PM 2.5 | COVID-19 มันร้าย!! ต้องโดนปราบด้วย เจลลดรอยดำ รอยแดง "เลือดมังกร" จบใน 2 อาทิตย์

รู้สึกว่าปี 2020 เป็นปีที่ต้อง ทน ทน ทน!!! ทนกับฝุ่น PM 2.5

และต้องมาระแวงกับ COVID-19 อี๊กกก นี่หรือประเทศไทย..

 

ซึ่งการที่เราต้องเผชิญกับฝุ่นทุกวัน แน่นอนว่ามันทำเราคันหน้า คันตา คันผิว  สิวบุก ผด ผื่นเม็ดเล็กๆ ขึ้นเต็มหน้าผากเราเลย (มันคือส่วนที่ต้องโดนฝุ่นเต็มๆ) ส่วนตรงที่ใส่ MASK ตอนแรกคิดว่าจะรอด แต่ก็ไม่รอดจ่ะ เหมือนเราเป็นผิวแพ้ง่ายแล้ว MASK มันแน่น ก็กลายเป็นว่ามันถูหน้า ทำให้สิวเล็กๆ หรือสิวอักเสบขึ้นที่บริเวณกรอบหน้าและคาง

นี่คือภาพ Before

ที่กดหัวสิวออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

ส่วนการรักษาสิวพวกนี้ ถ้าเป็นพวกผด หรือสิวเล็กๆ เราปล่อยให้มันยุบเอง หายเอง ส่วนสิวที่เป็นหัวหนอง เราก็จะหายาแต้มสิวมาทา เพื่อเร่งให้หัวมันสุก และเราก็กดให้หัวหนองมันออก และต่อด้วยเจลลดรอยสิวทันที!

 

***ทริคส่วนตัวสำหรับเราคือ หลังจากที่เราตัดสินใจกดหัวสิวออกไปแล้ว เราจะไม่หยิบยาแต้มสิวมาทาอีก เพราะมันมีสิทธิ์ทำให้สิวตรงนั้นกลับมาอักเสบได้อีก เราเลือกที่จะทาเจลลดรอยแผลเป็น ที่เคลมว่าสามารถทาแผลสดได้เลยแบบไม่ต้องรอตกสะเก็ด เพราะบางทีการรอตกสะเก็ด แผลเรามันก็เริ่มจะน้ำตาลๆ แล้ว ไม่ทันการณ์ อยากหายไวๆ***

 

และผลของการที่เราทำแบบนี้ มันเลยทำให้ร่องรอยสิวจางค่อนข้างไว เหมือนมันฮีลแผลของสิว + รอยสิวไปพร้อมกันเลย ซึ่งรูปด้านล่างเป็นผลของการที่เราทาเช้า กลางวัน ก่อนนอน เป็นเวลา 2 อาทิตย์ (กดของการอยากรอยสิวหายไวๆ คือต้องหมั่นทา และห้ามลืม)

 

นี่คือภาพฺ Before & After หลังใช้ 2 อาทิตย์

รอยวงใหญ่ๆ เหลือรอยนิสเดียววววว ><

 

ซึ่งตัวที่เราใช้คือ เจ้าเจลลดรอยฝาแดง Puricas dragon's blood scar ที่เป็นสูตรเลือดมังกรตัวนี้นี่แหละ เหมือนจะเป็นแบรนด์แรกในไทยที่หยิบสารสกัดตัวนี้มาใช้ ที่รู้จักก็เพราะบล็อกเกอร์รีวิวไว้เยอะมาก ซึ่งมันก็ได้ผลกับผิวของเราดี เพราะตอนใช้ก็คือไม่มีแพ้ หรือสิวอักเสบเพิ่มเติม ด้วยที่มันเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ ผิวแพ้ง่ายเลยใช้ได้หายห่วง

 

เอ้อ..ช่วง 2 วีคแรกที่เราลองใช้คือ เราลองใช้หลอดเล็กก่อน 3 กรัม ไปซื้อมาจากเซเว่น 119 บาท ราคาเบาๆ เพราะถ้าแพ้จะได้โยนทิ้งแบบไม่เสียดาย ซึ่งเป็นหลอดที่เราพกไปทาที่ทำงานด้วย และใช้หมดภายใน 2 อาทิตย์แหละ >>> เลยไปสอยหลอดใหญ่ 8 กรัม มาใช้ต่อแบบยาวๆ 

 

ตอนนี้ใช้เข้าหลอดที่ 3 แล้ว บีบแล้ว บีบอีก

ส่วนต่อไปเราจะมาเล่าสรรพคุณแบบง่ายๆ ให้ฟังกัน เพื่อจะได้ลองเช็กเบื้องต้นกันก่อนว่าใครแพ้สารสกัดตัวไหนหรือป่าว จะได้ไม่เสียเงินฟรี แต่สำหรับเราที่ผิวแพ้ง่าย คือเลิฟฟฟฟ

 

- Dragon’s Blood สารสกัดดราก้อนบลัด ช่วยสมานแผล ลดการอักเสบ เติมเต็มชั้นผิว และช่วยให้ผิวกลับคืนสู่สภาพเดิม 

- Allium Cepa  สารสกัดหัวหอม ช่วยลดรอยแผลเป็นและจุดด่างดำให้จางลง

- Aloe Vera  ว่านหางจระเข้ ช่วยทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื่น ลดอาการอักเสบจากสิวและรอยแดง รอยดำ

- Ipomoea  ผักบุ้งทะเล ช่วยลดการระคายเคือง และผื่นแพ้

- Centella Asiatica ใบบัวบก ช่วยลดการอักเสบของแผล และทำให้แผลหายเร็วยิ่งขึ้น

- Allantoin ช่วยลดการระคายเคือง

- Vitamin E เพิ่มความชุ่มชื้นในชั้นผิว ช่วยให้แผลเป็นเรียบเนียนขึ้น

- Vitamin C – Skin brightening ช่วยให้ผิวกระจ่างใส รอยแดงและจุดด่างดำจางลง

 

ซึ่งสรรพคุณเด่นๆ + สัมผัสการใช้ จากมันจากคำเคลมและจากที่เราใช้จริงนะ

คือเนื้อเจลน้ำตาลใสๆ ที่สามารถทาทับแผลใหม่ๆ ได้ โดยไม่ต้องรอสะเก็ด และเห็นผลดีด้วย เนื่องจากดราก้อนบลัดช่วยสมานบาดแผลให้แผลหายเร็วขึ้น) ช่วยลดรอยดำ รอยแดงจากสิวได้เวิร์ค สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ภายใน 2 อาทิตย์  และไม่มีแอลกอฮอล์ น้ำหอม ผิวแพ้ง่ายใช้ได้

 

ส่วนสามารถใช้กับแผลประเภทไหนได้บ้าง

ใช้ได้กับแผลเป็นทุกแบบ ไม่ว่าจะเป็น แผลผ่าตัด รอยถลอกแผลจากอุบัติเหตุ แผลนูน ไปจนถึงรอยแผลจากสิว ที่เพิ่งบีบหัวสิวออก ก็สามารถทาได้เลย

 

และนี่เลยเลยเป็นไอเท็มประจำกระเป๋าช่วงนี้ที่ขาดไม่ได้

 

และนี่ก็เป็นรีวิวจากประสบการณ์จริงที่อยากบอกต่อ

ใครที่ช่วงนี้แพ้ฝุ่นหรือให้เกิดสิว ทำให้ตามมาด้วยรอยดำ รอยแดงต่างๆ ไม่สิ้นสุดสักที ก็ลองตัวนี้กันได้จ้า