Bio Essence BN Top

เปรียบเทียบ Concealer 2 ตัวดัง Hourglass Vanish Airbrush VS Tarte Shape tape

21 มี.ค. 2564  |  21789   19  

สวัสดีค่ะทุกคน 


 วันนี้อ้อมาพร้อมกับ Review Concealer ตัวดัง ตัวเด็ด

ที่น่าจะอยู่ใน Wish list ของใครหลายๆคนกัน นั่นก็คือ 

Hourglass Vanish Airbrush Concealer    เเละ Tarte Shape Tape ค่าา


อ้อคิดว่าสาวๆหลายๆคนน่าจะกำลังเล็งน้องๆสองคนนี้อยู่

วันนี้เลยมาทำเปรียบเทียบให้ดูว่าเค้าเหมือนหรือเเตกต่างกันยังไงแบบ shot ต่อ shot

เริ่มกันเล้ยย ^^


1. Packaging


ขอเริ่มจาก ตัว Packaging ก่อนเลยค่ะ เพราะสำหรับอ้อ packaging คือหน้าต่างของหัวใจค่ะ ของดีมั้ยยังไม่รู้ package สวยคือได้ใจไปเเล้ว 50% 555


Hourglass 



มาในวัสดุแก้วเเท่งขุ่น ยาวเรียว วัสดุตรงหัว Applicator มีความเงาวาว สีน้ำตาลออกทองเเดง ตาม style Hourglass เเละมีตัวหนังสือสีทองเขียนชื่อแบรนด์อยู่มุมล่าง ส่วนพลาสติกตรงเเท่ง concealer เป็นพลาสติกขุ่นเเละด้านนะคะ มีความหนาประมาณนึง ทำให้ดูแพงไปอีกก


สำหรับอ้อ คือชอบมากกกก น้องสวยเหลือเกิน หยิบมาใช้เเล้วมีความสุข ติดอย่างเดียวคือรอยนิ้วมือติดง่ายไปหน่อยตรงหัวที่มันวาวๆ นอกนั้นคือเลิฟมากก สวย!


Tarte



ส่วนน้อง Tarte packaging มีความโบฮีเมียน มาในTheme ม่วง ทอง เป็นเอกลักษณ์มากๆ ตัวpackage จะเป็นพลาสติกใสทั้งตัวหลอดเเละหัว Applicator เลยค่ะ เเต่จะมีความบางกว่าตัว hourglass นะคะ เเละเเท่งจะสั้นกว่า เเละหลอดมีขนาดใหญ่กว่าค่ะ


ส่วนตัวว่า Packaging ของ Tarte จะมีความเป็นเอกลักษณ์กว่า มองปุ้ปรู้ทันทีว่าเป็น Shape tape เเน่ะ เเละออกเเนวน่ารัก สดใส ค่ะ


2. Price


Hourglass ราคา 1,450 บาท ปริมาณ 6 ml

Tarte ราคา 1,020 บาท ปริมาณ 10 ml


ข้อนี้ชัดเจนมากค่ะ ว่า Tarte คุ้มค่าเงินในกระเป๋ากว่า

ถ้าใคร ถือเรื่องความคุ้มค่าเป็นหลัก จัด Tarte เลยค่ะ หลอดนึงใช้ได้นานมากๆ ก่อนหน้า Hourglass ออก อ้อใช้ Tarte มาอย่างยาวนาน จำได้ว่าหลอดนึงใช้ได้เป็นปีๆเลยค่ะ

ส่วน Hourglass ตอนนี้อ้อใช้น้องมามากกว่า 5 เดือน น้องก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหมดนะคะ เเละถึงเเม้ว่าน้องจะเเพงกว่า เเต่ก็เเลกมาด้วย packaging ที่ดูสวยเเละทนทานมากกว่า ใครสาย packaging ก็มาทางนี้เลยจ้า  


3. Applicator


Hourglass



Applicator ของ Hourglass จะเป็นรูปวงรี เเบน ๆ ค่ะ ปลายจะเรียว ๆ ทำให้ซอกซอนเข้ามุมหัวตา 

ข้างจมูกได้ดี เเละตรงฟองน้ำค่อนข้าง Flexible เวลาทา Applicator จะ bend เเนบกับหน้าเรา

