HNY-BNTop-SKII

navigate_beforeย้อนกลับ

0 

ดูแลผิวหน้าในวัยเข้าใกล้เลขสี่

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ปกติเราไม่ค่อยขยันตั้งกระทู้เท่าไหร่นะคะ ชอบอ่านและเมนท์อย่างเดียว นานๆ ทีถ้ามี topic ที่ตัวเองสนใจ ก็จะมีความอยากแชร์ให้คนอื่นได้รู้ด้วย และกระทู้เกิดขึ้นเพราะเหตุที่ว่าปีนี้เรากำลังจะอายุสี่สิบแบบเต็มตัวแล้ว (39 ขวบแล้วจ้า) ซึ่งแน่นอนว่าวัยขนาดนี้เนี่ย ก็มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นบนใบหน้ามากขึ้น แต่สิ่งที่อาจจะแตกต่างจากคนวัยเดียวกันเล็กน้อย คือผิวเรายังไม่ค่อยมีริ้วรอย หรือหย่อนคล้อยตามวัยเท่าไหร่ จะมีแค่ริ้วรอยใต้ตาเล็กน้อย เพราะเรานอนดึก หรือ บางทีนอนเช้า เพราะเราทำธุรกิจส่วนตัว เลยต้องเหมาทำเองหมดทุกอย่าง ทำให้มีเวลาพักผ่อนที่ผิดธรรมชาติพอสมควร ช่วงนี้จากผิวที่เคยสุขภาพดี อ่อนกว่าวัย มันเลยมีเส้นบางขึ้นที่ใต้ตา กับร่องแก้มข้างขวา เพราะเราชอบนอนตะแคงขวา แก้มเลยย้วยไปข้างนั้นบ่อยกว่าข้างซ้าย แต่มันก็ยังดูไม่เยอะ ดังนั้นเราจึงต้องรีบแก้ไขเป็นการด่วน


                                                                                 ของใช้ที่บ้านค่ะ

ส่วนปัญหาหนักๆ ที่เราเจออยู่ตอนนี้เลย คือปัญหาจุดด่างดำ สิวอุดตันและสิวหัวดำค่ะ ซึ่งตอนนี้กำลังรักษามันอยู่ เดี๋ยวจะมาแชร์วิธีรักษาสิวต่างๆ อีกทีนะคะ เพราะเราใช้สูตรธรรมชาติเป็นหลัก นานๆ ทีก็มีใช้ยาบ้าง ถ้าปัญหามันฮาร์ดคอร์

และเพราะเราเป็นคนที่เริ่มดูแลผิวมาตั้งแต่ยังอยู่ชั้น ม.ต้น ทำให้ผิวค่อนข้างจะเหี่ยวช้ากว่าคนวัยเดียวกัน เราเลยอยากมาแชร์วิธีดูแลผิวหน้าที่เราใช้เป็นประจำให้เพื่อนๆ หรือน้องๆ ที่ยังอายุไม่เยอะฟังนะคะ จุดประสงค์คืออยากให้สาวๆ ที่ยังห่างไกลจากเลขสี่ รีบดูแลผิวอย่างดีตั้งแต่เนิ่นๆ แล้วผิววัยสี่สิบก็จะห่างไกลจากคำว่า “สี่สิบ” ค่ะ ส่วนเพื่อนๆ ที่วัยใกล้เลขสี่เหมือนกัน เราก็อยากแชร์ประสบการณ์การดูแลผิวของตัวเองให้เพื่อนฟังๆ นะคะ อันนี้ไม่ได้จะบอกว่าตัวเองสวยอะไรนะคะ แต่ว่าผิวเราแทบจะไม่มีริ้วรอยอะไรเลย และคนรู้จักมักจะมาถามบ่อยๆ ว่าทำยังไง ก็เลยคิดว่า เออ ลองเอามาแชร์คนอื่นบ้างดีกว่า

