สวัสดีเพื่อนๆชาว Cosmenet ทุกคนนะคะ หลายคนคงอยู่บ้านไม่ได้ออกไปไหนกันแน่ๆ มีนเองก็เหมือนกันค่ะ ว่างมากๆ ก็เลยได้ฤกษ์เปิดกระทู้รีวิวสักหน่อย อย่างที่รู้กันว่าช่วงอากาศแปรปรวนแบบนี้ อะไรก็มันเหนียวเหนอะไปหมดเลยเนอะ ทั้งเหงื่อทั้งความมันนี่มาเต็ม ยกเว้นอยู่อย่างเดียวเท่านั้นที่แห้งได้แห้งดีทุกสภาพอากาศนั่นก็คือปากของมีนเองนั่นแหละค่ะ 555 สำหรับสาวๆที่ปากแห้งคงจะเข้าใจกันว่ามันแห้งได้มากขนาดไหน ถึงทุกวันนี้จะหมั่นบำรุงหรือสครับปากบ่อยๆ แต่ปากก็ยังแห้งแล้งแตกระแหงเหมือนเดิมเด๊ะ นี่เลยทำใจแล้วล่ะว่ามันคงไม่ดีไปกว่านี้หรอก
จริงๆปัญหาหลักๆของคนปากแห้งคือการทาลิปเลยค่ะ เพราะยากมากที่จะทารอด ทาแล้วตกร่องบ้าง ปากเป็นขุย ลิปไม่เกาะปาก ลิปหลุด โอ้โห สารพัดปัญหาและความสยองขวัญเลยค่ะ บางคนก็เลยแก้ปัญหาด้วยการทาแต่ลิปมันหรือไม่ก็ไม่ยอมทาลิปปกติไปเลย
แต่มีนอยากจะบอกนะว่าคนปากแห้งไม่ใช่ว่าทาลิปไม่ได้นะคะ ทาได้ค่ะ แค่ต้องเลือกลิปสติกให้ดีๆเท่านี้ก็ไม่มีปัญหาแล้ว อย่างมีนเองเป็นคนชอบทาลิปมาก ก็ลองผิดลองถูกไปเรื่อย รอดบ้างไม่รอดบ้าง จนมาเจอลิปที่คิดว่าโอเคกับคนปากแห้งจริงๆที่ทาแล้วไม่มีปัญหา ก็เลยตั้งใจมารีวิวและแนะนำลิปสติกที่ตัวเองใช้อยู่ สำหรับคนที่ปากแห้งเหมือนกันและไม่รู้ว่าจะใช้ลิปอันไหนดี ซึ่งมีนก็คัดมาแล้วว่าแต่ละลิปราคาไม่แพงนะ ตำตามได้แบบไม่เสียดายเงิน ช่วงโควิดแบบนี้ต้องประหยัดไว้ก่อนแหละดี 555
ซึ่งทั้ง 6 ลิป ที่ได้รับการคัดเลือกมา ก็มีตามนี้เลยค่ะ
1. L'OREAL PARIS Color Riche Moist Matte
2. Inn Beauty Call Me Matte Tint
3. Revlon Super Lustrous Lipstick
4. เจ้านางลิปสติก
5. Beauty Cottage Semi-matte LipStick
6. BSC Mellow Matte Lip
L'OREAL PARIS Color Riche Moist Matte //สี 235 Plum Mannequin
ราคา 399 บาท
ประเดิมมาด้วยลิปสติกแท่งสุดไฮของ L'Oreal Paris ซึ่งเป็นลิปสติกเนื้อแมตต์ที่ไม่ได้แห้งแบบแมตต์ทั่วไปนะ เพราะมีส่วนผสมของโจโจ้บาออยล์ที่ให้ความชุ่มชื้นกับริมฝีปากด้วย และด้วยความที่เน้นชื่อรุ่น Color Riche ฉะนั้นลิปสติกอันนี้จุดเด่นจึงอยู่ที่เรื่องสีสันเลยค่ะ ประมาณว่าสีแจ่มมาก แถมชัดแบบกลบสีปากได้เลย
สำหรับสีของลิปสติก มีนเลือกสี Plum Mannequin เป็นสีที่ออกม่วงๆออกชมพูนิดหนึ่ง เป็นสีที่ไฮแฟชั่นมากเพราะเป็นสีของคอลแลคชั่นปารีสแฟชั่นวีค สปริง/ซัมเมอร์ค่ะ ปั้วะปังได้ใจมาก แต่ก็ทายากมากๆเพราะไม่ใช่สีที่คนทั่วไปเขาทาปากกัน 555 เลยไม่ค่อยได้ทาบ่อยนอกจากวันนั้นจะแต่งหน้าแนวแปลกๆ แต่ก็ชอบอยู่ดี
