลงก่อนสกินแคร์ตัวอื่นๆ) โทนเนอร์ที่บีใช้คือตัวนี้ค่ะ

KIEHL'S SINCE 1851

Calendula Herbal Extract Alcohol Free Tone

นี่ก็เป็นขวดที่เท่าไหร่แล้วไม่แน่ใจ แต่ใช้มาหลายขวดมากเลย ซึ่งแต่ก่อนที่บีจะมาใช้ตัวนี้ บีไม่ชอบใช้โทนเนอร์เลย เนื่องจากบางตัวมีกลิ่นฉุนๆ บางตัวใช้แล้วก็แสบหน้า แต่ตัวนี้ใช้แล้วสบายหน้ามากค่ะ ไม่ระคายเคืองเลย

หลังจากนั้นบีก็จะตามด้วยน้ำตบนั่นเอง น้ำตบตัวที่บีใช้บ่อยจะเป็น 2 ตัวนี้ค่ะ

Biotherm life plankton essence และ Hada labo hydrating lotion

ซึ่งคุณทั้งสองเค้าจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นเหมือนกัน แต่ตัว Biotherm จะชุ่มชื้นกว่า แต่ก็จะเหนียวๆ หนึบๆ กว่า ซึ่งบีก็จะผลัดกันใช้ตามโอกาส เช่น ถ้าวันไหนมาส์กหน้าแล้ว ก็จะใช้ตัว Hada เพราะหน้าจะได้ไม่เหนอะหนะเกินไปค่ะ แต่ถ้าวันไหนไม่ได้มาส์กหน้าก็จะใช้ Biotherm เพราะมันทำให้ผิวเราชุ่มชื้นมากกว่า

วันนี้มาส์กหน้า แน่นอนว่าเป็นคุณเจ้ฮาดะ

มาต่อกันที่สกินแคร์หลักๆ ที่ใช้ในการดูแลผิวกันเลยค่ะ ก็จะมีคู่หูดูโอนี้ค่ะ

บีก็ใช้ตัวนี้ลงต่อไปเลย Estee lauder Advanced Night RepairSynchronized Recovery Complex II

ตัวนี้เป็นเนื้อเซรั่มเบาๆ ทาแล้วสบายผิวดี โบกหนาเท่าไหร่ก็ได้เพราะไม่เหนอะหนะหน้าเลยค่ะ ตัวนี้ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ? เค้าจะช่วยเรื่องความชุ่มชื้นได้ดีมากค่ะ รู้สึกว่าหน้าเนียนใส ตึงๆ ผิวมันดูอิ่มเต็มค่ะ แต่ตอนใช้ครั้งแรกๆ ที่ซื้อมา เพราะเคยหวังว่ามันช่วยเรื่องริ้วรอย ส่วนตัวไม่รู้ว่ามันช่วยมั้ย แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ก็ไม่มีริ้วรอยจริงๆ ค่ะ (ยกเว้นใต้ตา) เลยมโนว่านางคงช่วยเรื่องนี้อยู่นะ

ตัวสุดท้ายที่บีใช้คือ Clarins double serum นั่นเอง

น่าจะเป็นตัวที่หลายๆ คนใช้กัน เพราะได้ผลดีมาก แถมราคาไม่แรงเกินไปด้วย แต่เค้าจะมีความเป็นน้ำมันหน่อยๆ ถ้าไปแล้วอาจรู้สึกหนักหน้าทำให้ไม่ถูกใจสาวผิวมันได้ แต่สำหรับคนผิวแห้งผากแบบบีนั้น ได้ใจไปแบบ 10/10 ค่ะ

ตั้งแต่ใช้เค้ามา รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงแบบชัดเจนมาก เพราะผิวนุ่มขึ้น อิ่มน้ำ ชุ่มชื้น สุขภาพดีแบบเห็นได้ด้วยตาเลย บีว่าตัวนี้เป็นตัวที่ครบเครื่องในเรื่องดูแลผิวเลยค่ะ

หน้าก็จะวาวๆ ประมาณนี้เลย

ระหว่างรอให้ครีมซึมเข้าผิว บีก็จะทาอายครีมค่ะ ใต้ตาบีเนี่ย พังมากกก ย้ำว่าพังมาก อายครีมตัวไหนก็เอาไม่อยู่ ดังนั้นเพื่อนๆ ไม่จำเป็นต้องซื้ออายครีมตามบีก็ได้นะคะ555 เพราะบีเองก็ยังไม่เห็นผลลัพธ์แบบชัดเจนเท่าไหร่ (แต่ถ้าใครมีอายครีมดีๆ ต้องแนะนำบีนะ ><)

บีผลัดกันใช้ 3 ตัวค่ะ วิธีเลือกใช้คือ วันนั้นตัวไหนอยู่ใกล้มือมากกว่าก็หยิบมาใช้โลด!

