Even Better™ All-Over Concealer + Eraser

รีวิว CLINIQUE Even Better™ All-Over Concealer + Eraser

ได้มีโอกาสทดลองใช้คอนซีลเลอร์ รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Clinique เป็นเวลาทั้งหมด 11 วัน ผลลัพท์จะเป็นยังไงบ้าง มาดูกัน^^

ต้องบอกก่อนว่าสภาพผิวเราคือ ผิวมัน เป็นสิวง่าย มีจุดด่างดำจากการแกะสิว รอยดำ รอบแดง และริ้วรอยค่ะ และเราใช้เบอร์ 63 fresh beige ค่ะ

แพกเกจ : เริ่มจากกล่องเลย เป็นกล่องลายดอกไม้สีพาสเทลน่ารัก เปิดมาข้างในจะเจอแท่งคอนซีลเลอร์แบบแก้ว รูปทรงโค้งมน เวลาจะใช้ จะต้องหมุนเปิดออกมาแต้ม และตรงปลายยังมีฟองน้ำไว้ให้เกลี่ยผลิตภัณฑ์ด้วยค่ะ

เนื้อผลิตภัณฑ์ : เป็นลักษณะครีมเจลบางเบา ไม่หนักเกินไป แต่ก็ไม่เหลว เมื่อลองดมดูมีกลิ่นเล็กน้อย แต่กลิ่นเบามากๆค่ะ ไม่รู้สึกรบกวนอะไรเลย

เมื่อทาลงบนผิว : เนื้อครีมเจลเกลี่ยง่ายไม่หนักผิว ไม่เกาะเป็นก้อน เราใช้นิ้วแตะเบาๆ แท๊ปๆลงไปครีมเจลก็จะค่อยๆกลืนไปกับผิวค่ะ เราใช้บริเวณใต้ตา ร่องแก้ม และจุดด่างดำที่เกิดจากการแกะสิวค่ะ เวลาใช้เราจะชอบใช้กับนิ้วมือมากกว่า เพราะชอบที่จะค่อยๆแท๊ปๆลงไปที่ผิวให้ค่อยๆซึม

ผลลัพท์ที่สังเกตุได้ทันที : ปกปิดรอยดำคล้ำแต่ตาได้เป็นอย่างดี โดยที่ครีมเจลไม่หนักไม่ตกร่องเลย เบาสบายผิวมาก ผิวบริเวรที่ลงคอนซีลเลอร์มีความชุ่มชื่นเหมือนทาครีม ไม่แห้ง ไม่ตกร่อง เมื่อเนื้อครีมเจลซึมลงหมด สีผิวดูเรียบเนียนสม่ำเสมอ ปกปิดรอบดำได้เป็นอย่างดี

สรุป : เป็นคอนซีลเลอร์ที่ใช้ง่าย เกลี่ยง่าย และเนื้อดีค่ะ เพราะเนื้อบางเบากำลังดี ไม่หนักเกินไป ใช้แล้วรู้สึกชุ่มชื่นไม่แห้งตึงจึงให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติมากๆ และทาออกมาแล้วก็ปกปิดจุดด่างดำได้ดีค่ะ ส่วน finished look คือผิวดูชุ่มชื่นสุขภาพดี เหมือนไม่ได้โบกคอนซีลเลอร์ค่ะ
ชอบนะ ให้คะแนนเต็มเลยค่ะ :)

เป็นคอนซีลเลอร์เนื้อครีมเจลบางเบา ปกปิดปานกลาง เนื้อไม่หนัก เกลี่ยง่าย เหมาะสำหรับรอยคล้ำใต้ตามากกว่าปกปิดรอยดำจากสิว ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน ติดทนนาน ซึ่งคอนซีลเลอร์ตัวนี้เค้ามาพร้อมกับฟองน้ำ Blurring Blender ที่ออกแบบให้เข้าถึงทุกจุดต่างๆ บนใบหน้าโดยเฉพาะ ใช้งานง่าย ด้วยลักษณะหัวตัดเฉียง และมีปลายที่ค่อนข้างเรียว ทำให้สามารถเข้าถึงจุดที่เล็กๆ ได้ง่ายมากขึ้นด้วย

ตั้งแต่ที่ได้ใช้คอนซีลเลอร์มา เอมชอบคอนซีลเลอร์ตัวนี้มากที่สุด คือด้วยความที่เฉดสีมีให้เลือกเยอะ ปกปิดใต้ตาหมองคล้ำของเอมได้ดี เกลี่ยเข้ากับผิวง่าย ไม่แห้งหรือตกร่องระหว่างวันด้วย อีกทั้งยังมีฟองน้ำสำหรับเกลี่ยคอนซีลเลอร์ในตัวซึ่งเป็นไอเท็มที่สะดวกกับการใช้งานมากๆ เอมชอบผิวหลังจากลงคอนซีลเลอร์ไปแล้วตรงที่ให้ความบางเบา แต่ปกปิดได้ดี ส่วนตัวเป็นคนที่มีใต้ตาที่หมองคล้ำมากๆ เนื่องจากเอมเป็นภูมิแพ้ค่ะ โดยปกติถ้าคอนซีลเลอร์ตัวไหนที่ปกปิดได้ประมาณนึง เอมจะต้องใช้ลิปสีแดงทาก่อนแล้วค่อยลงคอนซีลฯตามถึงจะกลบรอยคล้ำใต้ตาของเอมได้มิด แต่สำหรับตัวนี้เอมสามารถทาตรงๆไปที่ใต้ตาได้เลย รู้สึกสะดวกมาก จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมเอมจึงชอบคอนซีลเลอร์ตัวนี้ค่ะ พวกรอยดำ รอยแดง หรือจุดด่างดำอื่นๆ เค้าก็สามารถปกปิดได้ดี ปกปิดได้ดีในที่นี้คือมีความเป็นงานผิวด้วยนะคะ ดีงามมากๆเลยค่ะ

