Profile

ANASTASIA Brow Powder Duo ใช้สี ash brown ออกน้ำตาลเข้มหน่อยๆ

ต้องขอบอกก่อนค่ะว่ามีความคาดหวังกับแบรนด์มาก เพราะเป็นแบรนด์ที่ดังเรื่องคิ้วอย่างแท้ทรู และมีร้านทำคิ้วชื่อดังการันตี

แต่กับผลิตภัณฑ์ตัวนี้ขอบอกว่าค่อนข้างผิดหวัง เพราะสีไม่ค่อยติด ส่วนตัวคิดว่าใช้ยากมาก ต้องขูดประมาณ 10 บวกครั้ง ถึงจะเห็นสีออกมา แต่ตัวสีมันก็สม่ำเสมอและสีสวยและเนียนดี แต่ความขูดเอาสีมันออกมาอย่างยากลำบากทำให้รู้สึกว่าไม่ชอบ ไม่ค่อยใช้ค่ะ อยากให้ผลิตภัณฑ์มี pigmentation ที่ดีกว่านี้ค่ะ

Wet n Wild Ultimate Brow Kit ใช้สี Ash Brown เป็นสีน้ำตาลเข้มค่ะ

ขอเรียกสิ่งนี้ว่า eyebrow powder เปลี่ยนชีวิต เป็นหนึ่งในตำนานของที่ต้องมี เพราะว่าใช้ง่ายมากกก ปาดทีเดียว สีติดกริบ เขียนคิ้วได้คมสวย สีชัดเจน อยู่ติดทนตลอดทั้งวัน ไม่หลุด ไม่ไหล ไม่เป็นผงๆออกมา สีก็เหมาะกับคนผมดำ คนเอเชียจึงน่าจะใช้ได้ง่ายมากๆ เอาสีน้ำตาลอันอ่อนกว่าเขียนตรงตัวคิ้ว แล้วเอาสีเข้มเขียนปลายๆคิ้ว ไล้ตรงหัวคิ้วให้ละมุนหน่อย ก็ออกมาดูดีแล้วค่ะ

ส่วนตัวใช้กับแปรงเขียนคิ้วที่ซื้อมาเองต่างหาก เพราะแปรงฟันขนมันหนาไปหน่อยเขียนไม่ละเอียด แต่ไม่เป็นไรค่ะ เพราะเนื้อของผลิตภัณฑ์นั้นดีมากๆ ชอบ และแนะนำสำหรับผู้เขียนคิ้วด้วยแปรงทุกคน ให้ลองไปซื้อมาใช้ จะไม่ผิดหวัง ราคาถูก คุ้มค่า หาซื้อง่าย ซื้อได้เลยที่ร้านวัตสันค่ะ

Review SENKA Deep Moist Gel Cream
ขอขอบพระคุณผลิตภัณฑ์ดีๆจากกิจกรรม cosmenet ค่ะ

SENKA Deep Moist Gel Cream ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมบำรุงผิวจากธรรมชาติเพื่อช่วยฟื้นบำรุงผิวอย่างอ่อนโยนและล้ำลึก

ความพิเศษของผลิตภัณฑ์เมื่อแกะออกมาคือรู้สึกว่าเป็นของดี ดูแพงค่ะ กระปุกหนักดี จับถนัดมือ สีสันสดใส น่าใช้ สีดูสะอาดเย็นตา เป็นสีฟ้าแบบฟ้าผู้ดี เมื่อเปิดกระปุกครีมออกมา ครีมเป็นสีใส กลิ่นหอมอ่อนโยนให้ความสดชื่นมากๆ

ส่วนตัวเนื้อเจลครีมนั้น ก็นุ่ม เกลี่ยเนียนละเอียด เกลี่ยง่าย ไม่ทิ้งคราบหรือความเหนอะหนะบนผิว แต่ให้ความชุ่มชื้นเมื่อได้ทาลงไป เหมาะกับสภาพผิวได้หลายแบบ แต่ผิวมันก็น่าจะชอบเพราะเป็นกึ่งเนื้อเจล ไม่เหนอะหนะ สามารถทาก่อนแต่งหน้าได้อย่างสบายๆ ไม่ต้องกลัวเครื่องสำอางเป็นคราบระหว่างวัน หรือจะทาตอนกลางคืนก็ได้ เพราะเป็นเนื้อครีมที่ข้นพอสมควร และน่าจะให้ความชุ่มชื้นได้อย่างดีตลอดคืนเช่นกันค่ะ

