รีวิวกันแดดไฮบริด BSC Spot protect SUNSCREEN SPF50+ PA+++++ เผยผิวไบรท์ไม่กลัวแดด!
ไลฟ์สไตล์

5 วิธีแก้กลิ่นตัวแรง แก้ปัญหากลิ่นตัวเหม็นด้วยตัวเอง!

14,422
23 ก.ย. 2566
วิธีแก้กลิ่นตัวแรง

กลิ่นตัวแรง เป็นปัญหาที่ทำให้สูญเสียความมั่นใจมาก ๆ และสาเหตุที่ก่อให้เกิดกลิ่นตัวนั้นก็มีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพันธุกรรม เหงื่อเยอะ ฮอร์โมน อาหาร และสภาพอากาศที่ก่อให้เกิดความอับชื้นจนร่างกายมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกมา

แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเรามีกลิ่นตัวมั้ย วิธีไหนบ้างที่จะช่วยแก้กลิ่นตัวแรง อย่ามัวแต่สงสัย ไปดูกันเลยจ้าา ~



กลิ่นตัวแรง กลิ่นตัวเหม็น เกิดจากอะไร ?


กลิ่นตัวแรง กลิ่นตัวเหม็น เกิดจากอะไร?

กลิ่นตัวแรง กลิ่นตัวเหม็น เกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น

  • แบคทีเรีย : บนร่างกายของเราจะมีแบคทีเรียประจำถิ่นอยู่หลากหลายสายพันธ์ มีทั้งช่วย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติของสิ่งมีชีวิตทั่วไป แต่ที่ผิดปกติคือเจ้าแบคทีเรียพวกนี้จะย่อยสลายเหงื่อ และย่อยสลายกลิ่นจากต่อมต่าง ๆ ในร่างกาย และทิ้งกรดไขมันเอาไว้ทำให้เกิดกลิ่นตัวเหม็นหรือกลิ่นตัวแรงขึ้นได้
  • เหงื่อ : เหงื่อที่ออกมาจากต่อมเหงื่อทั่วไปจะไม่มีกลิ่น แต่เมื่อไปสัมผัสกับแบคทีเรียบนผิว แบคทีเรียนั้นจะย่อยสลายเหงื่อของเรา และทำให้เกิดปฏิกริยาที่ผลิตกรดไขมันที่มีกลิ่นขึ้นมา ทำให้เหงื่อบนตัวเรามีกลิ่น
  • ต่อมกลิ่น : บนร่างกายคนเราจะมีต่อมกลิ่นบริเวณรักแร้และหัวหน่าว ซึ่งก็คล้ายกับต่อมเหงื่อเลย คือกลิ่นที่ออกมาจากต่อมกลิ่นนี้โดยปกติก็ไม่มีกลิ่นที่แรงหรือเหม็นอะไร แต่เมื่อมาสัมผัสกับแบคทีเรียบนผิวของเรา ก็จะทำปฏิกริยาก่อให้เกิดกรดไขมันที่มีกลิ่นเหม็นได้
  • อาหาร : การทานอาหารที่มีกลิ่นบางชนิด เช่น ต้นหอม หัวหอม กระเทียม อาหารรสจัด สัตว์ทะเล รวมถึงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์และสูบบุหรี่ ก็จะทำให้ร่างกายของเราเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้
  • ฮอร์โมน : ฮอร์โมนเพศ ได้แก่ ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน และฮอร์โมนเอสโตรเจน มีส่วนในการกระตุ้นให้ต่อมเหงื่อและต่อมกลิ่นทำงานหนักขึ้น ทำให้เรามีกลิ่นตัวแรงและกลิ่นตัวเหม็นขึ้นกว่าปกตินั่นเอง
  • โรคบางชนิด : อาการเจ็บป่วยและโรคประจำตัวอาจก่อให้เกิดปัญหากลิ่นตัวแรงได้ ทั้งเหงื่อออกเยอะ แบคทีเรียบนผิวหนังมากกว่าปกติ และอาการอักเสบบนผิวหนังอาจก่อให้เกิดกลิ่นแรงและกลิ่นไม่พึงประสงค์บนร่างกายได้ อาทิเช่น โรคเบาหวาน โรคไทรอยด์ โรคสะเก็ดเงิน เป็นต้น
  • กรรมพันธุ์ : จากผลวิจัยพบว่าในกลุ่มคนที่มีกลิ่นตัวแรงกว่าปกติ คนในครอบครัวก็จะมีกลิ่นตัวแรงเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้เป็นปัจจัยหลักที่ก่อให้เกิดกลิ่นตัว แต่อาจเป็นอาหารที่ทาน สุขอนามัยส่วนตัว และฮอร์โมน ก็มีส่วนที่ก่อให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ขึ้น


