รีวิวกันแดดไฮบริด BSC Spot protect SUNSCREEN SPF50+ PA+++++ เผยผิวไบรท์ไม่กลัวแดด!

ผิวขาด"เซราไมด์"สาเหตุที่แท้จริงของ"ผิวแก่"

26 ต.ค. 2562  |  6203   7  

เซราไมด์ (Ceramide) คือสารจำพวกไขมัน ที่มีชื่อว่า สฟิงโกไลปิด (Sphingolipid) ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของเยื่อหุ้มเซลล์ (Cell Membrane) มีหน้าที่ในการปกป้องเซลล์จากสิ่งแปลกปลอมภายนอก และยังมีบทบาทสำคัญที่ช่วยให้ผิวหนังสามารถทำหน้าที่อุ้มน้ำ และรักษาระดับการซึมผ่านของน้ำในผิวหนัง โดยเซราไมด์จะพบได้ที่ชั้นหนังกำพร้าชั้นนอก (Stratum Corneum) ซึ่งเป็นบริเวณผิวชั้นบนสุดของหนังกำพร้า (Epidermis) โดยจะอยู่ติดกับเคราติน (Keratin) ของผิว หน้าที่ของเซราไมด์คือ จะเป็นตัวเชื่อมเคราตินให้เกิดการเรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบ ช่วยให้ผิวแข็งแรง และ ลดการสูญเสียน้ำของผิว

เซราไมด์สามารถที่จะช่วยปกป้องผิวให้แข็งแรง ลดการสูญเสียน้ำของผิว ทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นและกระจ่างใสได้

ผิวของคนเราโดยปกติแล้ว จะทำหน้าที่ปกป้องอวัยวะภายในไม่ให้ได้รับอันตราย จึงต้องมีความหนาและความยืดหยุ่นสูง นอกจากนี้ผิวยังมีหน้าที่ในการขับของเสียออกจากร่างกาย เช่น เหงื่อ รวมถึงช่วยระบายความร้อนอีกด้วย และถ้าหากถามว่าผิวบริเวณไหนที่คนเราให้ความสนใจหรือให้ความสำคัญมากเป็นอันดับหนึ่ง คำตอบนั้นก็คงจะเป็น “ผิวหน้า” นั่นเอง สาเหตุก็คือ หากเกิดปัญหาขึ้นบนผิวหน้า จะส่งผลให้ขาดความมั่นใจ รวมถึงบุคลิกภาพที่ไม่ดีได้ ดังนั้น หากเราดูแลผิวหน้าให้ดูดีอยู่เสมอ ก็จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กลับคืนมาได้เช่นกันค่ะ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทครีมหรือเซรั่มที่มีส่วนผสมของสารบำรุงที่เป็นประโยชน์ ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้ผิวหน้ามีสุขภาพที่ดีขึ้น โดยผลิตภัณฑ์เหล่านี้สามารถเข้าไปช่วยแก้ปัญหาบริเวณชั้นหนังกำพร้าอย่างตรงจุด

ชั้นผิวหนังกำพร้าประกอบด้วย 5 ชั้นย่อย ดังนี้

1.Basal layer อยู่ชั้นในสุด ทำหน้าที่ผลิตเซลล์ Keratinocyte ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของเม็ดสีผิว รูขุมขน และกรดไขมัน

2.Prickle layer เป็นชั้นที่ผลิตโปรตีนประเภท เคราติน (Keratin) ได้แก่ เส้นผม(รากผม) และขน

3.Granular layer เราสามารถพบกระบวนการผลัดเซลล์ผิวได้ที่ชั้นนี้เช่นกัน เป็นชั้นผิวที่พบการเกิดเส้นผมหรือขน และไขมันบริเวณรูขุมขน

4.Clear layer เป็นชั้นผิวที่เซลล์เรียงตัวอย่างเป็นระเบียบหนาแน่น บ่งบอกถึงสุขภาพที่ดี ผิวพรรณเรียบเนียน