Kracie Japan Hadabisei Wrinkle Cream

ตัวนี้ได้มาจากตอนไปญี่ปุ่น ตัวเนื้อครีมเค้าจะไม่หนักมาก ทาแล้วเบาๆ สบายผิว และด้วยราคาไม่แรง ทำให้ใช้ได้ในปริมาณเยอะๆ โดยไม่ต้องเกรงใจตัวเอง55

clarins extra firming yeux eye cream

ตัวนี้ได้มาในเซ็ท Travel ของ Clarins เนื้อเค้าจะมีความหนัก แต่ไม่เหนอะนะคะ ทาแล้วสบายผิวเช่นกัน และถ้าเปรียบเทียบกับทั้ง 3 ตัวที่ใช้อยู่ ตัวนี้เห็นผลในเรื่องความชุ่มชื้นมากที่สุดเลยค่ะ คิดว่าถ้าหมดตัวเล็กอันนี้ คงไปสอยไซส์ใหญ่มาค่ะ

LANCÔME Advanced Génifique Eye Care

ตัวสุดท้ายอันนี้ยอมรับว่าสอยมาเพราะกระปุกนางสวย ดูเลอค่า แต่แอบรู้สึกว่าราคาแรงไปหน่อย เพราะปริมาณน้อยมากๆ เหนืออื่นใดคือยังไม่ค่อยเห็นผลสักเท่าไหร่ด้วย แต่ก็ทาได้เพลินๆ เพราะมันทำให้ใต้ตาชุ่มชื้นเช่นกันค่ะ

ข้ามเรื่องใต้ตาไป เพราะยังไม่ถูกใจบีสักที แงงง

มาในส่วนของลิปมันบ้าง หน้าชุ่มชื้นแล้วปากจะแห้งผากไม่ได้เนอะ

มี 3 ตัวที่บีผลัดกันใช้ค่ะ

ตัวแรก ลิปมันเภสัช ultra lip treatment เป็นตัวที่ใช้แล้วถูกใจมาก เพราะปากจะนุ่มนิ่มทันทีหลังใช้ และแอบรู้สึกว่าร่องปากต่างๆ มันตื้นขึ้นด้วยค่ะ และเค้าจะมีสีชมพูอ่อนๆ น่ารักดีค่ะ ทาแล้วปากดูสุขภาพดีตามธรรมชาติ

ตัวต่อมาอันนี้ก็ชอบ VASELINE Vaseline Lip Essence Cherry

ทำให้ปากชุ่มชื้นขึ้นจริงๆ เวลาทาแล้วปากดูเงาๆ สวยดี และดีกว่าใช้แบบวาสลีนกระปุก เพราะรู้สึกว่ามันทำให้ปากนุ่มกว่าค่ะ ป้องกันปากแตกได้ดีกว่า แต่แอบไม่ชอบกลิ่นมัน มีความเชอร์รี่คล้ายๆ กลิ่นยา

สุดท้ายคือตัว laneige lip sleeping mask

ตัวนี้ก็เป็นลิปมัน (ออกแนวลิปทรีทเม้น) ที่บีชอบมากเหมือนกัน เพราะมันบำรุงปากได้ดีจริงๆ ดีมากๆ และน่าจะถูกใจใครหลายๆ คนด้วยค่ะ แถมมันยังใช้ได้นานมาก ใช้เท่าไหร่ไม่หมดสักที นี่ก็กำลังจะเอาไปแบ่งคุณแม่แทนแล้ว

นี่ก็เป็นสกินแคร์ที่บีลงก่อนเข้านอน ไม่ว่าวันนั้นจะขี้เกียจแค่ไหน ก็จะละเมียดละไมทาไปที่หน้าทุกวัน เพราะมีความหวังลึกๆ ว่า สกินแคร์พวกนี้จะเป็นยาอายุวัฒนะ ทำให้เราแก่ช้านั่นเอง แฮร่555555

วันนี้ไปแล้วค่ะ ฝันดีล่วงหน้านะคะทุกคน