คอลซีลเลอร์ Clinique Even Better™ All-Over Concealer + Eraser

เจ้าคอลซีลเลอร์ตัวนี้ฝนได้ลองก็คือถูกใจนะ ! ตัวเนื้อครีมเจลบางเบามาก ๆ
และไม่มีส่วนผสมของน้ำมันเหมือนกับรองพื้นเลยค่ะ ช่วยปกปิดจุดด่างดำต่าง ๆ บนใบหน้า
ได้ดีเลยย แต่ค่อนข้างจะแห้งไวต้องรีบเกลี่ย ฝนจะใช้พัฟฉีดสเปรย์แล้วแท่บ ๆ เอาค่ะ
ได้ลุคธรรมชาติใช้ได้เลย ไม่ได้รู้สึกหนักผิว

อีกอย่างที่ชอบมาก ๆ คือ ปกปิดและติดทนนาน ไม่ตกร่อง ไม่เลือน ไม่เปลี่ยนสี !!
ทางแบรนด์เขาบอกว่า ถ้าใช้ต่อเนื่องเรื่อย ๆ จะช่วยลดเลือนรอยดำใต้ตาได้ด้วยนะ
คือน่าสนใจมาก ๆ เพราะเขามีส่วนผสมของ Vitamin C, Hyaluronic Acid
Caffeine, Optical Diffusers รวมกันแล้วจะช่วยปรับสีผิวให้ดูสม่าเสมอขึ้น
และชอบที่เนื้อเกลี่ยง่าย ให้ลุคผิวสวยเป็นธรรมชาติมาก ๆ ~~

เนื้อนุ่มเนียน ปกปิดดี ไม่ตกร่อง ควรใช้คู่กับรองพื้น Even better
ใช้ความธรรมชาติ เกลี่ยง่าย

พอดีได้รับโอกาสเป็นกลุ่มแรกที่ได้ทดลองรองพื้นและคอนซีลเลอร์สูตรใหม่จาก Clinique ซึ่งทาง Cosmenet.in.th จัดกิจกรรมขึ้น ซึ่งเราก็เลือกรองพื้นเป็นเฉดสีใหม่ ตามที่เราอยากจะได้มานาน (คืออยากให้หน้าสว่างขึ้นมาอีกระดับเฉดสีนึง) เลยเลือกเป็นเฉดสี 64 Cream Beige ดังนั้นคอลซีลเลอร์เราจึงได้มาเป็นเฉดสีเดียวกันนาจา

เอาล่ะ! ทีนี้มาเริ่มรีวิวกันตั้งแต่ Packaging Design กันก่อนเลย ตัวนี้น้องจะมาในรูปแบบแท่งแก้วจิ้มจุ่ม โดยมีก้าน Applicator ที่ปลายเป็นหัวปาดเฉียง ทำให้ใช้งานง่าย เวลาที่แต้มจุดบกพร่องบนใบหน้า ส่วนฝาน้องนั้นจะเป็นสีขาวสะอาดตา เรียบหรู ดูคุณหนูสุดๆ แล้วมาพร้อมกับฝาที่มีการออกแบบที่แตกต่างจากคอลซีลเลอร์ที่เคยเห็นทั่วๆ ไป คือ น้องจะมีหัวมนๆ กลมๆ น่ารัก ให้ความรู้สึกอ่อนโยน แล้วก็ดูเป็นมิตรมากเลย แต่ยัง...ยังไม่พอ งาน Design ยังไม่จบ น้องมีความพิเศษมากไปกว่านั้น คือตัวน้องนั้นแอบซ่อนฟองน้ำ Blurring Blender อยู่ที่ปลายสุดของตัวฝาด้วยนะ ที่ออกแบบมาให้ใช้เกลี่ยทุกจุดต่างๆ บนใบหน้าง่ายมากขึ้น โดยเฉพาะเวลาพกน้องไปข้างนอกอ่ะนะ ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ตัวอื่นเพิ่ม แต่ส่วนตัวเราอาจจะไม่ค่อยถนัด ชอบใช้แปรงเกลี่ยมากกว่า (แอบเล่าเรื่องตลกนิดนึง คืออยากบอกว่าเขาออกแบบมาได้มีความเรียบ เนียบ กริบสมกับเป็นคอลซีลเลอร์เลยนะ คือรอยต่อเนียนมากจนเราหา ฟองน้ำ Blurring Blender ไม่เจอในตอนแรก 55555+) แล้วก็นะ ฝาของน้องยังมีการปั๊มโลโก้ของแบรนด์เอาไว้อีกด้วย ดูสวยงามมากๆ โดยรวมทั้งหมดนี้เรื่อง Packaging Design นี่ให้เต็ม 10 ไม่หักกันเลยทีเดียว ถูกใจมาก

