สวัสดีครับพี่ๆเพื่อนๆชาว Cosmenet ทุกๆคนนะครับ สำหรับวันนี้ผมจะขอเป็นมือใหม่หัดรีวิวครับ
สำหรับวันนี้จะมารีวิวครีมกันแดดครับ ต้องออกตัวก่อนเลยว่าผมเป็นคนที่ไม่เคยใส่ใจที่จะทากันแดดเลยยยยย ทั้งๆที่เป็นคนชอบดูแลตัวเอง แปลกมั้ย?5555
ความรู้สึกส่วนตัวคือครีมกันแดดเวลาทารู้สึกเหนียวเหนอะหนะ
แถมทำให้เป็นสิวอีก เชื่ออย่างนั้นมานาน จนวันนึงพบปัญหาผิว คือเริ่มเป็นกระจากที่จางๆก็ชัดขึ้นๆ
จนเครียด ทั้งๆที่เราเองก็ทาครีมบำรุงตลอด เลยพยายามลองค้นหาข้อมูลวิธีการรักษากระ
จุดด่างดำ แต่ยังไม่คิดจะทากันแดดนะ5555+
จนวันนึงได้อ่านกระทู้ๆนึง
และมีประโยคนึงที่มันดังก้องในหูมาก คือแค่ได้ยินก็เหมือนกับถูกสะกดจิต คือประโยคที่ว่า
10 บำรุง ไม่เท่า1กันแดด!!!!!! หลังจากนั้นก็เริ่มหันมาสนใจทาครีมกันแดด
ลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆครับ แพ้บ้าง
สิวอุดตันบ้าง เยิ้มบ้างปะปนกันไป
แต่การหันมาสนใจทาครีมกันแดดครั้งนี้ก็ทำให้เรารู้อะไรใหม่ๆเพิ่มมากขึ้น
เช่น กันแดดเดี๋ยวนี้บางตัวไม่ทำให้หน้ามันเยิ้มแล้วนะเว่ย บางตัวก็ไม่ทำให้เกิดสิวอุดตัน คือวิทยาการการความงามไปไกลมากกจริงๆ
และในวันนี้ผมจะมาขอรีวิวกันแดดที่ผมใช้แล้วรู้สึกว่าโอเคกับตัวเองมาให้ทุกคนรับชมกันครับ
^^
ก่อนอื่นต้องบอกสภาพผิวของตัวผมเองก่อน ผมเป็นคนผิวผสมค่อนไปทางมันครับ คือจะมีความมันมากช่วงทีโซน และมันน้อยหน่อยตรงช่วงแก้ม กับคาง งง กันมั้ยครับ จริงๆควรจะเรียกหน้ามันปะ? 55555 มาเริ่มกันเลยดีกว่า
1.
Biore UV Kids Milk SPF 50+ PA+++

เนื่องจากเป็นคนที่ผิวแพ้ง่ายมากเลยจะขอลองจากของเด็กๆก่อนละกันครับ กันแดดตัวนี้มีเนื้อเป็นน้ำนม มีความเหลว ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม เวลาทาจะได้กลิ่นแอลกอฮอล์อ่อนๆ
จะซึมเข้าผิวช้าหน่อย ต้องทาวนไปสักพักถึงจะซึมซาบเข้าสู่ผิว (หรือหน้าเราด้านวะ!?
55555+) เมื่อซึมเข้าผิวแล้วจะไม่รู้สึกเหนียวเหนอะหนะผิว
แล้วก็ไม่ทิ้งคราบขาวครับ
ทาแล้วระหว่างวันไม่รู้สึกว่าหน้ามันไปกว่าเดิม
เพราะว่าหน้ามันอยู่แล้ว 5555555+ แล้วก็ไม่ทำให้เป็นสิวอุดตันก็รู้สึกโอเคครับ แต่ก็อยากลองของใหม่ไปเรื่อยๆจนกว่าจะเจอที่ใช่จริงๆ สำหรับขนาด
90 ml. ราคาอยู่ที่490 บาทครับ

