มาอ่านกันเร้ววว..รู้อะไรดีๆมาก็ต้องรีบมาแชร์ ก็แหม่.. ภัยเงียบผิวเหี่ยวก่อนวัยมันน่ากลัวจริงๆนิค่ะ! ชาวออฟฟิศเคยสังเกตผิวของตัวเองกันไหมเอ่ย? ว่าเป็นคนผิวแบบไหนกันบ้าง สาวๆหนุ่มๆหลายคนอาจเกิดปัญหาผิวแห้งได้ง่าย เพราะการอยู่ในห้องแอร์นานๆ ก็เป็นปัจจัยนึงเลยนะ!! ยิ่งบางคนน้ำไม่ค่อยอยากจะกิน (ผิวแห้งเฉยๆไม่พออาจกลายเป็นผิวขาดน้ำไม่รู้ตัวนี้สิ น่าห่วง!) สิ่งเหล่านี้มีผลให้ผิวของเรามีริ้วรอยก่อนวัยได้ง่ายเลย รู้อย่างนี้แล้วมาหาวิธีดูแลตัวเองกันด่วนจี๋เลยจ้า!!
1. กินน้ำมันมะพร้าว
เป็นอีกทางเลือกที่นึกถึง เพราะมีประโยชน์ชัดเจนในเรื่องช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและมาจากธรรมชาติ 100% ลองกินมาหลายยี่ห้ออยู่ ของ Chaokoh เราว่ากินง่าย รสชาติดี หอมเบาๆ
เคยเจอคลิปๆ จากคุณหมอท่านนึง เค้าแนะนำว่า การกินที่เหมาะสมและดีที่สุด คือ ตอนท้องว่าง หรือ ก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง สำหรับเพื่อนๆ ที่ลองกินครั้งแรก อาจจะกินแล้วเช็คอาการถ่ายท้องหนักหรือเบาแค่ไหนของตัวเองด้วยจ้ะ เช่น กินวันละ1 ช้อนคาว 3 เวลา (เช้า-เที่ยง-เย็น) แล้วยังถ่ายหนัก ให้ปรับลดลงนั้นเองจ้า
สรุปคือกินตามขั้นบันได ค่อยๆกิน อย่าบุกหนัก ถ้ากินได้ต่อเนื่อง ผิวของเพื่อนๆก็จะนุ่มชุ่มชื้น เนียนแถมลื่นจากภายในเลยแหละ >0<
2. ใช้โลชั่นบำรุงผิว
ขอแชร์ตัวที่ทาบ๊อยบ่อยพอนะคะ เอาเป็นว่าพกติดตัวตลอด ก็ Blackmores Natural Vitamin E Cream Lanolin ที่เป็นแบบหลอดแบบมีหมุนเกลียวหลอดนี้แหล่ะ เมื่อก่อนต้องฝากเพื่อนหิ้วนะ แต่เด๋วนี้ไม่ต้องละ เมืองไทยมีขายที่วัตสัน แล้วก็บู้ทส์
เนื้อครีมเป็นสีขาวเนียนนุ่มละเอียดดี ซึมลงผิวเร็วดี ไม่เหนียวเหนอะหนะ ให้ความรู้สึกผิวเนียนนุ่ม ชุ่มชื้น ทาแป้ง แต่งหน้าติดทนนานขึ้น เพราะมีวิตามินอีจากธรรมชาติ น้ำมันสกัดจากอโวคาโด แถมไม่มีสี ไร้น้ำหอม และปราศจากพาราเบนค่ะ คนผิวบอบบาง แพ้ง่าย ใช้ได้สบายบรื๋อ หลอดนึงใช้ได้นานมากกกก บีบครีมนิดเดียวก็เกลี่ยได้ทั่วหน้า ทาได้ทั้งหน้า มือ ข้อศอก หัวเข่า ลำตัว หรือบริเวณที่ต้องการเมื่อรู้สึกว่ามีความแห้งๆกรังๆ นั้นแหละทามันลงไปทุกหย่อมหญ้าจ้า บอกเลยว่าตัวนี้ไม่ได้ทาแค่ช่วงเช้ากับก่อนนอนเท่านั้น เราทาทุกเวลาที่อยาก ยิ่งอยู่ในออฟฟิศมีแอร์ ช่วยชีวิตสุดๆ
