10 สกินแคร์ลดรอยสิว ปรับผิวให้เรียบเนียนกระจ่างใส ไร้รอยสิวกวนใจ!

navigate_beforeย้อนกลับ

0 

แชร์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิววัยสาวให้สดใสสมวัย...เพื่อครอบครองผิววัยใสให้อยู่กับเราไปนาน ๆ

แชร์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิววัยสาวให้สดใสสมวัย...เพื่อครอบครองผิววัยใสให้อยู่กับเราไปนาน ๆ


สวัสดีค่าสาว ๆ วันนี้ฤกษ์งามยามดีพึ่งจะพ้นช่วงตรุษจีนมาไม่นาน ผึ้งเชื่อว่าสาว ๆ หลายคนเนี่ยจะต้องได้รับทรัพย์กันมาอย่างปัง ๆ เฮง ๆ แน่นอน ดังนั้นกระทู้นี้ผึ้งก็จะแนะนำสกินแคร์สุดเลิฟที่วยกอบกู้ใบหน้าโทรม ๆ เหมือนใจโทรม ๆ ดวงนี้(ล้อเล่นน้า)ของผึ้งให้สาว ๆ ได้รู้จักกัน เผื่อว่าสาว ๆ คนไหนที่อยากจะเสียทรัพย์ให้กับ สกินแคร์ดี ๆ สักตัว แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกตัวไหนดีก็ให้กระทู้นี้ของผึ้งเป็นตัวช่วยอีกทางนะคะ


สภาพผิว: ถ้าให้พูดถึงสภาพผิวเนี่ยโดยปกติแล้วผึ้งจะเป็นคนผิวผสมค่ะ คือ เป็นลูกครึ่งค่ะ(ครึ่งผิวมันครึ่งผิวแห้ง) ผิวหน้าช่วงทีโซนเนี่ยจะมีความมันอยู่มากหน่อย แต่ผิวหน้าช่วงอื่นจะเป็นผิวธรรมดา-ผิวแห้ง แต่ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมานี้ ผึ้งได้ใช้ยารักษาสิวมาตลอด เนื่องจากสิวบุกหนักเวอร์น้องทนไม่ไหวจริง สิวเนี่ยก็เริ่มหายแล้วแต่ปัญหาที่ตามมาติด ๆ คือ เห้ย ๆ ทำไมผิวเราดูงง ๆ ผิวดูมันแต่ข้างจมูก ลอก แดง และสภาพผิวหน้าจะดูกร้าน ๆ ไม่สดใสแต่งหน้าก็ไม่ค่อยติด ผลิตภัณฑ์บางตัวใช้แล้วก็แสบหน้าเหมือนกลายเป็นคนผิวบอบบาง ตอนนั้นผึ้งงงมากกับสภาพผิวตัวเองว่าเราจะเอาไงต่อดี จนได้ไปหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต และพบว่าปัญหาผิวหน้าที่ผึ้งกำลังเจออยู่นั้น คือ ปัญหาผิวขาดน้ำ ผึ้งเชื่อว่าต้องมีสาว ๆ หลายคนที่กำลังเผชิญปัญหาผิวขาดน้ำแบบผึ้งอยู่แน่นอน งั้นเรามาดูกันเลยค่ะว่าสิ่งที่ผึ้งนำมารับมือกับปัญหาผิวของผึ้งคืออะไร

MAMONDE Micro Mask to foam


เนื่องจากเราเนี่ยมีปัญหาสิวอุดตันอยู่แล้ว คือ เป็นสิวอุดตันง่ายมากกกก ดังนั้นนอกจากการแต้มยารักษาสิวแล้วเราก็อยากจะหาตัวช่วยอีกทาง คือ โฟมล้างหน้าที่ทำความสะอาดรูขุมขนของเราได้อย่างล้ำลึกแต่ก็ต้องไม่ทำให้ผิวหน้าของเราแห้งตึงด้วย และผึ้งก็มาเจอคุณMamonde micro mask to foam โดยบังเอิญ คือ ไม่ได้อ่านรีวิวใด ๆ มาก่อน แต่ผึ้งว่าการที่เค้าเป็นmask to foam นี่แปลกดีจึงเสียทรัพย์มาค่ะ และหลังจากที่ผึ้งได้ลองใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ก็รู้สึกไม่ผิดหวังเลยค่ะ เหมือนเราได้ดีท็อกซ์ผิว และผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วอย่างอ่อนโยนเพราะเม็ดสครับนั้นเล็กจิ๋วมากกก อ่อนโยนไม่บาดผิวเลย เมื่อผึ้งล้างหน้าเสร็จก็รู้สึกผิวหน้าสะอาดหมดจด ผิวดูสดใส และที่สำคัญผิวหน้าก็ไม่แห้งตึงด้วยค่ะ