เป็นผลิตภัณฑ์ที่แนะนำสำหรับผู้ที่ชอบความใสๆ สะอาด แบบดูผู้ดี เรียบหรู อ่อนโยนต่อผิว ใช้เป็นครีมได้ทั้งกลางวัน กลางคืน ราคาก็เป็นมิตรมากๆค่ะ กระปุกนึงมี 50 gram ราคาเพียง 399 บาท และหาซื้อได้ตาม drugstore และ supermarket ทั่วไป

Review Parrot Oil in Bath body wash อันดับ 3 ของ website cosmenet และขอขอบคุณผลิตภัณฑ์ดีๆสำหรับการ review จากกิจกรรม cosmenet ค่ะ
ตอนแรกที่เปิดกล่องและแกะดูสินค้า รู้สึกประทับใจ packaging ที่ดูหรู แพง สีสันดูเรียบหรูผู้ดี จับแล้วดูหนักมือ ดูเป็นสินค้าที่มี personality เป็นของตนเอง ได้ปริมาตรค่อนข้างมากสมราคาที่วางขาย

ความรู้สึกตอนดมกลิ่นแรกที่กดออกมาวางที่มือคือความเป็นเนื้อครีมที่หอมชวนใช้มากๆ เนื้อครีมสีขาวละเอียด พอเกลี่ยแล้วก็ละมุนดี เกิดฟองได้ง่าย ใช้ไปตามตัวแล้วรู้สึกว่าหอมและสะอาด ล้างออกได้ง่าย ไม่ทิ้งคราบไว้ที่ผิว เหมาะใช้กับวันที่มีเหงื่อออกมากๆได้ค่ะ ส่วนความชุ่มชืนหลังการใช้ยังไม่ชัดเจน แต่ไม่ได้ทำให้ผิวแห้งหรือรู้สึกตึงเลยค่ะ

เป็นครีมอาบน้ำที่รู้สึกว่า unique และส่วนตัวชอบมาก ไม่ค่อยชอบครีมที่อาบแล้วมันยังลื่นๆที่ผิว ซึ่งครีมอาบน้ำตัวนี้ไม่เป็นค่ะ ใช้แล้วรู้สึกว่าล้างทำความสะอาดได้เกลี้ยงดี น่าจะเหมาะกับทุกสภาพผิวค่ะ

Biore UV Anti-Pollution Body Care Serum Intensive White SPF50+ PA+++ เป็นผลิตภัณฑ์ดีๆอีกอันที่ได้มาจากกิจกรรม cosmenet ค่ะ:) ความรู้สึกคือชอบตั้งแต่บรรจุภัณฑ์สีสันสดใส ดูสะอาดตา น่าใช้ เปิดฝาขวดออกมากลิ่นก็หอมสดชื่น ให้ความรู้สึกอยากจะทาครีมกันแดดในตอนเช้าที่อาจจะง่วงหน่อยๆ 555 และ texture ของเนื้อครีมก็ซึมซาบไว ทาไปตอนแรกๆมันจะขาวๆหน่อย แต่พอเกลี่ยก็กระจายตัวซึมเข้าสู่ผิวได้ดีค่ะ

เดิมเคยใช้อยู่แล้วแต่เป็นอีกรุ่นหนึ่งสีเขียวฟ้า โดยรู้สึกว่ารุ่นนี้จะขาวกว่าเล็กน้อย คุณสมบัติกันน้ำ กันเหงื่อก็ดีพอสมควร แต่ไม่ถึงขั้นเหนียวเหนอะหนะค่ะ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ราคาไม่แพง หาซื้อได้ง่าย อีกทั้งคุณสมบัติพิเศษที่ช่วยในเรื่องของการป้องกันผิวจากฝุ่นและมลภาวะซึ่งเป็นสิ่งที่สาวๆในเมืองคงต้องการเป็นอย่างมากค่ะ

