ทุเรียนทอดกรอบถอยไป ยุคนี้ต้องมาส์กหน้าทุเรียนจ้า : รีวิว Dureze Moisturizing Cream Mask!

สวัสดีค่ะทุกคน

วันนี้กลับมากลับความเห่อค่ะ! เห่อมากกก เห่อจริงๆ เพราะไม่คิดว่ามันจะแบรนด์เครื่องสำอางหรือสกินแคร์แบรนด์ไหน ผลิตสินค้าอะไรแบบนี้มาขายค่ะ เพราะวันนี้บีจะมาเม้ามอย + รีวิวจัดหนัก ถึงสกินแคร์ที่ทำมาจากทุเรียนค่ะ! ใช่ค่ะสาวๆ ทุกคน ไม่มีใครอ่านผิด มันคือสกินแคร์ที่ผลิตจากทุเรียนค่ะ!

ก่อนหน้านี้เวลาไปสนามบินสุวรรณภูมิเนี่ย เราจะเห็นคนต่างชาติหิ้วทุเรียนกรอบกลับบ้านกันเป็นแถบๆ แต่ตอนนี้บีคงจะบอกต้องพูดว่าน่าจะเชยไปแล้ว เพราะนาทีนี้ต้องแหวกแนวแบบมาส์กหน้าทุเรียนเท่านั้นคะ มาค่ะ! วันนี้เราจะมาเปิดกล่องลองใช้กันไปเลย

ตัวนี้เค้าคือ Dureze Moisturizing Cream Mask ค่ะ

ยอมรับเลยว่าพอเห็นแพ็คเกจแล้ว กระตุ้นต่อมความอยากรู้ อยากรีบเปิดใช้มาก นางมาในกล่องสีเหลือง มีผลทุเรียนกรุบกริบบนกล่องค่ะ โดยส่วนตัวบีชอบทุเรียนมากอยู่แล้ว ชอบกิน ชอบกลิ่น ชอบรสชาติ ชอบทุกอย่าง พอมาในรูปแบบนี้ ก็เลยค่อนข้างสนใจเป็นพิเศษ

ส่วนตัวกระปุกข้างใน มาในลักษณะฝากด เหมือนมาส์กครีมแบรนด์อื่นๆ ที่หลายๆ คน อาจเคยผ่านตามาบ้าง ตัวกระปุกมีสีขาว พร้อมกับชื่อแบรนด์เป็นตัวอักษรสีเหลือง เขียนว่า Dureze แบบนี้ค่ะ

เดี๋ยวเรามาดูเนื้อกันดีกว่า

เนื้อมาส์กจะออกเป็นสีขาวข้นๆ ค่ะ แต่ไม่ใช่ขาวแบบสีนมนะคะ บีสังเกตว่ามันจะมีความเหลืองเจือมานิดๆ คล้ายสีของเนื้อทุเรียนเวลาเรากัดเข้าไปข้างในผลค่ะ และเนื้อเค้าจะข้นๆ และมีความหนึบๆ ค่ะ

ส่วนเรื่องกลิ่นหลายคนคงสนใจกันใช่มั้ยคะ หลังจากพิสูจน์กลิ่นแล้ว บีจะบอกว่าตอนแรกนี่คิดว่ากลิ่นจะเป็นทุเรียนจ๋าเลย แต่จริงๆ ก็ไม่นะคะ กลิ่นอ่อนๆ มากกกก กลิ่นเบามากเลย คือมีกลิ่นทุเรียนแค่จี๊ดเดียว จนแทบไม่รู้สึกเลย บีว่าสำหรับใครที่ไม่ชอบกลิ่นทุเรียนก็สามารถใช้ได้นะคะ

ตัวนี้จะช่วยในเรื่องผิวชุ่มชื้นค่ะ ช่วยลดเลือนริ้วรอย และทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้นค่ะ เค้ามีส่วนผสมหลายอย่างมากเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นโพลีฟีนอล แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามินเอ บี ซี อี ทีนี้หลังใช้ผิวเราก็คงจะดูสุขภาพดีขึ้นเยอะเลย ส่วนวิธีใช้เนี่ย ก็แค่ล้างหน้าให้สะอาด แล้วทามาส์กลงไป ทิ้งไว้ 10-15 นาที จากนั้นก็ล้างออกค่ะ

มาค่ะ เดี๋ยวเราไปลองมาส์กหน้ากันเลยดีกว่า

เริ่มจากแต้มครีม ทาให้ทั่วใบหน้าเลยค่ะ

ตอนที่ทาลงไปแล้ว จะรู้สึกเย็นๆ สบายผิวมากค่ะ ไม่มีความรู้สึกแสบหรือระคายเคืองเลย หลังทาลงไปแล้วก็นวดๆ ให้มาส์กเค้าซึมเข้าผิวหน่อยค่ะ จากนั้นก็ทิ้งไว้ 15 นาทีค่ะ

เนื้อมาส์กจะไม่ได้แห้งลงนะคะ จะคงความหนึบๆ ชุ่มๆ ไว้ตลอดการมาส์กหน้า แล้วสีมาส์กเมื่อทาลงที่ผิวก็จะเป็นสีใสๆ ไม่ออกสีค่ะ ลองดูรูปข้างล่างนะคะ ข้างที่ยังไม่ได้ทากับทาแล้ว ไม่ค่อยเห็นความแตกต่างในเรื่องของสีและเนื้อสัมผัส เมื่อมองด้วยตาเปล่าค่ะ แต่จะรู้สึกเหมือนเราทาครีมหลายๆ ชั้นลงไปที่ผิวค่ะ

ตอนล้างออกจะรู้สึกว่ามาส์กเค้าลื่นๆ ค่ะ แต่ล้างออกง่ายนะ ไม่จำเป็นต้องใช้โฟมล้างหน้าต่อเลยค่ะ

และหลังล้างเสร็จ บีรู้สึกว่าหน้ามันจะเด้งๆ ฉ่ำๆ ขึ้นค่ะ ถ้าเพื่อนๆ สังเกตรูปหลังล้างหน้าดีๆ จะเห็นว่าผิวมันดูตึงๆ เหมือนผิวมันอิ่มน้ำขึ้น แล้วบีรู้สึกว่าหน้ามันชุ่มชื่นเหมือนตอนที่เราโบกครีมหนาๆ ก่อนนอน แล้วตื่นมาผิวมันนุ่มนิ่ม ฟีลนั้นเลยค่ะ สำหรับมาตรฐานของบี ถือว่าโอเคเลยนะค่ะ ชอบนะ ขนาดใช้ครั้งแรกเอง

โดยรวมบีชอบมากกก รู้สึกว่าหน้าชุ่มชื้นขึ้นจริงๆ บีว่าต่อไปถ้าใครจะซื้อของฝากไปให้คนต่างชาติเป็นมาส์กดูเรเซ่นะ มันจะเป็นไอเท็มที่เก๋มากอะ 

คือได้ทั้งความทุเรียนคูลๆ และสุขภาพผิวดีอีก เก๋ดีค่ะ ใครสนใจก็ไปลองสอยกันดูนะคะ เปิดมิติใหม่ของวงการเครื่องสำอางมาก5555 คือนางไม่ได้แปลกอย่างเดียวไง นางใช้ดีจริงค่ะ

ส่วนวันนี้ขอตัวลาไปก่อน แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้าน้า

บ๊ายๆ ค่ะ