รีวิวความต่างระหว่างนีเวียเอ็กตร้าไวท์ รีแพร์&โพรเทค โลชั่น VS นีเวียเอ็กตร้าไวท์ รีแพร์&โพรเทค เซรั่ม

     VS     

รีวิวความต่างระหว่างนีเวียเอ็กตร้าไวท์ รีแพร์&โพรเทค โลชั่น VS นีเวียเอ็กตร้าไวท์ รีแพร์&โพรเทค เซรั่ม

ก่อนจะมารีวิว เราอยากให้เพื่อนๆ มาทำความเข้าใจกันก่อนว่าโลชั่นกับเซรั่มนี้มันต่างกันยังไง แล้วโลชั่นกับเซรั่มนี้เหมาะกับสภาพผิวแบบไหน?

โลชั่นหรือครีมทาผิวทั่วไป เหมาะสำหรับสภาพผิวที่แห้งถึงผิวผสม ไม่เหมาะกับคนที่ ผิวมัน เพราะเนื้อโลชั่นจะหนักกว่าเนื้อเซรั่ม ถ้าทาบริเวณผิวทั่วไปจะใช้เวลาในการซึมซาบเข้าผิวนิดหน่อย และจะซึมเข้าเฉพาะชั้นผิวด้านนอกเท่านั้น ส่วนเซรั่มเหมาะกับทุกสภาพผิวโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผิวมัน เพราะเซรั่มจะมีเนื้อบางเบากว่าโลชั่น จึงเหมาะกับสาวๆ ที่ไม่ชอบทาอะไรให้มันเหนียวเหนอะผิวกาย ซึ่งเนื้อเซรั่มจะซึมซาบได้ลึกเข้าถึงโครงสร้างของผิวชั้นใน

พอเราเข้าใจกันอย่างนี้แล้วเรามาดูความแตกต่างกันของ นีเวียเอ็กตร้าไวท์ รีแพร์&โพรเทค โลชั่น VS นีเวียเอ็กตร้าไวท์ รีแพร์&โพรเทค เซรั่ม กันดีกว่าว่าต่างกันอย่างไร เราจะมาเทียบการอธิบายให้เห็นกันชัดๆไปเลย

  ทางแบรนด์เขาเคลมเหมือนกันทั้งสองตัวว่ามี Deep White Essence ไวท์เทนนิ่งสกัดอนุภาคเล็กเข้มข้นด้วยวิตามินซีสูง 50 เท่า ฟื้นบำรุงผิวคล้ำเสียสะสมได้ลึกถึงเซลล์ผิว ซึ่งโลชั่นและเซรั่มสูตรเอ็กตร้าไวท์ รีแพร์&โพรเทค นอกจากจะฟื้นบำรุงผิวแล้ว ยังป้องกันผิวของเราจากแสงแดดไปด้วยพร้อมๆ กัน นับได้ว่าเหมาะกับสภาพอากาศของบ้านเราเป็นอย่างมาก ><

มาเริ่มกันที่ส่วนผสมของเซรั่มกัน ทางเซรั่มจะมีไวท์เทนนิ่งคูณเข้าไปอีก 3 เท่า ซึ่งมีเยอะกว่าตัวโลชั่น

ซึ่งข้อนี้ เซรั่มชนะไปค่ะ ><

กลิ่น : กลิ่นหอมอ่อนๆ เปรี้ยวๆ เหมือนวิตามินซี เพราะมีส่วนผสมของสารสกัดจาก คามู คามู แต่ก็หอมดีนะ กลิ่นติดไม่ทนนาน ไม่กี่ชม. กลิ่นก็หาย

เนื้อสัมผัสโลชั่น

 เนื้อสัมผัสเซรั่ม

เนื้อครีม สีขาวเหมือนกันทั้งคู่เนื้อโลชั่นค่อนข้างหนักกว่าเนื้อเซรั่ม แล้วแต่สภาพผิวของแต่ละบุคคลเนอะ ซึ่งเนื้อโลชั่นจะเหมาะกับคนผิวแห้งถึงผิวผสมไม่เหมาะกับสาวผิวมันเพราะเนื้อโลชั่นจะหนัก ส่วนเนื้อเซรั่มเหมาะกับทุกสภาพผิวโดยเฉพาะสาวผิวมันเพราะเวลาทาเซรั่มมันจะไม่เหนอะหนะผิวระหว่างวันด้วย

SPF  หรือสารในการป้องกันแสงแดด โดยเซรั่มจะมี SPF 50 PA+++ ซึ่งมีสารป้องกันแสงแดดเยอะกว่าเนื้อโลชั่นเหมาะกับการทาไปออกแดดกลางแจ้งหรือโดนแดดมากๆ ซึ่งในขณะที่เนื้อโลชั่นมีค่า SPF 30 PA++ เหมาะกับการทาวันที่ไม่ต้องโดนแดดมาก แต่ยังไงก็ตามถ้าเราออกแดดบ่อยควรทาโลชั่นหรือเซรั่มทุกๆ 2 ชั่วโมง เพื่อประสิทธิภาพในการกันแดดที่ดียิ่งขึ้นนะคะ

ปริมาณ / ราคา โลชั่น ขนาด 350 ml / ราคา 99 บาท

                            เซรั่ม ขนาด 320 ml / ราคา 249 บาท

สถานที่ซื้อ วัตสันและห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป

เคล็ดไม่ลับสำหรับทาโลชั่นหรือเซรั่มคือ เวลาอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ ควรซับผิวกายให้หมาดๆ พอซับเสร็จให้รีบทาโลชั่นหรือเซรั่มบำรุงทันที เพราะหลังจากที่เราอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ รูขุมขนตามร่างกายจะเปิดพร้อมรับการบำรุงต่างๆ ทำให้การทาโลชั่นหรือเซรั่มจะมีประสิทธิภาพที่สุด

สรุปให้เห็นชัดๆ ก็จะเห็นได้ว่าขนาดและราคาแตกต่างกันมากกกกก เพราะเซรั่มจะมีส่วนผสมที่เข้มข้นกว่าโลชั่นนั้นเอง ถ้าเพื่อนๆ คนไหนอยากบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึก และอยากเห็นประสิทธิภาพที่รวดเร็วและอยากผิวขาวใสแบบทันใจเราแนะนำ ให้ใช้เซรั่ม โดยความคิดเห็นส่วนตัวของเรานะถ้าคิดจะบำรุงผิวทั้งทีก็ต้องเอาตัวที่มันเข้มข้นไปเลย เพราะนอกจากจะช่วยฟื้นบำรุงผิวของเราได้อย่างล้ำลึกแล้ว ในตัวเซรั่มยังมีสารกันแดดที่เข้มข้นกว่า กันแสงแดดได้ดีกว่าโลชั่น ทำให้เรากล้าท้าแดดได้อย่างมั่นใจไม่กลัวผิวหมองคล้ำเลยล่ะ อยากผิวสวยกระจ่างใสแบบไม่ต้องไปฉีดผิวให้เจ็บตัวแนะนำทาเซรั่มโล้ดดดดด