เห่อลูกรักตัวใหม่ Skinsista Anti-Aging Ampoule&Booster มาไว้ใน Skincare routine สาวผิวแพ้ง่าย ห้ามพลาด

สวัสดีค่ะทุกคน ช่วงนี้หลายคนคงได้ WFH กันอยู่ในช่วงสถานการณ์โควิด เฟินเองก็เช่นกันค่ะ ทำงานที่บ้านบ้าง เข้าออฟฟิศบ้าง ความเครียดสะสมจากการทำงานและสถานการณ์ปัจจุบันเลยส่งผลทั้งสุขภาพกายและใจ การดูแลตัวเองช่วงนี้เลยน้อยลงค่ะ คิดแค่ว่าขอให้มีเวลานอนก็พอ 

ถ้าพูดเรื่องการดูแลผิว ก็แทบจะไม่สม่ำเสมอเลยค่ะ ต่อให้ใช้ครีมแพงแค่ไหน จากที่เคยเห็นผลดี พอขาดความต่อเนื่อง ขาดวินัยในการดูแล ก็เลยไม่ช่วยอะไรเท่าไหร่ค่ะ ยิ่งผิวหน้าแย่ลง จากที่เป็นคนไม่มีสิว ก็กลายเป็นว่า สิวผดขึ้นหน้าทุกวัน จากการแพ้หน้ากากอนามัย ขั้นตอนการบำรุงเลยน้อยลงเรื่อยๆ ค่ะ

จนเมื่อสองสัปดาห์ก่อน เฟินได้รับผลิตภัณฑ์ 2 ชิ้นที่ทางแบรนด์ Skinsista ส่งมาให้ลองค่ะ เป็น RESET Anti-aging Ampoule & Booster ซึ่งเป็นเซตฟื้นฟูผิวหน้า ลดริ้วรอย และคืนความอ่อนเยาว์ให้ผิวใน 7 วัน เซ็ทนี้มี 2 ตัว จะประกอบไปด้วย

1. RESET Anti-aging Ampoule

2. RESET Anti-aging Booster 

ทางแบรนด์ส่งมาให้ลองใช้ทั้งที แถมบอกเลยว่าให้รีวิวตามจริง ไม่ต้องอวย ชอบความจริงใจของแบรนด์เลยมีกำลังใช้ ฮึบสู้ในการกลับมาดูแลผิวหน้าอีกครั้งค่ะ ครั้งนี้กลับมาดูแลผิวอย่างต่อเนื่องเลยค่ะ อยากรู้ว่าภายใน 7 วัน ผิวหน้าของเฟินจะเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหน เฟินได้เลือกสกินแคร์รูทีนมารีวิวให้ทุกคนได้อ่านกันทั้งหมด 5 ชิ้นหลักด้วยค่ะ เราจะไปต่อกันที่ 5 steps นี้เลยค่ะ

Step 1 : SKII : FACIAL TREATMENT ESSENCE 

น้ำตบที่ 1 ในใจตลอดกาลค่ะ ใช้มาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทลัยจนปัจจุบันนี้ก็ยังอยู่ค่ะ 

ซึ่งอยากที่ทุกคนทราบคือ เค้าเป็นตำนานแห่งน้ำตบเลยค่ะ หรือที่หลายๆคนเรียกว่า “น้ำตบป้าเจี๊ยบ” ซึ่งเฟินยังไม่เคยรีวิวที่ไหนมาก่อนเลยค่ะ ถือว่าโพสนี้เป็นโพสแรกเลย 

SK-II Facial Treatment Essence หรือ น้ำตบพิเทร่า (PITERA) น้ำตบเนื้อสัมผัสบางเบา เข้มข้นด้วยพิเทร่าถึง 90% เป็นเอ็สเซ็นส์เพื่อผิวกระจ่างใส ที่ครอบครองใจคนดังมากมาย และยังคงเป็นที่หนึ่งในเรื่องของเอ็สเซ็นส์เพื่อผิวกระจ่างใสมาตลอด 

ซึ่ง PITERA “พิเทร่า”อุดมไปด้วยส่วนประกอบชีวภาพจากธรรมชาติ มีสารอาหารขนาดเล็กกว่า 50 ชนิด เช่น วิตามิน แร่ธาตุ กรดอะมิโน และกรดอินทรีย์ต่างๆ เพื่อปรับสภาพการทำงานของผิวอย่างเป็นธรรมชาติ ผิวสวยกระจ่างใสและกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิว เพื่อให้ได้ผิวที่กระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ 