SENKA Perfect Gel Gentle Wash เจลล้างหน้าสูตรอ่อนโยน ให้ความชุ่มชื้นกับผิว ได้รับสินค้าจากกิจกรรม cosmenet ค่ะ :)

ขั้นแรกคือตอนเปิดกล่องนั้น กลิ่นสินค้าหอมมากๆค่ะ ประทับใจมาก คือกลิ่นยังติดกล่องที่ส่งมาเลย เป็นกลิ่นหอมอ่อนโยนเบาๆ ไม่ฉุนค่ะ และตัว packaging ก็ให้ความรู้สึกไปในแนวทางเดียวกับกลิ่น คือเป็น packaging ที่ดูคลีนมาก สีฟ้าสดใส เห็นผลิตภัณฑ์ข้างในเป็นสีใส ดูสะอาดตาค่ะ

ความรู้สึกขณะใช้คือเนื้อเจลใสแบบน้ำที่ละมุนดีมาก เกลี่ยง่ายไปกับผิว และไม่มีฟองตามที่บอกไว้จริงๆ ใช้ง่าย ไม่เหนอะหนะ ล้างออกได้ง่าย น่าจะเหมาะกับหลายๆสภาพผิวตั้งแต่ผิวแห้งไปจนถึงผิวผสมและผิวที่มันไม่มาก ที่ชอบอีกแล้วคือกลิ่น ใช้ไปก็ดมไป ฟินมากๆค่ะ ล้างเสร็จยังมีกลิ่นติด (หรือว่าล้างไม่เกลี้ยง 555) แต่ก็รู้สึกว่าผิวสะอาดหมดจดดีค่ะ

อีกทั้งยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อเงินในกระเป๋าเราอีกด้วย หาซื้อได้ง่ายตาม drugstore และแผนกเครื่องสำอางในห้างสรรพสินค้าทั่วไป ราคาตามฉลากคือ 179 บาทค่ะ

IT Cosmetics Your Skin But Better CC+ SPF 50+ เราใช้สี fair เป็น cc cream รุ่นที่ reviewer ต่างประเทศ review ไว้ดีมาก เลยต้องไปตำมาตามกระแสซักนิดนึง แต่ใช้แล้วแอบรู้สึกว่าหนักและมันไปหน่อยสำหรับอากาศบ้านเรา ถ้าอยู่เกาหลีอาจจะโอเค 555 แต่ให้คะแนนเม็ดสีชัดเจนเต็ม 100 ไปเลย cc cream อะไรจะปกปิดขนาดนี้ ปกปิดเหนือกว่า full-coverage foundation บางยี่ห้อค่ะ ทาปาดเดียว กริบไปหมด หลังๆต้องใช้น้อยมากๆ แล้วแตะๆเอาเฉพาะจุด ไม่งั้นเป็นคราบ ชอบที่สุดคือ spf เยอะดี ไม่รู้ว่าเพราะใส่สารกันแดดทำให้ครีมมันค่อนข้างหนักและเหนียวหรือเปล่า แต่คิดว่าถ้าอยู่เมืองหนาวน่าจะใช้ดีนะคะ คนผิวมันระวังค่ะ

GATSBY Oil Clear Sheet (70แผ่น) เป็น Oil removing film ในดวงใจที่หนึ่งตลอดกาล ซับมันได้ดี ซับแล้วเครื่องสำอางไม่ค่อยเป็นคราบ (คิดว่า) ซับแค่ประมาณวันละ 1-2 แผ่นก็เอาอยู่ เป็นคนหน้ามันโดยเฉพาะตรงทีโซน แล้วก็คุ้มราคา เหมือนกับว่าแผ่นนึงมันซับน้ำมันได้เยอะกว่าแบบที่เป็นกระดาษแข็งๆในความรู้สึกเรา ชอบรุ่นที่ไม่มีแป้ง เพื่อไม่ให้ดู matt จนเกินไปและเลอะเทอะเวลาใช้ ถ้ารุ่นนี้ลดราคาเมื่อไร ก็โกยหมดเลยค่ะ