แต่วิธีของเราอาจไม่ใช่วิธีที่เหมาะกับทุกคนนะคะ ใครมีสภาพผิวแห้ง หรือแพ้ง่าย บางวิธีทีที่เราใช้ อาจไม่ควรทำตามค่ะ และก็ของที่เราใช้มีทั้งราคาถูก ราคากลางๆ ไปจนถึงราคาแพง คละๆ กันไปนะคะ เพราะเราไม่ติดแบรนด์เท่าไหร่ อาศัยว่าอ่านโน่นนี่นั่นในเนต แล้วลองซื้อมาใช้ดู อันไหนถูกกับตัวเอง ก็จะใช้ต่อไปเรื่อยๆ

::: การทำความสะอาดหน้า :::

** Make Up Remover **
ปกติเราเป็นคนที่แต่งหน้าน้อยมากค่ะ คือถ้าครีมบำรุงผิว กันแดด แล้วตามด้วย BB ครีม หรือ CC ครีม แล้วแต่อารมณ์และเงินในกระเป๋าในช่วงนั้น และเราก็จะทามันแค่ช่วงใต้ตา (ที่กินบริเวณลงมาแถวด้านล่างเยอะๆ หน่อย ไม่ใช่ทาแต่ใต้ตาอย่างเดียว) ข้างจมูก หว่างคิ้ว และคาง เสร็จแล้วก็ทาลิป และปัดแก้มด้วยลิปที่เหลือติดนิ้วนิดหน่อย ทำให้เราไม่ต้องล้างหน้านานมาก เราใช้น้ำมันล้างหน้าของแบรนด์ญี่ปุ่นต่างๆ มาโดยตลอดค่ะ เริ่มต้นที่ Fasio เป็นน้ำมันแบบเจล จนมาเปลี่ยนเป็นน้ำมันแบบน้ำ แล้วพอ Fasio เลิกวางขายแพร่หลายในเมืองไทย เราก็หันมาหายี่ห้ออื่นแทน ตอนนี้เลยมาถูกใจ Softymo แทน เพราะราคาไม่แพง และล้างหน้าได้สะอาดดีค่ะ



** Facial Wash **
เราถูกใจโฟมล้างหน้าของฮาดะลาโบะที่สุดค่ะ เพราะเป็นยี่ห้อเดียวที่เราใช้แล้ว ไม่รู้สึกว่าหน้าแห้งตึงหลังล้างหน้า ปกติจะใช้สูตรผิวธรรมดา หลอดแถบสีน้ำเงิน-ชมพู แต่ตอนนี้ลองหันมาใช้แถบสีม่วง - ส้มดูค่ะ มันเป็นแบบเนื้อสครับ เนื้อสครับละเอียดดี ล้างแล้วหน้ายังนุ่มไม่แห้งตึงเหมือนเดิม




** Facial Scrub **
เราใช้เฟเชียล สครับ มาหลากหลายยี่ห้อมากๆ ค่ะ แต่ที่ประทับใจจริงๆ คือ “ผงถั่วเขียว” ของ สวนปาน หาซื้อได้ตามเซเว่นทั่วไปค่ะ บางครั้งนอกจากจะเอามาขัดหน้าแล้ว เราจะเอามาผสมกับน้ำผึ้ง แล้วพอกหน้าทิ้งไว้ทั้งคืนค่ะ เพื่อให้หน้าเนียนเรียบ และลดการอักเสบหรือรอยแดงจากสิว สำหรับเรามันมีคุณสมบัติช่วยให้หน้าเนียนใส และลดรอยแดง ลดการอักเสบของสิวได้ดีเลยค่ะ แต่สูตรนี้ไม่แนะนำสำหรับคนผิวแห้งนะคะ เพราะผงถั่วเขียว จะทำให้หน้าค่อนข้างตึง เหมือนช่วยขจัดน้ำมันส่วนเกินออกไปน่ะค่ะ



ส่วนสครับตัวอื่นๆ ที่ใช้ ตอนนี้ก็มี St.Ives Nourished & Smooth Oatmeal Scrub + Mask มันเป็นสครับข้าวโอ๊ตจากธรรมชาติที่ใช้เป็นมาส์คพอกหน้าได้ด้วย กลิ่นนวลๆ เบาๆ ใช้แล้วหน้านุ่มดี เม็ดสครับละเอียด และไม่บาดผิว



::: การบำรุงผิวหน้า :::

