การจับคู่ส่วนผสมสกินแคร์ ดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กแต่ส่งผลใหญ่กับผิวโดยตรง หลายคนตั้งใจดูแลผิวด้วยการหาสกินแคร์ที่มี “ส่วนผสมดี” แต่รู้ไหมว่า นอกจากการเลือกผลิตภัณฑ์แล้ว “การจับคู่ส่วนผสมให้ถูก” ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะบางคู่เมื่อใช้ร่วมกันจะช่วยเสริมประสิทธิภาพกัน ทำให้ผิวแข็งแรงและเห็นผลไวขึ้น
แต่บางคู่กลับตีกันจนผิวระคายเคือง เสียสมดุล หรือทำให้สารสำคัญในสกินแคร์เสื่อมประสิทธิภาพไปแบบเปล่าประโยชน์ ดังนั้นการรู้ว่าอะไรเข้ากันได้และอะไรควรแยกใช้จึงเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของรูทีนดูแลผิวที่ปลอดภัยและได้ผลจริง ซึ่งวันนี้ Cosmenet* ก็ได้รวบรวมข้อมูลเอาไว้ให้แล้ว เรามาเรียนรู้และทำความเข้าใจไปพร้อม ๆ กันดีกว่าค่าา
ส่วนผสมจาก Niacinamide
ส่วนผสม “ขาประจำ” ที่สายสกินแคร์เทใจให้อย่าง Niacinamide เพราะเป็นหนึ่งในตัวช่วยฟื้นฟูผิวที่ทั้งอ่อนโยนและทรงพลังในเวลาเดียวกัน จุดเด่นของเค้าคือมีส่วนช่วยปรับสมดุลความมัน ลดการระคายเคือง ปรับสีผิวให้ดูเรียบเนียนสม่ำเสมอ และเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงขึ้นอีกระดับ ยิ่งถ้าใช้ร่วมกับ Hyaluronic Acid ผิวจะแลดูเด้ง อิ่มน้ำ และสุขภาพดีแบบเป็นธรรมชาติ
- ควรใช้คู่กับ : Retinol, Hyaluronic Acid, Aloe Vera, Peptide, Ceramide
- ไม่ควรใช้ร่วมกับ : Vitamin C, AHA / BHA
- ข้อแนะนำ :
- ควรทา Hyaluronic Acid ก่อน Niacinamide เพื่อให้ผิวอุ้มน้ำได้มากขึ้น
- หากใช้ร่วมกับ Vitamin C หรือ AHA / BHA ควรเว้นช่วงเวลา หรือเลือกสูตรที่ออกแบบมาให้ใช้ร่วมกันได้อย่างปลอดภัย
แนะนำสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ Niacinamide
Smooto Niacinamide Brightening Booster Jelly Serum - ตัวนี้โดดเด่นด้วยส่วนผสมจาก Niacinamide 10% ผสาน NAG 2% และเทคโนโลยี Exosome ที่ช่วยเคลียร์ผิวหมอง ลดเลือนจุดด่างดำ และปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอ ผิวดูแข็งแรงขึ้นแบบไม่ต้องพึ่งหลายขั้นตอน ที่มีเนื้อเป็นเจลลี่บางเบา มีมอยส์แคปซูลแตกตัวขณะเกลี่ย ให้ความชุ่มชื้นทันที
-ใครเคยใช้แล้วมาแชร์รีวิวเซรั่มไนอะซินาไมด์ Smooto หน่อยกันเร็วว-
ส่วนผสมจาก Hyaluronic Acid
Hyaluronic Acid เป็นเหมือน “ตัวกลางที่ขาดไม่ได้” ในรูทีนบำรุงผิว เพราะสามารถจับคู่ได้กับแทบทุกส่วนผสม หลัก ๆ เลยเค้าจะทำหน้าที่เติมน้ำให้ผิวชุ่มฉ่ำจากภายใน ช่วยให้ผิวดูอิ่มฟู เรียบเนียน และยังเปิดทางให้สารบำรุงอื่นซึมเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น เรียกได้ว่าเป็นตัวเสริมพลังให้ทุกขั้นตอนของการดูแลผิวทำงานได้อย่างเต็มที่เลยแหละ
- ควรใช้คู่กับ : Niacinamide, Vitamin C, Retinol, AHA/BHA, Peptide, Ceramide
- ไม่ควรใช้ร่วมกับ : ไม่มีข้อห้ามชัดเจน แต่ควรหลีกเลี่ยงในบริเวณผิวที่แห้งมาก
