ไม่อยากหน้าเหี่ยว!! เปิดกรุครีมลดริ้วรอย มาดูวิธีป้องกันของคนงบน้อยกันค่า

 สวัสดีค่ะ ปีนี้เราจะ 34 แล้วค่ะ แม้ใจจะ18 แต่หน้าหนูไม่ 18 แล้วค่ะ !! 

แล้วถึงอายุจะมากขึ้น แต่เงินในกระเป๋าไม่ค่อยมากตามเลยค่ะ 

สำหรับเราการป้องกันริ้วรอยที่ดีที่ฝุดคือใช้ครีมกันแดดล่ะค่ะ 

ส่วนพวกครีมลดริ้วรอยพวกนี้เราจะใช้เพื่อการป้องกันมากกว่า 

ตามสูตรกันไว้ดีกว่าแก้ค่ะ จึงลองใช้ไปเรื่อยๆตามงบน้อยๆที่มีค่า จะมีอะไรบ้างมาดูกันจ้า

 1. OLAY Total Effects 7 in One Day Cream Normal SPF15 / 499 บาท 

 กระปุกนี้ใช้มาตั้งแต่สาวๆ จนตอนนี้..ไม่สาวแล้วค่ะ คือของ olay เนี่ยราคาเป็นมิตร หาซื้อง่าย จริงๆ Total Effects เขามีหลายสูตรมากกกก ทั้งมีกันแดด ไม่มีกันแดด ผสมหรือไม่ผสมน้ำหอมค่ะ แต่เราก็เลือกสูตรปกติเลย คือมีกันแดด และผสมน้ำหอม .. แต่แม้จะมีกันแดดแต่ว่า SPF แค่ 15 และไม่มี PA++ นะคะ 

 เนื้อและกลิ่นผลิตภัณฑ์

 เนื้อเป็นเนื้อสีครีม เนื้อออกจะหนักๆหน่อยค่ะ และมีน้ำหอมกลิ่นจะหอมฉุนมากเลย แต่เราไม่ติดนะ

 ผลลัพธ์ที่ได้ 

 สำหรับเรา เราว่า olay ขวดนี้ ไม่ค่อยให้เรื่องความชุ่มชื้นค่ะ คิดว่าให้ผลเรื่องจุดด่างดำ และป้องกันริ้วรอยมากกว่าค่ะ 

 ส่วนผสมที่พอจะหาได้ 

 Vitamin B3 / Vitamin E / Vitamin B5 / Glycerin 

 เหมาะกับใคร สาวๆอายุ 20 เป็นต้นไป ที่อยากเริ่มบำรุงผิวหน้า และป้องกันหน้าเหี่ยวกันไปยาวๆค่ะ

 2.L'Oreal Paris Revitalift Night Cream / 599 บาท

 นี่คือครีมริ้วรอยของรอลีอัล ยี่ห้อที่ลดราคาบ่อยมากกกก เราก็อดไม่ได้ที่จะคว้ามาค่ะ ซื้อ 1 แถม 1 มั่ง 

แต่พอลองใช้ครั้งแรกนะคะ มันจะแสบๆหน้านิดๆ ไม่มากนะคะ นิดเดียว พอใช้ไปสักสามวันเหมือนผิวก็ชินค่ะ ใช้ได้ยาวเลย แปลกมาก .. พอลองไปหารีวิวอ่านมา เขาบอกว่า “สำหรับคนที่เริ่มใช้อาจจะรู้สึกแสบเล็กน้อย เนื่องจากสารต่อต้านริ้วรอยทำงาน ต้องใช้เวลาสัก 5-6 วันอาการจะค่อยๆดีขึ้น” สงสัยจะจริงค่ะ เราใช้แล้วก็แสบหน้าวันแรกๆเล็กน้อยเหมือนกัน สงสัยครีมคงเข้มข้นจริง ถ้าไม่ใช่แบรนด์ดัง คงหยุดใช้ไปเลยค่ะ 

 เนื้อและกลิ่นผลิตภัณฑ์  

กลิ่นน้ำหอมแรงมากเลยค่ะ สูตรกลางคืนจะเป็นเนื้อสีขาว เนื้ออกหนักหน่อย จะให้ความชุ่มชื้นเยอะเลยล่ะค่ะ ถ้าคนหน้ามันอาจแอบมีเคืองค่ะ แต่เราไม่ติดอะไร เพราะทาก่อนนอน จะนอนแล้ว ตื่นมาหน้าจะได้เด้งดึ๋งค่ะ