** เบสด้วยน้ำตบ **
เราชอบใช้น้ำตบมากๆ เพราะเนื้อมันเบาสบายดี หน้าไม่เหนียวเหนอะหนะ เพราะผิวเราเป็นผิวธรรมดาค่อนไปทางมัน นอกจากบางช่วงที่พักผ่อนน้อย ผิวก็อาจจะแห้งไปบ้าง และด้วยความที่ชอบความเบาๆ บางครั้งก็เลยใช้แต่น้ำตบอย่างเดียวเลย ไม่ได้ใช้อะไรอย่างอื่นต่อ

น้ำตบที่เราใช้ประจำมีอยู่ 3 ยี่ห้อด้วยกันค่ะ

Estee Lauder Micro Essence
ตัวนี้ตอนแรกซื้อแบบขวดเล็กๆ มาลองก่อน ลองแล้วติดใจ เลยไปสอยขวดใหญ่มาตัวนี้กลิ่นมันไม่ค่อยโสภาเท่าไหร่ เพราะไม่ได้ใส่น้ำหอมจนหอมฟุ้ง แต่กลิ่นมันเหมือนยาๆ นิดนึงอ่ะ ใช้แล้วหน้าเด้งดีค่ะ ตัวเดียวอยู่สำหรับคนผิวธรรมดากับผิวมัน เนื้อโลชั่นน้ำตบตัวนี้จะค่อนข้างบางเบา แต่ก็มีความเหนียวนิดๆ ทาแล้วจะเหมือนมีฟิล์มบางๆ เคลือบผิว



Hada Labo
เราใช้น้ำตบของฮาดะมานานมากๆ สำหรับคนอื่นอาจไม่โอเค แต่กับผิวเราน้ำตบยี่ห้อนี้มันไม่หนาหนักเกินไป ไม่เบาบางเกินไป ตอนนี้เราใช้ทาก่อนทายาแก้สิวอุดตันด้วยค่ะ

Body Shop Firming Essence Lotion
ตัวนี้เพิ่งได้มาลองใช้ เพราะชอบกลิ่นที่ออกแนวสมุนไพรธรรมชาติ รู้สึกสดชื่นดีนะเวลาใช้ แล้วเนื้อโลชั่นก็บางใส ไม่มัน แต่ทาแล้วก็ยังรู้สึกว่ามีฟิล์มเคลือบอยู่บนผิว ไม่ได้ซึมหายไปจนหมด ซึ่งจะต่างกับของเอสเต้ที่เนื้อโลชั่นบางมาก และกลิ่นไม่หอมเลย เหมือนทายาเล็กน้อย ส่วนฮาดะก็อย่างที่รู้ๆ กันว่า มันค่อนข้างจะชุ่มชื่นเกินเหตุไปหน่อยในบางที แต่ของบอดี้ชอปคือชุ่มชื่นกำลังดี และซึมลงผิวเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ


                                                                          เนื้อของเอสเซนส์ โลชั่น
                                          





Vitamin C Skin Conditioner (ชื่อยี่ห้อเป็นภาษาญี่ปุ่น อ่านไม่ออก)
อันนี้เป็นน้ำตบสูตรผสมวิตามินซี ของแบรนด์ญี่ปุ่น เราซื้อมาจากซึรุฮะ เพราะเห็นราคามันโอเค แค่สองร้อยปลายๆ ในขณะที่ขวดใหญ่เบ้อเร่อ แต่ใช้ไปแล้วไม่ค่อยโอเคค่ะ เราว่าเหมาะกับคนผิวมันมากกว่า เพราะว่าใช้แล้วหน้าไม่มันเลย ซึ่งเราไม่ชอบ เราชอบให้หน้าเรามีน้ำมันเคลือบนิดๆ




** จบด้วยสกินแคร์ **
สกินแคร์ที่เราใช้ ค่อนข้างหลากหลายนะคะ เปลี่ยนแปลงไปตามสภาพผิว ณ ขณะนั้นๆ เราขอแบ่งเป็นช่วงๆ ละกันค่ะ

