เปิดกรุเครื่องสำอาง KIKO MILANO มหากาพย์รีวิวเครื่องสำอางใช้ดี ราคาเบาๆ 

วันนี้มาบอกเล่าความสวยความงามให้เพื่อนๆ ฟังกันสักหน่อยดีกว่า ต้องบอกว่า มุกโชคดีมากๆ ที่ได้มีโอกาสลองเครื่องสำอางแบรนด์ KIKO Milano แบรนด์สัญชาติอิตาลีที่ดังในยุโรปมากก เรียกได้ว่าโตมาด้วยกันกับมุกเลย รู้จักแบรนด์นี้ผ่าน Beauty Youtuber หลายคนที่มุกติดตามมาตั้งแต่สมัยเริ่มแต่งหน้า ซึ่งแต่ละคนก็คอนเฟิร์มมาแล้วว่าแบรนด์ปังมากกกก คือแบบว่า...วันนี้ได้มาลองด้วยตัวเอง เลยจะขอรีวิวเจ้าเครื่องสำอางจากแบรนด์นี้ให้เพื่อนๆ ชมกันหน่อยค่า

โดยเซตนี้ มุกเลือกมาเป็นโทนสีนู้ดโกลว์ เน้นงานผิวสวย ออร่ามานะคะ แอบกระซิบว่ามีฮาวทูแต่งหน้าเล็กๆ ด้วย ติดตามอ่านกันด้วยน้าาา...

ขอเริ่มที่งานผิวก่อนเลยมุกหยิบตัว Skin Trainer CC Blur มาใช้ ซึ่งตัวนี้เป็น CC cream ที่ช่วยปกปิดริ้วรอยและเบลอรูขุมขน ตัวเนื้อครีมเขามีความนุ่มลื่น เกลี่ยง่ายมาก ทาแล้วรู้สึกได้ว่าผิวมีความเนียน ออร่า และนุ่มลื่นขึ้นมากๆ 

เทียบผิวหน้าสดกับผิวหลังใช้ CC กันชัดๆ ไปเล้ยยยย ตัวนี้เบลอรูขุมขนได้ดีมากๆ มุกรู้สึกว่าผิวดูอ่อนเยาว์ลง พลางริ้วรอยต่างๆ เก็บรายละเอียดผิวได้ดี ได้ลุคงานผิวดี เหมือนผิวเด็ก เนียนและนุ่มลื่นสุดๆ ในเรื่องของการปกปิด ด้วยความที่เนื้อเขาค่อนข้างบางเบา เลยปกปิดได้บางเบานะคะ เหมือนช่วยเตรียมผิวและปรับความสว่างผิวก่อนที่จะลงรองพื้นมากกว่า แต่สำหรับในวันธรรมดาเนี่ย ถ้าจะจัดเมคอัพลุคเบาๆ มุกว่าใช้ตัวนี้ตัวเดียวก็เอาอยู่ ตัวนี้จากความรู้สึกมุก ส่วนตัวมุกตื่นเต้นและชอบเจ้าตัวนี้มาก เพราะมุกลองเนื้อครีมที่มีลักษณะแบบนี้เป็นครั้งแรก เขาให้สัมผัสที่นุ่มลื่นซาตินสุดๆ คล้าย Primer ตื่นเต้นมากๆ ตอนสัมผัสเนื้อครีมครั้งแรกค่ะ

มาต่องานผิวกันด้วย Smart Hydrating Foundation จากที่มุกหาข้อมูลมานะคะ รองพื้นตัวนี้จะช่วยปรับผิวให้สว่าง เนียนใส หน้าไม่ดรอประหว่างวัน แถมยังมีบำรุงผิว เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวอีกด้วย

หลังจากที่เบลอผิวด้วย CC แล้ว มุกก็ต่องานผิวด้วยรองพื้นตัวนี้ เอาอีกแล้วๆๆๆๆ นี่คือผิวบาร์บี้รึป่าว เรียบเนียนมากกกก ปกปิดริ้วรอยและจุดด่างดำได้ดี ตัวรองพื้นทำให้ผิวดูโกลว์ เนียน และกระจ่างใสมากค่ะ

มุกว่าคนผิวผสมหรือผิวมันใช้ได้ค่ะ เพราะฟินิชผิวออกกึ่งแมตต์ ไม่มัน ไม่เยิ้ม ส่วนตัวก็ชอบผิวแบบนี้เช่นกัน บอกเลยว่ายิ่งเจอแสงแดด ยิ่งสุดปังไปเล้ยยย ผิวฉ่ำโกลว์สุดๆ