ทีนี้มาว่ากันเรื่องประสิทธิภาพกันบ้าง คือน้องจะเป็นคอนซีลเลอร์เนื้อครีมเจล พอแต้มแล้วมันจะหนืดๆ แต่เกลี่ยง่าย (เคยทาทั้งหน้า คือแบบเหมือนมีเกราะอะไรสักอย่างอยู่บนใบหน้า แต่ไม่หนักหน้านะ บางเบาอย่างน่าประหลาด) แล้วน้องก็ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน ดังนั้นใช้แล้วก็ไม่เป็นสิวอุดตันเนอะ ส่วนการปกปิดนั้นด้วยความที่น้องมีส่วนประกอบอย่าง Optical Diffusers ช่วยปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอขึ้น รวมถึงปกปิดจุดด่างดำ และรอยคล้ำใต้ดวงตาได้ดี เรียบ เนียนกริ๊บทันทีที่ใช้เลยล่ะ เป็นที่น่าพอใจมาก แต่การปกปิดที่ดีนั้น เราทดลองใช้ก่อนลงรองพื้น แล้วก็ทับด้วยรองพื้น อันนี้คือไม่รอด น้องปกปิดได้ไม่ดีเท่าที่ควร โดยเฉพาะรอยคล้ำรอบดวงตานี่เห็นชัดเป็นน้องหมีแพนด้ากันเลยทีเดียว T^T แต่ถ้าใช้น้องทาทับรองพื้นล่ะก็ น้องเอาอยู่หมัด! เรียบเนียนจัดๆ ให้ Finished Look ที่ผิวสวยดูเป็นธรรมชาติมาก และน้องก็ยังมีส่วนประกอบของ Vitamin C และ Caffeine ที่ช่วยปรับผิวให้ดูสว่าง กระจ่างสดใสขึ้นเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง แถมปกปิดได้ดีอีก เราเลยใช้แบบเดี่ยวๆ (ตามที่แบรนด์เขาเคลมไว้ว่า สามารถใช้ทาเดี่ยวๆ ได้) ซึ่งผลคือ ปลื้มมาก ปลื้มในความที่น้องให้ Look แบบฉ่ำโกลว์ ชุ่มชื้น หน้าไม่แห้ง แล้วก็สว่าง กระจ่าง ออร่าพุ่งปรี๊ดกันเลยทีเดียว (จนแอบตกใจนี่ใช่หน้าเราไหมเนี้ย 555+ ผ่องผุดพรรณเกิ๊น เลยไม่กล้าใช้เดี่ยวๆ ออกไปข้างนอกจริงๆ) ซึ่งต้องใช้คู่กับรองพื้น Clinique Even Better Clinical™ Serum Foundation SPF 20 PA+++ หรืออาจจะใช้แป้งฝุ่น ถึงจะทำให้ผิวดู Balance มากขึ้น สวยแบบ Perfect เลยล่ะ ดูไม่หลอกจนเกินไป และประสิทธิภาพของน้องยังไม่หมดน้าาา น้องยังมีส่วนประกอบของ Hyaluronic Acid ที่ช่วยทำให้เส้นริ้วๆ ที่แห้งอย่างพวกใต้ดวงตา และร่องแก้ม ดูเรียบเนียนและชุ่มชื้นขึ้น โดยน้องไม่ตกร่องด้วยล่ะ แล้วนะ...น้องก็ยังติดทนทาน นานมั่ก สีไม่เปลี่ยนอีกต่างหาก แม้ว่าจะผ่านไปถึง 8 ชั่วโมง จะมีก็แค่ความมันที่เพิ่มขึ้นมาบริเวณ T-Zone เท่านั้นตามประสาผิวผสมแบบเรา

ก็สรุปเลยแล้วกันเนอะ เรื่องความคุ้มค่าของผลิตภัณฑ์เมื่อเทียบกับราคา ตัวนี้ที่ได้มาจะเป็นขนาด 6 ml. มูลค่า 900 บาท ก็รู้สึกว่าคุ้มกับราคามากกก แต่จะมากขึ้นไปอีกถ้าได้ปริมาณเท่ากับขวดรองพื้นได้ม๊ะ 555+ คือเพราะว่าน้องมีประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมมากอ่ะนะ จนอยากจะใช้เดี่ยวๆ เป็นรองพื้นไปเลยอ่ะ แบบว่ามันดีงามมากจริงๆ คะแนนเต็ม 5 คะแนน อยากจะให้คะแนนเต็มนะ แต่แอบ ขอหัก 1 คะแนนแล้วกัน โทษฐานออกแบบได้เนียนจนทำให้เราหาฟองน้ำ Blurring Blender ไม่เจอ อิอิ ^^

CLINIQUE Even Better™ All-Over Concealer + Eraser
คอนซีลเลอร์เนื้อครีม ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน ติดทนนาน ช่วยปกปิดจุดที่ไม่พึงประสงค์ต่างๆบนใบหน้า มาพร้อมฟองน้ำ Blurring Blender ที่ออกแบบให้เข้าถึงทุกจุดต่างๆบนใบหน้าโดยเฉพาะ

สีที่เราเลือกมานะคะคือ เบอร์ 65 Neutral สีจะสว่างกว่าผิวเราไปหน่อยนะคะ ประมาณ 1-2 เฉด เนื้อสีไม่ติดเหลืองมากเท่าไหร่

แพคเกจ
เป็นขวดใสฝาขาว Minimal มาในขนาด 6 ml. ขวดแก้วสวยงามฝาพลาสติกสีขาว ด้านบนเปิดออกมาเป็นฟองน้ำสีขาวเนื้อนุ่มแน่นๆ ตัวฟองน้ำก็จะเหมือนฟองน้ำแต่งหน้าแต่รูปทรงดีไซน์ให้เข้าตามซอกมุมต่างๆได้ ไม่ก๊องแก๊งค่ะดูดีมากเลยทีเดียวแต่แกะออกมาล้างไม่ได้อะ ToT ตัวแอพพลิเคเตอร์ ส่วนปลายก็จะทรงรีๆ ขนาดกลางๆ เหมือนแบรนด์อื่นๆทั่วไปค่ะ

กลิ่น
กลินไม่หอม เป็นกลิ่นรองพื้นทั่วๆไปเลยค่ะ

เนื้อผลิตภัณฑ์
เนื้อเข้มข้น ไม่เหลว มีความหนืดเข้มข้นพอสมควร คือเนื้อแน่นมากปกปิดดีมากแน่นตึ๊บ เนื้อครีมเกาะผิวดีค่ะ รองแดง รอยดำ เอาอยู่ ด้วยความที่เนื้อค่อนข้างแน่นใต้ตาอาจจะไม่เหมาะเท่าไหร่ค่ะ เพราะเนื้อไม่ค่อยยืดหยุ่นอาจจะทำให้หนักไป ทาไปสักพักเนื้อค่อนข้างแห้งไวเซตตัวไวอยุ่ระดับนึงค่ะ แต่บิวต์ได้ถึงขั้นสุด เราใช้งานตัวนี้กับรองพื้น Even Better Clinical™ Serum Foundation SPF 20 PA+++ สี 65 Neutral เหมือนกันค่ะ สีเลยไม่โดดกันเข้ากับรองพื้นได้ดีเลย

