จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลงและวันนี้เราจะมารีวิวครีมกันแดดสายเนเชอรัลตัวดัง ที่กำลังฮิตจนต้านกระแสไม่ไหว ขอลองกับเค้าหน่อยเถอะน้า จะได้คุยกับเขารู้เรื่องสักที สิ่งที่จะรีวิววันนี้ได้แก่
- การทิ้งความมัน
- ทดสอบเนื้อสัมผัส
- ความเหนอะหนะ
- ทดสอบอาการแพ้
ต้องเกริ่นก่อนว่าเราเป็นคนผิวผสมขาดน้ำ ที่หน้าจะมันเฉพาะช่วงทีโซน จึงมองหาครีมกันแดดที่สามารถตอบโจทย์ปัญหาหน้ามัน แต่ไม่ทำให้หน้าแห้งของเราได้ และสุดท้ายต้องไม่ก่อให้เกิดการแพ้
และครีมกันแดดที่เราจะมารีวิวในวันนี้มีทั้งหมด 4 แบรนด์ ส่วนรีวิวหลังจากใช้จริงจะเป็นยังไงบ้างนั้นไปดูผลลัพธ์กันค่ะ
Kiehl's Ultra Light Daily UV Defense Sunscreen SPF50 PA++++ 30ml
กันแดดเนื้อฟลูอิด ที่ช่วยป้องกันได้ทั้งรังสี UVA/UVB พร้อมทั้งผสานเทคโนโลยีป้องกันผิวจากมลภาวะ เนื้อบางเบาเป็นพิเศษเหมาะกับคนผิวมันเพราะเราลองแล้วไม่ทำให้ผิวมันแต่อย่างใด (ส่วนใครที่ผิวหน้าแห้งอาจไม่เหมาะกับกันแดดตัวนี้) ของเขาซึมซาบเร็ว ไม่เหนอะหนะ หน้าไม่ลอย ไม่มีส่วนผสมของสารเพิ่มความสว่างของผิว กลิ่นของกันแดดออกแนวยาๆ แต่ทาไปสักพักกลิ่นก็หายไป
L'Occitane Reine Blanche Illuminating UV Shield SPF50 30ml
ครีมกันแดดตัวนี้เค้าเคลมเรื่องผสมสารสกัดจากธรรมชาติ ได้แก่ Meadowsweet Flowers Extract ช่วยยับยั้งสาเหตุของการเกิดสิว และเชื้อ acnes โดยเฉพาะ, White Mulberry Extract ช่วยให้ผิวกระชับ, Salicylic Acid ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน แต่ไม่แน่ใจว่าเค้ามี PA ด้วยหรือไม่เพราะเท่าที่เราดูบนฉลาก และเสิร์ชหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต ยังไม่มีที่ใดกล่าวถึง เนื้อสัมผัสบางเบา มีกลิ่นหอมอ่อนๆได้กลิ่นแล้วรู้สึกโลกสดใส ซึมไวมากกกก ไม่มันหรือเหนอะหนะ และที่สำคัญไม่ทิ้งคราบขาว
Thann Oil-Free Facial Sunscreen SPF30 PA+++ 40g
กันแดดเนื้อครีมแต่เอาจริงแล้วบางเบา ซึมไว และที่สำคัญไม่เหนอะหนะ ไม่ทิ้งคราบขาว มีกลิ่นหอมอ่อนๆพอดีมีส่วนผสมของ Nano Shiso, White Tea เป็นกันแดดจากสารสกัดธรรมชาติ ป้องกันรังสี UVA1/ UVA2/UVB และครีมกันแดดตัวนี้เค้าเคลมว่าได้ทำการทดสอบกับผู้หญิง อายุ 45-60 ปี จำนวน 22 คน พบว่าสามารถลดเลือนรอยหมองคล้ำ และจุดด่างดำ ให้ผิวสว่างขึ้น 30% หลังใช้ผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 42 วัน ทำการทดสอบโดยสถาบันผิวหนัง Dermscan Asia อีกด้วยแน่ะ เพิ่มความน่าเชื่อถือขึ้นมาได้ระดับนึง เอาจริงเราในฐานะผู้บริโภค ถ้าผลิตภัณฑ์ที่เราสนใจ มีผลการทดสอบแบบนี้มันเพิ่มความน่าเชื่อถือได้เพิ่มสูงขึ้นได้มากจริงๆนะ
Origins Dr.Andrew Weil For Origins Mega-Defense SPF45/PA++++ Advanced Daily UV Defender 30ml
ครีมกันแดดสูตรออยล์ฟรี เนื้อลิควิดบางเบา ตัวนี้ปกป้องได้ทั้งรังสี UVA/UVB และเค้ายังเคลมว่าสามารถป้องกัน PM 2.5 ที่เป็นฝุ่นละอองขนาดเล็กได้อีกด้วย!! (ว้าววว) ด้วยส่วนผสมที่ได้จาก Opuntia Cactus เสริมเกราะป้องกันให้ผิวแข็งแรง มีน้ำมันหอมระเหยจาก Tuberose, Jasmine, Rose และ Bitter Orange ช่วยให้ผิวผ่อนคลาย สดชื่นตลอดวัน
เริ่มที่ทดสอบการทิ้งความมันบนผิวโดยใช้กระดาษซับมันทิ้งไว้เป็นเวลา 4 ชั่วโมง และ 6 ชั่วโมง ในห้องแอร์ สาเหตุที่ต้องทิ้งไว้นานถึง 6 ชั่วโมง เพราะเราอิงตามการใช้งานในชีวิตจริง และแล้วก็ครบกำหนดเวลา มาดูผลทดสอบกันค่ะ
สรุปผลการทดสอบ