เฟินจะใช้น้ำตบทั้งเช้าและก่อนนอนค่ะ แต่ละคนจะมีวิธีใช้แตกต่างกันนะคะ ใช้ได้ทั้งหยดเนื้อเอ็สเซ็นส์ลงที่ฝ่ามือโดยตรง และ แบบหยดลงสำลีค่ะ แต่เฟินเลือกหยกเอ็สเซ็นส์ลงฝ่ามือโดยตรง ขนาดประมาณเหรียญ 10 บาทค่ะ จากนั้นค่อยๆ ตบลงไปที่ผิวหน้า ช่วยกระตุ้นให้ผิวตื่นตัวด้วยค่ะ ผลลัพธ์ที่สร้างความประทับใจคือ รู้สึกถึงผิวกระจ่างใสขึ้น เพราะเค้าทำหน้าที่ผลัดเซลล์ผิวเก่า สร้างเซลล์ผิวใหม่ที่ดูกระจ่างใสขึ้น และยิ่งไปกว่านั้น รู้สึกว่าผิวกระชับ เรียบเนียน รูขุมขนเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด

Step 2 : SKINSISTA : RESET ANTI-AGING AMPOULE

มาถึงตาของผลิตภัณฑ์ที่เฟินอยากพูดถึงมากที่สุดกันแล้วค่ะ

นั่นคือ RESET Anti-Aging Ampoule

ถ้าพูดถึง Ampoule หลายๆคนที่เคยใช้จะทราบดีเลยว่า Ampoule คือสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของสารสกัดต่างๆที่มีความเข้มข้นสูงมาก ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปแบบน้ำที่บรรจุขวดขนาดเล็กที่ปิดฝาสนิท เพื่อคงประสิทธิภาพสารสำคัญไว้ และหากพูดถึงประสิทธิภาพในการทำงานแล้ว Ampoule สามารถดูแลผิวและแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดโดยใช้เวลาอันสั้น ดังนั้น Ampoule ส่วนใหญ่จึงมีราคาค่อนข้างสูง แต่สำหรับแบรนด์ Skinsista เขาทำออกมาในราคาเป็นมิตร น่าลงทุนมากค่ะ

แก้ไขอย่างตรงจุด ริ้วรอยแห่งวัยจางลงใน 7 วัน 

1. ริ้วรอยแห่งวัย แลดูจางลง 67% ทำให้ผิวมีความกระชับมากขึ้นใน 7 วัน 

2. ลดการตึงตัวของกล้ามเนื้อ สาเหตุการเกิดริ้วรอยบนใบหน้า ทำให้ใบหน้ามีความกระชับ และปกป้องผิวจากการเกิดริ้วรอยใหม่ๆ 

3. กระตุ้นการสร้างคอนลาเจนให้ผิว และสาระสำคัญต่างๆ ที่มีผลสำคัญต่อความอ่อนเยาว์ของผิว ซึ่งมีประสิทธิภาพคล้ายคลึงกับ Botulinum Toxin Type A ที่ใช้ในการฉีดโบท็อก 

แต่มีความปลอดภัยมากกว่า 

4. ช่วยป้องกัน และซ่อมแซ่ม ส่วนที่เสียหายของ DNA ที่เกิดจากรังสี UV และแสงสีฟ้า 

5. ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ รวมถึง PM2.5 และช่วยลดการระคายเคือง

Skinsista Ampoule จะบรรจุ Ampoule 7 หลอดใน 1 กล่อง ซึ่งใช้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 7 วัน และจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เมื่อใช้ติดต่อกันเป็นเวลา 1-2 เดือน 

เพื่อการซ่อมแซ่มและลดเลือนริ้วรอยได้อย่างล้ำลึก เฟินใช้ Ampoule ต่อเนื่อง 7 วันค่ะ โดยใช้เป็นสเต็ปในตอนกลางคืน เฟินจะใช้หมดใน 1 หลอด ต่อการทา 1 ครั้ง เพราะเฟินต้องการให้ Ampoule ทำงานได้ดีที่สุดในเวลาที่เฟินหลับค่ะ สำหรับใครที่ไม่อยากใช้ 1 หลอด ต่อการใช้ 1 ครั้ง สามารถแบ่งใช้ 2 รอบได้นะคะ คือตอนเช้าและก่อนนอน เพราะ Skinsista Ampoule สามารถใช้ผสมกับครีมบำรุง หรือครีมกันแดดที่ใช้อยู่เป็นประจำได้ค่ะ และเมื่อหักฝา ampoule แล้ว สามารถปิดฝาเก็บไว้ใช้ก่อนนอนได้ค่ะ  