5.Horny layer หรือที่เราเรียกว่า ชั้นขี้ไคล (Desquamation) ซึ่งเกิดการผลัดเซลล์ผิวเก่า เพื่อให้เกิดผิวใหม่ที่มีความชุ่มชื้น ซึ่งชั้นผิวนี้เองที่เราควรให้ความสำคัญ เนื่องจากอยู่ชั้นนอกสุดที่ต้องเผชิญกับมลภาวะ และสิ่งแวดล้อมภายนอกมากมาย

ชั้นผิว Horny layer สามารถฟื้นฟูได้ด้วยโดยเลือกใช้ครีมหรือเซรั่มที่มีส่วนประกอบของน้ำและไลปิด (Hydrolipid film) เพื่อช่วยให้ผิวอ่อนนุ่ม ชะลอริ้วรอยที่จะเกิดขึ้นก่อนวัยอันควร และปกป้องผิวจากแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของปัญหาสิว

ไลปิด หรือไขมันในผิวประกอบด้วยสาร 3 กลุ่มหลักคือ เซราไมด์(Ceramide), กรดไขมัน และ คอเรสเตอรอล(Cholesterol) โดยเฉพาะอย่างยิ่งเซราไมด์ ซึ่งเป็นสารหลักในการเสริมความแข็งแรงให้ผิว ได้แก่ สารจำพวกไขมัน ที่มีชื่อว่า สฟิงโกไลปิด (Sphingolipid) ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของเยื่อหุ้มเซลล์ (Cell Membrane) ทำหน้าที่อุ้มน้ำ ลดการสูญเสียน้ำ อีกทั้งเป็นตัวเชื่อมเคราตินให้เกิดการเรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบ ช่วยให้ผิวแข็งแรง ช่วยยับยั้งการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ ทั้งนี้ปริมาณของเซราไมด์ใต้ผิวจะแปรผันตรงกับช่วงอายุ โดยแรกเกิดถึง 30 ปี ผิวจะมีเซราไมด์ 100% และเริ่มลดลงเหลือ 60% เมื่อมีอายุ 40 ปี และยังคงลดลงเรื่อยๆ จนถึงระดับ 30++% เราทุกคนจึงสามารถพบเจอกับปัญหาผิวที่มีการขาดเซราไมด์ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่มีการขาดอย่างรุนแรงนั้นจะแสดงอาการโรคผิวหนังอโทปิก (Atopic dermatitis) ได้แก่ โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (atopic dermatitis) โรคผื่นแพ้จากการสัมผัส (contact dermatitis) และโรคสะเก็ดเงิน (psoriasis) เป็นต้น ทั้งนี้ เราสามารถพบอาการเบื้องต้นจากการที่ผิวขาดเซราไมด์ คือ ผิวแห้งแตกง่าย เกิดริ้วรอยตีนกา รอยเหี่ยวย่นได้ง่าย อีกทั้งยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดจุดด่างดำ ฝ้า กระ บนผิวขึ้นอีกด้วย

หน้าที่ที่สำคัญของเซราไมด์

– เป็นตัวเชื่อมให้เคราตินของผิวชั้นบนเรียงตัวกันอย่างมีระเบียบ

– ช่วยปกป้องให้ผิวแข็งแรง และป้องกันเชื้อโรคต่างๆเข้าสู่ร่างกายผ่านทางผิวหนัง

– ลดการสูญเสียน้ำของผิว ช่วยให้ผิวสามารถเก็บกักความชุ่มชื้นได้ดี ทำให้ผิวชุ่มชื้นเปล่งปลั่ง

– ลดการสังเคราะห์เม็ดสีผิว ช่วยป้องกันการเกิด ฝ้า กระ และ จุดด่างดำ ทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้น

