"ท้องโตเหมือนมีพุงตลอด" มักเกิดจาก 4 สิ่งนี้...

คือ ไขมันที่อยู่ภายในช่องท้อง หรือที่เรียกกันภาษาคนทั่วไปว่า “อ้วนลงพุง” เกิดจากการที่ร่างกายได้รับสารอาหารประเภทไขมันเข้าสู่ร่างกายเป็นจำนวนมาก จนร่างกายไม่สามารถเผาผลาญได้หมดในแต่ละวัน จึงทำให้มีไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้อง พอปล่อยไขมันส่วนนี้ไว้นานจนเกินไป มันก็จะแปรสภาพให้แข็งตัวมากขึ้น จนดันให้หน้าท้องมีการป่องออกมา ซึ่งเรียกกันว่า “พุง”

ไขมันหน้าท้องนั้น มีอยู่ 2 แบบ คือ

1. ไขมันใต้ผิวหนัง คือไขมันที่อยู่ติดผิวหนัง และกล้ามเนื้อ เป็นชั้นที่สามารถจับ หรือบีบติดมือเราขึ้นมาได้ ไขมันชนิดนี้ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

2. ไขมันในช่องท้อง คือไขมันที่อยู่ระหว่างกล้ามเนื้อท้องกับอวัยวะภายในช่องท้อง ไขมันชนิดนี้เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เป็นสาเหตุใหญ่ของโรคอันตรายต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง เส้นโลหิตในสมองตีบ เป็นต้น

พุงป่องจากไขมันในช่องท้องเป็นสัญญาณเตือนจากร่างกายว่า เราควรปรับอาหาร ลดน้ำตาล เครื่องดื่มหวาน ของหวาน ของทอด เนื้อสัตว์แปรรูป ออกกำลังกายมากขึ้น จุดประสงค์ของการลดพุงไม่ใช่ความสวยงาม แต่เป็นการดูแลร่างกายให้กลับมาเป็นปกติ ไม่เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ ให้กับร่างกาย

2. มีก้อนในมดลูก หรือรังไข่ เช่น เนื้องอก ซีสต์ ตรวจโดยการอัลตราซาวน์

ผู้หญิงมีพุงป่องแล้วคิดว่าตัวเองอ้วน แต่มักจะมีอาการปวดท้องน้อย ประจำเดือนผิดปกติ คลำพบก้อนที่หน้าท้อง รวมทั้งอ้วนแค่ที่พุง แต่แขน ขา ใบหน้า และส่วนอื่น ๆ ไม่ขยายตาม ลักษณะแบบนี้อาจเป็นเนื้องอกในรังไข่ได้ และหากก้อนเนื้อนี้ใหญ่ก็ทำให้พุงป่องได้

เนื้องอกรังไข่ สาเหตุเกิดจากอะไร

เนื้องอกรังไข่ (Ovarian tumor) คือก้อนเนื้อที่ยื่นออกมาจากรังไข่ สาเหตุเกิดจากเซลล์รังไข่มีการแบ่งตัวอย่างผิดปกติจนกลายเป็นก้อนเนื้องอกหรือถุงหุ้มที่มีน้ำบรรจุอยู่ภายใน แบ่งได้เป็น 3 ชนิดคือ

1. ชนิดที่เป็นถุงน้ำ หรือซีสต์ (Cyst) จะมีลักษณะเป็นถุง ภายในมีของเหลว น้ำ เนื้อเยื่อต่าง ๆ บรรจุอยู่ เกิดขึ้นได้ตามรอบประจำเดือน ซึ่งสามารถโตขึ้นได้ หรือยุบลงได้ และอาจกลายสภาพเป็นช็อกโกแลตซีสต์ได้

2. เนื้องอกธรรมดา (Benign) หรือก้อนเนื้อที่เกิดขึ้นในรังไข่ชนิดไม่ร้ายแรง ไม่ใช่เนื้อร้าย

3. เนื้องอกที่เป็นเนื้อร้าย (Malignant) หรือมะเร็งรังไข่ แต่โอกาสพบเนื้องอกประเภทนี้มีประมาณ 6% เท่านั้นที่เนื้องอกในรังไข่จะแปรสภาพเป็นมะเร็ง

3. แก๊สในลำไส้

อีกสาเหตุหนึ่งคือพุงป่องจากการมีแก๊สในลำไส้ มักมีอาการปวด ไม่สบายท้อง เรอบ่อย ท้องป่องและยุบตามมื้ออาหาร มีหลายสาเหตุ ทั้งจากโรคต่าง ๆ เช่น แผลในกระเพาะอาหาร กรดไหลย้อน หรือจากอาหารที่มีแก๊สมาก เช่นน้ำอัดลม โซดา เบียร์ หรืออาหารที่กากมากและย่อยยาก เช่น ผักสด ของหมักดอง และในบางคนอาจเกิดจากนมวัว

ท้องอืดและแก๊ส : เกิดจากอะไรบ้างนะ?