เนื้อผลิตภัณฑ์: เมื่อทาลงบนผิวหน้าของเราเนื้อผลิตภัณฑ์จะเหมือนเนื้อโคลนที่ไว้มาร์คหน้ามีเม็ดสครับสีน้ำตาลที่เล็กมาก ๆ อยู่ แต่เมื่อเราใช้น้ำลูบก็จะมีฟองโฟมขึ้นมา
กลิ่น: มีกลิ่นหอมแบบดอกไม้ ๆ ธรรมชาติ ไม่หวานไม่ฉุนจนเกินไป ผึ้งเชื่อว่าน่าจะถูกใจหลาย ๆ คนค่ะ
วิธีใช้:ผึ้งล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าก่อนหนึ่งครั้งค่ะเพื่อเป็นการล้างความมันบางส่วนออกจากใบหน้าของเรา และใช้กระดาษทิชชูหรือผ้าซับหน้าให้หมาดๆ จากนั้นลงMamonde micro mask to foam บาง ๆ เหมือนเรามาร์คหน้า และทิ้งไว้ประมาณ 3 นาที เมื่อครบ 3 นาทีแล้วก็ใช้น้ำเปล่าลูบที่ผิวหน้าจนเกิดฟองโฟม นวดวนให้ทั่วใบหน้าเบา ๆ และล้างออกให้สะอาดค่ะ โดยผึ้งใช้Mamonde micro mask to foam ประมาณอาทิตย์ละ 2-3 ครั้งค่ะ


THE BODY SHOP Drops Of Youth Youth Essence-Lotion



ตอนนี้นะคะผึ้งอายุได้ 22 แล้ว(เขินจัง) ประกอบกับการรักษาสิวนั้นทำให้ผิวหน้าของผึ้งแห้งกร้าน ขาดน้ำ ซึ่งแต่ก่อนเนี่ยผึ้งจะรู้สึกว่าเรื่องริ้วรอยเนี่ยมันไกลตัวฉัน ฉันยังวัยรุ่นอยู่เลยยยย แต่พอเกิดปัญหาผิวที่ผึ้งได้บอกไว้ในข้างต้นแล้ว อะไรที่มันไม่เคยมีมันก็มี และเราก็ต้องไม่ปล่อยให้ปัญหาริ้วรอยก่อนวัยอันควรลุกลามจนเกินแก้ ซึ่งสิ่งที่ผึ้งนำมารับมือกับปัญหานี้ก็ คือThe Body Shop Drops Of Youth ตัวYouth Essence-Lotion ซึ่งเค้าเคลมว่ากลุ่มผลิตภัณฑ์Drops Of Youth จะช่วยในการฟื้นฟูและซ่อมแซมโครงสร้างผิวให้กลับมาแข็งแรงดูเปล่งปลั่ง ชุ่มชื้น ผิวสุขภาพดี ทำให้ริ้วรอยเกิดช้าลง และริ้วรอยแรกเริ่มที่พึ่งมีจะค่อย ๆ ลดเลือนลงเสมือนการย้อนเวลาให้ผิวกลับไปอ่อนเยาว์ตามชื่อDrops Of Youth เจ้าตัวนี้เนี่ยผึ้งจะชอบใช้ในการบำรุงผิวหน้าในตอนเช้า เพราะเนื้อสัมผัสที่บางเบาไม่เหนียวเหนอะหนะแต่ยังให้ความชุ่มชื้น ซึ่งผึ้งชอบมากค่ะ ลงตัวเดียวและก็แต่งหน้าต่อเลย เหมาะกับวันรีบ ๆ มากค่ะ




