พอดีเราเพิ่งถอยกันแดดตัวใหม่ของ L’OREALที่เพิ่งออกมาไม่นาน
เราเห็นที่ด้านหน้าผลิตภัณฑ์เขียนว่าเป็นเนื้อแมทและช่วยควบคุมความมันขั้นแอ๊ดวานซ์
เลยอยากลองเอามาใช้เทียบดูกับอีก 2 แบรนด์ ซึ่งต้องบอกก่อนว่าเราเป็นคนหน้ามันมากๆ
แต่งหน้าก็ไม่ค่อยจะติด ยิ่งช่วงนี้หน้าร้อน ออกแดดทีไรกลับเข้าออฟฟิสนี่หน้ามันเยิ้มมมมมมเลยเชียว (–“-)
ครีมกันแดดที่เราเอามาเทียบกันนี้มี
3 แบรนด์ค่ะ
ล้วนแต่บอกว่ามีสรรพคุณป้องกันแสงแดดยาวนานตลอดทั้งวัน ช่วยควบคุมความมันบนใบหน้า
และเนื้อครีมบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ทั้ง 3 แบรนด์
มีดังนี้ค่ะ
Biore UV Aqua Rich Watery Essence SPF
50+/PA++++
NIVEA
SUN Protect & White Oil Control Serum SPF50+ /PA+++/UVA1/UVA2/UVB
L’OREAL
UV PERFECT Matte & FreshSPF 50+/PA++++/LONG UVA

ทีนี้เรามาดูกันที่ราคากับปริมาณกันก่อนค่ะ
Biore UV – AQUA Rich Watery Essenceราคา 420 บาท ปริมาณ 50 กรัม
เท่ากับ
ราคา 8.4 บาท ต่อกรัม

NIVEA
SunProtect & WhiteOil Control Serumราคา 279 บาท ปริมาณ 30ml
เท่ากับ ราคา 9.3 บาท ต่อml

L’OREAL UV PERFECT Matte & Freshราคา
339 บาท ปริมาณ 30ml

หากพูดถึงราคากับปริมาณแล้ว
ต้องบอกว่าBiore UV PERFECTประหยัดสุด แต่สำหรับเรา ราคาไม่ต่างกันเท่าไร
เลยไม่ได้เอามาเป็นตัวตัดสินค่ะ ต้องดูที่คุณภาพของครีมที่เหมาะกับผิวเรา
และเราชอบมากที่สุด ถึงจะบอกว่าได้ว่าตัวไหนโอเคที่สุดค่ะ
Biore
Watery Essence
เนื้อครีมเหลวคล้ายน้ำสมชื่อค่ะ และบางเบาดีอยู่ ตอนบีบลงผิว
รู้สึกเย็นหน่อยๆ
เลยไม่ค่อยแน่ใจว่ามีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หรือเปล่า
ส่วนเนื้อครีมไม่ค่อยเนียนละเอียดค่ะ แม้จะซึมเร็วแต่ยังรู้สึกเหนอะๆ ผิวอยู่บ้าง
สำหรับกลิ่น ต้องบอกว่าคนที่ชอบครีมที่มีกลิ่นหอมแรงๆอาจจะชอบค่ะ
แต่เราชอบแบบกลิ่นอ่อนๆ เลยไม่ค่อยโอเคเท่าไรค่ะ

NIVEA
SunProtect & WhiteOil Control Serumเนื้อครีมไม่เหลวไม่ข้นเกินไปค่ะและ
เนื้อเนียนละเอียดนุ่ม
ซึมลงผิวเร็วดีไม่ทิ้งความเหนอะหนะ แถมรู้สึกผิวนุ่มๆ หลังทาด้วย(555ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่านะคะ แต่รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ)สำหรับเรากลิ่นของนีเวียอ่อนกว่าค่ะและเป็นกลิ่นหอมเฉพาะของนีเวียด้วย ถ้าใครเคยใช้แบรนด์นี้มาบ้างแล้วจะพอนึกออก
แต่กลิ่นอ่อนมากๆ เลยค่ะ

L’OREAL
UV PERFECTเนื้อครีมค่อนข้างเหนียวและหนักสำหรับเราค่ะ
แต่อาจเป็นเพราะเป็นเนื้อแมท เลยข้นกว่าอีก 2 แบรนด์ที่เป็น
Essence และSerum L’OREALซึมสู่ผิวช้าหน่อย และรู้สึกเหนอะกว่าอีก 2
แบรนด์ ค่ะ กลิ่นไม่แรงเท่าไร พอได้อยู่ค่ะ

มาต่อที่ด่านความมันด่านสุดท้ายค่ะ
นั่นคือการใช้จริงนั่นเองหุหุจะได้รู้กันไปเลยว่ากันแดดแต่ละตัวทิ้งความมันบนใบหน้ามากแค่ไหน
ก่อนอื่นเราจะลองบีบครีมลงบนกระดาษซับมันทิ้งไว้ค่ะ
เพื่อจะได้เห็นความมันที่ติดบนกระดาษซับมัน
ผลออกมาดังนี้ค่ะ
แต่ยังไม่พอค่ะ
ต้องลองใช้จริงกันด้วย ซึ่งในแต่ละวันเราได้ทดลองใช้กันแดดแต่ละแบรนด์
เพื่อดูว่าหลังจากจบวันแล้วหน้าจะมันแค่ไหน โดยดูจากความมันบนกระดาษซับมันที่ใช้
เมื่อเปรียบเทียบกันแดด
ทั้ง3แบรนด์แล้ว สำหรับเราคิดว่าNivea
เหมาะกับคนผิวหน้ามันอย่างเราที่สุดเลยค่ะ
เพราะเนื้อครีมเนียนละเอียด บางเบาและซึมเร็ว ทาแล้วก็ไม่เหนียวเหนอะที่สำคัญคือNivea
สามารถควบคุมความมันบนใบหน้าได้ยาวนานตลอดทั้งวันจริงๆ
เราชอบมาก และคิดว่าคงไม่เปลี่ยนใจแล้วล่ะค่ะ