หลังใช้งาน 5 ชม. (เชคสภาพผิว+ถอดแมส)
วันที่ทดลองเราออกไปทานข้าวนอกบ้านนะคะ ซึ่ง 2-3 ชม.แรกผิวสวยกำลังดี แต่พอประมาณ 5-6 ชม. เราถึงบ้าน ถอดแมส มาเชคสภาพรองพื้น ช่วงหน้าแก้มมีการหลุดออกไปค่อนข้างเยอะตามภาพเพราะผิวน่าจะถูกับแมสเยอะนะคะและก็ไปทานชาบูค่อนข้างร้อน ไอร้อนหรือปัจจัยอื่นๆอาจจะมีผลในความคิดเรานะคะ และส่วนอื่นๆบนหน้าที่ไม่ได้อยู่ในแมส ก็มีหลุดบ้างนิดหน่อยน้อยกว่าบริเวณที่ใส่แมสค่ะ ผิวมีเป็นคราบๆเล็กน้อย ซึ่งเราไม่ได้ซับหน้าเลยนะคะ

มาสรุปกันจ้า
1.ความเข้มข้นปกปิด 4.5/5 รอยสิวรอยดำเอาอยู่ เซตตัวดีค่ะ แต่จะไม่เหมาะกับใต้ตาเท่าไหร่สำหรับเรานะคะ
2.ฟองน้ำ Blurring Blender เราให้ 4.5/5ดีไซน์มาดี คอนโทรลง่าย แต่คือมันเอาออกมาล้างไม่ได้ รอซื้อแท่งใหม่อย่างเดียว55
3. ติดทน 3.5/5 มีหลุดระหว่างวันอันเกิดจากแมส ความร้อนชื้นต่างๆ
4.แพคเกจ สวยหรูแพงมินิมอล น่าหยิบใช้ ชอบมากกกค่ะ 5/5

คอนซีลเลอร์เนื้อครีมเจลบางเบา ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน ติดทนนาน ช่วยปกปิดจุดที่ไม่พึงประสงค์ต่างๆบนใบหน้า มาพร้อมฟองน้ำ Blurring Blender ที่ออกแบบให้เข้าถึงทุกจุดต่างๆบนใบหน้าโดยเฉพาะ (clinique.co.th)

สีที่เราเลือกมาคือ สี 65 Neutral เหมาะสำหรับผิวขาวปานกลางค่อนไปทางเหลือง

สภาพผิวของเรา :ผิวมัน รูขุมขนกว้าง มีรอยดำจากสิว

แพ็คเกจ
มาในรูปแบบแท่ง มีฝาปิด เปิดออกจะเจอกับฟองน้ำหัวตัด มีความนุ่มปานกลาง ใช้เพื่อเกลี่ยเนื้อคอนซีลเลอร์ได้ หัวแปรงเป็นหัวตัด ออกแบบเพื่อให้เข้ามุมต่างๆของใบหน้า

กลิ่น
ไม่มีกลิ่น ไม่มีน้ำหอมใดๆ

เนื้อสัมผัส
มีความยืดหยุ่นสูงมาก ไม่แห้งไว เกลี่ยง่ายสุด

ความรู้สึกหลังใช้
ตอนที่ลองเราไม่ค่อยมีสิวแล้วค่ะ สิวได้แห้งยุบตัวไปแล้ว จะเหลือรอยดำ รอยแดง จากผิว และจากสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอในบางจุด ด้วยความที่เลือกสี 65 มาจะเข้มกว่าการลงใต้ตา หรือปิดสิว เนื้อมีความชุ่มชื้น ยืดหยุ่นดีมาก แบบเอาจริงๆคือเกินคาดเลยค่ะ แปรงที่เป็นหัวตัด ออกแบบมาใช้ง่ายมาก เราชอบใช้นิ้วมากกว่าในการเกลี่ย หรือจะใช้ฟองน้ำที่มีมาให้ด้วยก็ได้ค่ะ ด้วยความที่เกลี่ยง่าย การเกิดคราบเราไม่เจอเลย (แนะนำควรบำรุงให้ตาให้ชุ่มชื้นมาก่อน) ยกเว้นบริเวณที่สิวลอก ต้องระวัง ต้องให้ผิวบริเวณนั้นชุ่มชื้นมากๆ ส่วนการปกปิด เราให้ปานกลาง ต้องมีย้ำในจุดรอยสิวที่ฝังลึก ความติดทนปานกลาง คืออยู่ได้เกินบ่ายแน่นอน

แพ็คเกจ : เป็นพลาสติกที่มีความแข็งแรง ตัวแอพพลิเคเตอร์มีขนาดใหญ่ เป็นฟองน้ำหัวตัด ซอกซอนไปตรงจุดเล็กๆเช่นข้างจมูก ใต้ตาได้ดี ชอบมากค่ะ 10/10

เนื้อผลิตภัณฑ์ : ที่ได้มาจะเป็นสี 61 ivory สีค่อนไปทางเหลือง เนื้อเข้มข้นไม่เหลวไม่แห้งจนเกินไป เกลี่ยง่าย ให้9.5/10

ผลลัพธ์และความรู้สึกหลังใช้: พึงพอใจมากค่ะ ปกปิดใต้ตาได้พอดีส่วนตัวชอบค่ะ เนื้อผลิตภัณฑ์สามารถเพิ่มลดได้ว่าอยากจะให้ปกปิดมากปกปิดน้อย ที่ชอบมากๆเลยคือไม่หลุดหรือแห้งแตกระหว่างวันถึงแม้ว่าเราจะมีผิวที่แห้งมากก็ไม่ได้เกิดปัญหาแคร็กใต้ตาหรือข้างจมูก พวกรอยสิว รอยแดง บริเวณคาง รอยกระบริเวณแก้มก็ปกปิดได้พอสมควรอาจจะไม่100% แต่โดยรวมประทับใจค่ะ ส่วนการลดเลือนจุดด่างดำผิวกระจ่างใสอาจจะเป็นเพราะใช้ระยะเวลายังไมากเท่าไหร่เลยยังไม่เห็นผลในตรงนี้ค่ะ ให้ 9.5