● เนื้อสัมผัส,กลิ่น : ลิปสติกตัวนี้ไม่มีกลิ่นนะคะ และถึงจะบอกว่าเป็นลิปสติกแท่งเนื้อแมตต์ที่ให้ความชุ่มชื้น แต่ก็ไม่ได้ชุ่มชื้นฉ่ำเวอร์มากอะไรนะคะ เนื้อยังออกไปทางแห้งๆอยู่บ้าง เลยทายากนิดหนึ่ง แต่ก็ไม่แห้งเกินไปค่ะ คนปากแห้งยังทาได้นะ
● ความติดทน : การติดทนก็ตามมาตฐานทั่วไปเลยค่ะ คือกินข้าวก็ยังมีหลุดบ้าง แต่รวมๆก็ถือว่าทนอยู่นะคะสำหรับลิปสติกแท่งค่ะ
● สรุปความรู้สึกที่ใช้ : เป็นลิปแมตต์ที่มีสีสันชัดเจนกลบสีปากได้ ไม่ได้ให้ความชุ่มชื้นมากนักแต่ก็ไม่ทำให้ปากแห้งลง ทาแล้วไม่เป็นคราบไม่เป็นขุยค่ะ คนปากแห้งให้ผ่าน ใครอยากได้ลิปสติกสีแหวกๆหน่อยต้องตัวนี้เลย
เจ้านางลิปสติก // สีพิกุล
ราคา 250 บาท
ลิปสติกตัวนี้เป็นของเจ้านางค่ะ เป็นลิปแท่งเนื้อแมตต์ที่มีความเป็นซาตินด้วย มีส่วนผสมจากออยล์สามชนิด ได้แก่ Oilve Oil,Rice Bran,Oil Argan Oil ที่ช่วยบำรุงปากให้ชุ่มชื้น ฟินิชลุคหลังทาปากจะมีความฉ่ำนิดๆนะ ไม่ได้แมตต์ไปเลย เลยไม่ทำให้ปากแห้งกร้านและตกร่องแน่นอนค่ะ
สีลิปสติกของเจ้านางมีความเป็นเอกลักษณ์มากค่ะ เพราะเขาตั้งชื่อสีตามดอกไม้ไทยเลย สมเป็นแบรนด์คนไทยมาก และมีนเลือกสีพิกุลมาค่ะ เป็นสีโปรดเลยเพราะสีเขาจะตุ่นๆออกส้มออกน้ำตาลละมุนมาก ทาได้หลายโอกาสค่ะ จริงๆเซตนี้สีสวยหลายแท่งมากเลยนะ อยากให้เพื่อนๆลองไปส่องดูค่ะ น่าตำทุกสีเลย
● เนื้อสัมผัส,กลิ่น : กลิ่นจะมีความละมุนแบบกลิ่นขนมหวาน เนื้อลิปค่อนข้างฉ่ำและลื่น ออกไปทางครีมมี่หน่อย และให้ความชุ่มชื้นดีมาก ทำให้ทาง่ายเกลี่ยง่ายค่ะ แต่ก็ไม่ได้ฉ่ำเกินไปนะ ยังมีความแมตต์อยู่ด้วยค่ะ
● ความติดทน : ถือว่ามีความติดทนนะสำหรับมีน คือถ้าไม่ได้ไปแตะต้องอะไรปาก ลิปก็ไม่หลุดหรอก เคยลองทาลิปตัวนี้ไปกินข้าวก็มีหลุดนะแต่ถือว่าหลุดน้อยกว่าที่คิดมากค่ะ
● สรุปความรู้สึกที่ใช้ : พิกเมนต์สีลิปเขาแน่นมากค่ะ พอเอามาทาปากแล้วกลบสีปากมิดอีกเหมือนกัน แบบว่าทารอบเดียวก็จบเลยไม่ต้องซ้ำ และสีสวยแบบว้าวมาก ชอบตรงนี้ ส่วนตัวลิปก็ให้ความชุ่มชื้นได้ดีมาก ให้ปากฉ่ำกำลังดี ทาแล้วไม่ตกร่อง เป็นอีกตัวที่ให้ 3 ผ่านไปค่ะ ดีเกินราคา แพคเกจดูแพงควรค่าแก่การพกพาด้วย
Beauty Cottage Semi-matte LipStick // สี No.09 Byzantine
