My Favorite Skincare Routine
1. Eucerin Spotless Brightening Boosting Essence
หลังจากล้างเครื่องสำอาง ตามด้วยเจลล้างหน้า และเช็ดโทนเนอร์แล้ว สกินแคร์ชิ้นแรกที่เราหยิบมาใช้ก็คือ น้ำตบ หรือ เอสเซ้นต์ ซึ่งในช่วงนี้มิ้วกำลังใช้ Eucerin Spotless Brightening Boosting Essence น้ำตบบูสผิวใส แบบ 3 in 1 ที่เป็น 3 in 1 เพราะเขาทำหน้าที่ครบ 3 กลไกในการช่วยบูสผิวกระจ่างใส ชุ่มชื้น และดูอิ่มฟูได้ในขวดเดียวเลย เริ่มที่กลไกแรกคือช่วยผลัดผิวที่หมองคล้ำ ต่อมาก็จะช่วยลดเลือนจุดด่างดำที่มีอยู่และลดโอกาสที่จุดด่างดำจะเกิดขึ้นใหม่ และสุดท้ายยังช่วยเติมและเก็บกักความชุ่มชื้นไปในตัว เรียกว่ามีน้ำตบขวดนี้ขวดเดียว ก็ช่วยให้ผิวสวยใสสมบูรณ์แบบได้เลย
เนื้อน้ำตบจะเป็นน้ำใส ๆ มีกลิ่นหอมละมุน ซึมเข้าสู่ผิวได้ไวมาก บางทีเวลาที่มิ้วขี้เกียจใช้โทนเนอร์ มิ้วก็จะเทน้ำตบตัวนี้ใส่สำลีแล้วเช็ดหน้า จากนั้นก็ตบลงที่หน้าเบา ๆ ไปเลยเพื่อให้เนื้อน้ำตบซึมเข้าสู่ผิวไปโดยปริยาย
ตอนแรกที่ได้ลองใช้น้ำตบบูสผิวใสของ Eucerin มาสักประมาณ 2 สัปดาห์กว่า ๆ มิ้วแอบสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงขึ้นมาบ้าง หน้าเริ่มใสขึ้น ปกติแล้วมิ้วเป็นคนผิวผสม - มันมาก และมักจะเป็นสิวบ่อย ๆ แน่นอนว่าปัญหาที่ตามมาก็คือเรื่องของจุดด่างดำต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีเรื่องของผิวหน้าที่หมองคล้ำจากการออกแดดด้วย หลังจากที่ได้ใช้น้ำตบตัวนี้มาเรื่อย ๆ ก็สังเกตเห็นว่าพวกจุดด่างดำดูจางลงนิดนึง ที่สำคัญคือผิวมีความอิ่มฟู ฉ่ำน้ำ โดดเด้งมากขึ้น แลดูสุขภาพดีจริง ๆ บอกได้เลยว่าเป็นน้ำตบที่ไม่ใช่แค่เตรียมผิว แต่ช่วยเรื่องผิวกระจ่างใส อิ่มฟูได้จริง แล้วยังเป็นไอเทมเด็ดที่ช่วยบำรุงผิวตั้งแต่แรกเริ่มได้ดีมาก พร้อมที่จะรับการบำรุงในขั้นตอนต่อไปได้อย่างเต็มที่จริง ๆ
2. mesoestetic - ha densimatrix, aox ferulic
ถัดจากการใช้น้ำตบแล้ว ก็มาที่การใช้พรีเซรั่มกันต่อเลยค่ะ เป็นของแบรนด์ mesoestetic ซึ่งมิ้วจะใช้ขวดสีน้ำเงิน หรือ ha ก่อน ตัวนี้จะเน้นการเติมความชุ่มชื้นแก่ผิวหน้า ตามด้วย aox ที่เป็นขวดสีชา ซึ่งช่วยบำรุงผิวให้กระจ่างใส อ่อนเยาว์ กระชับรูขุมขน เนื้อสัมผัสของทั้ง 2 ตัวเป็นลักษณะเหลว มีความใส เกลี่ยง่าย ต้องบอกก่อนว่ามีช่วงที่มิ้วใช้ 2 ขวดนี้ในช่วงสัปดาห์ที่ 1-2 สังเกตเห็นได้ว่าผิวมีความเนียนละเอียดขึ้น รูขุมขนแลดูกระชับ
3. JUV Skin Barrier Cica Ampoule + Sea glow & Lava-skinbio
เข้าสู่ขั้นตอนของการใช้เซรั่มกันสักที ซึ่งช่วง 2-3 เดือนให้หลังนี้มิ้วเลือกใช้แอมพูลของ JUV ค่ะ อย่างตัวนี้คือสูตรสำหรับผิวอ่อนแอ เกิดการแพ้หรือระคายเคือง เป็นสิวง่าย แอมพูลตัวนี้ช่วยพื้นฟูผิวของเราให้กลับมาแข็งแรง สุขภาพดี มีความชุ่มชื้น ความพิเศษของแอมพูลตัวนี้ คือเขามีสารสกัดสำคัญบางอย่างที่ได้รับการรับรองจาก Ecocert ว่ามีความเป็นออร์แกนิคและเต็มเปี่ยมไปด้วยความเป็นธรรมชาติ นอกนี้แอมพูลตัวนี้ยังมีค่า pH 4.5 - 6.5 ซึ่งถือว่าเป็นค่ากลาง ๆ ใช้ได้ต่อทุกสภาพผิว