สำหรับสายออกกำลังกาย ที่ไม่มั่นใจในผิวหน้าเรื่องจุดด่างดำ หรือกลัวแต่งหน้าแล้วไปออกกำลังกาย แล้วกลัวสิวขึ้น เราแนะนำ คอลซีลเลอร์ Clinique Even Better™ All-Over Concealer + Eraser เดี่ยว แล้วลงแป้งฝุ่น ปัดแก้มอ่อนๆให้ดูเป็นสาวสุขภาพดี ฟินิชลคดูสวยอย่างเป็นธรรมชาติ จะช่วยให้ผิวหน้าเนียนใสขึ้น ตัวนี้ปกปิดได้ดี กันน้ำกันเหงื่อได้ดี ไม่ต้องกลัวที่จะเป็นคราบ ไหลตามเหงื่อเลย หลังออกกำลังกายหน้ายังเนียนใส ไม่เป็นคราบ ยอมรับเลยว่าวันแรกแอบกลัว แต่ Clinique Even Better™ All-Over Concealer  ทำได้ดีมากก ปลื้มปลิ่มกระดิ่งแมว

Clinique Even Better™ All-Over Concealer + Eraser เป็น Concealer เนื้อครีม  ค่อนข้างที่จะบางเบาและแห้งเร็ว  และเกลี่ยง่ายมาก

ตัวนี้ใช้งานง่ายแค่ หมุนฝาแตะบริเวณจุดด่างดำ หรือร่องริ้วรอย ก็ทำให้เนียนกริบ และไม่ตกร่องเลยจ้าาา ตัวนี้มาพร้อมกับฟองน้ำในตัว ไม่ต้องวิ่งหาฟองน้ำมาแท๊บ  สามารถมาแท๊บๆได้ โดยส่วนตัวเราชอบใช้นิ้วแท๊บมากกว่า ใช้นิ้วก็เกลี่ยง่าย ปกปิดได้ดีปานกลาง ถ้าอยากให้เนียนหน่อย ต้องทาสัก 3 รอบ

เวลาแต่งหน้าฟูลอ๊อฟชั่น ทำได้ดีเลย ปกปิดได้ดีเช้ามืดจรดบ่าย เราไม่ได้นอนทั้งคืน ก่อนหน้า 2 วันก็นอนวันละ 5 ชั่วโมง ตาดำมากกก ครีมต่างๆก็เอาไม่อยู่แล้ว ก็ต้องพึ่งเจ้า concealer นี่แหละที่ช่วยปกปิด และเป็นตัวช่วยที่ทำให้แต่งหน้าไบร์ทขึ้น อยู่ได้ 11 ชั่วโมง อยู่ได้นานติดทนมากเลยน๊าา แต่หลังจากนี้ตาเริ่มกับมาเป็นแพนด้า แล้ววว

โดยรวมเราชอบมาก กับราคา 900 บาท เกลี่ยง่าย มีฟองน้ำให้จบในแท่งเดียว ปกปิดได้ระดับปานกลาง กันน้ำ กันเหงื่อไม่ต้องกลัวเยิ้ม และไม่ตกร่องด้วยน๊าาา เอาไปเลย 4/5 ❤❤❤❤

Even Better™ All-Over Concealer + Eraser
คอลซิลเลอร์เนื้อเจล ที่มีส่วนผสม Vitamin C,
Hyaluronic Acid, Caffeine และ Optical Diffusers เขาเคลมว่าใช้อย่างต่อเนื่องจุดด่างดำจะลดลงด้วยนะ

แพ็กเกจ : ประทับใจตัวฟองน้ำที่แอบมาด้านบน ใช้งานดีมาก ส่วนตัว applicator ก็ทำมาได้ดีค่ะ จุ่มครั้งเดียวสามารถใช้ได้ทั่วหน้า (ถ้าหน้ามีปัญหามากนะคะ) ขนาดกำลังพกพาเลยค่ะ

ความรู้สึกหลังใช้ :

ข้อดี :: ปกติได้ดีระดับหนึ่ง แต่ไม่ได้ถึงขนาด full coverage ค่ะ และก็ไม่ได้ติดทนนะคะ ใช้กับฟองน้ำที่ให้มาจะทำให้ได้งานผิวเลยค่ะ เกลี่ยง่ายขึ้นด้วย สามารถเข้าไปในซอกเล็ก บริเวณดวงจาได้ดี จะแบบเดี่ยวๆ ได้ หรือใช้คู่กับ รองพื้น Clinique Even Better Clinical™ Serum Foundation SPF 20 PA+++ ผิวหน้าก็จะเนียนยิ่งขึ้น ใช้อย่างต่อเนื่องจุดด่างดำจางลงด้วยค่ะ

ข้อเสีย :: น้องต้องใช้เวลาแบลนให้เนียนค่อนข้างนาน เพราะเนื้อของคอนซีลเลอร์ค่อนข้างหนักกว่าตัวรองพื้นค่ะ

ส่วนตัวในวันสบายๆ ไม่ได้ไปที่พบปะผู้คน ก็จะใช้เดี่ยวๆ ค่ะ สบายหน้าดีค่ะ

สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้ซาร่าได้มีโอกาสได้ลองใช้ Concealer รุ่นใหม่ล่าสุดจากแบรนด์ CLINIQUE นั่นก็คือ “Even BetterTM All-Over Concealer + Erase” ต้องบอกก่อนว่าโดยปกติแล้วซาร่าจะใช้คอนซิลเลอร์เป็นประจำทุกวันค่ะ เพราะเป็นคนมีปัญหาเรื่องของรอยแดง รอยดำที่เกิดจากสิวบนใบหน้า จึงทำให้คอนซิลเลอร์เป็นอีก 1 เครื่องสำอางค์ที่ซาร่าขาดไม่ได้เลยค่ะ

สำหรับเจ้าคอนซิลเลอร์นี้เป็นคอนซีลเลอร์เนื้อครีมเจลบางเบา ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน เหมาะกับคนผิวมันแบบซาร่ามากๆ เพราะถ้าซาร่าใช้เครื่องสำอางค์ที่มีส่วนผสมของน้ำมัน จะทำให้คอนซิลเลอร์หลุดลอกออกระหว่างวัน ไม่ติดทนนาน คอนซิลเลอร์ตัวนี้จึงตอบโจทย์สาวผิวมันอย่างซาร่าที่สุด