Step 3 : SKINSISTA : RESET ANTI-AGING BOOSTER 

ใช้ Ampoule แล้วก็อย่าลืมบำรุงด้วย Booster กันค่ะ Skinsista บูสเตอร์เข้มข้นตัวนี้มีสารสกัดเข้มข้นมากกว่าเซรั่มปกติถึง 5 เท่า หากใช้ต่อเนื่องเป็นประจำ อย่างน้อย 14 วัน 

จะช่วยฟื้นฟูผิวให้แลดูอ่อนเยาว์ขึ้น และยิ่งใช้ควบคู่กับ Skinsista Ampoule จะเห็นผลชัดเจนมากยิ่งขึ้น บูสผิวคูณสองไปเลยค่ะ 

RESET Anti-Aging Booster จะทำหน้าที่คล้ายคลึงกับ RESET Anti-Aging Ampoule จริงๆ แล้วเรียกได้ว่าแทบจะเหมือนกันเลยค่ะ แตกต่างกันที่ระยะเวลาการฟื้นฟูของ Ampoule จะเข้มข้น และรวดเร็วกว่า 

ซึ่งในส่วนของ RESET Anti-Aging Booster จะค่อยๆทำหน้าที่ฟื้นฟูผิว ซึ่งจะเห็นผลชัดเจนมากขึ้นหลังใช้ 14 วัน ไม่เพียงแค่ช่วยให้ผิวหน้ากระชับขึ้น และริ้วรอยแห่งวัยแลดูจางลง 

แต่ยังช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิวหน้า ทำให้รู้สึกว่าผิวหน้ากระชับและอิ่มฟู

RESET Anti-Aging Booster เป็นบูสเตอร์เข้มข้น เนื้อบางเบา เกลี่ยบนผิวหน้าได้ง่ายค่ะ 

ใช้เวลาเพียงเล็กน้อยให้เนื้อบูสเตอร์ซึมเข้าผิว ด้านในจะบรรจุด้วยเม็ดบีทวิตามินอีสีทองด้วยค่ะ

เมื่อทาที่ผิวจะค่อยๆ แตกตัวเป็นเนื้อเดียวกับบูสเตอร์ เนื้อเค้าจะมีความคล้ายเจลใสๆค่ะ จะไม่เป็นบูสเตอร์แบบน้ำที่เกลี่ยเข้าผิวแล้วซึมเลย ตัวนี้เฟินจะใช้ต่อจากสเต็ปของ Reset Anti-Aging Ampoule 

ตามสเต็ปของ texture skincare เลยค่ะ

หลังใช้ต่อเนื่อง 7 วันที่ผ่านมา เฟินใช้สกินแคร์ตามปกติ และมี RESET Anti-Aging Ampoule&Booster ที่ใช้ควบคู่กันค่ะ เพราะเมื่อใช้คู่กันแล้ว จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ให้ผิวหน้าได้ดีเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอยบริเวณ ริ้วรอยหางตา ร่องแก้ม ความแตกต่างในการใช้ 2 ผลิตภัณฑ์นี้คือ เฟินจะใช้ Ampoule แค่ตอนกลางคืนเท่านั้นค่ะ ในส่วนของ Booster เฟินจะใช้ทั้ง เช้า และ กลางคืน (ทาหลัง Ampoule) 

Before and After: 7 days

ริ้วรอยที่เฟินกังวลมากที่สุดและเห็นได้ชัดคือบริเวณร่องแก้ม และหางตาค่ะ เพราะเฟินเป็นคนหัวเราะเยอะมากในแต่ละวัน หลังใช้ได้ 7 วัน เฟินสัมผัสได้ถึงความกระชับของผิวหน้าค่ะ 

และร่องแก้มที่สังเกตเห็นว่าค่อยๆตื้นขึ้น เวลาเฟินทาครีมแล้วเกลี่ยบริเวณร่องแก้ม มันรู้สึกว่า ผิวบริเวณนั้นกระชับขึ้นค่ะ รวมไปถึงบริเวณเปลือกตาที่หางตาใกล้กับบริเวณชั้นตา ดูกระชับขึ้น ไม่เพียงแค่ฟื้นฟูริ้วรอยที่เห็นผลได้ชัดเจนขึ้นนะคะ เฟินรู้สึกผิวแลดูชุ่มชื้นขึ้น เหมือนมีน้ำมาเติมผิวให้มีสุขภาพดีขึ้นด้วยค่ะ 