เนื้อผลิตภัณฑ์ : เจ้าตัวYouth Essence-Lotion นี้เนี่ย เป็นน้ำตบที่ไม่ได้เหลวเป็นน้ำเหมือนน้ำตบทั่ว ๆ ไป นางจะมีความหนืด ๆ ใส ๆ เหมือนเจลลี่ เมื่อเราทาEssence-Lotion ตัวนี้ลงบนผิวก็จะรู้สึกเย็น ๆ สดชื่นดีค่ะ
กลิ่น : กลิ่นเนี่ย ด้วยความที่เค้ามีส่วนผสมของดอกไม้อยู่ ก็เลยจะมีความหอมดอกไม้ ๆ สะอาด ๆ ดมแล้วรู้สึกธรรมชาติมากกก ซึ่งน้องก็ชอบอีกแล้ว
วิธีใช้ : ต้องเขย่าขวดก่อนใช้ทุกครั้งนะคะ ตัวผึ้งจะชอบใช้ในตอนเช้าค่ะ เพราะกลิ่นเค้าสดชื่น ๆ ทำให้ผึ้งรู้สึกว่าเป็นการเริ่มต้นวันใหม่ที่ดีค่ะ 5555 แต่สาว ๆ จะนำไปใช่ก่อนนอนหรือตอนไหนก็ได้นะคะแล้วแต่ความสะดวกเลยค่ะ โดยวิธีใช้ของผึ้งก็คือการตบและนวดตามแนวรูขุมขนให้ทั่วใบหน้าค่ะ


CLARINS Hydra-Essentiel Bi-Phase Serum




เนื่องจากเราเนี่ยกำลังเผชิญปัญหาผิวขาดน้ำอยู่ ผึ้งก็อยากจริงจังที่จะแก้ปัญหานี้โดยการหาสกินแคร์ดีๆสักตัวที่คุ้มค่าคุ้มราคาที่เราต้องเสียไป เพราะปัญหาผิวขาดน้ำนั้นเหมือนเป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่นำพาปัญหาอื่น ๆ มาหาเรา ผึ้งจึงเริ่มหาขอมูลเกี่ยวกับสกินแคร์ที่ช่วยในเรื่องผิวขาดน้ำอย่างจริงจัง ซึ่งหนึ่งในยี่ห้อที่ผึ้งสนใจก็คือคลาแรงส์ จากนั้นไม่รอช้าค่ะ เพราะผิวหน้าของเราต้องการการเยี่ยวยาโดยเร็วที่สุด เราจึงพุ่งตัวไปที่Beauty Hall แห่งหนึ่ง เมื่อถึงแล้วผึ้งก็ไม่รอช้า เข้าไปคุยกับพนักงานเรื่องของผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่องของผิวขาดน้ำที่เราหมายตาไว้ ซึ่งผึ้งจะขอพูดถึงCLARINS Hydra-Essentiel Bi-Phase Serumก่อน โดยเจ้าเซรั่มสูตรBi-phaseจะช่วยเติมความชุ่มชื้น ให้ผิวของเรานั้นดูฉ่ำน้ำ ด้วยประสิทธิภาพจากสารสกัดLeaf of LifeและBeautyberryที่จะช่วยปลอบประโลมผิวพร้อมกับคืนความชุ่มชื้นมีชีวิตชีวาให้ผิวหน้าของเรา โดยความรู้สึกหลังใช้มาระยะหนึ่ง คือ ผึ้งรู้สึกว่าผิวเรานั้นเหมือนได้รับการเติมเต็มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวเปล่งปลั่ง สดใส มีชีวิตชีวามากขึ้นจากที่เคยแห้งกร้านมีริ้วรองดูไม่สดใส และสิ่งที่เห็นได้ชัดเลย คือ จากที่ข้างจมูกเคยลอกแดงก็ไม่มีอีกแล้ว ผิวหน้าดูชุ่มชื้นมีชีวิตชีวาตลอดวัน แต่ไม่ก่อให้เกิดความมันส่วนเกิน รวม ๆ แล้ว เลิฟสุด ๆ และผึ้งขอกระซิบอีกนิดว่าการแต่งหน้าก็ติดดีขึ้นด้วยค่ะ