ช่วงเป็นสิว
ช่วงที่เป็นสิว จะมี 1-2 วันที่เราใช้น้ำผึ้งผสมมะนาวสดๆ ทาทั้งหน้าทิ้งไว้ทั้งคืน และถ้ามีสิวอักเสบ ก็จะแอดวานซ์ไปผสมกับผงถั่วเขียวด้วย ตามที่บอกไปข้างต้น เราตื่นเช้ามาก็ล้างออก สิวจะยุบไว ไม่อักเสบลุกลาม และไม่ทิ้งรอยแผลเป็นค่ะ เราทำแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆ เลย การทาน้ำผึ้งช่วยให้มีผลพลอยได้ คือช่วยให้ริ้วรอยเกิดช้าค่ะ (ลองคิดถึงมัมมี่ที่ดองไว้ในน้ำผึ้งนะคะ) ส่วนมะนาวมีผลพลอยได้ คือ ช่วยให้สิวอุดตันดันตัวองออกมา และฝ่อไปภายในระยะเวลาอันสั้น และยังช่วยสมานผิว แต่วิธีนี้ไม่เหมาะกับคนที่มีผิวแห้ง หรือผิวแพ้ง่าย ระคายเคืองง่ายนะคะ อาจจะมีผื่นขึ้นได้ เป็นวิธีที่เหมาะแต่กับคนผิวธรรมดา - ผิวมันเท่านั้นค่ะ

ช่วงปกติธรรมดา
* น้ำมันม้า *
ช่วงที่หน้าไม่ได้เป็นอะไร ไม่มีสิว ไม่หมองคล้ำ เราชอบเจลหรือครีมน้ำมันม้าค่ะ ซึ่งยี่ห้อที่เราชอบใช้ เราไม่รู้ยี่ห้อมัน เพราะมันเป็นภาษาญี่ปุ่นหมดเลย  หาซื้อได้ที่ซึรุฮะค่ะ

ยี่ห้อนี้ใช้ดี เนื้อบางเบา ใช้แล้วหน้าไม่แห้งตึง แต่ก็ไม่ทำให้หน้ามันจนเกินไป ทาได้ทั้งตอนเช้าก่อนแต่งหน้า และตอนกลางคืนค่ะ กระปุกเดียวคุ้ม




ส่วนอีกตัวเป็นเจลน้ำมันม้า ยี่ห้อ Mjcare ที่เราสุ่มๆ ซื้อมาตอนมันลดราคา ปกติเคยใช้แต่ผลิตภัณฑ์น้ำมันจากญี่ปุ่น แต่ตัวนี้เป็นผลิตภัณฑ์จากเกาหลีค่ะ ใช้ดีเหมือนกัน ทาแล้วหน้านุ่มเด้งดังตูดเด็ก แต่ไม่ค่อยเหมาะจะทาตอนเช้าเท่าไหร่ เพราะว่าหน้าอาจจะมันเกินไปในบางวัน เวลาทาแล้วมันจะเป็นฟิล์มบางๆ เคลือบหน้าไว้ เหมาะมากกับคนที่ผิวแห้งหรือผิวไม่เรียบ ทาเจลน้ำมันม้านี้ก่อนทาครีมกันแดดและแต่งหน้า เราว่ามันช่วยเป็นเกราะให้ผิวหน้าได้ดีเลย



* ออยล์ทาหน้า *
พอดีช่วงปีใหม่ไปได้เซ็ตบำรุงผิวหน้าของ Tarte มาค่ะ และในเซ็ตนั้นมันมี Pure Maracuja Oil อยู่ด้วย ซึ่งเราก็ลองเสิร์ชหาอ่านดูในเน็ต เพราะไม่เคยได้ยินชื่อน้ำมันชนิดนี้มาก่อน เลยได้ความว่ามันเป็นน้ำมันที่สกัดจากเมล็ดของลูกเสาวรส พอลองใช้แล้วก็รรู้สึกว่าหน้าหลังตื่นน้อย ริ้วรอยจางๆ ใต้ตาที่มาเพราะนอนดึก มันจางลง แต่ว่าน้ำมันอันนี้มันไม่เหมาะจะใช้ตอนเช้าเลยค่ะ สำหรับคนที่ใส่แว่นและคอนแทคเลนส์อย่างเรา เพราะมันทำให้คอนแทคเลนส์มีคราบมันๆ ติดอยู่ เพราะขนตามันไปกวาดเอาน้ำมันตรงแถวใต้ตามาโดนคอนแทคเลนส์ค่ะ แถมยังพอใส่แว่นก็ยังทำให้แว่นลื่นด้วย ก็เลยเป็นตัวที่เราจะใช้เฉพาะตอนกลางคืนเท่านั้นค่ะ



