Blackmores Natural Vitamin E Cream Lanolin เป็นหลอด และมีฝาเกลียวหมุน เมื่อบีบเนื้อครีมออกมา เนื้อครีมเป็นสีขาว เนื้อเนียนนุ่ม เมื่อเกลี่ยแล้วเนื้อครีมซึมลงสู่ผิวเร็ว ไม่ทำให้ผิวเหนียวเหนอะหนะ
ใช้ทาหลังจากทำความสะอาดผิวให้ทั่วใบหน้า ลำตัว หรือบริเวณที่ต้องการ ทุกเช้าและก่อนนอน
เนื้อครีมค่อนข้างเข้มข้น วี่ใช้การแต้มบริเวณ 5 จุดทั่วใบหน้า แล้วเกลี่ยให้ทั่ว
ทาแล้วทำให้ผิวชุ่มชิ้น ไม่แห้งตึง นอกจากทาหน้าแล้ว ยังสามาถใช้ทามือ และตัวได้ด้วยนะคะ
วี่เลยจะใช้ทาตรงที่มีปัญหา ผิวแห้งตามจุดต่างๆ ทั้ง มือ, ข้อศอก, หัวเข่า เพราะบางครั้งโลชั่นที่ทาอาจบำรุงได้ไม่ดีเท่าที่ควร ก็เลยใช้ Vitamin E Cream Lanolin ทาเฉพาะจุดอีกครั้งค่ะ
ตัวนี้เนื้อครีมข้นค่ะ ทาแล้วก็เป็นสไตล์เนื้อครีมแบบเข้มข้นนะคะ
ตัวนี้จุดเด่นอยู่ที่ใส่ Lanolin มาเป็นอันดับต้นเลยของส่วนผสมซึ่งเหมาะกับผิวแห้งได้ดีมาก
.
และรองลงมา เป็น วิตามินอีค่ะที่เค้าใส่มาในปริมาณที่เยอะนะคะเพราะอยู่ต้นๆเช่นกัน
.
ถัดมาคือ Avocado oil ค่ะ อุดมไปด้วยวิตามิน A, D, E ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ของดีอีกแล้วสิ
.
ต่อมาคือ Apricot Oil ค่ะ โอ๊ยนี่ก็ดี ให้ความชุ่มชื้น ลดการระคายเคืองของผิว ทำให้ผิวเรียบเนียน ลดริ้วรอย ฟื้นฟูความยืดหยุ่น
.
Linoleic Acid ช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้เซลล์ผิวหนัง ลดอาการแห้งกร้าน แตกขุย ริ้วรอยต่างๆ ผิวแห้งลอกเป็นเกล็ด
.
แต่ที่ให้ 4 ดาวเพราะ ด้วยลักษณะครีมแล้วคิดว่าน่าจะอุดตันได้ เพราะดูจากส่วนผสมที่เป็นสารขึ้นรูปผลิตภัณฑ์
.
แต่ส่วนตัวก็ใช้ AHA หรือ BHA exfoliateผิวอยู่แล้วก็น่าจะไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่
ข้อดีอีกข้อคือไม่มีน้ำหอม
.
แต่ทางแบรนด์ไม่ได้เคลมว่าสำหรับผิวแพ้ง่าย บอบบาง ดังนั้นขอให้เทสเนื้อผลิตภัณฑ์ก่อนซื้อค่ะว่าแพ้มั้ย
.
แต่ส่วนตัว ใช้แล้วไม่แพ้ค่ะ ชุ่มชื่นดี ไม่มีกลิ่น ราคาไม่แพง ปริมาณเยอะ
ทาทั้งหน้าและตัวค่ะ ส่วนการอุดตันต้องขอดูอีกสักระยะว่าจะอุดตันมากมั้ย แล้วจะมารีวิวเพิ่มเติมค่ะ