ทำไมเราไม่ได้กลิ่นตัวเอง ?


ทำไมเราถึงไม่ได้กลิ่นตัวเอง เพราะว่าจมูกของเราคุ้นชินกับกลิ่นได้ไวมาก ๆ ค่ะ ในช่วงที่มีกลิ่นแปลกใหม่เข้ามา จมูกของเราจะรับกลิ่นได้ดีและชัดเจนที่สุดในระยะแรกเท่านั้น พอนาน ๆ ไปจมูกจะเริ่มคุ้นชินกับกลิ่นนั้นจนทำให้ไม่ได้กลิ่นนั้นอีกต่อไป จึงเป็นเหตุลผลที่ทำให้เราไม่ได้กลิ่นตัวของเราเอง เพราะเราได้กลิ่นตัวเองมาตลอดและคุ้นชินไปนานแล้วนั่นเองค่ะ


2 วิธีเช็กกลิ่นตัวเองง่าย ๆ เรามีกลิ่นตัวมั้ย ?


2 วิธีเช็กกลิ่นตัวเองง่าย ๆ

อยากรู้ว่าตัวเองมีกลิ่นตัวมั้ย ? ลองเช็กด้วย 2 วิธีเช็กกลิ่นตัวได้ดังนี้เลยค่า

1. เช็กกลิ่นตัวเองจากเสื้อผ้าที่ใส่แล้ว
หลังจากเราตื่นนอน หรือหลังจากออกกำลังกาย ให้เราลองผึ่งเสื้อไว้ จะบนเตียงนอน หรือจะใส่ไม้แขวนตากไว้ในห้องก็ได้ จากนั้นให้เราไปอาบน้ำแต่งตัว เพื่อให้จมูกได้รับกลิ่นหอมอื่น ๆ จากครีมอาบน้ำ ครีมทาตัว หรือน้ำหอมก่อน จากนั้นลองกลับมาดมเสื้อผ้าที่เราผึ่งไว้ จะทำให้เราได้กลิ่นตัวของตัวเองค่ะ

2. เช็กกลิ่นตัวเองหลังอาบน้ำด้วยน้ำเปล่า
ให้เราอาบน้ำด้วยน้ำเปล่าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น จากนั้นก็เช็ดตัวให้แห้ง และแต่งตัวทันทีแบบไม่ต้องทาครีมบำรุงหรือโรลออนเลย เมื่อเหงื่อออกระหว่างวัน จะทำให้เราได้กลิ่นตัวของตัวเองออกมาค่ะ วิธีนี้แนะนำให้ทำในวันหยุดจะสะดวกที่สุดนะคะ

วิธีเช็กกลิ่นตัวเอง 2 วิธีนี้จะเห็นผลชัดมาก สำหรับคนที่มีกลิ่นตัวแรง หรือมีกลิ่นตัวเหม็นแต่ไม่รู้ตัวค่ะ สำหรับคนที่ทดลองแล้ว ไม่พบกลิ่นไม่พึงประสงค์อะไรก็ขอแสดงความยินดีด้วยค่าา คุณคือผู้โชคดีไม่ประสบปัญหามีกลิ่นตัวนั่นเอง!



6 วิธีแก้กลิ่นตัวแรง แก้ปัญหากลิ่นตัวเหม็นด้วยตัวเอง!

