คัดมาสู้ 4 เซรั่มทาฝ้า หาง่ายตามร้านสะดวกซื้อ

สวัสดีค่ะทุกคน กลับมาพบกับสุดาพาเปย์ อีกครั้ง

วันนี้เราจะพามาดูเซรั่มทาฝ้าที่คัดมาแนะนำให้คนที่มีปัญหาเรื่องฝ้าได้ลองใช้กันค่ะ

ส่วนตัวแล้วด้วยอายุที่มาขึ้นเริ่มมีฝ้ากระขึ้นบริเวณโหนกแก้มทั้งสองข้าง มาจากแสงแดดและวัย

ทำให้เราเริ่มมองหาผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับฝ้ามาใช้

เราคัดมาให้ถึง 4 ซอง 4 สูตร ที่หาซื้อง่าย ตามร้านสะดวกซื้อ

ไปดูกันค่ะว่ามีตัวไหนบ้าง (เรียงลำดับตามความชอบและเห็นผลจริงนะคะ)

เอาภาพก่อน-หลังใช้มาโชว์ก่อนเลย

ตามไปดูกันว่าเราใช้ตัวไหนบ้าง

เริ่มกันที่ตัวแรก

1.KA EXPERT ANTI MELASMA SERUM

แบรนด์นี้เค้าขึ้นชื่อเรื่องกำจัดฝ้า ทางแบรนด์เค้าเคลมมาว่าเป็นเซรั่มทาฝ้าที่ดีที่สุดจาก เค.เอ. มีส่วนผสมของอัลฟ่าอาร์บูตินจากธรรมชาติ 100%

เนื้อเซรั่มเข้มข้น ไม่เหนียวเหนอะหนะ เกลี่ยง่าย ซึมลงสู่ผิวได้อย่างดี

ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่มีพาราเบน ไม่มีแอลกอฮอล์ น้ำหอม

ไม่มีสารอันตรายอย่างไฮโดรควิโนน ใช้แล้วไม่ทำให้ผิวบาง

คนท้อง คนที่ผิวบอบบางก็สามารถใช้ได้นะคะ

ทั้งฝ้า กระ จากแสงแดด ก็จัดการได้ ส่วนคนที่ไม่เป็นฝ้าก็ยังใช้ได้

จะช่วยบำรุงทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้น ผิวชุ่มชื่น ผิวแข็งแรง

วิธีใช้

เป็นเซรั่มทาฝ้า ทาหลังทำความสะอาดผิวหน้าได้ทั้งกลางวันและกลางคืน

เน้นทาบริเวณที่เป็นฝ้า กระ แนะนำว่าควรใช้คู่กับครีมกันแดดด้วยนะคะ

แบบซอง 7 กรัม 49 บาท

พิกัดซื้อได้ที่ Family Mart, Makro, CJ, Nine Beauty, ร้านค้าทั่วประเทศ

มาถึงตัวที่ 2

Best Korea Eggplant Melasma Super serum

เป็นเซรั่มมะเขือม่วงเข้นข้น ที่ข้างซองเค้าเขียนไว้ว่าทลายจุด สลายฝ้า

มีส่วนผสมของสารแอนตี้-ออกซิแดนท์ วิตามินซี,อี และ Gigawhite

ตัวนี้นอกจากจะช่วยในเรื่องของการกำจัดฝ้าแล้ว ยังช่วยในเรื่องของการลดเลือนริ้วรอยและจุดด่างดำต่างๆจากรอยสิวได้อีกด้วย

เนื้อเซรั่มไม่มีสี มีกลิ่นอ่อนๆ เนื้อเซรั่มเกลี่ยง่ายมาก

ซึมลงผิวได้อย่างรวดเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ

วิธีใช้

หลังจากทำความสะอาดผิวหน้าแล้ว ใช้เป็นเซรั่มทาให้ทั่วใบหน้า

สามารถเน้นบริเวณที่มีปัญหาเรื่องฝ้าและจุดด่างดำ ใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืนค่ะ

หลังจากได้ทดลองใช้รู้สึกได้ว่า ช่วยลดฝ้าและจุดด่างดำได้ในระดับนึง

ส่วนในเรื่องของผิวกระจ่างใสยังไม่ค่อยเห็นผลเท่าไหร่จ้า

1 ซอง 10 มล. 49 บาท

พิกัดหาซื้อได้ที่ร้านสะดวกซื้อ 7-11 เลยค่ะ

ตัวที่ 3

Jula’s Herb Longan Melasma Serum

หรือที่เรียกว่าเซรั่มทาฝ้าลำไย ซองนี้มีสารสกัดจากเมล็ดลำไย Prolongan 2

ซึ่งเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ที่ข้างซองเค้าเขียนเคลมไว้ว่าจะช่วยลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ ความหมองคล้ำ, มี AHA จากเลมอนและกรดผลไม้ ช่วยผลัดเซลล์ผิว