ขยับมาจากกันแดดสำหรับเด็กก็เริ่มหันมาลองกันแดดแบรนด์เครื่องสำอางกันบ้าง
ด้วยความที่เรากลัวว่าเราจะแพ้ครีมกันแดด เลยจะพยายามซื้อขนาดพกพามาลองใช้ก่อน
เวลาแพ้ หรือไม่โอเคจะได้ไม่เจ็บตัวมากนัก มาต่อที่ตัวที่สองกันดีกว่าครับ
2.Snail White Sunscreen SPF50+ PA++++ สี่บวกโอ้วบร๊ะเจ้าบวกเยอะมากเลย

สำหรับSnailwhite เป็นกันแดดเนื้อน้ำนม
แต่มีความหนืด ความเซทตัวมากกว่าBiore ตัวแรก เวลาทาก็จะได้กลิ่นหอมของดอกไม้อ่อนๆ
ผสมมากับกลิ่นของแอลกอฮอล์เบาๆ55555+ ตัวนี้ซึมเข้าผิวง่ายดีครับ
แล้วก็ไม่ทิ้งคราบขาวบนใบหน้า เวลาทาระหว่างวันจะรู้สึกหน้ามันขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย
แต่ก็พอรับได้ครับ แล้วก็ไม่ทำให้เกิดสิวอุดตัน
ก็ถือเป็นกันแดดที่ดีตัวนึงครับ ราคาอยู่ที่690บาทครับ

3. Oriental Princess For Men Ultra Light UV Defence SPF50
PA++++

สำหรับกันแดดOriental Princess for MEN
Ultra Light UV Defense SPF 50 PA++++ ตัวนี้เป็นกันแดดน้องใหม่มาแรงงงงง
เหมือนจะเป็นสินค้าสำหรับผู้ชายไลน์ผลิตภัณฑ์แรกของOriental Princess จากที่รีวิวกันแดด
หลายๆตัวที่ผ่านมา จะเห็นว่าผมไม่ใช้กันแดดที่เป็นของผู้ชาย หรือFor men เลย เพราะแพ้ง่ายพอสมควรครับ หลายแบรนด์อยู่เหมือนกัน
ที่มีตระกูลฟอร์เมน แต่ที่ไม่เอามาติดโผไม่เอามารีวิวเพราะว่าแพ้ครับ
ไม่มั่นใจเหมือนกันว่าแพ้อะไร แต่กันแดดตัวนี้ผมใช้เวลาตัดสินใจอยู่สักระยะนึงว่าจะลองดีมั้ยนะ
จากที่เจ็บมาเยอะกับตระกูลฟอร์เมนทั้งหลาย แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจซื้อมาลองใช้
เนื้อสัมผัสของกันแดดตัวนี้ จะเป็นเนื้อน้ำนมสีขาว มีกลิ่นน้ำหอมผู้ชายอ่อนๆ
ส่วนตัวผมชอบนะครับ เวลาทาจะรู้สึกเย็นๆผิวนิดหน่อย เนื้อกันแดดซึมไว ไม่ทิ้งคราบขาว
หลังจากทาระหว่างวันรู้สึกว่าไม่ทำให้หน้ามันขึ้น ไม่เป็นสิวอุดตัน หรือสิวอักเสบ และที่สำคัญคือ
ผมไม่แพ้คร้าบบบบบบ ฮิ้ววววว!
เป็นกันแดดตระกูลฟอร์เมนตัวแรกที่ผมใช้แล้วไม่แพ้
เป็นกันแดดอีกตัวที่ผมรู้สึกชอบ และก็ประทับใจครับ สำหรับ ขนาด50
g. ราคาอยู่ที่695 บาท ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ราคากลางๆ
และคุ้มค่าสำหรับผม เพราะผมไม่แพ้ครับ55555+
หาซื้อได้ในช็อปของOriental Princess ทุกสาขาครับ4. The History Of Whoo Wrinkle Sun SPF50+
ผมจะขอเรียกสั้นๆว่าWhoo นะครับ เอ๊ะฮวู นั่นใคร? ใครหรอ? ใคร?
(เมิงไปเล่นตรงโน้นนนนนนนน)
คือกันแดดตัวนี้บังเอิญได้มาจากร้านขายเทสเตอร์เครื่องสำอางเกาหลีข้างทางครับ
คือปกติผมใช้ครีมบำรุงของWhoo บางตัวอยู่แล้ว เห็นตัวนี้ก็เลยสนใจอยากจะลอง
เลยลองซื้อมาใช้ดูสำหรับตัวนี้เป็นกันแดดเนื้อน้ำนมที่ มีกลิ่นหอมมาก
แบบมากเกินความจำเป็น ส่วนตัวคิดว่ากลิ่นเหมือนธูปจุดไหว้พระ
(เวลาทาจะรู้สึกเหมือนอยู่ในวัดในโบสถ์ตลอดเวลา55555+)
เวลาทาก็เกลี่ยยากพอสมควร มีความเหนอะหนะ และทาเวลาทาแล้วหน้าจะลอยจนตกใจ แต่….พอเราทิ้งระยะไปสักพักเนื้อกันแดดจะซึมแล้วก็กลายเป็นสีผิว
อาจจะขาวกว่าหน้าเล็กน้อย และหน้าจะดูวาวๆ คงเพราะคนเกาหลีชอบหน้าวาวๆ
กันแดดก็เลยมีความวาวๆเหมือนกัน หลังจากทาระหว่างวัน
รู้สึกว่าหน้ามันกว่าสองตัวก่อนคือSnail
white กับBiore แล้วก็มีสิวอุดตันขึ้นเล็กน้อยอาจจะเพราะว่ามันมีความมันอยู่ ก็ถือว่าเป็นกันแดดที่ผมพอใจในระดับนึงครับ
ตัวนี้เป็นขนาดทดลอง8 ml สนนราคาอยู่ที่230 บาท
ราคาแพงเอาเรื่องอยู่เหมือนกันครับ สถานที่หาซื้อก็อาจจะยากหน่อย
เพราะเป็นเทสเตอร์เครื่องสำอาง อาจจะต้องดูตามร้านขายเทสเตอร์ ไม่ก็ตามช๊อปออนไลน์
Konvy ,Shoppee, Lazada