- ข้อแนะนำ :
- ทาตอนที่ผิวยังมีความชื้นเล็กน้อย แล้วตามด้วยมอยส์เจอไรเซอร์เพื่อกักเก็บความชุ่มชื้นให้อยู่กับผิวยาวนาน ผิวจะรู้สึกนุ่มเด้ง สดใส และแข็งแรงขึ้นแบบสัมผัสได้
แนะนำสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ Hyaluronic Acid
CeraVe Hydrating Hyaluronic Acid Serum - ตัวนี้เน้นความชุ่มชื้นแบบจัดเต็มด้วย Hyaluronic Acid ผสานเซราไมด์ 3 ชนิด วิตามิน B5 และเทคโนโลยี MVE ที่ช่วยเติมน้ำและฟื้นบำรุงผิวให้ดูนุ่ม ชุ่มชื้น และเรียบเนียนยาวนานตลอดวัน มีเนื้อสัมผัสเจลเซรั่มใส เกลี่ยง่าย ซึมไว ไม่เหนอะหนะ เหมาะกับทั้งใช้เดี่ยว ๆ หรือก่อนลงเมคอัพก็เวิร์กสุด ๆ
-ใครเคยใช้แล้วมาแชร์รีวิวเซรั่มไฮยาลูโรนิค CeraVe หน่อยกันเร็วว-
ส่วนผสมจาก Vitamin C
ส่วนผสมยอดฮิตอย่าง Vitamin C ที่มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ ปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอ พร้อมเสริมเกราะผิวให้แข็งแรงขึ้น เมื่อนำมาใช้ร่วมกับสารเติมความชุ่มชื้นอย่าง Hyaluronic Acid หรือ Aloe Vera ผิวจะรู้สึกนุ่มขึ้นทันที ความยิบ ความแสบ ที่บางคนเคยเจอจากวิตามินซีก็จะค่อย ๆ ลดลง อีกทั้งเมื่อใช้ไปเรื่อง ๆ ยังทำให้ผิวดูสดใส ฉ่ำน้ำแบบธรรมชาติอีกด้วย
- ควรใช้คู่กับ : Hyaluronic Acid, Aloe Vera, Peptide, Ceramide
- ไม่ควรใช้ร่วมกับ : Retinol, AHA/BHA, Benzoyl Peroxide (ในเวลาเดียวกัน)
- ข้อแนะนำ :
- ใช้ในตอนเช้าและตามด้วยครีมกันแดดเพื่อเสริมการปกป้องผิว
- หลีกเลี่ยงการใช้พร้อมกับกรดผลัดเซลล์หรือเรตินอลในเวลาเดียวกัน
แนะนำสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ Vitamin C
Garnier Light Complete Vitamin C Booster Serum - ตัวนี้มาแรงเรื่องผิวใสเพราะใส่ Vitamin C เข้มข้น ผสานกับสารสกัดจากยูซุเลมอนจากญี่ปุ่น ที่ช่วยจัดการความหมองคล้ำและลดเลือนจุดด่างดำให้ดูจางลง ผิวดูไบร์ทขึ้นแบบเป็นธรรมชาติ มีเนื้อสัมผัสเป็นเซรั่มบางเบา ซึมไว ไม่เหนอะผิว เกลี่ยง่ายมาก ทาแล้วรู้สึกสบายผิวมาก
-ใครเคยใช้แล้วมาแชร์รีวิวเซรั่มวิตามินซี Garnier หน่อยกันเร็วว-
ส่วนผสมจาก Retinol (Vitamin A)
ส่วนผสมจาก Retinol ที่กำลังมาแรงอย่างต่อเนื่องในวงการสกินแคร์ เพราะขึ้นชื่อเรื่องการช่วยลดเลือนริ้วรอย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ แม้จะเป็นตัวช่วยเรื่องผิวที่หลายคนหลงรัก แต่ก็ต้องใช้อย่างระมัดระวัง เพราะอาจทำให้ผิวแห้งหรือระคายเคืองได้ การใช้ร่วมกับ Hyaluronic Acid, Peptide หรือ Ceramide จะช่วยปลอบผิว เสริมความชุ่มชื้น และฟื้นเกราะผิวให้แข็งแรง ทำให้ผิวค่อย ๆ ปรับตัวและรับการบำรุงได้ดีขึ้น
- ควรใช้คู่กับ : Hyaluronic Acid, Peptide, Ceramide
- ไม่ควรใช้ร่วมกับ : AHA/BHA, Vitamin C, Benzoyl Peroxide
- ข้อแนะนำ :
- ควรเริ่มใช้จากความเข้มข้นต่ำ เว้นวันในช่วงแรก และควรทามอยส์เจอไรเซอร์ตามทันที ที่สำคัญที่สุดอย่าลืมครีมกันแดดในตอนเช้าด้วยนะ
แนะนำสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ Retinol (Vitamin A)
No7 Pure Retinol 0.3% Retinol Night Concentrate Serum - สายบูสต์ผิวแบบจริงจังด้วยพลังของเรตินอลเข้มข้น 0.3% ผสานกับเทคโนโลยี Advance Peptide MATRIXYL 3000 PLUS™ ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน พร้อมเสริมให้ผิวเรียบเนียนและดูสว่างกระจ่างขึ้น มีเนื้อสัมผัสเป็นเซรั่มบางเบา ซึมเร็ว ไม่เหนอะผิว เหมาะกับใช้บำรุงในขณะนอนหลับ คือพอตื่นมาจะรู้สึกได้เลยว่าผิวดูกระชับ เรียบเนียนขึ้นแบบสัมผัสได้
-ใครเคยใช้แล้วมาแชร์รีวิวเซรั่มเรตินอล No7 หน่อยกันเร็วว-
ส่วนผสมจาก AHA / BHA / PHA
กลุ่มกรดผลัดเซลล์ผิวที่เรามักเห็นกันผ่านตาบ่อยมาก ถือเป็นอีกหนึ่งไอเทมที่ช่วยรีเฟรชผิวได้อย่างเห็นผล เพราะเค้าจะค่อย ๆ เข้าไปผลัดเซลล์ผิวเก่าออกอย่างอ่อนโยน ทำให้ผิวดูเรียบเนียน รูขุมขนดูละเอียด และลดการอุดตันที่เป็นต้นเหตุของสิว แต่ด้วยความที่เป็นกรด จึงอาจมาพร้อมความแห้งหรือระคายเคือง โดยเฉพาะในช่วงเริ่มใช้ การจับคู่กับสารปลอบผิวอย่าง Hyaluronic Acid, Peptide หรือ Ceramide จะช่วยลดความตึง แสบ และเติมความชุ่มชื้นให้ผิวกลับมาสมดุลค่ะ
- ควรใช้คู่กับ : Hyaluronic Acid, Peptide, Ceramide
- ไม่ควรใช้ร่วมกับ : Retinol, Vitamin C, Benzoyl Peroxide
- ข้อแนะนำ :
- ใช้เฉพาะตอนกลางคืน และอย่าลืมทาครีมกันแดดในวันถัดมาเพื่อปกป้องผิวที่เพิ่งผ่านการผลัดเซลล์
แนะนำสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ AHA / BHA / PHA
SKINTIFIC AHA BHA PHA LHA Peeling Solution - ตัวนี้เหมาะสำหรับคนที่อยากรีเฟรชผิวให้ใสแบบเร่งด่วน เพราะใส่ส่วนผสมของ AHA 10%, BHA 1%, PHA 0.5% และ LHA 0.5% ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกรดไกลโคลิกจากสหรัฐอเมริกาที่ขึ้นชื่อเรื่องความเสถียรและช่วยเคลียร์ผิวหมองได้ดี ด้วยเนื้อสัมผัสเป็นแบบน้ำเข้มข้น เกลี่ยง่ายและเกาะผิวได้ดี ถึงแม้ระหว่างทาจะรู้สึกยิบ ๆ ก็ไม่ต้องตกใจไป เพราะถือเป็นเอกลักษณ์ของกรดผลไม้
-ใครเคยใช้แล้วมาแชร์รีวิวเซรั่มแดง SKINTIFIC หน่อยกันเร็วว-
ส่วนผสมจาก Benzoyl Peroxide
ใครเป็นสิวอาจจะเคยคุ้น ๆ กับส่วนผสมที่ชื่อว่า Benzoyl Peroxide หนึ่งในตัวยอดฮิตที่มักพบในผลิตภัณฑ์รักษาสิว โดยเฉพาะสิวอักเสบ จุดเด่นของเค้าช่วยลดเชื้อแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของสิว พร้อมทั้งช่วยให้สิวยุบลงได้ไว แต่ก็มักต้องแลกกับผิวที่แห้งและไวต่อการระคายเคืองมากขึ้น การจับคู่กับส่วนผสมที่มีส่วนช่วยปลอบผิวจึงเป็นขั้นตอนสำคัญ เพราะจะช่วยเติมความชุ่มชื้น บรรเทาความตึง และฟื้นเกราะผิวให้กลับมาแข็งแรง
- ควรใช้คู่กับ : Niacinamide, Hyaluronic Acid, Peptide, Ceramide
- ไม่ควรใช้ร่วมกับ : Retinol, Vitamin C, AHA/BHA
- ข้อแนะนำ :
