จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลงสวัสดีค่ะ เพื่อนๆ วันนี้มุกกลับมาพร้อม KIKO Milano อีกครั้ง แบรนด์เครื่องสำอางอันดับหนึ่ง จากประเทศอิตาลี ที่ได้แรงบันดาลใจจากเทรนด์แฟชั่นล่าสุดจากมิลาน มุกเคยทำรีวิวเปิดกรุเครื่องสำอางแบรนด์นี้ไปแล้วรอบหนึ่งนะคะ อย่างที่รู้ๆ กันว่า มุกรู้จักแบรนด์นี้ผ่าน Beauty Youtubers หลายคนที่มุกติดตามอยู่ ซึ่งหลังจากที่ได้เค้าเข้าไทย แล้วมุกได้ลองสัมผัสผลิตภัณฑ์ของแบรนด์นี้ด้วยตัวเองแล้ว มุกติดใจมากกกกกก ล่าสุดไปสอย Invisible Face Touch Fixing Powder แป้งฝุ่นทรานส์ลูเซนท์มาค่ะ เป็นแป้งฝุ่นที่ดีเริ่ดมากกกกกกกก ดียังไง ตามดูกันต่อไปเลยค่าาาาาาา...
พูดถึง Invisible Face Touch Fixing Powder ตัวนี้ เขาเป็นแป้งฝุ่นเนื้ออณูละเอียด แป้งเนื้อแมทท์เพื่อการคุมมัน เซ็ทเมคอัพติดทนนานตลอดวัน เค้าจะทำงานเหมือนเป็นแผ่นฟิล์มคอยดูดซับความมันพร้อมเคลือบผิว เบลอรูขุมขน ให้ผิวดูเนียนนุ่มละเอียด ซึ่งเจ้าแป้งฝุ่นตัวนี้สามารถใช้ทัชอัพระหว่างวันได้ด้วยนะ ทาทับเมคอัพได้ โดยไม่ทำให้เกิดคราบและไม่ทำให้หน้าแห้งกร้าน รับรองว่าหน้าไม่มีเยิ้มระหว่างวันแน่นอนค่ะ เหมาะกับทุกสภาพผิวด้วยนะคะ
หน้าตาเจ้า Invisible Face Touch Fixing Powder ตัวนี้ มาในรูปแบบแพคเกจทรงกระปุก มาพร้อมฟองน้ำเนื้อนุ่มในตลับเลย ทาได้ง่ายๆ ไม่ต้องพึ่งแปรงหรืออุปกรณ์อื่นๆ เลยค่ะ ซึ่งเป็นข้อดีนะ เพราะเราสามารถพกเจ้าตัวนี้ไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวกสบายเลย เจ้าตัวนี้ราคาเพียงแค่ 699บาทเท่านั้น ราคาสบายกระเป๋า แต่คุณภาพสุดปังเทียบเท่าเคาน์เตอร์แบรนด์เลยจ้า
ปริมาณสุทธิ : 13.5 กรัม
พอเปิดตลับมาปุ๊ป สิ่งแรกที่สะดุดตาเลยก็คือเจ้าพัฟที่อยู่ในฝานี่แหละ เป็นพัฟเนื้อนิ่ม สัมผัสนุ่มมาก ไม่ทำให้รู้สึกบาดผิว แถมเขาออกแบบมาให้มีที่จับตรงฝาแบบนี้ สะดวกต่อการใช้งานมากๆเลยค่ะ ที่สำคัญคือ การที่ออกแบบมาให้มีที่จับแบบนี้ จะช่วยลดการสัมผัสตัวพัฟโดยตรง ลดการปนเปื้อนฝุ่นหรือสิ่งสกปรกที่มือเราได้ด้วย แบบนี้ดีมากๆ เลยนะ เพราะการใช้พัฟสะอาดๆ ช่วยลดการก่อให้เกิดสิวด้วยนะคะ