ตามเเรงกดได้ดี


Tarte 




Applicator ของ Tarte เป็นวงกลมหัวตัดที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ ปลายฟองน้ำที่เป็นหัวตัดเข้ามุมได้ดีค่ะ เเต่เนื่องจากapplicator ที่ค่อนข้างใหญ่ ทำให้ pick up เนื้อคอนซีลเลอร์ออกมาเยอะ ถ้ามีร่องรอยให้ปกปิดเยอะก็โอเคค่ะ รวดเร็วดี เเต่บางจังวะอ้อว่าน้อง pick up product ออกมาเยอะไป control ปริมาณยาก ทำให้ใช้เวลาเกลี่ยนาน เเละ ดูหน้าดูโบกกว่าที่ต้องการ ยิ่งช่วงเเรกของการเปิดใช้นี่ pick up ออกมาเยอะมาก เลอะฝาบ้างในบางที


Match นี้ อ้อเเอบเทใจให้น้อง Hourglass ค่ะ เพราะคุมปริมาณการใช้ได้ง่ายกว่า เเละ Flexible ไปกับหน้าเราได้ดีกว่าค่ะ 



4. Shades & Texture




Hourglass


Shades - เข้าไทยให้เลือกทั้งหมด 12 เฉด สำหรับอ้อ เฉดที่ให้มาใกล้กันมากค่ะ บางเฉดทาเเล้วเเยกเเทบไม่ออก 55 จำได้ว่าตอนที่อ้อเลือกเฉดสี ก็มีปัญหาเหมือนกันเพราะ มันมีเฉดที่อ่อนกว่านิดนึง เเละ กระโดดไปเข้มกว่านิดนึงเลย เเละเฉดที่เข้มที่สุดที่เข้าไทยก็ประมาณ deep medium ค่ะ ซึ่งก็ตอบโจทย์ผิวคนไทยส่วนใหญ่ เเต่ใครที่ผิวเข้มกว่านั้นอาจจะต้อง pre order จากต่างประเทศนะคะ


อ้อใช้สี Beech ค่ะ ผิวประมาณ NC 25


Texture - ค่อนข้างยืดยุ่นไปกับผิวได้ดี เนื้อหนักประมาณนึงค่ะ เวลาใช้ต้องรีบเกลี่ย หากทิ้งไว้นานจะเกลี่ยยากเเละเสี่ยงเป็นคราบได้ค่ะ สำหรับอ้อน้อง work well with ฟองน้ำ เเละแปรงค่ะ ไม่ค่อยเป็นมิตรกับนิ้วมือเท่าไหร่  


finish look ที่ได้เนื้อจะดูชุ่มชื่นประมาณนึง เเละบางเบา เป็น look เเบบ Semi matte ค่ะ ไม่ได้ Matte จ๋าไปเลย ดูจากในรูปได้ค่ะ เนื้อจะดู creamy ประมาณนึง ไม่ matte ไม่ Glow


Tarte


Shades - น้อง Tarte มาด้วยกัน 28 เฉดสีค่ะ มีเฉดสำหรับทุกคนเเน่นอนน มีตั้งเเต่ขาวเหลือง ขาวอมชมพูไปจนถึงสาวผิวเข้ม ผิวเเทนเลยค่ะ


อ้อใช้สี light medium sand ค่ะ (NC 25)


Texture - น้อง Tarte texture เนื้อบางเบากว่าค่ะ เเต่จะยืดหยุ่นน้อยกว่า finish ที่ได้จะเป็น Matte สนิทไปเลยค่ะ ใครเป็นสาวผิวแห้ง finish อาจจะดูไม่สวยเท่า Hourglass นะคะ เเต่ใครเป็นสาวผิวมัน น่าจะเลิฟเลยค่ะ ส่วนอ้อผิวผสม ก็พอได้ทั้งสองตัว


ส่วนเรื่องการเกลี่ย อ้อว่า Tarte เกลี่ยง่ายกว่าค่ะ เนื่องจากเนื้อเบากว่า ไม่ค่อยเป็นคราบสำหรับอ้อ เเต่ตกร่องนิดนึงนะคะถ้าวันไหนสภาพผิวไม่เป็นใจ ข้อเสียคนละจุดกัน เเล้วเเต่สภาพผิวสาวๆเเต่ละคนเนอะ ^^