เนื้อแอมพูลจะออกใส ๆ มีกลิ่นหอมเบา ๆ แต่ไม่มีกลิ่นของน้ำหอมอยู่เลย รู้สึกได้ว่ามีความอ่อนโยนจริง ๆ เหมือนจะเป็นไอเทมธรรมดา ๆ แต่ก็ใช้มาได้ราว ๆ เดือนกว่าแล้วค่ะ เป็นปลื้มมาก :)
4. JUV Skin Barrier Cica Cream + Sea glow & Lava-skinbio
มาถึงอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญ นั่นก็คือการใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ค่ะ มิ้วใช้ครีมบำรุงผิวหน้าของ JUV สูตรเดียวกับแอมพูลเลย ก็คือเน้นเรื่องการเสริมสร้างให้ผิวแข็งแรง ฟื้นฟูผิวหน้าให้แลดูสุขภาพดี เหมาะสำหรับผิวที่เป็นสิวง่ายนั่นเอง ตัวครีมไม่มีกลิ่นของน้ำหอมใด ๆ เลย เนื้อครีมมีความเข้มข้นพอสมควร แต่ก็ยังเกลี่ยง่าย ไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะแต่อย่างใด มิ้วจะใช้ครีมตัวนี้ทั้งในช่วงเช้าและก่อนนอนเลยค่ะ เพียงแต่ช่วงก่อนนอนจะบีบออกมาใช้ในปริมาณที่เยอะขึ้นมาอีกนิด เพื่อบำรุงผิวให้เนียนนุ่มชุ่มชื้นมากขึ้นกว่าเดิมค่ะ
5. clear nose UV Sun Serum SPF50+ PA++++
เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญมาก สำหรับการทาครีมกันแดด ซึ่งไม่ใช่ว่าเราจะทาเฉพาะตอนที่ออกนอกบ้านเท่านั้น แต่ในวันหนึ่งเราสามารถเจอรังสี UV ได้จากทุก ๆ ที่ ไม่เว้นแม้กระทั่งในบ้าน ที่มาจากหลอดไฟ หน้าจอคอมพิวเตอร์ รวมไปถึงโทรศัพท์มือถือ จริง ๆ ปีนี้เป็นปีที่มิ้วได้ใช้กันแดดอยู่หลายตัวค่ะ แต่ถ้าถามว่าชอบตัวไหนที่สุด ก็ต้องให้ของ clear nose นี่แหละค่ะ เขาเป็นกันแดดที่ไม่ได้ปรับผิวให้ไบร์ทขึ้น เพราะฉะนั้นหากจะเพิ่มปริมาณการทาก็ไม่ทำให้หน้าของเราดูวอกเกินไปนั่นเอง แต่ส่วนตัวแล้วมิ้วจะใช้กันแดดในปริมาณ 2 ข้อนิ้วพอเพราะมันจะทำให้ผิวหน้าเราไม่เยิ้มเกินไป
เนื้อของกันแดดตัวนี้เป็นโลชั่น สีขาว เกลี่ยง่าย โดยคร่าว ๆ ไม่มีกลิ่นของน้ำหอมและแอลกอฮอล์ ใครที่ผิวแพ้ง่ายตรงนี้สอบผ่านเลย แต่ที่มิ้วชอบที่สุดเลยก็คือทาแล้วให้ความเบาสบายผิวดีมาก ๆ ใช้ชีวิตต่อได้แบบสบาย ๆ ทั้งตอนหน้าสด หรือตอนที่ต้องการจะแต่งหน้าต่อค่ะ ที่สำคัญเขาควบคุมความมันได้ค่อนข้างดี ระหว่างวันก็มีเยิ้ม ๆ บ้างช่วงทีโซนซึ่งเป็นเรื่องปกติมาก ๆ ของมิ้วค่ะ
ทั้งหมดนี้ก็เป็น My Favorite Skincare Routine ที่มิ้วใช้ประจำตั้งแต่ปี 2022 จนถึงตอนนี้เลยค่ะ ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับใครที่กำลังมองหาสกินแคร์ดี ๆ ใครมีสกินแคร์ตัวไหนในนี้ที่เคยใช้เหมือนกัน มาลองแชร์ประสบการณ์การใช้กันได้นะคะ เผื่อเราจะได้เจอข้อคิดเห็นหรือมุมมองที่แตกต่างกันออกไปด้วย สุดท้ายนี้ก็ขอให้ทุก ๆ ท่านมีผิวหน้าที่สวยใสตลอดปี 2023 นี้เลยค่ะ ขอลาไปก่อนแต่เพียงเท่านี้ บ๊ายบายค่ะ :)
1 / 2