ต่อด้วยแป้งพัฟ Weightless Perfection Wet And Dry Powder Foundation เป็นแป้งรองพื้นสูตรปกปิดขั้นสุด 

ด้วยความที่มุกไม่ค่อยชอบใช้คอนซิลเลอร์เท่าไหร่ เพราะมันดูหนักไป วันนี้เลยเลือกแป้งนี้มาปกปิดจุดด่างดำ รอยสิวที่ชัดๆ แทน ถึงจะเป็นแป้งผสมรองพื้น แต่เนื้อเขาก็ไม่หนักไป เบลอผิวดีมาก มุกว่าทาแป้งตัวนี้อย่างเดียว งานผิวก็รอดนะ แถมมีกันแดด SPF 30 ด้วยค่ะ 

ในส่วนของแพคเกจตลับเป็นสีเงินที่ค่อนข้างหรูพกติดตัวสะดวก ที่สำคัญตลับเขาจะใช้แม่เหล็กตรงฝาปิดเปิด แข็งแรงทนทาน ใส่ในกระเป๋าคือไม่เปิดหกเลอะเทอะแน่นอนค่ะ

ให้ภาพนี้เป็นการทดสอบการปดปิกของเจ้าแป้งตัวนี้กันค่ะ มุกลงผิวไปบ้างบางส่วน แต่ใต้ตามุกยังคล้ำมาก มุกขอใช้แป้งตัวนี้ ปกปิดใต้ตาแทนคอนซีลเลอร์เลยละกัน ซึ่งผลลัพธ์ก็ตามภาพเลยค่ะ ปกปิดดีมาก ผิวเนียน เป็นแป้งบางเบา แต่ให้การปกปิดสูง ตัวนี้ติดทนทาน ไม่ดรอประหว่างวัน มุกถ่ายรูปกลางแดด เหงื่อออก ก็ยังสามารถปกปิดรอยคล้ำใต้ตา

งานผิวผ่านไปแล้วก็ต้องเติมความโกลว์และความเลือดฝาดให้กับผิวกันหน่อย ด้วย Unlimited Blush

ตัวที่มุกมีนี้ เป็นสี 03 นะคะ สีโรสโกลด์ ชมพูทอง มีชิมเมอร์สีทองเป็นประกายผสม สีนี้ ผิวแทนทาก็สวย ผิวจะดูฉ่ำมาก ผิวขาวทาก็จะดูระเรื่อๆ แลดูสุขภาพดีค่ะ

ส่วนมุกจะเป็นคนผิวขาวเหลืองถึงสองสีนะคะ หลังทา เพื่อนๆจะเห็นได้ว่า เจ้าบลัชออนเล่นแสงได้ดีมาก จริงๆแทบไม่ต้องทาไฮไลท์เพิ่ม ก็เป็นฟินิชลุคงานผิวได้แล้ว ระดับความพึงพอใจในตัวนี้ มุกชอบมากค่ะ แต่ก็ยังอยากลองสีอื่นๆ ด้วย (รอบหน้าจะมาลองบลัชสีอื่นให้เพื่อนๆ ดูกันด้วยจ้า)

มาต่อด้วยไฮไลท์ค่ะ สำหรับบลัชออนที่ว่าโกลว์แล้ว ไม่จำเป็นต้องพึ่งไฮไลท์ก็ได้ แต่สำหรับมุก ต้องเติมค่ะ เติมไปอีก อย่าได้แผ่ว...

เจ้านี่คือ Glow Fusion Powder Highlighter เบอร์  01 นะคะ เป็นไฮไลท์เนื้อละเอียด ทาแล้วติดผิวดีมาก สีนี้จะออกเป็นสีขาวมุกนะคะ เวลารับแสงจะเป็นสีทองเบาๆ

จากรูปมุกทาเพิ่มในบริเวณ T-Zone นะคะ เพื่อให้ใบหน้าดูพุ่งขึ้น ทั้งหน้าผาก โหนกแก้ม ปลายจมูก กระจับปาก และบริเวณคางนิดหน่อยค่ะ หลังทาก็รู้สึกเหมือนเดินอยู่บนรันเวย์หน่อยๆ ค่ะ หน้าพุ่งขนาดนี้ มงต้องลงแล้วนะ

ไม่พอจ้าาาา...หน้าพุ่งแล้ว ต้องพุ่งอีกด้วย Eye Makeup Look โฉบเฉี่ยว เหมือนเหยี่ยวกระพรือปีก ด้วยนี่เลย  Green Me Eyeshadow Palette มุกเลือกเบอร์ 101 มา ซึ่งในพาเลทมี 9 เฉดสี หลักๆจะเป็นโทนน้ำตาลแดง เหมาะสำหรับลุคธรรมชาติ แต่งเป็น Everyday look ได้ง่ายๆ แต่มุกว่าถ้าใครอยากจัดเต็ม พาเลทนี้ก็โอเคอยู่นะคะ