เรื่องเฉดนี่ น้อง Tarte ชนะขาดลอยเลยค่ะ เป็นมิตรกับทุกคนด้วย 28 เฉดสีของน้อง


ส่วนTexture อ้อชอบ Hourglass มากกว่าค่ะ เนื่องจากชอบเเต่งหน้าสาย glow

มากกว่า เเต่จริง ๆ tarte ก้ build ให้ glow ได้นะคะ อาจจะต้องอาศัย product อื่นๆเพิ่มเติม



5. Coverage

มาถึงจุดสำคัญที่สุดของการ review concealer การตัดสินว่า concealer ดีหรือไม่ดีคือขึ้นอยู่กับข้อนี้เลยค่ะ


ก่อนไป Test เรื่อง Coverage มาดูร่องรอยที่ต้องปกปิดก่อนค่ะ


Coverage : Undereye Area




Undereye Area หลังลง concealers ทั้ง 2 ตัว




Hourglass

ปกปิดรอยคล้ำเเละรอยเเดงรอบตาได้ดีมาก Finish ที่ได้จะ creamy ประมาณนึง เพราะ texture ที่ยืดหยุ่นได้ค่อนข้างดี เเต่ feeling ตอนทาคือแมทเเนบไปกับผิวเลยค่ะ


 Tarte

ปกปิดรอยคล้ำเเละรอยเเดงรอบดวงตาได้ดีมาก finish ที่ได้จะ matte เลย ดูไม่หนามาก ถ้าไม่ set แป้ง มีโอกาสตกร่องได้นะคะ เนื่องจาก texture เค้าค่อนข้างแห้ง


เรื่องการปกปิดใต้ตา อ้อให้เสมอกันทั้งสองตัวค่ะ ทำได้ดีมากๆ จะนอนแปดโมงเช้าก็เอาอยู่ เเตกต่างกันที่ texture เเละ finish look ที่ได้ 


Coverage : Dark Spot


Hourglass




ปกปิดดีมากค่ะ สิวหายไปเลย เเนะนำพอทา concealer เเล้วให้เกลี่ยทันทีเลยค่ะ จะได้ผิวที่ดูสวย เนียน ไม่เป็นคราบ


Tarte




ปกปิดได้ดีมาเช่นกัน อันนี้ยังพอมีเวลาให้ลอยชายนิดนึง ไม่ต้องรีบเกลี่ยมากขนาดนั้น 555 เพราะน้องเป็นคราบยากกว่า Hourglass ด้วยtexure ที่หนืดน้อยกว่า

ปล. เรื่อง applicator ที่เขียนไปก่อนหน้าของ tarte สามารถดูได้จากปริมาณ concealer ในรูปข้างบนได้เลยค่ะ ด้วยหัวที่ค่อนข้างใหญ่เลย pick up ผลิตภัณฑ์ค่อนข้างเยอะ


เรื่อง Coverage อ้อให้เสมอกันทั้งสองตัวค่ะ ทำได้ดีทั้งสองตัวเลย


6. Oxidation

เรื่องของการ oxidizeนั้น ไม่เกิดขึ้นกับทั้งสองตัวนะคะ เช้ายันเย็น หน้าเป็นสีเดิมค่าา ^^


7. Longevity

มาพูดถึงเรื่องความติดทนกันบ้าง ทั้งสองตัวทำได้ดีมากพอๆกันเลยค่ะ คือติดทน คุมมัน เช้ายันเย็น ยันล้างหน้าออกทั้งสองตัว ต่อให้ใส่มาส์ก สำหรับอ้อ concealer ก้ยังอยู่ค่ะ เลิฟมาก

ข้อนี้ขอให้คะเเนนเท่ากันเลยค่ะ ทำได้ดีทั้งสองตัว


8. Clogged Pore/ Cleansing

เรื่องสุดท้ายย คือการอุดตันเเละการล้างน้องออกนั่นเองค่ะ

เนื่องจากอ้อเป็นคนที่สิวอุดตันขึ้นง่ายมากกกก มากที่สุดในสามโลก เเละหนึ่งในสาเหตุคือการใช้เครื่องสำอางค์เนื้อครีมค่ะ ถ้า product เนื้อหนักมากๆ หรือ glow มากๆ อ้อจะมีสิวขึ้นทันที เรื่องนี้จึงค่อนข้างส่งผลกับอ้อเยอะค่ะ