                                                                         เทกซ์เจอร์ของออยล์




ช่วงหน้าหมอง หน้าอิดโรย ผิวดูห้อยๆ
บางทีช่วงที่โหมงานหนักๆ เรานอนเช้าเลยก็มี ช่วงนั้นหน้าจะค่อนข้างแย่ค่ะ ทรุดโทรมกันเลยทีเดียว ช่วงนี้เลยจะต้องใช้ครีมที่มีส่วนผสมเข้มข้นมาช่วยกู้ชีพหน่อย เราใช้ The Body Shop:Roots of Strength ค่ะ

แบรนด์นี้ปกติเราจะใช้ ชิโสะ บีบีครีมของเค้าเป็นประจำอยู่แล้ว แล้วก็ใช้น้ำหอมกับเจลทาใต้ตาของแบรนด์นี้ค่ะ

ส่วนพวกสกินแคร์ที่เคยใช้มาก็เซรั่มวิตามินซี กับครีมวิตามินอี แต่ด้วยความที่เราก็เป็นคนที่หมุนเวียนใช้แบรนด์นั้นแบรนด์นี้ไปปีละครั้ง ตอนนี้เลยไม่มีรูปของสองอย่างนี้มาให้ดูกันนะคะ

แต่ว่าช่วงนี้ใช้ Roots of Strength อยู่ เลยมีรูปมาให้ดูกัน ตัวนี้มันชื่อ Roots เพราะมันมีส่วนผสมของรากต้นไม้อยู่สามชนิดค่ะ คือ รากโสมอย่างดี รากขิง และรากของต้นรัสคัส ในไลน์นี้จะมีผลิตภัณฑ์อยู่ทั่งหมด 3 ตัว คือ Firming Essence Lotion, Firming Serum และ Firming Cream

ตัวที่เราใช้จะเป็น Firming Cream กลิ่นก็เป็นแบบเดียวกับตัวโลชั่น คือกลิ่นแบบสมุนไพรธรรมชาติ ออกแนวรากไม้ๆ จริงๆ ตัวเนื้อครีมมีความเบาและยืดหยุ่น เวลาเอานิ้ววอร์มครีมก่อนทาหน้า จะรู้สึกได้เลยว่า เนื้อครีมเนียนละเอียดมาก เวลาใช้นิ้วแตะครีมแล้วดึงขึ้นมา จะรู้สึกได้ว่าเนื้อของครีมไม่ขาดออกจากกัน และเวลาทาลงไปบนผิวหน้าตอนแรกๆ จะรู้สึกว่าผิวฟูๆ เหมือนร่องผิวมันถูกเติมเต็มจากเนื้อครีมแน่นๆ แต่บางเบานั้น แล้วพอทาทิ้งไว้สักพัก ก็จะไม่หลงเหลือความมันบนผิวเลย แต่ว่าได้ผิวเรียบตึงมาแทน




                                                     (รูปข้างบน) ทันทีที่ทาครีมเสร็จ ผิวจะวาวๆ ฉ่ำๆ เล็กน้อย


:: การบำรุงริมฝีปาก ::

** แก้ปัญหาปากดำ ปากแห้งเป็นร่องลึกด้วยผลิตภัณฑ์สูตรโบราณที่ช้าแต่ชัวร์ **
เราเป็นคนที่ปากคล้ำเพราะว่าเมื่อก่อนตอนเด็กๆ ชอบเลียริมฝีปาก และปากก็แห้งเป็นร่องลึกมากๆ แต่อยู่มาวันนึงก็ไปเจอคนเขียนถึง “สีผึ้งแม่เลียบ” ขึ้นมา เราหาข้อมูลต่างๆ นานา และไปลองซื้อมาใช้ และใช้มาเกือบสิบปีแล้ว ราคาไม่แพงเลย