Cover FX Blurring Primer primer ตัวนี้ก็เป็นของดีเลยนะคะในความรู้สึกเรา เนื้อไม่ค่อยเหมือนซิลิโคน น่าจะไม่ค่อยทำให้อุดตันมากนัก รู้สึกว่าเนื้อจะคล้ายกับตัว hourglass veil primer ที่เนื้อออกครีมนิดนึงแต่พอทาลงบนผิวจะเปลี่ยนเป็นเนื้อสัมผัสเป็นแป้ง ช่วยเป็น base สำหรับ makeup ให้ลงได้อย่างเนียนมากขึ้น และไม่ทำให้มันหรือเหนียวเหนอะหนะ เหมาะสำหรับคนหน้ามัน ใช้ได้ทั้งใบหน้า ไม่มีกลิ่นฉุน น่าจะไม่ใส่น้ำหอม สีเป็นสีเนื้อ แต่พอทาลงกับผิวจริงๆจะเปลี่ยนเป็นไม่มีสีอะไร อยู่ติดทนทั้งวัน ไม่เป็นคราบ แนะนำค่ะ

Cetaphil Moisturizing Cream เป็นครีมทาให้ความชุ่มชื้น โดยส่วนตัวคิดว่าเหมาะสำหรับคนผิวแพ้ง่าย เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ดูคลีนมากๆค่ะ ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น มีเหมือนกลิ่นคล้ายๆยา เนื้อครีมค่อนข้างหนัก แต่ซึมเร็วดี สามารถใช้ก่อนแต่งหน้าได้เช่นเดียวกัน ไม่ทิ้งคราบ ไม่เลอะเทอะ แต่ส่วนตัวแล้วไม่ค่อยชอบกลิ่นมันเท่าไรค่ะ รู้สึกว่ากลิ่นเหมือนยาเกินไปยังไม่รู้ 5555 แต่คุณภาพหมายถึงตัวเนื้อครีมแล้วก็ ok ดี แต่ปัจจุบันใช้ครีมที่มีกลิ่นอ่อนๆ ทาแล้วรู้สึกสดชื่นมากกว่า แต่สำหรับคนผิวแห้ง และผิวแพ้ง่ายใช้อะไรก็แพ้ ลองตัวนี้ดูก็ดี เห็นเค้า claim ว่าไม่อุดตันสิวด้วย ก็อาจจะจริง เพราะครีมค่อนข้างซึมเร็วค่ะ

ACSEINE Super Sunshield BRIGHT VEIL SPF50+PA++++ อันนี้เรียกเองว่ารุ่นฝาส้ม เนื้อและกลิ่นจะคล้ายๆรุ่น Super Sunshield EX แต่โดยส่วนตัวคิดว่าอันนี้หนากว่าเล็กน้อย และสีออกส้มกว่า แต่จริงๆแล้วก็ช่วย bright ผิวขึ้นมาได้ 1 ระดับเหมือนกัน ทาติดทนทั้งวัน ไม่แมท แต่ก็ไม่มัน เป็นคนหน้ามัน แต่ทาอันนี้อยู่ได้ทั้งวันไม่ต้องซับ ไม่ต้องลงรองพื้นด้วย เพราะมันช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอในตัวมันอยู่แล้ว

ACSEINE Super Sunshield BRIGHT FIT SPF50 + PA ++++ เป็นครีมกันแดด physical เนื้อบางเบา แต่ส่วนตัวคิดว่าหนากว่ารุ่น EX sun shield ที่ฝาสีเนื้อเล็กน้อย ตอนทาแรกๆจะตกใจเพราะมันจะขาววอกๆ แต่ให้ตั้งสติ ค่อยๆนวดวนไปบนใบหน้าแล้วความวอกจะหายไป 5555 คือทำให้ผิวขาวขึ้น 1 ระดับได้แบบไม่วอกค่ะ สรุป แต่ไม่รู้ทำไมเราชอบรุ่น EX sun shield มากกว่า แม้โดยส่วนตัวจะผิวขาว อาจจะแค่ตกใจความรู้สึกตอนทาแรกๆแล้วมันวอกมั้ง ใครผิวขาวมากๆ ลองใช้ดู น่าจะไม่ผิดหวังค่ะ