เนื้อผลิตภัณฑ์ : ผลิตภัณฑ์เป็นน้ำสีฟ้า เมื่อทาลงบนผิวหน้าของเราแล้วจะรู้สึกว่ามีน้ำมันเคลือบอยู่บนผิวของเรา แต่สักพักก็จะซึมซับเข้าไปในผิวอย่างรวดเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ให้ความชุ่มชื้นที่ยาวนาน แต่ไม่ได้ทำให้หน้าเรากลายเป็นกระทะทอดไข่ค่ะ 
กลิ่น : เจ้าตัวนี้จะมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ เป็นกลิ่นหอมแบบเฟลช สะอาด ๆ ใช้แล้วรู้สึกปลอดภัย 
วิธีใช้ : หลังทำความสะอาดผิวแล้วผึ้งเขย่าก่อนและกด Hydra Essentiel Bi-Phase Serumหนึ่งปั๊มลงบนฝ่ามือ แล้ววอร์มเล็กน้อย กดเบา ๆ ทั่วผิวหน้า และลำคอ เป็นประจำทุกเช้า-ก่อนนอน


CLARINS Hydra-Essentiel Silky Cream




มาต่อด้วยผลิตภัณฑ์จากคลาแรงส์ตัวที่สอง นั่นก็คือCLARINS Hydra-Essentiel Silky Creamซึ่งเจ้าตัวนี้ผึ้งจะลงหลังจากที่ทา Hydra Essentiel Bi-Phase Serum แล้ว โดยผึ้งใช้สองตัวนี้ควบคู่กันเนื่องจากพนักงานที่เคาน์เตอร์ของคลาแรงส์แนะนำว่าหากใช้คู่กันแล้วจะได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งเจ้าตัวนี้จะมาในรูปแบบเนื้อครีมเนียนนุ่ม บำรุงผิว ให้ผิวหน้าของเรานั้นชุ่มชื้น ดูเอิบอิ่ม เปล่งประกายสดใสท่ามกลางทุกสภาวะ เนื่องจากมีส่วนผสมของComplex ที่ทางคลาแรงส์ได้จดสิทธิบัตรไว้เรียบร้อยโดยเคลมว่าสามารถช่วยในการต่อต้านมลภาวะได้เหมือนเป็นเกราะป้องกันให้ผิวหน้าของเราอีกชั้น ความรู้สึกหลังจากได้ลองใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ ผึ้งรับรู้ได้ถึงความนุ่มเนียนและความชุ่มชื้นของเนื้อครีม เมื่อทาลงบนผิวหน้าผิวของเราดูชุ่มชื้น อิ่มน้ำ สุขภาพดีขึ้น โดยปกติแล้วผึ้งจะเป็นคนที่ไม่ชอบใช้ผลิตภัณฑ์เนื้อครีม เพราะกลัวเป็นสิวอุดตัน แต่เจ้าHydra-Essentiel Silky Creamตัวนี้ผึ้งยอมเค้าจริง เพราะแม้ว่าเนื้อครีมจะมีความเข้มข้น แต่ก็ซึมสู่ผิวเร็ว ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน รู้สึกเหมือนได้ล็อกความชุ่มชื้นบนผิวหน้าไว้อีกชั้น เจ้าตัวนี้เลิฟ ๆ ๆ ไปเลยค่ะ




เนื้อผลิตภัณฑ์ : เนื้อผลิตภัณฑ์เนียนลื่นเกลี่ยง่าย และเข้มข้น สาวผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ จะต้องชอบตัวนี้มาก ๆ เพราะแม้ว่าเนื้อครีมจะเข้มข้น แต่เมื่อทาลงบนผิวหน้าของเราแล้วก็จะซึมเข้าไปในผิวอย่างรวดเร็ว ไม่เหนอะหนะหรือก่อให้เกิดความมันส่วนเกิน แต่เราก็ยังสัมผัสได้ถึงความชุ่มชื้นที่เคลือบอยู่บนผิวหน้าของเรา
กลิ่น : ผึ้งว่ากลิ่นก็จะคล้าย ๆ กับHydra Essentiel Bi-Phase Serumคือ หอมอ่อน ๆ เฟลช ๆ ค่ะ 
วิธีใช้ : เจ้าตัวนี้ผึ้งจะใช้เป็นตัวสุดท้ายในการบำรุง ผึ้งตักครีมขึ้นมานิดเดียว และนวดวนให้ทั่วใบหน้าและลำคอ เช้า-ก่อนนอน เมื่อใช้เป็นประจำสักระยะก็จะสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงว่าผิวเราดูสุขภาพดี ดิวอี้ อิ่มน้ำขึ้นจริง