ส่วนผสมหลักๆของเจ้า “CLINIQUE Even BetterTM All-Over Concealer + Erase”
• Vitamin C ช่วยให้ผิวดูสว่างขึ้น รวมถึง ช่วยปรับให้ผิวดูกระจ่างใสเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง
• Hyaluronic Acid ช่วยทำให้เส้นริ้วที่แห้งดูเรียบเนียนและชุ่มชื้นขึ้น
• Caffeine ช่วยให้ผิวดูสดใสขึ้น
• Optical Diffusers ช่วยปรับสีผิวให้ดูสม่าเสมอขึ้น รวมถึงปกปิดจุดด่างดำ และรอยต่างๆบนผิวในทันที

สำหรับราคา CLINIQUE Even BetterTM All-Over Concealer + Erase ขนาด 6 mL ราคาอยู่ที่ 900 บาทค่ะ

วันนี้ซาร่าจะมารีวิวให้เพื่อนๆฟังเป็นข้อๆนะคะ
1. บรรจุภัณฑ์ : บรรจุภัณฑ์เป็นหลอดแก้ว ดูเรียบหรู พกพาง่าย ด้านในจะเป็นก้าน Applicator สำหรับทาคอนซีลเลอร์เหมือนยี่ห้อทั่วๆไปตามท้องตลาด แต่ที่พิเศษคือเค้ามีฟองน้ำ “Blurring Blender” ไว้สำหรับเกลี่ยคอนซีลเลอร์ให้กลมกลืนไปกับผิว ไม่เป็นคราบ และสามารถเกลี่ยได้แม้จะเป็นบริเวณใต้ตาหรือซอกจมูก ไม่ต้องหาแปรงเกลี่ยคอนซีลเลอร์มาใช้ให้วุ่นวาย ชอบมากเลยค่ะ

2. กลิ่น สี เนื้อสัมผัส : กลิ่นของผลิตภัณฑ์เป็นกลิ่นของเครื่องสำอางค์ทั่วไป จึงทำให้มั่นใจว่าใช้แล้วไม่แพ้ เพราะไม่น่ามีส่วนผสมของน้ำหอมค่ะ สำหรับสีคอนซีลเลอร์มีให้เลือกหลายเฉดสีมากๆ ซาร่าใช้สี #65 Neutral เป็นสีที่เหมาะกับสีผิวคนไทย ผิวขาวอมเหลืองใช้สีนี้เข้ากับผิวจริงมากๆค่ะ ซาร่าใช้กลบรอยแดง รอยดำจากสิว วันไหนที่ไม่ทารองพื้นทาแค่คอนซีลเลอร์ตัวนี้อย่างเดียว ก็ไม่เห็นว่าทาคอนซีลเลอร์ด่างเป็นจุดๆ เพราะสีตรงกับสีผิวจริงซาร่ามากๆ (ตามรูปที่แนบในรีวิวค่ะ) แต่ใครที่อยากใช้สำหรับทาใต้ตาปรับความสว่าง แนะนำให้ใช้สีที่สว่างกว่าผิวตัวเอง 1-2 เฉดสีค่ะ ไม่ต้องกังวลว่าจะหาเบอร์คอนซีลเลอร์ไม่ได้ เพราะเค้ามีให้เลือกหลายเบอร์มากๆ ที่สำคัญชอบ Finish Look ที่ได้มาก เพราะรู้สึกได้ถึงความชุ่มชื้น คอนซิลเลอร์ติดทน หลุดระหว่างวันเพียงเล็กน้อย คนหน้ามันใช้ได้สบายเลยค่ะ

3. คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์: ทางแบรนด์เคลมไว้ว่า ช่วยให้ความชุ่มชื้นทันทีและยาวนาน เมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง ช่วยลดเลือนรอยดำใต้ตา และลดเลือนริ้วรอยต่างๆบนใบหน้า ปกปิดติดทนนาน ไม่ตกร่อง ไม่เลือน ไม่เปลี่ยนสี สำหรับซาร่าคิดว่าเรื่องความชุ่มชื้นเห็นผลลัพธ์ทันทีหลังใช้เลยค่ะ แต่คุณสมบัติอื่นๆน่าจะต้องใช้ไปสักพัก สารบำรุงถึงจะออกฤทธิ์ตามที่ทางแบรนด์เคลมไว้ค่ะ

4. ราคา : สำหรับราคาซาร่าว่า 1 หลอด (6 mL) ราคา 900 บาท ถือว่าไม่แพงค่ะ เพราะคอนซีลเลอร์ใช้แต้มเพียงนิดเดียวในแต่ละครั้ง ทำให้ใช้ได้นาน และมีส่วนผสมของการบำรุงผิวอีกด้วย คิดว่าราคานี้คุ้มค่ากับการลงทุนค่ะ

สรุป
• บรรจุภัณฑ์ 5/5 ชอบหัว “Blurring Blender” ทำให้เกลี่ยรองพื้นได้ง่าย และเนียนกลมกลืนไปกับผิวมากๆ ไม่ต้องหาแปรงลงรองพื้นให้วุ่นวาย ชอบที่สุดเลยค่ะ
• เนื้อผลิตภัณฑ์ 5/5 เนื้อเกลี่ยง่าย ซึมไว ชุ่มชื้น ที่สำคัญไม่เป็นคราบระหว่างวันด้วยค่ะ
• ราคา 5/5 ราคาคุ้มค่ากับขนาดและส่วนผสมในการบำรุงผิวค่ะ

#Clinique #EvenBetterTMAllOverConcealer+Eraser #Concealer #CliniqueConcealer #คอนซีลเลอร์ #คอนซีลเลอร์ปกปิดรอย #คอนซีลเลอร์เนื้อบางเบา

Even Better™ All-Over Concealer + Eraser

คอนซีลเลอร์ที่มาพร้อมกับคำเคลมที่มอบฟินิชลุคผิวสวยดูเป็นธรรมชาติมีวิตามินซีช่วยปรับให้ผิวดูกระจ่างใส เรียบเนียนและชุ่มชื้นขึ้น