- ควรใช้เฉพาะบริเวณที่เป็นสิว หลีกเลี่ยงการทาทั่วใบหน้า
- ไม่ควรซ้อนกับ Active ตัวแรง เพื่อป้องกันผิวลอก แสบ หรือแห้งเกินไป
แนะนำสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ Benzoyl Peroxide
Benzac AC 5% - ด้วยส่วนผสมของ Benzoyl Peroxide ที่ช่วยยับยั้งเชื้อ P.acne ต้นเหตุของสิวอักเสบ ลดการระคายเคือง และช่วยลดโอกาสการเกิดซ้ำ ผสานกับ Acrylates Copolymer (AC) ที่ช่วยดูดซับความมันส่วนเกิน เนื้อครีมบางเบา เกลี่ยง่าย ซึมไว ไม่เหนอะหนะ ใช้แต้มเฉพาะจุดหรือทาทั่วบริเวณใบหน้าได้ สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มใช้ แนะนำให้เริ่มจากความเข้มข้นต่ำก่อน เพื่อให้ผิวได้ปรับตัวและลดความเสี่ยงของการระคายเคืองในช่วงแรก
- ราคา : 130.- / ปริมาณ : 15g
- ชอปที่นี่เลย : ร้านขายยาทั่วไป
-ใครเคยใช้แล้วมาแชร์รีวิวครีมทาสิว Benzac หน่อยกันเร็วว-
ส่วนผสมจาก Peptide
สารฟื้นฟูผิวอย่าง Peptide ที่มีบทบาทสำคัญในการเสริมความแข็งแรงให้เกราะป้องกันผิว ช่วยกระตุ้นการฟื้นฟูผิว และลดความระคายเคือง เมื่อใช้ร่วมกับสาร Active ตัวอื่น ๆ จึงมักถูกเรียกว่าเป็น “ตัวบาลานซ์” ของรูทีนบำรุงผิว เพราะช่วยให้ผิวรับสารบำรุงได้ดีขึ้นโดยไม่รู้สึกตึงหรือแสบนั่นเอง
- ควรใช้คู่กับ : Retinol, AHA/BHA, Hyaluronic Acid, Vitamin C, Niacinamide
- ไม่ควรใช้ร่วมกับ : ไม่มีข้อห้ามชัดเจน
- ข้อแนะนำ :
- สามารถใช้ได้ทั้งเช้าและเย็น และเหมาะอย่างยิ่งในรูทีนที่มีสาร Active ตัวแรง เพื่อช่วยลดโอกาสการระคายเคืองและเสริมความชุ่มชื้นให้ผิวแข็งแรงขึ้น
แนะนำสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ Peptide
The Skin Collection Copper Tripeptide 3% - ตัวนี้เด่นเรื่องการบำรุงผิวด้วย Peptide โดยใช้ Copper Tripeptide 3% ที่เป็นที่รู้จักในด้านช่วยดูแลผิวให้รู้สึกแข็งแรงและยืดหยุ่นขึ้น เหมาะกับคนที่เริ่มมีปัญหาผิวขาดความกระชับหรืออยากให้ผิวดูเรียบเนียนละเอียดขึ้น พร้อมช่วยให้ผิวรู้สึกชุ่มชื้นและดูสุขภาพดีขึ้นเมื่อใช้เป็นประจำ มีเนื้อสัมผัสเป็นเซรั่มใส บางเบา เกลี่ยง่าย ซึมไว ไม่เหนอะผิว ทาแล้วรู้สึกสบาย สามารถใช้ร่วมกับสกินแคร์อื่นได้โดยไม่เป็นคราบ
-ใครเคยใช้แล้วมาแชร์รีวิวเซรั่มเปปไทด์ The Skin Collection หน่อยกันเร็วว-
ส่วนผสมจาก Ceramide
ส่วนผสมที่ถือว่าเป็นตัวล็อกความชุ่มชื้นชั้นดีของผิวอย่าง Ceramide เป็นองค์ประกอบสำคัญของเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติ มีหน้าที่กักเก็บน้ำไว้ในผิว ช่วยลดการสูญเสียความชุ่มชื้น และทำให้ผิวรู้สึกแข็งแรง อิ่มน้ำ ไม่แห้งตึงง่าย เมื่อนำมาใช้ร่วมกับสาร Active เช่น Retinol หรือ AHA/BHA ก็จะช่วยซัพพอร์ตผิวให้รับการบำรุงได้ดีขึ้นโดยไม่แสบหรือลอก พร้อมช่วยลดโอกาสการระคายเคืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ควรใช้คู่กับ : Niacinamide, Hyaluronic Acid, AHA/BHA ที่อ่อนโยน