FRESH Umbrian Clay Mattifying Serum




เดินทางมาถึงผลิตภัณฑ์ตัวสุดท้ายที่ผึ้งใช้แล้วปลื้มกันแล้วนะคะ คือ เจ้าFRESH Umbrian Clay Mattifying Serumซึ่งตัวนี้เค้าเคลมไว้ว่าเป็นซีรั่มที่ผสมแร่ธาตุที่อยู่ในโคลนUmbrianช่วยปรับผิวสวยและกระจ่างใส พร้อมด้วยรากขิงช่วยควบคุมความมันและลดขนาดรูขุมขน อีกทั้งยังมีสารสกัดจากmeadowsweetช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระได้ 24 ชั่วโมง ข้อดีที่ทำให้เราชอบตัวนี้ คือ แม้ว่าจะเป็นเนื้อซีรั่มก็จริงแต่ก็ให้ความชุ่มชื้นได้อย่างดี และยังช่วยในเรื่องความกระจ่างใสและกระชับรูขุมขนด้วย




เนื้อผลิตภัณฑ์ : เป็นเนื้อซีรั่มที่เข้มข้น สีจะออกครีม ๆ เกลี่ยง่าย
กลิ่น : ช่วงแรก ๆ ผึ้งจะไม่ค่อยชินกับกลิ่นของเค้าค่ะ มันจะมีความกลิ่นขิงหน่อย ๆ เป็นกลิ่นแบบธรรมชาติ ๆ แต่เมื่อใช้ไปสักพักก็เริ่มชินแล้วค่ะ กลิ่นไม่ได้แรงมาก 
วิธีใช้ : นวดวนให้ทั่วใบหน้าและลำคอ เช้า-ก่อนนอน และตามตัวผลิตภัณฑ์อื่นหรือจะใช้เดี่ยว ๆ ก็ได้นะคะ แล้วแต่สาว ๆ สะดวก


เป็นไงกันบ้างคะสาว ๆ กับผลิตภัณฑ์ที่ผึ้งนำมาแชร์ในวันนี้ เล็งตัวไหนไว้กันบ้านรึเปล่าคะ ผึ้งหวังว่ากระทู้นี้ของผึ้งจะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการตัดสินใจของทุกคนในการเลือกซื้อสกินแคร์นะคะ หากใครมีปัญหาผิวขาดน้ำแบบผึ้งแล้วอยากแชร์อยากพูดคุยกัน ก็ทักทายกันมาได้ในคอมเมนต์เลยยย และเจอกันใหม่ในโอกาสหน้านะคะ

P.S. ผึ้งไม่ได้ใช้ทุกตัวพร้อม ๆ กันนะคะ แต่จะใช้สลับกันไปค่ะ

XOXO

2 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 1
ขอบคุณค่ะ
February 27, 2018
ความคิดเห็นที่ 2
ขอบคุณค่ะ
February 28, 2018
What's new
เจาะลึก BSC Authentiq Collection เมคอัพที่ตอบโจทย์สาว ๆ ยุคใหม่9 ครีมลดริ้วรอยใต้ตา ยี่ห้อไหนดี ลดตีนกา แก้หนังตาเหี่ยวรีวิวคุชชั่นไข่แดง TIRTIR งานผิวสวยโกลว์ ปกปิดเริ่ด เนียนกริบตลอดวันOUAI เปิดตัวไอเท็มลิมิเต็ด Leave-In Conditioner ทางลัดสู่ผมนุ่มลื่น แบบไม่ต้องใช้พาสปอร์ต!Chompink: AI ที่ทำให้การเลือกซื้อเครื่องสำอางเป็นเรื่องง่าย และตรงใจสำหรับทุกคนแนะนำ 7 โฟมล้างหน้า เวชสำอาง ลดสิว ยี่ห้อไหนดี ที่ใช้แล้วชอบจนต้องบอกต่อ!9 สกินแคร์หลังเลเซอร์ หน้าใส ลดรอยแดง บำรุงผิวแข็งแรงขึ้นดูดวงความรัก การงาน การเรียน การเงิน ระหว่าง 4 – 10 พ.ค 68 (ทุกราศี) หลังเลเซอร์ทาครีมอะไรดี? แชร์ 5 Steps บำรุงหน้าใสไม่มีเบิร์นชวนทดลองใช้ ลิปสติกเนื้อเชียร์ สีสดชัด BSC AUTHENTIQ BIO VELVET SHEER COLOR LIP จำนวน 50 รางวัล