ราคา 345 บาท
ลิปสติกของ Beauty Cottage เป็นแบรนด์ไทยที่ได้รับความนิยมมากๆช่วงหนึ่ง ฮิตทั้งในจีนในไทยเลย ซึ่งลิปตัวนี้ก็เป็นอีกตัวฮิตเหมือนกัน เป็นลิปแบบ Semi-matte คือไม่ได้แมตต์เต็มตัวนะ จะออกแนวครีมมี่ๆแบบที่คนปากแห้งใช้ได้ แล้วก็มี Vitamin E และ collagen ที่เป็นตัวบำรุงและให้ความชุ่มชื้นกับปากค่ะ
และสีลิปสติก Beauty Cottage ที่มีนใช้ก็หนีไม่พ้นสีในตำนานที่ขายดีตลอดกาล สีเบอร์9ที่บล็อกเกอร์ทั้งหลายอวยเป็นเสียงเดียวกันว่าสีนี้มันปังจริง เป็นสีที่ใช้ได้ทุกสีผิวทุกโอกาสไม่มีบ้ง อวยจนมีนต้องไปหาซื้อเลยคิดดู 555 ซึ่งสีเบอร์นี้จะออกไปทางแดงๆออกน้ำตาลหน่อยนะคะ คือสวยจริงนะ ชอบมาก เลยกลายมาเป็นลิปกันตายที่ถ้านึกไม่ออกว่าจะทาอะไรก็หยิบตัวนี้มาทาได้เลย
● เนื้อสัมผัส,กลิ่น : ลิปตัวนี้ไม่มีกลิ่นนะคะ เพราะเป็นลิปสติกแบบคลีน ไม่มีน้ำหอมและพาราเบน คนแพ้ง่ายสามารถใช้ได้ ส่วนในเรื่องของเนื้อลิป เขามีความครีมมี่ก็จริง แต่มันก็ไม่ได้ชุ่มชื้นอะไรนะ เป็นครีมมี่ที่แห้งๆหน่อย ถ้าใครที่ปากแห้งมากๆอาจต้องมีลงบาล์มก่อนทานะคะ
● ความติดทน : มีนว่าลิปตัวนี้หลุดง่ายมากค่ะ เพราะทาปากแล้วไปกินข้าวก็หลุดแทบหมดแล้ว อาจเพราะมีนปากแห้งด้วยเลยทำให้หลุดง่าย เวลาทาลิปตัวนี้ไปข้างนอกก็ต้องมีพกติดตัวไปเติมปากเพิ่มด้วย
● สรุปความรู้สึกที่ใช้ : เป็นลิปสติกที่ค่อนข้างแห้งค่ะ แต่ก็ไม่ได้แห้งจนถึงขั้นคนปากแห้งใช้ไม่ได้นะ เพราะมีนใช้ก็ไม่ได้เป็นคราบหรือตกร่องอะไร แต่สำหรับคนที่ปากแห้งมากๆก็ทาบาล์มเพิ่มไปอย่างที่บอกเลยค่ะ ส่วนเรื่องสีนี่ก็สวยค่ะแต่ไม่ได้ชัดมาก ต้องลงซ้ำประมาณ 2-3 รอบถึงจะเต็มปาก แต่ทาแล้วสีปากสวยมากๆจริงๆ เป็นสีแบบที่ชอบเลย
BSC Mellow Matte Lip // สี NF
ราคา 149 บาท
ลิป BSC เป็นหนึ่งในลิปสติกที่มีนชอบมาก เพราะเป็นลิปสติกเนื้อแมตต์ที่ทาง่ายมาก เนื่องจากมี Ultra Gliding Powder ที่ช่วยให้ลิปทาปากได้ลื่นขึ้น ให้ความรู้สึกเบาๆไม่หนักปาก ตัวนี้เลยมีจุดเด่นว่าเป็นลิปเนื้อนุ่มบางเบาเกลี่ยง่าย และด้านการบำรุงเขาก็มี Camellia Japonica Seed Oil กับ Vitamin E ที่ให้ความชุ่มชื้นบำรุงริมฝีปาก และทำให้ริมฝีปากเราเนียนขึ้นด้วย