ตัวแพ็คเกจ – ขวดแก้วรูปทรงยาว ฝาเกลียว หมุนแท่งออกมาปาดใช้ตามปกติค่ะ แต่ที่พิเศษคือที่ฝาที่มีลักษณะโค้งมนสามารถเปิดออกมาได้ค่ะ เป็นเจ้าฟองน้ำ เอาไว้เบลนตามจุดต่างๆ ส่วนตัวเราว่าใช้งานง่ายและตรงขอบเกลียวเหมือนจะคอยดูดคอนซีลเลอร์ตรงแท่งด้วย ทำให้ตอนดึงออกมาจะใช้ไม่เลอะเทอะเลยค่ะ
ผลิตภัณฑ์ – เป็นเนื้อเนื้อครีมเจลบางเบา มีกลิ่นอ่อนๆ รุ่นนี้เป็นเซ็ทเดียวกันกับรองพื้น เราได้สีเดียวกันมาลอง คือสี 63 fresh beige ส่วนตัวถนัดหมุนเกลียวออกมาป้ายๆแล้วใช้นิ้วเกลี่ยมากกว่า รู้สึกว่าเจ้าฟองน้ำ Blurring Blender ยังไม่เข้ากับเราเท่าไหร่ 555
ความรู้สึกหลังใช้ - จะเห็นได้จาก before-after เลยว่ากลบรอยแดงมิดเลย เกลี่ยง่ายแล้วก็ไม่หนักหน้า ระหว่างวันจะมีตกร่องที่ใต้ตาบ้าง เพราะทั้งเหงื่อออก และใส่แมสเข้าๆออกๆ แต่ถือว่าอยู่ในระดับที่ติดทนดี มีหลุดบ้างค่ะ ส่วนเรื่องใต้ตาคล้ำน้อยลงยังไม่เห็นผลนะคะ คิดว่าคงต้องใช้ไปอีกสักพัก

ทั้งนี้ เราใช้ร่วมกับตัวรองพื้น Even Better™ Serum Foundation SPF 20 PA+++ นะคะ
แนะนำๆ? คุ้มค่าแก่การลงทุนค่ะ เราว่าใช้คู่กันแล้วกริบมากก✨✨

เนื้อบางเบา ให้ความชุ่มชื่นและยืดหยุ่นได้ดี ติดทน
ในเบอร์เดียวกันกับรองพื้น ตัวคอนซิลจะมีสีที่สว่างและบางเบากว่าเล็กน้อย
มาพร้อมกับ Application 2 หัว อันนึงเป็นหัวป้ายๆ แบบปกติ ส่วนอีกอันคือหัวฟองน้ำ ใช้ในการช่วยเบลน ใช้งานได้ดีใช่เล่นเลย

เลิฟในการปิดใต้ตาของเค้ามาก ปิดได้กริบ เนื้อชุ่มชื้นและไม่ตกร่อง
กับรอยสิวก็ทำได้โอเค แต่กับสิวแห้ง จะเป็นคราบบริเวณที่ลอกๆนิดหน่อย
ปิีกผิวประมาณ NC20 แต่ผิวอมชมพูหน่อยๆ ในรูปใช้สี 62 ค่ะเข้มกว่าผิวแค่นิดเดียว แต่คิดว่าควรขยับไปใช้ 61ค่ะ ถ้า Undertone เหลืองให้เลือกตั้งแต่ 63 เป็นต้นไปค่ะ

แพ็คเก็ตเป็นขวดทรงยาว มีพู่กันจุ่มเนื้อคอลซิลเลอร์ออกมา บนหัวขวดมีฟองน้ำใช้สำหรับเกลี่ย ทำให้สะดวกให้การเบลนให้เรียบเนียน เนื้อคอลซิลเลอร์บางเบา ปุ๊กได้เฉดสี64 Cream Beige ซึ่งจะมีความสว่างกว่ารองพื้นเบอร์ 64 (เบอร์เดียวกัน) จึงสามารถใช้ได้ทั้งปกปิดจุดด่างดำ กลบรอยสิว ปกปิดรอยคล้ำรอบดวงตาและความกระจ่างใส อำพรางร่องแก้ม เพิ่มมิติให้ใบหน้าสวยแบบไม่ตกร่อง ไม่เป็นคราบระหว่างวัน ให้ผิวชุ่มชื้นเหมาะกับทุกสภาพผิว

เป็นคอนซีลเลอร์ที่เนื้อข้นพอประมาณ มีความเกลี่ยได้ง่ายอยู่ค่ะ ให้ความปกปิดปานกลาง ตัว applicator ตักผลิตภัณฑ์มาได้ปริมาณกำลังดี แต่หัวใหญ่นิดนึงค่ะ ส่วนตัวหน้ามันมาก ใช้ได้ไม่มีปัญหา หน้าไม่มัน ไม่แพ้ ไม่อุดตันค่ะ ใช้ลงใต้ตาก็ลงได้ดี ไม่เป็นริ้วๆ ใต้ตาค่ะ