1. แบคทีเรียมีจำนวนเพิ่มขึ้นมากเกินไป

แบคทีเรียที่ผลิตแก๊สโดยปกติมักพบได้ในลำไส้ใหญ่ และส่วนน้อยพบได้ในลำไส้เล็ก

SIBO (หรือภาวะจุลินทรีย์ในลำไส้เล็กเจริญเติบโตมากผิดปกติ) คือการที่แบคทีเรียในลำไส้เล็กมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ ซึ่งอาจจะนำไปสู่การสะสมของน้ำตาล ทำให้แก๊สถูกสร้างขึ้นมากเกินไป

2. กระเพาะอาหารบีบตัวช้า

ภาวะกระเพาะอาหารบีบตัวช้า และลำไส้อุดตัน อาจทำให้ระบอบย่อยอาหารทำการย่อยอาหารนานกว่าปกติ ซึ่งทำให้น้ำตาลอยู่ในลำไส้นานขึ้น และก่อให้เกิดการสะสมแก๊สในที่สุด

3. การใช้ยาบางชนิด

ยาปฏิชีวนะบางชนิดฆ่าแบคทีเรียทั้งชนิดที่ดีและไม่ดีออกไปจากร่างกายเรา ซึ่งอาจเป็นการรบกวนการทำงานของจุลินทรีย์ในลำไส้ การใช้ยาปฏิชีวนะในระยะยาวจึงมีโอกาสทำลายระบบตามธรรมชาติ นอกจากนี้ ยาลดกรด แอสไพริน และปวดพวกชนิดก็ทำให้เกิดอาการท้องอืดได้เช่นกัน

4. โรคหรืออาการประจำตัวต่าง ๆ

ตัวอย่างเช่น กลุ่มคนที่มีโรค IBS และโรคกระเพาะอาหารแปรปรวนจะมีอาการท้องอืดและปวดท้องเป็นประจำอยู่แล้ว รวมถึงผู้หญิงที่มีโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (endometriosis) ก็จะมีอาการเหล่านี้เช่นกัน และอาจรุนแรงขึ้นช่วงที่มีประจำเดือน

4. มีน้ำในช่องท้องเยอะ หากพบในผู้หญิงมีโอกาสเป็นมะเร็งรังไข่ได้

เป็นภาวะที่มีของเหลวสะสมอยู่ในช่องว่างระหว่างช่องท้องและอวัยวะภายในช่องท้อง ส่งผลให้ท้องมีขนาดใหญ่ขึ้น 

สาเหตุอาจมาจากโรคตับแข็ง เกิดได้จาก2สาเหตุหลักๆ คือ 

1. การดื่มสุราเป็นเวลานาน

2. ไวรัสตับอักเสบ โรคมะเร็งรังไข่ เมื่อมะเร็งลุกลามไปบริเวณอวัยวะอื่นในช่องท้อง อวัยวะเหล่านั้นก็จะสร้างน้ำออกมาบริเวณช่องท้อง โรคตับ ตับอักเสบ หรือขาดโปรตีนหนักมากทำให้โปรตีนในเลือดต่ำ เนื่องจากโปรตีนเป็นส่วนประกอบหลักของเซลล์และเนื้อเยื่อ เช่น การเจริญเติบโตและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ควบคุมการไหลเวียนของน้ำในร่างกาย เมื่อระดับโปรตีนในเลือดต่ำลง ทำให้เกิดการแข็งตัวของเซลล์เนื้อเยื่อ ส่งผลให้ระบบไตทำงานผิดปกติ จะทำให้เกิดการสะสมของน้ำในเนื้อเยื่อของร่างกาย และส่งผลให้เกิดอาการบวม

อ้างอิง

Doctor ออ, Woman expert. (2566). “ท้องโต เหมือนมีพุงตลอด” มักเกิดจาก 4 สิ่งนี้!!. สืบค้นเมื่อ20

มิถุนายน 2566, จากเว็บไซต์:

https://web.facebook.com/Dr.Korapin/videos/729655148655845/

Rattinan Team. (2566). ท้องน้อยป่อง กับสาเหตุและวิธีแก้ไขที่หลายคนต้องรู้. สืบค้นเมื่อ20 มิถุนายน

2566, จากเว็บไซต์: https://www.rattinan.com/bloated-lower-abdomen/

ผู้จัดการออนไลน์. (2564). “ไขมันหน้าท้อง” อย่าคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย. สืบค้นเมื่อ20 มิถุนายน 2566,

จากเว็บไซต์: https://mgronline.com/goodhealth/detail/9640000096535

พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต. (n.d.). ท้องอืดและแก๊ส : เกิดจากอะไรบ้างนะ?. สืบค้นเมื่อ20 มิถุนายน 2566,

จากเว็บไซต์: https://www.prudential.co.th/corp/prudential-th/th/we-do-pulse/health-wellness/bloating-gas-what-causes-it/

ศูนย์มะเร็งตรงเป้า-โรงพยาบาลจุฬารัตน์9 แอร์พอร์ต. (n.d.). อาการบวมจากโปรตีนต่ำ. สืบค้นเมื่อ20

มิถุนายน 2566, จากเว็บไซต์: https://cutt.ly/HwtzOKcP

เนื้องอกรังไข่...สาวท้องป่องเช็กอาการให้ไว อาจไม่ใช่แค่อ้วนลงพุง. (2565). สืบค้นเมื่อ20 มิถุนายน 2566,

จากเว็บไซต์: https://health.kapook.com/view171108.html

สนใจสั่งซื้อ จาก Winona Probio

หรือสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับ Probiotic

เพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-821-5501

LINE@ : https://page.line.me/khq1649x?oat__id=2226228&openQrModal=true

Facebook : https://www.facebook.com/WinonaProbio

Youtube : https://www.youtube.com/@bywinonaprobiotics2569

E-mail : info@winonafeminine.com

Website : https://winonaprobio.com/