มาดูภายในตลับกันบ้างนะคะ เปิดมาตอนแรกเลยจะมีแผ่นพลาสติกบางๆ ป้องกันเนื้อแป้งอีกทีเพื่อไม่ให้หกเลอะเทอะ เปิดฝาออกจะเจอรูเชื่อมต่อกับส่วนตลับแป้ง สิ่งที่มุกชอบคืออะไร รู้ไหมคะ? คือรูปทรงของรูพวกนี้ ที่เขาออกแบบมาเป็นลักษณะทรงกลมวงล้อ ซึ่งทำให้เวลาใช้แป้งตัวนี้เนี่ย ตัวเนื้อแป้งสามารถติดพัฟออกมาได้ทั่วพัฟเลย (ซึ่งบางที่เขาทำเป็นรูกลมๆ เล็กๆ เอง มุกเคาะแล้วเคาะอีก แป้งก็ไม่ออกมา ฮ่าๆๆ)
มาดูเนื้อผลิตภัณฑ์กันบ้างดีกว่าาา... เจ้าแป้งเขาจะเป็นผงอณูละเอียดสีขาวนวลแบบนี้นะคะ แต่จริงน้องเขาเป็นแป้งไม่มีสีนะ ทาแล้วหน้าไม่วอก เบลอขุมขนได้ดีมาก ให้ลุคผิวแมทท์เป็นธรรมชาติ ไม่ทำให้ผิวแห้งกร้านเลยค่ะ
จากภาพทางซ้ายมือ เพื่อนๆ เห็นไหมคะ ว่าเนื้อแป้งสามารถติดพัฟออกมาได้ทั่วพัฟจริงๆ พัฟเก็บเนื้อแป้งได้ดีมาก คือไม่ต้องเสียเวลาเทแป้งแล้ว เทแป้งอีก เลิฟเลยค่ะ ส่วนภาพทางขวามือคือ มุกลองแต้มเนื้อผลิตภัณฑ์ลงบนผิวหลังมือนะคะ เนื้อสัมผัสแป้งคือดีงามมากกกก ลูบๆ วนๆ บนหลังมือแล้ว รู้สึกได้ถึงความเนียนนุ่มมากๆ ค่ะ
ภาพเปรียบเทียบก่อนทา-หลังทาที่หลังมือนะคะ จะเห็นได้ชัดเจนเลยว่า ก่อนทา ผิวค่อนข้างมีริ้วรอยเยอะมาก แต่พาทาแป้งไป จะได้สัมผัสผิวที่เนียนนุ่มมากขึ้น เบลอริ้วรอย รูขุมขน ร่องลึกได้ดี ปรับผิวให้กระจ่างใสขึ้นด้วยค่ะ
มาลองกับผิวหน้าดูบ้างนะคะ ภาพก่อนทาคือ ผิวมุกมีความมันมาก อันนี้ทดสอบกับผิวหน้าสด ยังไม่ได้ทารองพื้นนะคะ ซึ่งช่วงนี้มุกมีผิวผสม ผิวจะค่อนข้างมันช่วงบริเวณ T Zone (ยิ่งอากาศหน้าร้อนแบบนี้ด้วย ผิวมันเยิ้มมาก แต่งหน้าไม่ค่อยติดเลย เวลาผ่านไปสักพัก เมคอัพก็ลบ)
มุกลองทาเจ้าแป้งลงบนผิว ทาแบบบางเบาเท่านั้นนะคะ ก็รู้สึกเหมือนได้ผิวใหม่เลยค่ะ ผิวที่ออกมาเป็นลุคแมทท์แบบสุขภาพดีนะ ไม่ทำให้ดูผิวแห้งกร้านและไม่ทำให้ผิวเป็นขุยค่ะ ผิวเนียนนุ่มแถมรู้สึกเบาสบายผิวมากๆ เลย เนื้อแป้งเบลนด์เข้าสู่ผิวได้ดี ช่วยเบลอรูขุมขน และช่วยปรับให้ผิวมีความกระจ่างใสขึ้นด้วยค่ะ
Note : สำหรับแป้งตัวนี้ สามารถทาแป้งด้วยฟองน้ำในตลับ หรือใช้แปรงแต่งหน้าของเราก็ได้นะคะ ปัดทั่วผิวหน้าและลำคอ สามารถใช้เซ็ทเมคอัพ หรือทัชอัพผิวระหว่างวันก็ได้ค่ะ