ACSEINE Super Sunshield EX SPF50+ PA++++ เป็นครีมกันแดดที่ตอบโจทย์ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต เพราะเป็นคนหน้ามัน สีผิวไม่สม่ำเสมอ และต้องการการกันแดดอย่างสูงๆ ซึ่งครีมตัวนี้เด่นมากตรงที่มันปรับสีผิวเราได้ด้วย ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและสม่ำเสมอและขาวขึ้น 1 ระดับแบบไม่วอกเหมือนครีมกันแดด physical ทั่วไป และใช้เป็น primer ก่อนลง foundation ได้ด้วย แต่โดยส่วนตัวแล้วถ้าใช้ตัวนี้ก็ไม่ใช้ foundation เลย เพราะคิดว่ามันปกปิดได้ดีพอสมควรสำหรับเรา คือตอบโจทย์ปัญหาผิวที่เรามีอยู่ อีกทั้งมันไม่มันเลย กลิ่นก็หอมสดชื่น ดมแล้วมีความสุขขึ้นในวันนั้น ใช้ทั้งวันไม่ต้องซับหน้า แต่ก็ไม่ได้ดูแมทเกินไปด้วย ตัวนี้รักมาก ใช้ต่อตลอดชีวิต

Banana Boat Ultra Protect Sunscreen Lotion SPF50 PA+++ตัวนี้เป็นครีมกันแดดทาตัวที่ใช้จริงทุกวัน ใช้มาอย่างยาวนานหลายปีแล้ว ยังไม่เปลี่ยนใจ ถ้าลดราคาก็จะรีบซื้อ เพราะว่าไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมไว แต่ก็ไม่ได้แห้งจนแมทเป็นเนื้อแป้งไปเลยทำให้ผิวสากๆ กลิ่น unique ดี ถ้าทาอันนี้เพื่อนจะทักเลยว่าใช้ banana boat มาใช่ไหม ครีมกันแดดอันนี้เป็นแบบ chemical คือไม่มีสี ไม่วอก ส่วนตัวแล้วถ้ามีโอกาสจะทาซ้ำระหว่างวันด้วย เพราะกลัวเวลาเหงื่อออกแล้วมันหลุดไปค่ะ ราคาที่เคยซื้อที่วัตสันถ้าลดราคาอันนึงจะประมาณ 300 บาทค่ะ

Banila Co Clean It Zero Cleansing Balm น่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอางทีดีที่สุดที่เคยใช้มา ที่ 1 ทั้งใน cosmenet และที่ 1 ในใจเลยค่ะ

เหตุผลที่ชอบมาก เพราะส่วนตัวชอบใช้มือล้างหน้า ไม่ชอบใช้สำลีเช็ด บาล์มที่เหนียวๆติดมือดีแบบนี้ถึงตอบโจทย์ อีกทั้งกลิ่นละมุน ไม่ฉุนไป แต่ก็ไม่ได้ไม่มีกลิ่นเลยจนทำให้รู้สึกไม่สดชื่น ความรู้สึกครั้งแรกที่ใช้คือฟินมาก เหมือนเจอคู่แท้ 5555 เพราะเนื้อบาล์มมันยังเป็นบาล์มแม้จะอยู่ในอากาศร้อนอย่างบ้านเรา ไม่เหนียว ไม่เยิ้ม ไม่ละลาย วิธีใช้ก็ง่ายมาก แค่ตักบาล์มใส่มือพอประมาณ ถูๆให้เข้ากันนิดนึงแล้วก็เอามาล้างเครื่องสำอางที่หน้าเลย นวดๆจนเป็นน้ำนมที่หน้า และล้างออกด้วยน้ำเปล่า เครื่องสำอางหนักแค่ไหน แม้บริเวณรอบดวงตา ก็เช็ดออกหมดจด ไม่ทำให้แสบตาหรือระคายเคืองตาเลยแม้แต่นิดเดียว