 ผลลัพธ์ที่ได้

 ในส่วนของพวกใต้ต้า หรือสีผิวไม่สม่ำเสมอเราว่าครีมนี้ไม่ค่อยได้ช่วยนะคะ แต่ถ้าเรื่องริ้วรอยนี่เราว่าเค้าช่วยป้องกันแน่นอนค่ะ 

 เทคโนโลยี Dermalift

 ส่วนผสมที่พอจะหาได้ 

Centella Asiatica / Pro-Retinal A

 เหมาะกับใคร สาวๆอายุ 20 เป็นต้นไป ที่อยากเริ่มบำรุงผิวหน้า และป้องกันหน้าเหี่ยวกันไปยาวๆค่ะ

 3.POND'S Age Miracle Wrinkle Corrector Day Cream SPF 18 PA++ \ 529 บาท 

 พอนด์สตัวนี้มีขายแบบซองด้วยค่ะ ใครสนใจไปซื้อแบบซองก่อนได้ค่ะ ราคาที่ลงนี่เป็นราคาเต็มนะคะ จริงๆเราน่าจะซ์้อมา 300กว่า คือของพอนด์สก็ลดบ่อยเช่นกันค่ะ และราคาเต็มไม่ได้กินเงินเราแน่นอน 555 แบรนด์ดังๆ ที่ลดบ่อยๆ เราจะซื้อตอนลดอย่างเดียวเลยค่ะ 

 เนื้อและกลิ่นผลิตภัณฑ์ เนื้อครีมสีชมพู เนื้อค่อนข้างหนัก ใช้แล้วจะรู้สึกว่าหน้าจะขาวขึ้นทันที เพราะตัวเนื้อครีม ที่เป็นสีชมพูค่ะ กลิ่นมีกลิ่นน้ำหอม แต่ไม่ฉุนมากค่ะ ใช้แล้วผิวจะมันๆหน่อย ต้องลงแป้งฝุ่นทับอีกทีค่ะ แต่มี SPF18 ก็ช่วยเสริมพลังกับครีมกันแดดได้ดีค่ะ

 ผลลัพธ์ที่ได้ ชอบที่มีสารกันแดด แม้จะเพียง 18 แต่มี PA++ แต่ยังไงก็ต้องใช้กันแดดนะคะ รู้สึกว่าเหมาะกับการเป็นครีมบำรุงตอนกลางวันดีค่ะ ถ้าลดก็ซื้อต่อ 

 เทคโนโลยี Retinol-C Complex ทำให้ Retinol ที่ช่วยลดริ้วรอยสามารถ Active ทำงานได้ตลอดเวลา

 ส่วนผสมที่พอจะหาได้ วิตามิน B3 เหมาะกับใคร วัยรุ่นที่อยากเริ่มดูแลผิวตัวเอง และป้องกันไม่ให้หน้าเหี่ยวในระยะยาวค่ะ เพราะมีแบบซอง ราคาเป็นมิตร 

 4.Smooth-E Cream / 40g 325 บาท 

 ครีมสามัญประจำบ้านของใครหลายคนค่ะ รวมทั้งเราด้วย สรรพคุณครอบจักรวาลดีค่ะ ลบรอยสิว ให้ความชุ่มชื้น แถมยังช่วยลดรอยดำและริ้วรอยต่างๆ แถมพวกวิตามินอีก็ช่วยการเกิดริ้วรอยด้วยค่ะ เราเคยเอามาทาแผลโดนหม้อลวกแขน ก็ไม่เป็นแผลเป็นใช้การได้ดีเลยค่ะ 

 เนื้อและกลิ่นผลิตภัณฑ์ 

 เนื้อเป็นเนื้อครีม เนื้อมันๆแต่ไม่หนักค่ะ กลิ่นนี่เราชอบนะ เป็นกลิ่นเฉพาะตัวมากๆของสมูทอีครีม บางคนบอกใช้แล้วหน้ามัน หรือมีสิวอุดตัน แต่สำหรับเราเราว่าโอเคค่ะ ทาได้หมดทั้งตัวเลย หน้าคอ ตัว จุดที่ต้องการความชุ่มชื้นต่างๆ

 ผลลัพธ์ที่ได้

รอยดำต่างๆจางลงจริงค่ะ ให้ความชุ่มชื้นได้ดีมาก แต่ก็เหมาะกับการใช้ระยะยาว มากๆค่ะ อาจจะไม่หวือหวา เท่าพวกครีมลดริ้วรอยต่างๆค่ะ 

 เทคโนโลยี เนื้อครีม

MES Multi-layer Emulsion System เทคโนโลยีที่ช่วยให้เนื้อครีมละเอียดมาก สามารถซึมซาบลงสู่ผิวชั้นในได้ดีขึ้น