 Hourglass

ล้างออกค่อนข้างยากประมาณนึงค่ะ ต้องใช้เวลาเช็ดหน้ามากกว่าปกติเวลาใช้ตัวนี้ เเละที่สำคัญ อ้อใช้เเล้ว อุดตันค่ะ ฮือออออออออออ เสียใจมากกกก คือน้องดีทุกอย่างเลย ดีไปหมด มาตกมาตายตรงนี้ เเละเนื่องจากเรื่องนี้อ้อไม่สามารถใช้น้องได้ทุกวันค่ะ จะใช้เฉพาะบางวันที่ต้องการผิวเป๊ะๆเท่านั้น


 Tarte

ล้างออกง่ายกว่า Hourglass ค่ะ เนื่องจากเนื้อผลิตภันฑ์หนืดน้อยกว่า เเละอ้อใช้ตัวนี้เเล้วไม่อุดตัน Tarte จึงยังเป็น concealer ในชีวิตประจำวันของอ้อต่อไป ส่วนวันไหนอยากได้หน้าสวยๆ glow ๆ ก็ค่อยไปใช้ Hourglass


เรื่องอุดตัน อ้อให้ Tarte ชนะค่ะ น้องยังคงเป็น Item กันตายใน everyday look ของเราต่อไปป 



With Foundation




พอลงรองพื้นทับ หน้าดูสดชื่นขึ้นเยอะมากก ดูไม่หนา ไม่โบ๊ะเลยค่ะ ทั้งสองฝั่งเลย เอาจริงๆ finish ในรูป ก็ใกล้กันด้วย ดูตาเปล่า อาจจะต่างกันบ้าง เเต่ไม่ได้เยอะมากค่ะ ถ้าไม่บอกก็ไม่น่าจะมีใครรู้ 55



Full Face of Make Up






สรุป


จาก Finish Look ข้างบน เอาจริง ๆ พอเเต่งจัดเต็มเเล้วเเทบไม่ต่างกันเลยค่ะ เเต่มีจุดนึงสังเกตุได้ค่อนข้างชัดคือใต้ตา ภายใต้ความกริบนั้น Tarte แอบตกร่องนิดนึง เเละดู Matte กว่าในขณะฝั่ง Hourglass จะชุ่มชื่นกว่า เเละถึงเเม้ว่า concealer จะให้ finish ที่ Matte เราก็ build ให้ glow ได้ค่ะ อาจจะต้องพึ่ง Product อื่นๆ ร่วมด้วยหน่อย

 

Hourglass : Overall

Packaging สวย ทำจากวัสดุที่ดี เนื้อมีความหนืด เเต่ finishที่ได้ไม่หนาเเละ ดูชุ่มชื่นเป็น Semi Matte ในขณะที่เนื้อหนักกว่า จึงทำให้เกลี่ยยากกว่า เเละล้างออกยากกว่า เหมาะสำหรับผิวผสมไปจนถึงผิวมัน เเละชอบ Look ที่ไม่ได้ matte มากจนเกินไป


Tarte : Overall

Packaging เป็นเอกลักณ์ เนื้อconcealer บางเเต่ปกปิดได้ดี เกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ Finish ดู Matte เเละแห้ง อาจตกร่องได้ ต้องเซ็ตแป้งดีๆ ล้างออกง่ายปานกลางไม่อุดตันเหมาะสำหรับคนผิวมัน หรือชอบ look Matte ค่ะ



หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ให้เพื่อนๆในการเลือกซื้อ Concealer นะคะ

จริงๆทั้งสองตัวเป็นตัวโปรดของอ้อค่ะ ให้เลือกตัวใดตัวนึงคงเลือกไม่ได้ เพราะทั้งสองตัวมีจุดดีเเละเสียต่างกัน ขึ้นอยู่กับวาระเเละโอกาสในการเลือกใช้

ถ้าเพื่อนๆสนใจ อ้อเเนะนำให้ไปลองเองก่อนนะคะ จะได้ดูว่าอันไหนเข้ากับสภาพผิวเรามากกว่า ทั้งสองตัวอ้อได้จาก sephora ค่ะ :)