สีผึ้งแม่เลียบเป็นสิ่งเดียวที่เราขาดไม่ได้เลย ต้องทาทุกคืนก่อนนอน จากปากที่คล้ำและแห้งเป็นร่องลึก ทาไปสักสองปี มันก็ค่อยๆ กลับมาอมชมพู และร่องริ้วรอยที่ปากตื้นขึ้นเรื่อยๆ แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้ใช้ระยะเวลาค่อนข้างนานนะคะ ไม่ใช่ทาสองเดือนแล้วจะเห็นผลเลย เราทาอยู่ตั้ง 2-3 ปีกว่าจะเห็นผล เพราะมันเป็นของโบราณที่ทำจากธรรมชาติ มันเลยเห็นผลช้า แต่ชัวร์ว่าไม่แพ้ และปากไม่กลับมาดำคล้ำอีก หายแล้วหายเลย ทาแล้วปากก็ไม่แห้งด้วย เราเลยติดทาสีผึ้งนี้ทุกคืนก่อนนอนค่ะ ทาแรกๆ อาจจะรำคาญนิดนึงนะคะ เพราะเนื้อมันหนามากๆ

เลยต้องมีเคล็ดลับในการทา คือ ก่อนลงสีผึ้ง เราจะเอาเบบี้ออยล์ทารองพื้นบางๆ ก่อน แล้วค่อยทาสีผึ้ง เพราะเนื้อสีผึ้งมันจะหนืดๆ มาก ทายาก ทาแล้วเป็นปื้นๆ ก็จะต้องใช้เบบี้ออยล์มาเป็นตัวช่วยทำละลายค่ะ

สีผึ้งนี้บางทีเราเอามาแต้มสิว แต้วริ้วรอยด้วยนะคะ ริ้วรอยมันตื้นขึ้นจริงๆ แต่ก็อย่างที่บอก ของโบราณต้องใช้เวลาค่ะ




** เพิ่มความชุ่มชื่นระหว่างวันด้วยบาล์มน้ำมันม้า**
ระหว่างวัน ถ้าอยู่บ้าน ไม่ได้ไปไหน เราจะใช้บาล์มน้ำมันม้าที่เพื่อนซื้อมาฝากจากญี่ปุ่น เอามาทาริมฝีปากไว้ไม่ให้แห้งค่ะ ส่วนวันที่แต่งหน้าจะทาลิปบาล์มติดสีของโอเรียนทอล ปรินซ์เซส ทับลิปสติกอีกทีค่ะ





                                                              สีแดงเรื่อๆ ของลิปบาล์มออเรนทอล ปริ้นเซส


::: กันแดด :::
เราง่ายๆ สั้นๆ เลยค่ะ ใช้แต่ครีมกันแดด Biore UV Aqua Rich มา 10 กว่าปีละ ไม่เคยเปลี่ยนเลย เคยไปลองใช้พวกเคาน์เตอร์แบรนด์แล้วไม่ถูกใจ บางแบรนด์เนื้อแมทช์ไป เช่น แอนเนสซ่า ของชิเซโด้ บางแบรนด์ก็เนื้อมันไป แต่ของบิโอเร คือตอบโจทย์เราทุกอย่างค่ะ (แต่น้องสาวเราใช้แล้วไม่ชอบ ของอย่างนี้ แล้วแต่สภาพผิวหน้าคนจริงๆ ค่ะ)



:: แต่งหน้าเบาๆ เน้นโชว์ผิว ::

เนื่องจากเราเป็นคนที่แต่งหน้าน้อยมาก ก็เลยอาจจะไม่ได้มีการแนะนำไปถึงพวกรองพื้นหรือคุชชั่นอะไรที่เค้าฮิตๆ กันนะคะ แต่จะแนะนำผลิตภัณฑ์เนื้อเบาๆ มากกกว่า ใครที่ชอบแต่งหน้าแบบโชว์ผิว ก็จะเหมาะกับแบบที่เราใช้ค่ะ

** ปกปิดสีผิวไม่สม่ำเสมอ และจุดด่างดำ **
ปกติเราจะใช้ BB Cream และ CC Cream เป็นส่วนใหญ่นะคะ ไม่นิยมลงรองพื้น หรือทำคอนทัวร์ เพราะว่าขี้เกียจทั้งตอนทาและตอนล้างค่ะ