ข้อเสียของลิปสติกรุ่นนี้อย่างแรกเลยคือมีสีให้เลือกน้อยค่ะ เพราะมีแค่สองสีเท่านั้นเอง แล้วมีนเลือกเป็นสี NF เป็นสีโทนอิฐตุ่นออกแนวชมพูอมส้ม เพราะรู้สึกว่าโอเค ซึ่งเขาบอกว่าได้แรงบันดาลใจสีจากดอกกล้วยไม้นะ แต่ส่วนตัวว่าสีมันไม่ได้สวยอะไรมากนะ แต่มีนชอบที่เนื้อสีเขาชัดดีค่ะ ใครชอบทาลิปเข้มๆน่าจะถูกใจ
● เนื้อสัมผัส,กลิ่น : เป็นลิปสติกที่มีกลิ่นหอมแบบลิปสติกเลย อันนี้ก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน แต่คนที่ทาลิปบ่อยๆน่าจะนึกออกว่าเป็นยังไง ส่วนเนื้อลิปสติกบอกเลยว่าดีมาก เพราะมันนุ่มจริง เบาจริง ลื่นจริง อย่างที่บอกไปเลยว่าเวลาทาไปบนปากคือมันทาง่ายมาก สบายปากเลยค่ะ
● ความติดทน : น่าจะเป็นเพราะความเบาและลื่นของเขา เลยทำให้ลิปสติกหลุดง่าย เหมือนทาไปสักสามชั่วโมงก็จางไปเยอะแล้ว เลยเป็นลิปอีกตัวที่มีนต้องพกไปเติมปากข้างนอกด้วย
● สรุปความรู้สึกที่ใช้ : เป็นลิปสติกเนื้อนุ่มลื่น อาจจะไม่ได้ให้ความชุ่มชื้นหรือความฉ่ำอะไร แต่ทาแล้วปากไม่แห้งแถมยังรู้สึกสบายปากดีด้วย เป็นลิปอีกตัวที่สาวปากแห้งต้องลองค่ะ
Revlon Super Lustrous Lipstick // สี TeakRose #445
ราคา 189 บาท
ลิปของ Revlon นี่ก็ขายดีมานานแล้วด้วยนะ ที่มีนหยิบมารีวิวเป็นรุ่น Super Lustrous หลอดสีดำทองค่ะ เป็นรุ่นคลาสสิคเลย เป็นลิปเนื้อครีมที่มีมอยเตอร์ไรเซอร์ให้ความชุ่มชื้นด้วย Vitamin E และสารสกัดจากว่านหางจระเข้ ทำให้เวลาทาแล้วจะมีความฉ่ำมากๆนะ ปากแห้งแค่ไหนก็ใช้ได้สบายมาก
เพราะว่ารุ่นนี้เป็นรุ่นคลาสสิคของ Revlon ที่ขายมานาน จึงมีหลายสีมากๆให้เลือก แล้วแต่ว่าจะชอบแบบไหน และมีนเลือกสี TeakRose #445 มาใช้ค่ะ มันจะเป็นลิปสติกแบบแดงชมพูโทนกุหลาบมาเลย เติมความร้อนแรงให้ตัวเองบ้างหลังจากใช้สีแนวละมุนอ่อนหวานมานาน ถือเป็นการเปลี่ยนลุคด้วย ซื้อเก็บเอาไว้ใช้ตอนเที่ยวกลางคืนโดยเฉพาะเลย 5555
● เนื้อสัมผัส,กลิ่น : ลิปสติกตัวนี้ไม่มีกลิ่นค่ะ และเนื้อสัมผัสจะค่อนข้างหนักๆหนึบๆปากเวลาทา ทายาก ดูไม่ครีมมี่นัก แต่ทาแล้วปากฉ่ำวาวมากค่ะ วาวกว่าลิปสติกทุกตัวที่มีเลยค่ะ
● ความติดทน : เพราะว่าเป็นลิปสติกที่เนื้อฉ่ำมาก พอฉ่ำมากก็เลยหลุดง่ายมากตามไปด้วย เรียกว่าโดนอะไรนิดหน่อยก็หลุดแล้ว ต่อให้ไม่ได้กินข้าวก็ยังหลุด 555 แต่มีวิธีแก้อยู่นะคะ คือเวลาทาแล้วให้ซับด้วยทิชชู่1รอบให้เนื้อแมตต์ลงกว่านี้ ถ้าสีจางก็ทาอีกรอบแล้วซับใหม่จนกว่าจะได้สีที่เข้มถูกใจค่ะ