ตลอดระยะเวลา 7 วัน ที่กลับมามีวินัยดูแลตัวเอง และมี เซตสกินแคร์ของ Skinsista 

เฟินแฮปปีิ้กับผลลัพธ์ที่ได้มากค่ะ ถึงแม้ว่าปัญหาริ้วรอยบนใบหน้าเราจะไม่ได้มีมาก แต่เรารู้สึกได้ถึงความแตกต่างมากในกาดูแลผิวช่วง 7 วันที่ผ่านมา เพราะเมื่อตื่นมาผิวที่ได้คือผิวสุขถาพดี ต่างกับช่วงเวลาที่ขาดวินัยในการดูแลผิว ที่ตื่นมาแล้วผิวดูไม่สดใส มาถึงตอนนี้หลายๆคนอาจจะมีคำนิยามให้คำว่า ผิวสุขภาพดี ที่แตกต่างกัน แต่สำหรับเฟิน คือการที่ตื่นมาแล้วผิวรู้สึกอิ่มฟู และกระชับค่ะ ไม่ใช่เพียงแค่ตื่นมาเห็นผิวฟูอิ่มน้ำ เพราะนอนเต็มอิ่มแต่เพียงเท่านั้นนะคะ สำหรับเฟินคือ ระหว่างวันนั้นผิวเฟินยังคงความชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน 

อยู่เสมอตลอดทั้งวัน และที่สำคัญคือ อายุเรามากขึ้นเท่าไหร่ การสร้างคอลลาเจนให้ผิวก็น้อยลงเรื่อยๆ ค่ะ ดังนั้นเราเลยต้องมีสกินแคร์เป็นตัวช่วยดีๆให้ผิว ซึ่งสำหรับเฟินแล้ว Skinsista ไม่เเพียงแค่ทำหน้าที่หลักในการลดเลือนริ้วรอยและให้ผิวกระชับเท่านั้น แต่เฟินได้สภาพผิวเนื้อแก้มดูอ่อนไม่แห้งกร้านกลับมาด้วยค่ะ ช่วงนี้ก็จะติดจับแก้ม และบริเวณผิวข้างจมูกบ่อยๆ เพราะมันเนียนขึ่น และ กระชับขึ้นมากจริงๆ 

เมื่อเปรียบเทียบสภาพผิว 7 วันหลังใช้แล้ว หากใช้ต่อเนื่องเป็นประจำอย่างน้อย 2 เดือน

เฟินมั่นใจว่า จะฟื้นฟูผิวหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นไปอีกแน่นอนค่ะ  

Step 4: FRESH : ROSE DEEP HYDRATION OIL INFUSED SERUM FRESH SERUM ตัวนี้ใช้ได้คุ้มค่ามากค่ะ ขวดนี้เป็นขวดที่ 2 แล้วค่ะ เพราะประทับใจในผลลัพธ์ตั้งแต่ 7 วันแรกที่ใช้ เค้าเป็นเซรั่มในรูปแบบBi-Phase ที่แบ่ง texture ออกเป็นสองชั้น ในรูปแบบของน้ำและออยส์ ทำหน้าที่หลักในการเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว ปลอบประโลมและลดการอักเสบระคายเคืองผิว 

ซึ่งขวดนี้ใช้ต่อเนื่องเป็นเวลา 7 วัน ก็สามารถสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของผิวในเรื่องความชุ่มชื้นได้แล้วค่ะ และยิ่งไปกว่านั้น ด้วยความเบาของเนื้อออยส์ และกลิ่นหอมอ่อนของดอกกุหลาบ ทำให้รู้สึกว่าผิวไดถูกปลอบประโลมในทุกครั้งใช้ ให้ผิวอิ่มน้ำ และชุ่มชื้นยาวนานขึ้น ใครที่กังวลว่าใช้ออยส์แล้วจะหนักหน้าหรือไม่ ขวดนี้ไม่ค่ะ บางเบามาก ให้ความสบายผิวสุดๆ และไม่เหนียวเหนอะหนะด้วยค่ะ 

วิธีการใช้ของแต่ละผิวก็จะแตกต่างกันออกไปนะคะ ก่อนใช้คือต้องเขย่าขวดก่อนค่ะ 

แบบที่ 1 : คว่ำขวดขึ้น-ลง 5 ครั้ง น้ำ กับ ออยส์ผสมกันในระดับหนึ่ง เมื่อเทลงมา เนื้อออยส์จะแทรกในเนื้อเซรั่มเล็กน้อย ซึ่งเหมาะกับคนที่ต้องการผิวชุ่มชื้น แบบผิวอิ่มน้ำ ผิวโกล์ว 