สำหรับวันนี้อ้อขอตัวไปก่อน เจอกันใหม่กระทู้หน้า

สวัสดีค่าา ^^



19 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 1
น่าใช้มากๆค่ะ 
21 มี.ค. 2564 เวลา 21:52 น.
ความคิดเห็นที่ 2
ปกปิดดีมากค่ะ
21 มี.ค. 2564 เวลา 21:54 น.
ความคิดเห็นที่ 3
ขอบคุณ​ค่ะ​
21 มี.ค. 2564 เวลา 22:20 น.
ความคิดเห็นที่ 4
ปรับผิวกลบรอยดูเรียบเนียนดีนะคะ 
21 มี.ค. 2564 เวลา 23:08 น.
ความคิดเห็นที่ 5
ขอบคุณค่ะ
21 มี.ค. 2564 เวลา 23:15 น.
ความคิดเห็นที่ 6
Tarte น่าลอง
21 มี.ค. 2564 เวลา 23:47 น.
ความคิดเห็นที่ 7
ขอบคุณค่ะ
22 มี.ค. 2564 เวลา 0:02 น.
ความคิดเห็นที่ 8
ขอบคุณค่ะ
22 มี.ค. 2564 เวลา 7:13 น.
ความคิดเห็นที่ 9
ขอบคุณค่ะ
22 มี.ค. 2564 เวลา 7:41 น.
ความคิดเห็นที่ 10
ขอบคุณค่ะ
22 มี.ค. 2564 เวลา 8:06 น.
ความคิดเห็นที่ 11
Thanks
22 มี.ค. 2564 เวลา 8:22 น.
ความคิดเห็นที่ 12
ดี
22 มี.ค. 2564 เวลา 9:43 น.
ความคิดเห็นที่ 13
ขอบคุณที่มาแชร์กันนะคะ
22 มี.ค. 2564 เวลา 9:54 น.
ความคิดเห็นที่ 14
ขอบคุณค่ะ
22 มี.ค. 2564 เวลา 10:36 น.
ความคิดเห็นที่ 15
ขอบคุณค่ะ
22 มี.ค. 2564 เวลา 11:03 น.
ความคิดเห็นที่ 16
น่าใช้มากค่ะ Thanks
22 มี.ค. 2564 เวลา 16:00 น.
ความคิดเห็นที่ 17
ขอบคุณค่ะ
22 มี.ค. 2564 เวลา 16:08 น.
ความคิดเห็นที่ 18
ดี
24 มี.ค. 2564 เวลา 9:01 น.
What's new
รีวิวกันแดดนีเวียเกาหลี NIVEA SUN Sensitive Protect & Light Feel SPF50+ PA+++ เบาสบายผิว ฟีลกู๊ดรับซัมเมอร์!รีวิวไพรเมอร์สกินแคร์ SHISEIDO บำรุงผิวเรียบเนียน เมคอัพติดทนป้ายยา! 5 โฟมล้างหน้าลดสิว เคลียร์ทุกสิว ผิวสะอาดใส ไบร์ทขั้นสุดMEDMAKER Vitamin E Cream (เมดเมเกอร์ วิตามินอี ครีม)...ลด 3 รอย พร้อมบำรุง...ครีมวิตามินอีที่ควรมีติดบ้าน13 ครีมกันแดดสำหรับคนเป็นสิว ผิวมัน ผิวแพ้ง่าย 202410 โรลออนรักแร้ขาวเนียนใส ลดตุ่มหนังไก่ พร้อมมอบกลิ่นหอมมั่นใจตลอดวัน11 Dry Shampoo (ดรายแชมพู) ไอเทมลับจัดการผมมัน ผมเหนียวดูดวงความรัก การงาน การเรียน การเงิน ระหว่าง 21 - 27 เม.ย. 67 (ทุกราศี) แนะนำ 5 ทรงผมหน้าร้อน พร้อมวิธีดูแลเส้นผมช่วงซัมเมอร์!กิจกรรม :: ชวนทดลองใช้ กันแดด BSC Expert White Spot Protect Sunscreen SPF50+ PA++++ ปิดจบทุกจุดดำ ผิวปังรับซัมเมอร์ จำนวน 50 รางวัล