3. ทาลิป ดูแลริมฝีปาก
เวลาอยู่ห้องแอร์นานๆ ริมฝีปากของเราจะแห้งแตกเป็นขุย แถมเป็นคนแพ้ลิปสติกไปอีก เคยลองหลายยี่ห้อ แพ้หม๊ดด พอมาใช้ Baby Lips Lip Balm ของเมลเบลลีน คือดีย์ ไม่แพ้ เป็นอีกลิปบาล์มที่ช่วยพื้นบำรุงริมฝีปากและคงความชุ่มชื่นได้ตลอดทั้งวันดีค่ะ และราคาไม่แพงอีกด้วยแต่ต้องใช้สม่ำเสมอ ในระหว่างวันก็ต้องเติมจ้า เป็นอีกตัวที่พกไปไหนมาไหนตลอด ห้ามหายยย
4. ดื่มน้ำสะอาด
ถ้าเราออกกำลังกายมา หรือเสียเหงื่อเยอะ ร่างกายเราก็จะต้องการน้ำเป็นพิเศษ แต่เพื่อนๆเชื่อไหมว่าการอยู่ในห้องแอร์นานๆ ก็ทำให้ร่างกายและผิวของเราขาดน้ำอีกด้วย!! เพราะน้ำมีความเกี่ยวข้องกับความต้องการพลังงานของร่างกายจ้า เพื่อให้ร่างกายเพอร์เฟคมากที่สุด จำเป็นต้องกระดกน้ำ 1-1.5 เท่าของปริมาณแคลอรี่ที่เราได้รับต่อวัน
แต่การฝืนดื่มน้ำให้ถึง 8-12 แก้วมันอาจไม่ได้ดีต่อผิวมากนัก เพราะว่าต่อให้เรากระดกน้ำไปมากๆ เท่าไหร่ ไตของเรานั้นแหละที่จะขับน้ำที่เกินกว่าความต้องการออกมาอยู่ดีเพราะฉะนั้น ดื่มอย่างพอดี ก็เพียงพอที่จะดูแลผิวให้ชุ่มชื้นได้แล้วค้า !!!
5. ลดการนอนห้องแอร์ /หรืออยู่ห้องแอร์เป็นเวลานานเกินไป
เจอแอร์ที่ทำงานทั้งวัน เพื่อนๆเคยเป็นไหมคะ รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว เหมือนสูญเสียน้ำไปทั้งวัน รู้สึกไม่สบายตัว ซึ่งวิธีที่เราใช้อยู่คือ เวลากลับมาบ้าน ลดการใช้แอร์ปรับอากาศลงบ้าง เพื่อนๆ อาจใช้เฉพาะเวลาเป็นระยะ หรืออาจจะตั้งให้แอร์ตัดก่อนตื่นนอน 1 ชั่วโมงก็ได้ ถ้าวันไหนอากาศไม่ร้อนมากมายก่ายกองนะ ก็ลองใช้พัดลมธรรมดา แทนการใช้แอร์อย่างนี้เอาน้า ที่สำคัญอย่าปรับแอร์หนาวเกินไป อาจจะอยู่ที่ 25 องศาก็พอค้า ไม่ต้องถึงขั้นเปิดแอร์นอน แล้วห่มผ้านวมหนาๆๆ (แต่ถ้าจะเปิดแอร์หนาวๆ เพื่อหาโอกาสให้คนข้างๆมากอด ก็อีกเรื่องน้า ...ฮ่าฮ่า)
เห็นแล้วใช่ไหมค้า ว่าทุกอย่างมีทางแก้ คราวนี้เพื่อน ชาวออฟฟิศที่รัก จะได้ห่างไกลความแห้งกรังที่ทำให้ผิวเหี่ยว และกลับมาลื่นปรื้ดๆ นุ่มนิ่ม ชุ่มชื้นขึ้นอีกครั้งจ้า นอกจากวิธีทั้งหมดที่ทำมานี้ หากเพื่อนๆมีวิธีไหนอีก ก็อย่าลืมมาแชร์คอมเมนต์ข้างล่างนี้เด้อ วันนี้ขอลาไปทาครีมชโลมผิวให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอก่อนนะค้า บ๊ายบาย...
ขอบคุณค่ะ