คอนซีลเลอร์เนื้อครีมเจลบางเบา ไม่มีส่วนผสมของน้ามัน ติดทนนาน ช่วยปกปิดจุดด่างดำบนใบหน้า และมาพร้อมฟองน้า Blurring Blender ที่ออกแบบให้เข้าถึงทุกจุดต่างๆบนใบหน้าโดยเฉพาะ
ตัวนี้เป็นตัวปรับปรุงใหม่ของเค้า ขอพูดถึง
คุณสมบัติของมันคือ
•Vitamin C ช่วยให้ผิวดูสว่างขึ้น รวมถึง ช่วยปรับให้ผิวดูกระจ่างใสเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง
•Hyaluronic Acid ช่วยทำให้เส้นริ้วที่แห้งดูเรียบเนียนและชุ่มชื้นขึ้น
•Caffeine ช่วยให้ผิวดูสดใสขึ้น
•Optical Diffusers ช่วยปรับสีผิวให้ดูสม่าเสมอขึ้น รวมถึงปกปิดจุดด่างดำ และรอยต่างๆบนผิวในทันที
ให้เม็ดสีที่ปกปิดระดับปานกลางจนถึงระดับสูง สามารถเพิ่มลดระดับการปกปิดได้ตามต้องการ เกลี่ยง่าย ทั้งการใช้ทับรองพื้นหรือใช้ก่อนลงรองพื้น
มอบฟินิชลุคผิวสวยดูเป็นธรรมชาติที่ ไม่แห้ง
ผลจากการใช้ของเราที่ได้ลองใช้
✓เนื้อสัมผัสและการซึบซาบ
เนื้อเหลวแต่ข้นและสีอ่อนกว่าสีรองพื้น เมื่อเบอร์เท่ากัน( 63 fresh beidge) หลังทาแล้วเกลี่ย เซ็ตตัวเร็วพอสมควร ไม่เหนอะหนะ สบายผิว
✓ผลลัพธ์หลังใช้ประจำ
จากภาพจะเห็นความกระจ่างของผิวมากขึ้น
การปกปิด ปกปิดได้สูง เมื่อเทียบข้างที่ทารองพื้นเฉยๆ ไม่มีความกลิ่นน้ำหอม หรือส่วนผสมที่ทำให้เกิดการแพ้ ถือว่าเป็นคอนซิลเลอร์ที่เป็นทั้งสกินแคร์บำรุงผิวเราไปด้วยอีกหนึ่ง (•ө•)♡

ความรู้สึก : เป็นคอนซิลเลอร์ที่เนื้อดีมากกก นางบอกว่าเป็นเนื้อครีมเจล ก็จริงอย่างที่นางบอก คือเกลี่ยง่าย ไม่เหนียว ไม่เป็นคราบ ไม่ตกร่องระหว่างวันเลย ในเรื่องของการปกปิด ก็ปิดได้ดีกว่ารองพื้นของเข้าอยู่ สำหรับใต้ตาคล้ำของเรา ต้องลงประมาณ 2 รอบถึงจะเก็บรอยเส้นเลือดเขียวๆใต้ตาอยู่ แต่ถึงแม้จะลงบิ้วเพิ่มเป็น 2 รอบ ก็ไม่ทำให้ร่องร่องหรือรู้สึกหนาเลย ตัวคอนซิลเลอร์กลบรอยเส้นใต้ตาได้คือดี!

วิธีใช้ : เราชอบใช้ฟองน้ำ หรือนิ้วเกลี่ยลงมากกว่า เพราะใช้ตัว ฟองน้า Blurring Blender ที่เค้าให้มาแล้วเราไม่ถนัดอะ ไม่รู้ทำไม่เป็นเองหรือเปล่า แต่ส่วนตัวคิดว่าใช้นิ้วหรือฟองน้ำลงได้ผิวสวยกว่า

CLINIQUE even better all over concealer +eraser anti-cernes+correcteur global no.66 true beige

เป็นคอลซิลเลอร์ที่เนื้อสัมผัสเข้มข้น เม็ดสีแน่น แต่ไม่หนักหน้า ไม่แห้ง เกลี่ยได้ง่ายมากๆ การปกปิดทำได้ดีมากๆ ปิดได้ดี ทั้งรอยแดง รอยดำจากสิว ไม่ตกร่อง รอยคล้ำใต้ตาก็ปกปิดได้ดี ด้วยเนื้อสัมผัสที่ไม่แห้ง มีความชุ่มชื่นอยู่ ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาคือผิวดูสุขภาพดี ไม่แห้ง ดูฉ่ำวาว แต่ ไม่มัน เมื่อลงแป้งแล้วมันไม่แห้งแตกตกร่องในระหว่างวัน ความติดทนก็ดีมาก ช่วงนี้ใส่หน้ากากอนามัย มีการเสียดสีบ้างในระหว่างวัน ก็ติดทน หลุดไม่ถึง 20%

หัวแปรง ไม่เล็ก ไม่ใหญ่ กำลังดี ฟองน้ำที่มาพร้อมกับผลิตภัณฑ์ก็ดี นุ่มและเกลี่ยง่ายมากๆ ไม่กินเนื้อผลิตภัณฑ์ ฟองน้ำหัวตัดเข้าซอกมุมของใบหน้าได้ดี

สรุปคือดีมากๆๆ ยิ่งใช้คู่กับรองพื้นคือ CLINIQUE even better clinical serum foundation คือที่สุด ตอนนี้ยกให้เป็นที่ 1 ของรองพื้นและคอลซิลเลอร์ รับปี 2021 ไปเป็นที่เรียบร้อย

ใช้แล้วชอบมากๆ ในด้านของเนื้อผลิตภัณฑ์คือดี เนื้อนุ่ม เกลี่ยง่ายแต่ไม่เหลวจนเกินไป และที่สำคัญคือ ติดทน กลบสิวได้ดีและใต้ตาก็ไม่ตกร่องใดๆเลย หยิบมาใช้บ่อยเพราะรู้สึกสะอาดและสะดวกสบายดี แพ็คเกจดี ขนาดกำลังพอดี ดีไซน์น่ารัก ใส่ใจคนใช้งานสุดๆเพราะมีทั้งแบบจุ่มป้ายๆลงผิวกับฟองน้ำไว้เบลนผลิตภัณฑ์ แจนชอบเจ้าตัวฟองน้ำนี้มากเพราะใช้แทนนิ้วมือได้ดี มือน้ำไม่ยวบ กดผลิตภัณฑ์พอดีกับน้ำหนักมือมาก ยิ่งโควิดแบบนี้คือไม่อยากเอานิ้วมือจับหน้า ใช้ตัวนี้ตลอดเลย>< แต่หัวจิ้มจุ่มแจนยังไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่เพราะฟัวใหญ่สำหรับแจนไปนิดหน่อย บางทีรอยสิวไม่ได้เยอะมาก อาจจะมีวิธีแก้คือเอามาทาไว้หลังมือก่อนและใช้ฟองน้ำช่วยเอามาเต้มอีกที ^^