สวัสดีค่าาาาาาทุกคน กระทู้นี้จะมารีวิวการแก้ปัญหาที่เจอกับตัวเอง ตรงตามหัวข้อเลยค่ะ เพราะเป็นคนที่มีผิวหน้าแห้งมากกกกกกก แล้วการที่ต้องอยู่ในห้องแอร์นานๆ สไตล์สาวออฟฟิศเนี่ยก็ยิ่งทำให้ผิวแห้งขึ้นไปอีก จะพูดไงดีล่ะ เพราะอาการผิวแห้งเนี่ยมันทำให้เราไม่สวยไงล่ะ!
ไม่สวยยังไงอ่ะหรอ...ก็ความหน้าแห้งไง มันทำให้ให้บางทีจะมีความขุย ที่สำคัญคือเครื่องสำอางที่ประโคมปาดลงบนหน้ามันเป็นคราบ! มันไม่ติดหน้าเลย!มันน่าน้อยเนื้อต่ำใจไหมมมม บอกเลยว่ามากกก ซื้อเครื่องสำอางมาแพง หมดไปหลักหมื่นงี้แต่แต่งหน้าออกมาแล้วดูไม่แพงเลอะ เพลียค่ะ!
อ่ะ เดี๋ยวเอารูปให้ดู ความพลีชีพนี้!!!!!!!!! เห็นความคราบบนหน้าหรือเปล่า ถ้าคุณเคยแต่งหน้าแล้วเป็นแบบในรูป อยากจะบอกว่าเราคือเพื่อนกัน

ขอโทษอีกครั้งที่อาจทำให้หลายๆคนเสียขวัญ และกำลังใจ5555แต่อยากจะบอกว่ามันแก้ไขได้นะ คือคนหน้าแห้งผิวแห้งอ่ะ ต้องเลือกใช้อะไรที่มันช่วยเติมเต็มน้ำให้ผิวได้ อย่างตัวเรานี้ก็จะเลือกสกินแคร์ที่เป็นเนื้อครีมมากกว่าเนื้อเจลเพราะเน้นเรื่องของความชุ่มชื้นเป็นหลัก แล้วก็พวกสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของไฮยาลูรอนเพราะจากการที่กูเกิ้ลหาข้อมูลมานั้นนนนนนนน เราเจอว่า ไฮยาลูรอนเนี่ยมันช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นได้ ทที่สำคัญคือมันจะช่วยให้ริ้วรอยลดลง และหน้าเด็กด้วย
ทีนี้มาดูสกินแคร์ที่เราใช้กัน แชร์ไว้ให้สาวๆ ที่มีผิวแห้งแบบเราเป็นแนวทางในการเลือกซื้อนะคะ เพราะพวกสกินแคร์และการดูแลตัวเองเหล่านี้แหละที่จะทำให้เราสวย55555555
วันนี้เลือกมาสามตัวเน้นๆที่เฟิร์มแล้วว่า สาวหน้าแห้งรอดแน่นอนจ้า
ตัวแรกก็คือสบู่ล้างหน้าคืออันนี้ต้องเลือกอันที่ล้างแล้วหน้ายังนุ่มอยู่นะ อันที่ล้างหน้าแล้วมันเอี๊ยด!! อ่ะ เซย์โนวววววไปเลย เพราะมันชำระล้างความชุ่มชื้นบนผิวเราไปจนหมดสิ้น ผลที่ได้คือคุณจะยิ่งหน้าแห้ง และเหี่ยวลงไปอีก อิชั้นใช้อันนี้ค่ะ วิปโฟมSENKA Perfect Whipอันนี้โด่งดังมานาน ใครไปญี่ปุ่นเป็นต้องฝากหิ้ว ล้างหน้าแล้วให้ความรู้สึกว่าหน้ายังนุ่มอยู่ สาวผิวแห้งใช้ได้ หน้าไม่เอี๊ยด

ต่อมาค่ะ หลังล้างหน้าเราต้องมีการปรับสมดุลผิว บางคนอาจจะใช้โทนเนอร์อะไรแบบนี้ แต่แนะนำอ่านข้างขวดไว้สักหน่อย พยายามหลีกเลี่ยงโทนเนอร์ที่มีพวกแอลกอฮอล์นะคะ เพราะมันจะทำให้คุณแสบหน้า และหน้าก็จะแห้งยิ่งกว่าเดิมไปอีก
ส่วนอิชั้นหรอค่ะ น้ำตบค่ะ ดิฉันเลือกใช้เป็นน้ำตบ ในการปรับสภาพผิวหลังล้างหน้าตัวที่ใช้ตอนนี้และดีมากกก็คือ IPSAThe Time Reset Aqua ตัวนี้ได้รางวัลBestCosme 2017 ของญี่ปุ่นด้วย