ประโยชน์ของเซราไมด์

นอกจากนี้ประโยชน์ของเซราไมด์นั้นยังทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น ชุ่มชื้น ช่วยยับยั้งการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ ผิวพรรณดูกระจ่างใสขึ้น โดยธรรมชาติเซราไมด์จะค่อยๆมีปริมาณลดน้อยลง เมื่อมีอายุมากขึ้น จึงเป็นผลให้สภาพผิวมีการเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ส่งผลให้ผิวขาดเซราไมด์ คือ พันธุกรรมมีผิวแห้งแต่กำเนิด การสัมผัสกับแสงแดด รวมถึงความเครียดก็เป็นตัวกระตุ้นให้เซลล์ผิวสร้างเซราไมด์ลดลง หากผิวเกิดการขาดเซราไมด์ จะส่งผลให้ผิวแห้งแตกง่าย เกิดริ้วรอยตีนกา รอยเหี่ยวย่นได้ง่าย อีกทั้งยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดจุดด่างดำ ฝ้า กระ บนผิวขึ้นอีกด้วย

การขาดเซราไมด์ยังส่งผลต่อโรคผิวหนังได้อีกด้วย

นอกจากข้อเสียของการขาดเซราไมด์ดังกล่าวเบื้องต้นแล้วนั้น ยังมีงานวิจัยรับรองว่า การลดปริมาณลงของเซราไมด์นั้น จะเป็นสาเหตุหลักที่ส่งผลให้เกิดโรคผิวหนังต่างๆ ดังนั้นเราจึงควรที่จะทำการป้องกันเพื่อไม่ให้ผิวเสื่อมสภาพ จึงควรเสริมเซราไมด์ให้เพียงพอ ทำให้ผิวของเรานั้นสามารถคงสภาพผิวให้ชุ่มชื้นได้อยู่เสมอ

มาเพิ่มปริมาณเซราไมด์ด้วยการทาครีมหรือเซรั่มที่มีส่วนผสมของเซราไมด์ เพื่อเติมเต็มผิวกันนะคะ

 


7 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 1

ขอบคุณค่ะ

26 ต.ค. 2562 เวลา 22:39 น.
ความคิดเห็นที่ 2

ขอบคุณค่ะ

27 ต.ค. 2562 เวลา 0:28 น.
ความคิดเห็นที่ 3

Thanks

27 ต.ค. 2562 เวลา 11:38 น.
ความคิดเห็นที่ 4

Thanks

27 ต.ค. 2562 เวลา 20:11 น.
ความคิดเห็นที่ 5

ใช่จร้า

28 ต.ค. 2562 เวลา 3:48 น.
ความคิดเห็นที่ 6

ขอบคุณครับ

28 ต.ค. 2562 เวลา 6:11 น.
What's new
รีวิวกันแดดล่องหน Supergoop! 2 สูตรใหม่ ผิวหายใจได้ กันน้ำ บางเบา สบายผิว8 เรตินอล น่าใช้ ลดริ้วรอยตีนกา กระชับผิว อ่อนโยนไม่ระคายเคือง14 ครีมลดริ้วรอยใต้ตา ยี่ห้อไหนดี ลดตีนกา แก้หนังตาเหี่ยวอัปเดตเทรนด์บิวตี้ก่อนใครที่ Cosmoprof CBE ASEAN 2024 งานแสดงสินค้าเพื่อธุรกิจความงามระดับโลกQuiet Beauty เทรนด์แต่งหน้าน้อยแต่สวยมาก ลุคธรรมชาติ สวยแบบเป็นตัวเอง!คัดเน้น ๆ 20 แชมพูลดผมร่วง 2024 บอกลาผมบาง ต้อนรับผมหนาอีกครั้ง!13 ลิปมันกันแดด ยี่ห้อไหนดี มี SPF กันรังสี UV ปกป้องปากคล้ำแห้งลอกดูดวงความรัก การงาน การเรียน การเงิน ระหว่าง 9 - 15 มิ.ย. 67 (ทุกราศี) ฟันเหลือง แก้ยังไง? 6 วิธีทําให้ฟันขาวอย่างเป็นธรรมชาติง่าย ๆ ด้วยตัวเองกิจกรรม :: ชวนทดลองใช้ Sunsilk Natural Shampoo Bio Active Bergamot Butterfly pea ซันซิล ไบโอ สีม่วง ลดผมขาดร่วง จำนวน 100 รางวัล