เนื้อสัมผัสอายชาโดว์เนียนละเอียดดีค่ะ เกลี่ยง่ายมาก เบลนด์สีเข้ากันได้ง่าย สีสวย ชัดอยู่นะคะ ปาดเดียวเท่านั้นก็รู้เรื่อง… แต่ส่วนตัวมุกว่าบางสีอาจจะยังเบาๆอยู่ สามารถทาได้เลยไม่ต้องกลัวสีหนักไป

อันนี้แอบมีฮาวทูแต่งตาเล็กๆ จากพาเลทนี้มาให้ชมกันค่ะ เรียกลุคไม่ถูก ตอนแต่งคิดอย่างเดียวว่า...ชั้นจะใช้ทุกสีในพาเลทนี้ ฮ่าๆๆ

ลุคนี้มุกจะเน้นแตะสีเข้มเบาๆที่โคนตากับแนวขนตา แทนการใช้อายไลเนอร์ และเสริมด้วยการปัดขนตาเล็กน้อย เพราะชุดที่ใส่เป็นฟีลลิ่งแบบ Cottage Vibes ออกแนวสาวหวานสไตล์วินเทจ เลยอยากได้ลุคที่เป็นธรรมชาติ ตาฟุ้งๆ ไม่ได้จัดขนตาฟูหรือไลเนอร์หนักๆ

สิ่งสุดท้ายที่สำคัญที่สุด ที่เราขาดไปไม่ได้ก็คือลิปสติก ปากซีดไปก็ไม่รอดนะจ้ะ นาทีนี้เพื่อนต้องหยิบลิปสติกมาเติมปากแล้วล่ะ มุกอยากให้เพื่อนๆ ได้ลองลิปสติกและลิปกลอสจาก KIKO มาก เพราะสีนี้ชัดสุด เนื้อสัมผัสดี อันนี้พูดแบบไม่อวยนะคะ อยากให้ลอง แล้วจะรักจริงๆ

ขอพูดถึงกลอสรุ่น 3D Hydra Lipgloss ก่อนละกัน เขาเป็นลิปกลอสเนื้อฉ่ำวาว แต่ไม่เหนียวรำคาญปากเลย มีชิมเมอร์ทองเบาๆ เสริมความแวววาวให้ริมฝีปาก 

ที่มุกมีอยู่คือ สี 02 นะคะ เป็นสีนู้ดส้มอมชมพู เห็นเป็นกลอส แต่สีเขาชัดมากนะคะ ทาแล้วปากชุ่มชื้นมาก ติดทนนาน หัวแปรงแข็งแรง ตอนทาเกลี่ยสีง่ายมากค่ะ

มาดูลิปสติกกันบ้างค่ะ Smart Fusion Lipstick ที่มุกมีคือเบอร์ 404 สีนู้ดน้ำตาลกุหลาบ ให้ลุคใสๆ ทาออกมาเป็นสีนู้ดระเรื่อๆ อมชมพู วาวๆ เนื้อลิปออกเชียซาติน มีความมันวาวเล็กน้อย สีชัดนะคะ ทาออกมาดูเป็นธรรมชาติมากๆ ตัวนี้ไม่ทำให้ริมฝีปากแห้งค่ะ ติดทน แต่อาจจะมีเติมบ้างระหว่างวันค่ะ 

และนี่คือ Finish Look นะคะ แฮร่ๆ จริงๆ อยากจัดลุครันเวย์มาก แต่เผอิญ เราเป็นสาวหวาน!!! เลยออกมาเป็นแบบนี้ ฮ่าๆๆๆ ไว้มีเมคอัพลุคใหม่ๆ จะมาทำฮาวทูให้ชมกันอีกนะคะ สำหรับวันนี้ก็ขอจบการรีวิวเปิดกรุเครื่องสำอางแบรนด์ KIKO Milano แต่เพียงเท่านี้ มุกอยากให้ทุกคนได้ลอง ได้สัมผัสผลิตภัณฑ์ของเค้าจริงๆ เพราะมุกว่าของเขามีอะไรให้น่าเล่นเยอะมาก แถมราคาเบาๆ แต่คุณภาพเกินราคามากๆ

วันนี้มุกต้องขอตัวไปก่อน เจอกันบล็อกหน้านะค้าาาาา บ้ายบาย