สำหรับวันนี้ มุกขอแอบแนะนำขั้นตอนการลงผิวงานเพิ่มเติมหน่อยนะคะ ด้วยความที่ไปเจอคลิปหนึ่งในยูทูปมา เขาแนะนำการใช้แป้งฝุ่นในการลงงานผิวก่อนที่จะลงรองพื้นมา ซึ่งปกติเรามักจะใช้แป้งฝุ่นลงเซ็ทผิวหลังจากลงเมคอัพจบแล้วเนอะ เขาบอกว่าการลงแป้งฝุ่นก่อนลงรองพื้นก็เพื่อเป็นการเซ็ทผิวหรือดูดซับความมันในรูขุมขน เป็นการป้องกันความมันใต้ชั้นผิวไม่ให้ออกมาผสมกับรองพื้นที่เราจะทาทับลงไปค่ะ มุกเห็นผลลัพธ์ที่เขาทดสอบแล้ว ก็รู้สึกว้าวมาก เลยลองมาแต่งตามให้เพื่อนๆ ชมกันนะคะ
เริ่มต้นที่ลงแป้งฝุ่น Invisible Face Touch Fixing Powder ตัวนี้ก่อนเลย เพื่อดูดซับความมันของผิวหน้าเรา ก่อนที่จะลงงานผิวในขั้นตอนต่อไปนะคะ
ขั้นตอนต่อมา หลังจากที่ลงแป้งเพื่อคุมความมันใต้ชั้นผิวไปแล้ว มุกก็จะลงรองพื้น ซึ่งวันนี้มุกเลือกใช้รองพื้นของ KIKO เขาเลยนะคะ รุ่น Smart Hydrating Foundation เพราะใช้แล้วผิวสวยมากกก ใช้แล้วชอบมากๆ ค่ะ ซึ่งผลที่ออกมาก็คือ มุกสามารถทารองพื้นทับแป้งได้โดยที่ไม่เป็นคราบหรือริ้วรอยอะไรเลยนะคะ เหมือนเราลงรองพื้นปกติเลย แถมเบาสบายผิวมากๆ ด้วย
หลังจากรองพื้น ก็ลงคอนทัวร์ตามที่เราชอบ พร้อมลงแป้งฝุ่นอีกครั้งเพื่อเซคเมคอัพทั้งหมดค่ะ ผลลัพธ์ที่ออกมาคือ ได้ลุคงานผิวปังมากกกกกกกก ผิวเนียนสวย หน้ามีความแมทท์เหมือนนางแบบบนรันเวย์เลย อิอิ
ซึ่งเมคอัพลุคนี้ มุกได้ทำการทดสอบความมันบนผิวหน้าไว้ด้วยนะคะ โดยการแต่งหน้าแล้วออกไปทำงานแต่เช้า กลับมาบ้านอีกทีตอนเย็นเลย ตกราวๆ 8-9 ชั่วโมงโดยประมาณค่ะ ซึ่งภาพซ้ายมือสุดคือความมันบนผิวหน้าก่อนใช้แป้งนะคะ ภาพกลางคือหลังจากลงแป้งซับความมันแล้ว และภาพสุดท้ายคือ มุกซับหน้าหลังจากกลับมาบ้านแล้วค่ะ จะเห็นได้ว่าความมันบนผิวหน้าหลังจากใช้แป้งตัวนี้เนี่ย ค่อนข้างมีความมันน้อยกว่าผิวที่ไม่ได้ใช้แป้งค่ะ ถือว่าเขาคุมมันได้ดีและยาวนานมากๆ เลยค่ะ ทุกคน
และนี่ก็คือ Finish Look สำหรับวันนี้ เพื่อนๆ ชอบกันไหมคะ คอมเมนต์มาบอกกันหน่อยน้าาา
ขอแอบกระซิบนิดหนึ่งนะคะ สำหรับเพื่อนๆ คนไหน ที่สนใจแบรนด์นี้เนี่ย ตอนนี้เขาเข้าไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะคะ สามารถช็อปได้ง่ายๆ ผ่านทาง Central Online มุกยังไม่แน่ใจว่าเค้ามีช็อปหน้าร้านไหม แต่ถ้ามีเนี่ย มุกต้องแวะไปแน่นอนค่าาาา
สำหรับวันนี้มุกต้องขอตัวไปก่อนนะคะ แล้วเจอกันใหม่ บล็อกหน้านะค้าาาา เลิฟฟฟฟ!
#KIKO #KIKOMilano #translucent #powder #แป้ง #แป้งฝุ่น #แป้งโปร่งแสง