มีสารสกัดจากใบชาเขียว น้ำผึ้งและยีสต์ด้วย

ลักษณะของเนื้อเซรั่มซองนี้ คือ ไม่มีสีค่ะ แต่จะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ

(ส่วนตัวคิดว่าน่าจะใส่น้ำหอม ใครที่แพ้น้ำหอมให้ทดลองทาที่บริเวณท้องแขนก่อนนะคะ)

มีความเกลี่ยง่ายมาก แห้งไว ซึมลงผิวได้อย่างรวดเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะติดผิวหน้า

วิธีใช้

หลังจากที่ทำความสะอาดผิวหน้าเรียบร้อยแล้ว ลงโทนเนอร์ แล้วใช้ตัวนี้เซรั่มทาฝ้าลำไย

ให้ทั่วหน้า เน้นบริเวณเป็นฝ้ากระ บริเวณโหนกแก้มทั้งสองข้าง ทาได้ทั้งกลางวันและกลางคืนจ้า ความรู้สึกส่วนตัวที่ได้ลองใช้ ใครชอบกลิ่นหอมใช้ได้นะ แต่เราติดเรื่องกลิ่นนิดเดียวมันหอมไป ส่วนเรื่องกำจัดฝ้ายังไม่เห็นผลเท่าที่ควร แต่ผิวคือรู้สึกได้ว่าชุ่มชื่นขึ้นเยอะมากๆค่ะ

1 ซอง 8 มล. ราคา 49 บาท

บอกพิกัดร้านสะดวกซื้อ 7-11 เลยจ้า

ตัวที่ 4

Zolution Melasma Clear Cream Extra

ไม่ใช่เนื้อเซรั่มแต่เป็นเนื้อครีม สำหรับทาบำรุงผิวหน้า

ที่เค้าเขียนไว้ข้างซองว่าจะช่วยลดฝ้าแดด จุดด่างดำ รอยดำจากสิว หน้าหมองคล้ำ

และยังมีส่วนผสมของ Lepidium Sativum Sprout Extract , Niacinamidem
วิตามินบี 3 และ Tranexamic Acid

เนื้อครีมมีความเข้มข้น หนักหน้านิดหน่อย ต้องใช้เวลากว่าจะซึมลงผิว

เนื้อครีมสีขาวข้น ไม่ใส่น้ำหอม มีกลิ่นยาเหมือนเวชสำอาง

วิธีการใช้ส่วนตัวเราจะทาเฉพาะช่วงกลางคืน เน้นโบกลงไปเลยบริเวณที่เป็นฝ้ากระ จุดด่างดำ ช่วงกลางวันเราไม่ได้ใช้นะคะ เพราะเคยลองทาช่วงเช้าแล้วรู้สึกว่าหน้าแอบมันขึ้นกว่าเดิม อาจจะเป็นเพราะเนื้อครีมที่เข้มข้นเกินไป เลยรู้สึกว่าหนักหน้ากว่าเนื้อเซรั่ม

ส่วนเรื่องผลลัพธ์หลังจากที่ได้ลองใช้ การจัดการฝ้าถือว่าได้อยู่

เสียอย่างเดียวเลยคือเรื่องของเนื้อครีมหนักไปหน่อยจ้า

ใน 1 ซอง ขนาด 13 กรัม (ถือว่าได้ปริมาณเยอะกว่าแบรนด์ซองอื่นๆ)

ในราคาเพียงแค่ 39 บาท ถูกกว่าแบรนด์อื่นด้วย

พิกัดก็หาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อ 7-11 เลยค่ะ

“สุดาสรุปตรงนี้สั้นๆจากความชื่นชอบส่วนตัวนะคะ

ชอบเซรั่มทาฝ้าของ KA ตำนานแห่งการกำจัดฝ้า

ชอบตรงที่เค้าไม่มีกลิ่น ไม่มีสี แล้วเห็นผลจริง

ส่วนอีกซองคือ เซรั่มมะเขือม่วง ตัวนี้อาจมีกลิ่นอ่อนๆ

นอกจากจะช่วยลดฝ้าแล้วเค้ายังช่วยลดริ้วรอยด้วย”

มาถึงช่วงสุดท้ายแล้วก็อยากจะฝากให้ทุกคนได้ลองเลือกใช้เซรั่มทาฝ้าที่มีมาตรฐาน

ไม่เป็นอันตรายกับผิว ไม่อยากให้ใช้ครีมกวนเอง ครีมที่ไม่มีมาตรฐาน ไม่มีเลขที่จดแจ้ง นะคะ เพราะกว่าจะที่ผิวหน้าเราจะผ่านการดูแลรักษามาได้ขนาดนี้ สวยขนาดนี้ ยากลำบากจริงๆค่ะ ใครลองใช้ตัวไหนได้ผลแบบไหนมาแชร์กันได้นะคะ

ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันมาถึงตรงนี้

ขอบคุณค่ะ