จะเห็นได้ว่าเมื่อครบ 6 ชั่วโมง Kiehl’s และ L’occitane ยังคงควบคุมความมันได้ค่อนข้างดี เพราะว่า 2 ยี่ห้อนี้เป็น SPF50 ซึ่งเนื้อกันแดดมีความเป็นเนื้อแมทช์มากกว่า จึงทำออกมาได้ค่อนข้างดีในเรื่องของการไม่ทิ้งความมันบนผิว ส่วน Thann และ Origins เป็นกันแดด SPF30 และ 45 ตามลำดับ การไม่ทิ้งความมันอาจจะไม่ได้ดีเท่า 2 ตัวด้านบน แต่ก็เข้าใจค่ะด้วยความที่มี SPF ต่ำกว่า 50 ตัวกันแดดจึงมีความเป็นลิขวิดมากกว่า แต่ถ้าให้เปรียบเทียบ Thann ที่มี SPF30 ทำเรื่องการไม่ทิ้งความมันบนผิวได้ดีกว่า Origins ที่มี SPF45
ต่อด้วยทดสอบเนื้อสัมผัส, ความเหนอะหนะ, อาการแพ้
ตรงนี้เราจะรีวิวให้ดูว่าเนื้อสัมผัสกันก่อน หลังจากหยดครีมกันแดดทั้ง 4 ตัวลงบนท้องแขน จะสังเกตเห็นว่า Kiehl’s และ L’occitane มีความเป็นก้อนกลม เนื่องจากความเป็นเนื้อแมทช์ตามที่เราได้แจ้งไว้ด้านบน ส่วน Thann และ Origins มีความเป็นลิขวิดค่อนข้างเหลวเลยทีเดียว
หลังจากลองเกลี่ยบนท้องแขนแล้วพบว่า Thann และ Origins นั้นซึมง่าย ซึมเข้าสู่ผิวไวกว่าและยังคงโทนสีผิวธรรมชาติของเราไว้ ส่วน Kiehl’s และ L’occitane มีด้วยความเป็นเนื้อแมทช์จึงใช้เวลาเกลี่ยและซึมเข้าสู่ผิวค่อนข้างนาน และมีการทิ้งคราบขาวไว้นิดนึงด้วยค่ะ
ผลการทดสอบความเหนอะหนะ
จากผลการทดสอบความเหนอะหนะของกันแดดทั้ง 4 ตัว พบว่า Origin ทำออกมาได้ดี ตามด้วย Thann, Kiehl’s และ L’occitane ตามลำดับ ตรงนี้ถือว่าสูสีกันพอสมควรเลย
ทดสอบอาการแพ้
จากการใช้จริงทุกตัวของกันแดดที่เราได้นำมารีวิวในวันนี้ สำหรับตัวเราไม่พบอาการแพ้ใดๆเกิดขึ้นจากการทดลองกันแดดทุกตัวที่นำมารีวิวในวันนี้ค่ะ
และนอกจากอาการแพ้แล้ว ครีมกันแดดบางตัวยังมีสารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยบำรุงผิวหน้าให้สุขภาพผิวดีขึ้นอีกด้วย มาเริ่มต้นกันที่
Kiehl’s มีส่วนผสมของไบคาลิน (Baicalin) สารสกัดจากรากของพืชในสกุลคิวเทลลาเรีย (Scutellaria root extract) สมุนไพรที่นิยมใช้ในทางการแพทย์แผนจีนโบราณ ช่วยลดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นบนผิวที่เกิดจากรังสียูวี ช่วยป้องกันความร่วงโรยของผิวจากแสงแดด
L’occitane เพิ่มความกระจ่างใสและกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ด้วยสาร salicylic acid ที่มีตามธรรมชาติ ของดอก Reine des Prés ช่วยในการคงสีผิวให้ดูสม่ำเสมอและกระจ่างใสเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งดูเปล่งประกายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
Thann มีส่วนผสมของ Nano Shiso Extract สารสกัดอนุภาคขนาดเล็กจากใบชิโซะ ช่วยต่อต้านการเกิดอนุมูลอิสระ เติมความชุ่มชื้น และลดอาการระคายเคือง, White Tea Extract อุดมด้วยสาร Polyphenols ที่มีมากกว่าชาเชียวถึง 3 เท่า ช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระ เพื่อชะลอความร่วงโรยแห่งวัยของผิว, Ougon Extract จากประเทศญี่ปุ่นช่วยดูดซับรังสียูวี ต่อต้านการก่อตัวของเมลานินใต้ผิวหนัง ป้องกันผิวคล้ำเสีย
Origins มีส่วนผสมของ Opuntia Cactus พืชพื้นเมืองของประเทศบราซิลที่มีคุณสมบัติการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม โดดเด่นด้วยคุณสมบัติในการเติมน้ำสู่ผิวแห้งกร้าน ให้ผิวกลับสดชื่นและได้รับการพิสูจน์ทางคลินิกแล้วว่าสามารถปกป้องผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ Zinc Oxide และ Titanium Dioxide ซึ่งเป็นส่วนประกอบจากธรรมชาติปราศจากสารเคมี 100%
สรุปโดยให้คะแนนแต่ละตัวตามการทดสอบ ดังนี้
- การทิ้งความมัน
- ทดสอบเนื้อสัมผัส
- ความเหนอะหนะ
- ทดสอบอาการแพ้