- ไม่ควรใช้ร่วมกับ : Retinol, AHA/BHA ที่มีความเข้มข้นสูง
- ข้อแนะนำ :
- ใช้เป็นขั้นตอนสุดท้ายของรูทีนบำรุงผิว เพื่อเคลือบและกักเก็บความชุ่มชื้นให้อยู่กับผิวได้นานขึ้น ผิวจะรู้สึกนุ่มเด้งและแข็งแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
แนะนำสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ Ceramide
Rojukiss Hya Ceramide Serum - ตัวนี้เหมาะกับคนที่อยากเติมความชุ่มชื้นให้ผิวแบบจริงจัง เพราะมีส่วนผสมของ Ceramide เพื่อช่วยเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงขึ้น และ Hyaluron เข้มข้นที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นไว้กับผิวได้ยาวนาน ด้วยเนื้อสัมผัสเป็นเซรั่มบางเบา เกลี่ยง่าย ซึมไว ไม่ทิ้งความเหนอะหนะบนผิว พอทาแล้วรู้สึกเหมือนมีฟิล์มบาง ๆ เคลือบผิว สามารถใช้ได้ทั้งเช้าและเย็น หรือก่อนลงเมคอัพโดยไม่ทำให้เป็นคราบ
-ใครเคยใช้แล้วมาแชร์รีวิวเซรั่มไฮยาเซราไมด์ Rojukiss หน่อยกันเร็วว-
ส่วนผสมจาก Aloe Vera
Aloe Vera เป็นสารปลอบผิวตามธรรมชาติที่ช่วยลดรอยแดง อาการแสบ และเติมความชุ่มชื้นได้ทันทีหลังใช้ Active ตัวแรง เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่ายและผิวที่ขาดความสมดุล
- ควรใช้คู่กับ : Niacinamide, Vitamin C, Retinol, AHA/BHA, Hyaluronic Acid
- ไม่ควรใช้ร่วมกับ : ไม่มีข้อห้าม
- ข้อแนะนำ :
- ใช้หลังลง Active เพื่อช่วยให้ผิวสงบและฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
แนะนำสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ Aloe Vera
The Ingredients Aloe-Hya Bright Cooling Gel - ตัวนี้เหมาะมากสำหรับคนที่อยากคืนความชุ่มชื้นให้ผิวแบบรวดเร็ว เพราะมีส่วนผสมของ Aloe Vera เข้มข้นถึง 99.7% ที่ช่วยปลอบประโลมผิวและเติมความชุ่มชื้นได้ทันที ผสานกับ Hyaluronic Acid ช่วยกักเก็บน้ำในผิวให้ดูฉ่ำฟู และเม็ดวิตามินอีที่ละลายเข้ากับเจลง่าย ๆ ช่วยบำรุงให้ผิวรู้สึกนุ่มลื่นและเรียบเนียนขึ้น ที่มีสัมผัสเป็นเจลบางเบา เกลี่ยง่าย ซึมไว ไม่เหนอะหนะ พอทาลงผิวจะรู้สึกเย็นสบายทันที สามารถใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย
-ใครเคยใช้แล้วมาแชร์รีวิวเจลว่านจระเข้ The Ingredients หน่อยกันเร็วว-
︾︾︾︾︾
เป็นยังไงกันบ้างคะ? การจับคู่ส่วนผสมสกินแคร์ไม่ใช่เรื่องซับซ้อนอย่างที่คิดเลยใช่มั้ย แค่รู้หลักเบื้องต้นว่าตัวไหน “เข้ากันได้” และตัวไหน “ควรแยกใช้” ก็ช่วยให้รูทีนบำรุงผิวปลอดภัยและเห็นผลชัดเจนขึ้น แต่ทั้งหมดทั้งมวลสิ่งที่สำคัญที่สุดคืออย่าลืม “ครีมกันแดด” เป็นประจำทุกวันด้วยนะ เพราะถึงแม้เราจะบำรุงผิวดีแค่ไหน ก็ยังต้องผ่ายแพ้ให้กับแสงแดดตัวร้ายอยู่ดี -.-
-----------------------
Cosmenet* Smart Beauty รีวิวดีบอกต่อ
ค้นหารีวิวเครื่องสำอาง สกินแคร์ แบบจริงใจได้ที่นี่ www.cosmenet.in.th
-----------------------