 ส่วนผสมที่พอจะหาได้ 

Centella Essence / Vitamin E / Jojoba Oil / Aloe Vera

 เหมาะกับใคร

คนที่ชอบความคุ้มค่าเลยค่ะ ซื้อทีทาได้ทั้งตัว แต่อาจไม่ตอบโจทย์เรื่องริ้วรอยตรงๆ แต่ก็ถือว่าช่วยป้องกันค่ะ 

 5.GARNIER Ageless White City Renew SPF30 / 429 บาท 

 มาถึงครีมที่มีเป็นซองอีกเช่นกันค่ะ ราคาก็เป็นมิตรเลย เพราะซื้อตอนลดอีกเช่นกัน 555 น่าจะลดจากราคาเต็มสัก 100 อะไรประมาณนี้ค่ะ เราชอบที่การ์นิเย่เค้าจัดเต็มกันแดด SPF 30 PA+++ ถือว่าให้มาเยอะที่สุดในรีวิวนี้เลย

 เนื้อและกลิ่นผลิตภัณฑ์

 เนื้อเป็นสีเนื้อ และมีเนื้อที่แน่นหนักมากค่ะ ส่วนกลิ่นเราไม่ชอบเลย เป็นกลิ่นฉุนๆแปลกๆ ตามสไตล์การ์นิเย่อ่ะค่ะ แต่ฉุนกว่าพวกสีเหลืองนะคะ 

 ผลลัพธ์ที่ได้ 

ใช้แล้วรู้สึกหน้าขาวขึ้นนิดนึงค่ะ ใช้แล้วก็ไม่แพ้อะไรใดๆค่ะ ทั้งที่กลิ่นน้ำหอมค่อนข้างแรง และเนื้อครีมก็ซึมไวมาก เราว่าพวกครีมลดริ้วรอยจะต้องดูกันยาวๆอ่ะค่ะ เราใช้มาไม่นานอาจจะบอกอะไรมากไม่ได้ค่ะ แต่เรื่องการป้องกันนี่ป้องกันแน่นอน แต่ยังไงก็ต้องทากันแดดนะคะ 

 ส่วนผสมที่พอจะหาได้ 

 โปร-คอลลาเจน / สารสกัดจากเมล็ดองุ่น (สารต้านอนุมูลอิสระ) 

 เหมาะกับใคร

ด้วยความที่มีแบบซองก็เหมาะกับคนทุกช่วงวัยเลยค่ะ ทั้งวัยรุ่นที่มองการณ์ไกล55 หรือคนที่อาจจะชอบความคุ้มค่าค่ะ ซื้อมาลองแบบซองก่อน ไม่ชอบจะได้ไม่เจ็บตัวมากค่ะ

 ท้ายนี้ แถมด้วยวิตามินเสริมค่ะ เรื่องริ้วรอยเอาภายนอกไม่พอ ก็เอาภายในด้วยค่ะ เรามีกิน สาหร่ายแดง Astaxanthin กับ วิตามินอี ควบคู่ด้วยค่ะ 

 สาหร่ายแดง แอสตาแซนธิน ช่วยหลายเรื่องรวมถึงริ้วรอยด้วยค่ะ เรากินของ Maxxlife เพราะกินเม็ดเดียวได้ Q10 ด้วยค่ะ ขออธิบายนิดนึงเรื่อง แอสตาแซนธิน นะคะ สารตัวนี้จะพบได้ในสิ่งที่มีสีแดงค่ะ เช่นแซลมอน กุ้ง เปลือกกุ้งค่ะ แต่มีมากสุดในสาหร่ายสีแดงค่ะ เค้าเลยนิยมนำมาสกัดเป็น แอสตาแซนธิน เม็ดกันค่ะ 

 ส่วนวิตามินอี ก็ช่วยเรื่องความชุ่มชื้นของผิว เรากินของ DHC ค่ะ อ่านมาจากเว็บของโรงพยาบาลรามา เค้าบอกว่าถ้าแบบทาน จะเริ่มบำรุงผิวหลังกินไป 7-10 วันค่ะ ก็ต้องกินต่อเนื่องนิดนึง 

ก็จบแล้วค่ะ ถ้าเห็นว่ารีวิวเราเป็นประโยชน์ก็ช่วยกันแชร์ได้เลยน้า หรือใครมีตัวไหนดีๆเด็ดๆ ก็มาพูดคุยกันได้ค่ะ เพราะอันนี้เราก็เขียนจากมุมมองจากการใช้ของเราแค่คนเดียว มันอาจจะไม่ตรงกับคนอื่น มาร่วมแชร์กันได้ค่ะ วันนี้ไปแล้วค่า : )