วิธีแก้กลิ่นตัวแรง แก้กลิ่นตัวเหม็น ด้วยตัวเอง


1. อาบน้ำวันละ 2 ครั้ง



วิธีแก้กลิ่นตัวแรง แก้กลิ่นตัวเหม็นได้ดีที่สุด ก็คือการอาบน้ำค่ะ ง่าย ๆ เลย แค่อาบน้ำวันละ 2 ครั้ง อย่างน้อย 15 - 20 นาที เพื่อทำความสะอาดร่างกายทุกจุดอย่างมีประสิทธิภาพ และลดจำนวนแบคทีเรียบนผิวหนังของเราลง เพราะในระหว่างที่เราใช้ชีวิตประจำวัน รวมไปถึงตอนที่เรานอน เจ้าแบคทีเรียพวกนี้ได้กระจายอาณาเขตออกไป ย่อยสลายเหงื่อ น้ำตาล และสสารต่าง ๆ บนร่างกายเรา ทำให้เกิดกลิ่นตัวที่ไม่พึงประสงค์ขึ้นมา

การอาบน้ำจึงตอบโจทย์ที่สุด โดยเลือกใช้สบู่หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่เหมาะสมหรืออ่อนโยนกับผิวจะช่วยขจัดเหงื่อและแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของกลิ่นตัวได้ดี หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์อาบน้ำที่มีน้ำหอม หรือสารเคมีรุนแรง เพราะจะทำให้ผิวได้รับความผิวอักเสบและก่อให้เกิดกลิ่นตัวขึ้นได้อีกค่า





2. หมั่นสครับผิว


วิธีแก้กลิ่นตัวแรงที่ทำได้ง่าย ๆ คือ การสครับผิว ให้เน้นสครับบริเวณรักแร้ ซอกคอ ข้อพับ ขาหนีบ และหัวหน่าว โดยเป็นจุดที่มักมีต่อมเหงื่อและต่อมกลิ่น รวมถึงเป็นจุดที่เหงื่อและแบคทีเรียมักไปสะสมตรงนั้น

แนะนำให้สครับผิวสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว กำจัดคราบผลิตภัณฑ์บำรุงผิว และผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายที่ตกค้างบนผิวและรูขุมขน ลดการอุดตันผิว ทำให้ลดการสะสมแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดกลิ่นตัวได้นั่นเองค่า




3. ใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย



แก้ปัญหากลิ่นตัวแรง กลิ่นตัวเหม็น ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายที่เหมาะกับตัวเองไปเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นโรลออน แป้งระงับกลิ่นกาย สเปรย์ระงับกลิ่น หรือสารส้มก็ตาม ควรเช็กว่าผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ไม่มีแอลกอฮอลล์ ไม่มีน้ำหอม และอ่อนโยนต่อผิว จะได้ไม่ระคายเคืองผิวและไม่ก่อให้เกิดกลิ่นตัวแรงเพิ่มด้วยย ~


4. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีกลิ่นฉุน


หากปกติชอบทานอาหารรสจัด หรืออาหารที่มีกลิ่น แนะนำให้งด หรือลดการทานให้น้อยลง เพราะการทานอาหารรสจัด หรืออาหารที่มีกลิ่นฉุน ก่อให้เกิดกลิ่นเฉพาะตัวบางอย่างจากร่างกายเราได้ด้วยเช่นกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นกระเทียม ของหมักดอง สตอ อาหารทะเล รวมไปถึงเครื่องปรุงรสที่มีกลิ่น อย่างเช่น ปลาร้า น้ำปลา และซีอิ๊ว ทำให้เกิดกลิ่นตัวที่ใกล้เคียงกับกลิ่นอาหารนั้น ๆ ได้ด้วยเช่นกัน

เมื่อลดอาหารที่มีกลิ่นลงได้สัก 1-2 สัปดาห์ จะสังเกตได้เลยว่ากลิ่นตัวแรง หรือกลิ่นไม่พึงประสงค์จากอาหารเหล่านั้นได้จางลงไปเลยค่ะ


5. ลดการดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่


ลดการดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ ช่วยลดกลิ่นตัวแรงได้จริง เพราะเมื่อเราดื่มแอลกอฮอล์หรือปาร์ตี้หนัก ๆ ต่อมเหงื่อและต่อมกลิ่นจะถูกกระตุ้น ก่อให้เกิดกลิ่นตัวแรงขึ้นมาได้ โดยเฉพาะคนที่สูบบุหรี่บ่อย ๆ บอกเลยว่ากลิ่นบุหรี่นั้นอยู่ในทุกอณูรูขุมขน หากเราสามารถลดการสูบบุหรี่และลดการดื่มลงได้ กลิ่นไม่พึงประสงค์เหล่านี้ก็จะจางและบางเบาลงได้ค่ะ


6. รักษาโรคประจำตัว



หากมีโรคประจำตัวที่อาจส่งผลให้มีกลิ่นตัวแรง เช่น โรคเบาหวาน โรคไทรอยด์ โรคที่เกี่ยวกับฮอร์โมน และโรคผิวหนังต่าง ๆ การมีกลิ่นตัวอาจเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก แนะนำให้รักษาโรคเหล่านั้นให้ดีขึ้นก่อน เพื่อลดสาเหตุต้นตอที่ก่อให้เกิดกลิ่นตัวก่อน หากหลังจากนั้นยังมีกลิ่นตัวก็ให้แก้ด้วยการทำความสะอาดร่างกายอย่างเหมาะสม และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายที่เหมาะสม


และนี่ก็เป็น วิธีแก้กลิ่นตัวแรงอย่างง่ายด้วยตัวเอง ถ้าคิดว่ากลิ่นตัวแรงไม่ไหว ใช้อะไรก็เอาไม่อยู่ ให้ลองถอยมาที่จุดเริ่มต้นง่าย ๆ อย่างการอาบน้ำให้สะอาด ใช้เวลาในการทำความสะอาดบริเวณรักแร้ ข้อพับ ขาหนีบ ซอกคอ และหมั่นสครับผิวสม่ำเสมอทุกสัปดาห์ รวมถึงสระผมบ่อย ๆ จะช่วยให้สุขอนามัยของเราดีขึ้น ลดกลิ่นตัวลงได้อย่างชัดเจนและเห็นผลแน่นอนค่ะ


ใครอยากเป็นสาวตัวหอม ไปลองอ่านนี่กันเลย!

เคล็ดลับตัวหอมทั้งวัน

What's new
14 ครีมลดริ้วรอยใต้ตา ยี่ห้อไหนดี ลดตีนกา แก้หนังตาเหี่ยว8 เรตินอล น่าใช้ ลดริ้วรอยตีนกา กระชับผิว อ่อนโยนไม่ระคายเคืองรีวิว PAÑPURI Perfume Oil ออยล์น้ำหอม เสน่ห์ความหอมแบบไทยสไตล์ใหม่ อัปเดตเทรนด์บิวตี้ก่อนใครที่ Cosmoprof CBE ASEAN 2024 งานแสดงสินค้าเพื่อธุรกิจความงามระดับโลกการฝากไข่ คืออะไร ควรฝากไข่ตอนไหนดี ค่าใช้จ่ายในการฝากไข่เท่าไหร่บ้าง?รวม 10 ครีมโกนหนวดต้องมี! ใช้แล้วโกนง่าย ลดการระคายเคืองผิวรวม 10 คุชชั่นเกาหลี 2024 บางเบา ปกปิดดี โชว์ผิวสวยอย่างเป็นธรรมชาติดูดวงความรัก การงาน การเรียน การเงิน ระหว่าง 2 - 8 มิ.ย. 67 (ทุกราศี) สะดือดํา ทำไงดี? 6 วิธีทำความสะอาดสะดือดำ มีกลิ่นเหม็นให้สะอาด ไร้กลิ่นกวนใจกิจกรรม :: รับสมัคร เพื่อนร่วมคอมมู *Cosmenet จำนวนมาก สมัครง่าย ลุ้นของรางวัลได้ทุกเดือน
COMMENTS
1 ความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ขอบคุณค่ะ
7 ต.ค. 2566 เวลา 4:57 น.