ยี่ห้อที่เคยใช้ ก็มี CC ครีมของชาแนล ที่เราไม่ค่อยชอบเนื้อของมันเวลาทาลงบนผิวเท่าไหร่ เพราะค่อนข้างเนื้อแมทเกินไป เราเป็นคนชอบให้หน้าดู dewy นิดๆ น่ะค่ะ ดูโกลว์ ตัวนี้พอหมดหลอด (หมดไปนานแล้ว เลยไม่มีรูปมาให้ดูกัน) เราเลยไม่ได้ซื้อมาใช้ต่อ

ตัวที่เอามาให้ดูกันได้ เป็น Moisture White Shiso BB Cream SPF 25 PA+++
ของ The Body Shop ค่ะตัวนี้เราใช้มานานหลายปีแล้ว น่าจะ 5-6 ปีได้แล้ว หลอดล่าสุดซื้อมาสองปีละ มันกำลังใกล้จะหมด ที่เราชอบตัวนี้และใช้มานานมาก (สังเกตได้จากความเยินของหลอด คือใช้หมดจนหยดสุดท้ายจริงๆ) เพราะว่าเนื้อมันบางเบา แต่ให้การปกปิดได้ดีมาก เนื่องจากเราเป็นคนที่ใต้ตาคล้ำจากการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอและเป็นภูมิแพ้ บวกกับพออายุมากขึ้น สีผิวไม่ค่อยสม่ำเสมอกันเท่าไหร่ ใช้ตัวนี้แล้วหน้าเนียนแบบเบาเบางดีค่ะ (ปล. หลอดที่เรามีอยู่ เป็นหลอดรุ่นเก่านะคะ ตอนนี้เค้าเปลี่ยนหน้าตาหลอดไปละ แต่เรายังไม่ได้ไปซื้อมาใช้ เลยขอเอาหลอดแบบเก่ามาโชว์ไปก่อน จากสภาพหลอดที่เยินมาก เพราะเราใช้หมดจนหยดสุดท้ายจริงๆ ค่ะ บางทีก็ตัดขวางหลอดด้วยซ้ำ)



ส่วนตัวล่าสุดที่เพิ่งไปเจอมาโดยบังเอิญ มันคือ Becca Jet-Set Glow Prep & Prime Kit (Limited Edition) ไม่รู้จักแบรนด์นี้มาก่อน แต่ด้วยความที่ได้สามชิ้นในเซ็ตเดียว เลยตัดสินใจซื้อแบบไม่ได้มีหลักเกณฑ์อะไรเลย (แต่ตอนนี้ไม่แน่ใจนะคะว่าเซ็ตนี้ยังมีขายอยู่มั้ย)

ในเซ็ตมันจะมีทั้งหมด 3 ตัวนะคะ คือ Becca Backlight Primer (15ml.) อันนี้จะเป็นไพรมเมอร์สีเนื้อ ทาแล้วหน้าโกลว์มากๆ กลิ่นหอมเหมือนขนม ทาตัวนี้แล้วตบด้วยอีกตัวในเซ็ต คือ Under Eye Brightening Corrector (2.3 g.) ที่เราเอามาทาบริเวณอื่นๆ คือรอบๆ จมูก ร่องแก้ม คางและหน้าผาก ทาแค่นี้หน้าก็ดูโกลว์แบบที่เราชอบแล้วค่ะ

ส่วนอีกตัวเป็นไพรม์เมอร์สีม่วงลาเวนเดอร์ First Light Priming Filter (15ml.) คือเค้าบอกให้เอาไว้ทาช่วงที่หน้าโทรมจัดๆ แต่เราลองเอามาทาทั้งตอนที่โทรมและไม่โทรม เราว่ามันไม่ค่อยเข้ากับสีผิวเท่าไหร่ เลยไม่ค่อยได้หยิบมาใช้ นานๆ ทีก็เอามาใช้บ้าง แต่ก็ต้องตามด้วยตัว Backlight อีกทีอยู่ดี