มาถึงตัวสุดท้ายกันดีกว่า
5. Biore UV Aquarich Watery Essence SPF50+ PA++++

ชื่อยาวววว แถมยังมีบวกเยอะอี้กกกกกกกกกกก สำหรับกันแดดBiore ตัวนี้เป็นกันแดดที่ทุกคนรู้จักกันดี
แล้วก็มีหลายคนมารีวิวว่ามันดีมาก
ก็เลยสนใจอยากลองครับ
กันแดดตัวนี้เป็นกันแดดเนื้อน้ำนมอีกเช่นกัน
แต่พิเศษกว่าตัวอื่นๆ ตรงที่เนื้อมันจะใสกว่าตัวอื่นๆ ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม
เวลาทาก็จะได้ซึมซาบกลิ่นของแอลกอฮอล์แบบเต็มๆ กลิ่นแอลหนักหน่วงมากจริงๆ
เวลาทาก็จะรู้สึกเย็นๆผิว คงเพราะแอลกอฮอล์น่านล่ะ เกลี่ยง่าย ซึมเข้าสู่ผิวง่าย ไม่หนักหน้า ไม่ทิ้งคราบขาว ไม่ทำให้หน้าลอย เวลาทาระหว่างวันก็ว่าไม่ได้ทำให้หน้ามันขึ้น
ไม่ทำให้เป็นสิวอุดตัน แล้วก็สิวอักเสบ
ก็เป็นกันแดดอีกตัวที่ผมประทับใจในระดับนึงครับสำหรับราคาตัวนี้มีสองขนาดครับ
ขนาดปกติผมไม่ค่อยมั่นใจว่าราคาเท่าไรรู้สึกว่าราคาจะอยู่ที่300 – 400 ++ ประมาณนี้
หาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป หรือไม่ก็ตามWatson หรือพวกร้านDrugstore
ครับ **แต่สำหรับขนาดที่ผมใช้
เป็นขนาดพกพา15 g. ราคา129 บาท
มีขายเฉพาะในเซเว่น น่าจะหาซื้อได้ในเซเว่นอีเลเว่น น่าจะเกือบๆทุกสาขาครับ