● สรุปความรู้สึกที่ใช้ : ลิปสติกตัวนี้กลบสีปากไม่ค่อยมิดเท่าไรค่ะ สีไม่ชัด ใครที่ปากคล้ำอาจจะต้องทาย้ำหลายรอบหน่อย แล้วก็หลุดค่อนข้างง่ายมาก แต่ให้ความชุ่มชื้นได้ดีมากเหมือนกัน ทาแล้วได้ลุคปากฉ่ำๆมาเลย ใครชอบฉ่ำๆต้องตัวนี้แหละตอบโจทย์แน่นอน
Inn Beauty Call Me Matte Tint // สี Coral Punch 01
ราคา 129 บาท
ปิดท้ายด้วยลิปสติกจาก Inn Beauty แบรนด์ที่ดังจากพวกเมคอัพซองในเซเว่น ซื้อลิปสติกตัวนี้ก็มีขายในเซเว่นเหมือนกัน และไม่ใช่ลิปแมตต์ธรรมดานะแต่เป็นแมตต์ทิ้นด้วย ประมาณว่าเป็นแมตต์ที่บางเบาไม่หนักปากเหมือนกับทาทิ้น มีส่วนผสมของ Shea Butter และ Vitamin E ให้ปากนุ่มชุ่มชื้นและไม่คล้ำค่ะ
เนื่องจากเป็นลิปที่มีขายในเซเว่นอย่างเดียว สีเลยมีให้เลือกแค่ 2 สีเท่านั้นค่ะ แต่ว่าโทนสีที่ให้เลือกนี่สวยมากนะ ออกแบ๊วละมุนเกาหลีมากๆ แบบที่สามารถทาได้ทุกวันทุกโอกาส ส่วนตัวมีนเลือกสีเบอร์ 01มาเพราะมันมีความชมพูๆแบบพีช ทาแล้วออกมาน่ารักมากเหมือนลดอายุไปสักห้าปีเลย 555
● เนื้อสัมผัส,กลิ่น : มีนว่ากลิ่นลิปสติกตัวนี้ออกแปลกๆนิดหนึ่ง คือมันจะเหม็นนิดหน่อยนะคะ แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นทนไม่ได้นะ แล้วเนื้อสัมผัสคือดีเลยค่ะ เพราะนุ่มลื่นทาง่ายมากๆ เนื้อก็บางเบาด้วย ทาแล้วรู้สึกไม่หนักปากเลย
● ความติดทน : เหตุผลคล้ายๆกับ BSC เลยค่ะ เพราะเนื้อลิปมันเบาและลื่นทาง่ายเหมือนกัน เลยทำให้หลุดง่ายเหมือนกันไปอีก แบบว่าแปบๆปากก็จางแล้ว ถ้าใช้ตัวนี้ก็ต้องพกไปเติมเหมือนกัน
● สรุปความรู้สึกที่ใช้ : ด้วยความที่เป็นลิปแบบแมตต์ผสมทิ้น สีจะไม่ชัดเท่าลิปตัวอื่นเพราะมันจะมีความอ่อนกว่าและซอฟกว่า ถ้าอยากได้เข้มๆก็ต้องทาย้ำหน่อย แต่สีสวยละมุนเกาหลีมากจริงๆ เป็นลิปที่ทาออกมาแล้วดูน่ารักมากไม่รู้ทำไม เอาเป็นว่าชอบค่ะ 555
เป็นยังไงกันบ้างค่ะกับลิปสติกทั้ง 6 ยี่ห้อและ 6 สีที่มีนแนะนำไป ที่มีนรู้สึกโอเคมากๆว่าปากแห้งใช้ได้ไม่มีปัญหา แถมสีก็สวยปังสุดๆถูกใจทุกอันเลย อยากรู้จังว่ามีใครใช้เหมือนมีนบ้างไหม แล้วโอเคเหมือนกันหรือเปล่า มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้นะคะ ส่วนใครที่ยังไม่เคยใช้ มีนก็อยากแนะนำให้ลองนะเผื่อจะประทับใจเหมือนกัน หวังว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์กับสาวๆที่ปากแห้งกันทุกคนนะคะ อย่าให้ปากแห้งๆไม่น่าดูมาขัดความสวยของเราค่ะ ว่าแล้วก็มาตุนลิปสติกไว้ใช้หลังโควิดกันนะคะทุกคน
Thanks