แบบที่ 2 : เขย่าหลายครั้งให้น้ำและออยส์ผสมเป็นเนื้อเดียวกัน เมื่อเทลงมาจะเห็นได้ชัดว่า เนื้อเซรั่มเป็นสีขาวขุ่น เพราะส่วนประกอบทั้งสองผสมเข้ากัน จะให้ผลลัพธ์ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นได้ดีกว่าแบบที่ 1 แต่ความฉ่ำโกล์วบนผิวจะน้อยกว่า 

Step 5 : KIEHL'S : Ultra Light Daily UV Defense 

ขอรีวิวครีมกันแดดเป็นสเต็ปสุดท้ายนะคะ ครีมกันแดดจากคีลส์ สูตรฟลูอิดแบบน้ำบางเบาผิว ซึ่งมีประสิทธิภาพป้องกันรังสี UV และมลภาวะ มีค่า SPF 50 PA มีเทคโนโลยีปกป้องผิวจากมลภาวะ มีส่วนช่วยต้านอนุมูลอิสระและป้องกันมลพิษดูดซึมเข้าสู่ผิว 

ช่วยป้องกันสัญญาณแรกของความร่วงโรยของผิว และอีกทั้งยังลดการปรากฎของรูขุมขนอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งผลิตภัณฑ์สูตรนี้ เหมาะสำหรับผิวธรรมดาถึงผิวมัน หลังใช้ ไม่ต้องกังวลเรื่องการเกิดผิวมันเงา 

เฟินใช้มาเป็นหลอดที่ 2 แล้วค่ะ ชอบเนื้อครีมแบบน้ำบางเบาหลังทาแล้วไม่รู้สึกเหนียว เหนอะ หนะ เพราะ Texture ของเค้ามีความไลท์ ความบางเบา และสีของเนื้อครีมเมื่อทาแล้ว ผิวหน้าไม่วอกไม่ขาวค่ะ ไม่ได้ทำให้สีผิวหน้าเปลี่ยน ดังนั้นสีของครีมจึงไม่รบกวนสีของเมคอัพเลยค่ะ หลังทากันแดด เฟินก็จะลงแค่แป้งฝุ่นเบาๆ เท่านั้นค่ะ   

จบไปแล้วค่ะ กับสเต็ปการดูแลผิวของเฟินใน 7 วันที่ผ่านมา

พร้อมกับความประทับใจที่ได้จาก Skinsista ตัวช่วยเร่งการฟื้นฟูผิวที่ดีให้กับเฟิน

ทั้งหมดนี้คือความรู้สึกจากการใช้จริง และผลลัพธ์ที่ได้จริง จากการใช้สกินแครทั้ง 5 steps เลยค่ะ เห่อมากและพอใจในผลลัพธ์ที่ได้จริงๆค่ะ

และอยากแชร์ให้ฟังเลยค่ะว่า เฟินจะลงทุนกับการซื้อ Ampoule น้อยมากค่ะ เพราะว่าส่วนใหญ่ราคาค่อนข้างสูง เลยไม่กล้าลงทุนกับการซื้อ Ampoule ที่ได้ปริมาณน้อย ใช้ได้ในระยะเวลาอันสั้น แต่ราคาสูง ถึงแม้ว่าผลลัพธ์ที่ได้มาจะรวดเร็วก็ตาม เลยเอาเงินไปลงทุนกับสกินแคร์ที่ใช้ยาวๆ มากกว่า ดังนั้น Skinsista เลยเป็นผลิตภัณฑ์ที่เฟินรู้สึกว่า เฟินยอมจ่ายเลยค่ะ ในราคาเป็นมิตรที่ใครหลายคนเอื้อมถึงได้ แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับมา มันคุ้มค่าค่ะ

และอย่างที่บอกไว้ข้างต้นเลยค่ะ เกี่ยวกับวินัยในการดูแลผิว สำคัญมากจริงๆ ค่ะ

เมื่อเรามีตัวช่วยในการดูแลผิวที่ดีแล้ว สิ่งสำคัญต่อไปก็อยู่ที่ตัวเราแล้วค่ะ ว่าเราจะมีวินัยและสม่ำเสมอในการดูแลใส่ใจตัวเองมากน้อยแค่ไหน