เราลองมาเปรียบเทียบความมันกันครับ
ว่าตัวไหนจะมันมากกว่าซึ่งก็อย่างที่เห็นตามภาพเลยครับ

จากภาพผมลองหยดตัวครีมกันแดดลงบนกระดาษซับมันในระยะเวลาไล่เลี่ยกันครับ จะเห็นว่ากันแดด ของ The History Of whoo มีความมันมากที่สุด รองลงมาคือ Snail white , Oriental
Princess และบีโอเร สีเหลือง และฟ้า ตามลำดับครับ
มารอดูหลังจากหยดครีมกันแดดลงบนกระดาษซับหน้ามันหลังผ่านไป 2 ชั่วโมงกันครับ

หลังจากผมลองหยดตัวครีมกันแดดลงบนกระดาษซับมันแล้วทิ้งไว้สองชั่วโมง จะเห็นได้ว่าผลแสดงค่าความมันไม่ได้ผิดไปจากตอนแรกที่หยดลงบนกระดาษซับหน้ามันเลยครับ คือกันแดด ของ The History Of whoo มีความมันมากที่สุด รองลงมาคือ Snail white , Oriental Princess และบีโอเร สีเหลือง และฟ้า ตามลำดับครับ
สำหรับตัวที่ผมใช้เป็นประจำบ่อยที่สุดตอนนี้จะเป็นของ
Oriental Princess For Men ครับ มันยังเพราะไม่ค่อยมันและซึมไว้
ไม่ทิ้งคราบขาว มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ซึ่งกำลังโอเคเลย ที่สำคัญอย่างที่บอกไป
ผมไม่แพ้ครับ ไม่ทำให้เป็นสิวอุดตันด้วย
จริงๆๆแล้วจากประสบการณ์และการทดลองครีมกันแดดหลายๆตัวที่ผ่านๆมา
ทำให้ผมได้รู้อะไรใหม่ๆหลายๆอย่างที่เปลี่ยนความเชื่อผมไปพอสมควรครับ
ทั้งเรื่องของความเหนอะหนะที่เราคิดมาตลอดว่ากันแดดมันก็เหมือนเดิม
ทาแล้วก็เหนอะหนะรำคาญ
แต่ความจริงคือเดี๋ยวนี้มันมีกันแดดที่ทาแล้วไม่ทำให้เรารู้สึกเหนอะหนะแล้ว
ซึ่งมันมีมานานแล้ว แต่เราพึ่งรู้
อีกเรื่องหนึ่งคือการทากันแดดทำให้เป็นสิว
อันนี้ก็ไม่ได้จริงเสมอไปครับ
เพราะปัจจัยการเกิดสิวไม่ได้มาจากการทากันแดดเพียงอย่างเดียว
มาจากการรู้สึกดูแลรักษาความสะอาดของผิวหน้า และการดูแลสุขภาพของเราด้วย
และที่สำคัญที่สุดในบรรดาสิ่งที่ผมได้รู้อะไรใหม่ๆจากการทาครีมกันแดดคือ มันช่วยให้ปัญหาผิวของเราลดลงได้จริงๆ
ทั้งจุดด่างดำ รอยแดงจากสิว รอยดำ คือมันช่วยได้จริงๆครับ เมื่อเราทาอย่างสม่ำเสมอ
และควบคู่ไปกับการดูแลผิวของเราเอง
สำหรับวันนี้
ผมก็ขอจบการรีวิวครีมกันแดดของผมเพียงเท่านี้
หวังว่าจะเป็นโยชน์สำหรับผู้ที่สนใจดูแลตัวเอง หรือหาซื้อครีมกันแดดมาลองใช้กันดูนะครับ
นี่เป็นกระทู้แรกของผม หากผิดพลาดประการใด
ก็ขอโทษด้วยนะครับ สวัสดีครับ^/|^