ตัวที่สามคือเคล็ดลับก่อนลงสกินแคร์อิฉันใช้สเปรย์น้ำแร่ฉีดหน้า ทิ้งไว้แป๊บนึงแล้วทาสกินแคร์ลงไป คือสเปรย์น้ำแร่เนี่ยมันฉีดได้ทั้งก่อนลงสกินแคร์เพื่อให้สกินแคร์ซึมลงผิวดีขึ้น หรือใช้ฉีดก่อนและหลังแต่งหน้าเพื่อให้เครื่องสำอางติดทนหน้าไม่หลุดร่อน ใช่ค่ะ!อิชั้นฉีดมันเพราะอยากทำลายล้างหน้าที่แห้งที่ทำให้รองพื้นของคุณแม่ริฮันน่าไม่อยู่ติดกับหน้าอิชั้น 555555
ตัวนี้อิชั้นเลือกใช้สเปรย์น้ำแร่ของEucerinHya Mist Sprayเนื่องจากเจ้าตัวนี้เป็นสเปรย์ไฮยาลูรอน ซึ่งแตกต่างจากสเปรย์น้ำแร่ทั่วไปที่อิชั้นเคยใช้ มันจะไม่ใช่แค่การให้ความชุ่มชื้นธรรมดา แต่มันช่วยให้หน้าเรานุ่มฟูตลอดทั้งวัน อิชั้นลองมาแล้วค่ะ คือฉีดตอนเช้ารอบเดียวอยู่ได้จนบ่ายๆ
หน้าตาก็จะเป็นแบบนี้เลือกซื้อขวดใหญ่เพราะเก็บไว้ฉีดตอน finishing lookได้ด้วย ฉีดสะใจมาก ละอองละเอียดฟุ้ง ใช้แล้วหน้าหยุ่นๆ ผิวชุ่มชื้นมาก คนหน้าแห้งแบบเราชอบมาก
ตัวนี้เพื่อนเราที่ผิวมันเคยลองใช้ก็ชอบนะ มันช่วยให้เครื่องสำอางติดหน้าดี หรือใครอยากได้ลุคโกลว์แบบสาวสุขภาพดี จะลุคหน้าฉ่ำวาวแบบสาวเกาหลีตัวนี้ก็เป็นอีกสิ่งที่แนะนำ

นี่ค่ะ ผิวโกลว์ฉ่ำวาวแบบสาวสุขภาพดี แบบว่าลืมไปเลยว่าเคยผิวแห้ง 55555
รูปซ้ายคือถ่ายตอนเช้ามาถึงออฟฟิศปุ๊บก็เซลฟี่ซักหน่อย รูปขวาคือช่วงบ่ายๆ เราถ่ายรูปห่างกันประมาณ4ชม.(นั่งทำงานตากแอร์อยู่แต่ในออฟฟิศนี่แหละ)จะเห็นว่าหน้ามีความฉ่ำวาวแต่ไม่ดูมันเยิ้ม และที่สำคัญคือเครื่องสำยังอยู่เริ่ดหน้ามีความฉ่ำวาวแบบสาวเกาหลีสุดๆ

สุดท้ายล่ะ ไม่ว่าจะใช้สกินแคร์แพงแค่ไหน หรือจะประโคมครีมยังไง การดื่มน้ำให้เพียงพอก็เป็นสิ่งจำเป็นอีกอย่างหนึ่งด้วยนะ สำคัญมากถึงมากที่สุดสำหรับสาวผิวแห้ง และที่สำคัญคือฟรีค่ะ!แต่ไม่ใช่ว่าให้กินทีละเยอะๆล่ะ แต่ให้เลือกจิบทั้งวันเรื่อยๆจนครบ6-8แก้วเท่านี้ผิวก็สวยล่ะ ไม่ว่าจะอยู่ในออฟฟิศหรือไปต่างประเทศอากาศเย็นๆ หน้าเราก็ฉ่ำวาวสุขภาพดีล้าววววว สวัสดีค่า