มันมีขายแยกชิ้นเดี่ยวๆ ด้วยนะคะ






::: บำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ :::
เราเคยไปทำสีผมที่ร้านนึงมาเมื่อ 2-3 ปีก่อนค่ะ ตอนนั้นฟอกสีผมหนักมาก (ทำผมสีเทาแล้วต่อด้วยสีเขียวฟ้าค่ะ) เลยซื้อผลิตภัณฑ์ของ Aveda จากในร้านทำผมมาด้วย (จริงๆ คือโดนคุณป้าเซลล์ในร้านไซโคเล็กๆ แล้วก็ใจอ่อนเสียทรัพย์ไปนับแสน ใครใจไม่แข็งพอ ถ้าไปทำผมร้านนี้ อย่าไปฟังเค้ามากค่ะ) เป็น Invati Scalp Revitalizer ตัวนี้เราจำราคาเป๊ะๆ ไม่ได้แล้ว แต่น่าจะประมาณสามพันบาท แพงเอาเรื่องเลย แต่ว่าคุ้มค่ามากๆ ค่ะ เพราะตอนนั้นเรามีปัญหาหนังศีรษะด้านหน้ามัน แต่ส่วนอื่นๆ แห้ง เวลาตกบ่ายผมด้านหน้าที่เราตัดเป็นม้าปัดเฉียงจะมันเยิ้มแล้ว แต่พอมาใช้ Invati แล้วปัญหานี้หายไปเลย ใช้แค่นิดเดียว หยดมาเท่าเหรียญห้าสิบสตางค์ ก็ทาหนังศีรษะได้ทั่วแล้วค่ะ

ตอนนั้นเราซื้อมายกเซ็ตเลยค่ะ มีพวกแชมพูและครีมนวดสำหรับผมทำสีด้วย ราคาเอาเรื่องอีกเช่นกัน แต่ว่าผลลัพธ์ก็เฉยๆ นะไม่ได้ประทับใจอะไรมาก คอนซูเมอร์ โพรดัคท์พวกแบรนด์ญี่ปุ่น ให้ผลลัพธ์ถูกใจเรามากกว่าค่ะ (รูปที่ลงครบเซ็ต เป็นรูปที่ถ่ายไว้นานละ)





จบละค่า !!!

เป็นรีวิวที่ยาวหน่อยนะคะ เราอยากแชร์อย่างละเอียดถึงสิ่งที่เราใช้แล้วมันได้ผล อย่างเช่น ผงถั่วเขียว หรือสูตรการรักษาสิว ที่มักจะมีคนไปค้นเจอกระทู้เก่าๆ ในพันทิปที่เราไปตอบๆ ไว้ ก็ยังมีคนหลังไมค์มาถามสองเรื่องนี้กันอยู่เลย เลยคิดว่าอยากจะแบ่งปันให้เพื่อนๆ น้องๆ ได้ทราบบ้างค่ะ



What's new
รีวิวคุชชั่นไข่แดง TIRTIR งานผิวสวยโกลว์ ปกปิดเริ่ด เนียนกริบตลอดวันป้ายยาลิปสติกเนื้อฟิล์ม CEZANNE ปากฉ่ำวาว สีสวยชัดเป็นธรรมชาติรีวิวครีมกันแดดอควาเฟรช Beauty Of Joseon งานผิวสวยฉ่ำ บางเบา ไม่ทิ้งคราบขาวKOSAS เปิดตัว "แป้งฝุ่นอัดแข็ง" สูตรใหม่ล่าสุด เผยผิวสวยดุจนางฟ้า เปล่งประกายมากกว่าที่เคยไขข้อสงสัย ทำไมค่า SPF ครีมกันแดดถึงไม่ตรงปก พร้อมแนะนำวิธีตรวจสอบที่แม่นยำ10 เซรั่มและออยล์บำรุงผมแห้งกร้าน ให้กลับมานุ่มสลวย  ยี่ห้อไหนดี 2025คัดเน้น ๆ 10 แชมพูลดผมร่วง 2025 บอกลาผมบาง ต้อนรับผมหนาอีกครั้ง!ดูดวงความรัก การงาน การเรียน การเงิน ระหว่าง 23 - 29 มี.ค. 68 (ทุกราศี) 5 สูตรสครับหนังศีรษะ ลดผมร่วง แก้ผมมัน พร้อมช่วยขจัดรังแคชวนทดลองใช้! VICHY Liftactiv 16% Pure Vitamin C Brightening Serum จำนวน 250 รางวัล