จริงๆแล้วเขาบอกว่าไม่ต้องใช้เจลล้างหน้าอีก แต่ส่วนตัวเป็นคนหน้ามันก็เลยจะล้างด้วยเจลล้างหน้าอีกรอบค่ะ

ราคาก็ถูกเทียบกับคุณภาพและ high end brand ที่คล้ายๆกันเช่น clinique แถมซื้อได้ตอน 1 แถม 1 ลองติดตามจากเพจ FB ของ banila co จะมีโปรโมชันอยู่เรื่อยๆ ของเราใช้รุ่น original สีชมพูค่ะ

Parrot Natural Hyaluron Vitamin C&E Body Wash ครีมอาบน้ำกลิ่น orange ตัวครีมสีสันสดใสน่าใช้ กลิ่นหอมธรรมชาติแบบกลิ่นส้ม ได้จากกิจกรรม cosmenet ขวดก็สีสันสดใส เห็นแล้วสดชื่นดี

จากการทดลองใช้ รู้สึกว่าถูให้เป็นฟองลำบากอยู่นิดนึง แต่ตัวเนื้อครีมนุ่มลื่นดี ไม่รู้สึกระคายเคืองขณะใช้ ตอนแรกมาทดลองกับมือก็รู้สึกว่าล้างง่ายดี รู้สึกมือสะอาด ไม่แห้งตึง พอมาใช้อาบน้ำ อาบเสร็จก็รู้สึกผิวสะอาดดี ไม่แห้งตึงเหมือนกัน ผิวโดยรวมนุ่มขึ้นเล็กน้อย หลังจากอาบ ยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆติดอยู่

ราคาเข้าถึงง่าย หาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาร์เกตทั่วไป มีหลายสี หลายกลิ่นให้เลือก แต่ทุกกลิ่นเน้นไปที่กลิ่นหอมเบาสบายแบบดอกไม้หรือธรรมชาติ แต่ตัวมันก็น่าจะมีน้ำหอมสังเคราะห์อยู่ ผิวแพ้ง่ายควรระวังเช่นกันค่า

Vaseline Dry Serum Ultra Whitening Deodorant แบบ serum ที่ใช้ใต้วงแขนได้ เป็นผลิตภัณฑ์แรกที่เคยเห็นทำในรูปแบบนี้ ได้สินค้าจากกิจกรรม cosmenet จากการลองใช้รู้สึกว่านุ่มลื่น เกลี่ยง่ายดี บีบออกมาประมาณเม็ดถั่วเขียว แล้วค่อยปาดให้ทั่วใต้วงแขน ไม่เหนอะหนะ ยังไม่เห็นเป็นคราบ 

แต่รู้สึกว่ากลิ่นมันค่อนข้างจะฉุนไปหน่อยค่ะ ขอหักคะแนนเรื่องกลิ่น ถ้าใช้เยอะไป จะรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองใส่น้ำหอม ซึ่งไม่ค่อยชอบความรู้สึกแบบนั้นเท่าไร น่าจะทำกลิ่นอ่อนโยน หรือกลิ่นเหมือนดอกไม้อ่อนๆดีกว่า เป็นเรื่องเดียวที่อาจจะยังไม่ค่อยชอบค่า

ราคาปัจจุบันขวด 50 ml เห็นอยู่ที่ 119 บาทที่ watsons หาซื้อง่าย ใช้สะดวก ซึมซาบดี คิดว่าน่าสนใจจะซื้อต่อค่ะ

NARS Orgasm Blush เป็น blush ยอดนิยมระดับโลกเลยมั้ง 555 เห็นทุกคนต้องเคยใช้ เป็น blush สีชมพูประกายทองๆ แต่พอเอามาปัดบนหน้าจริงๆ ก็ไม่ได้วิ้ง shimmer ขนาดนั้น คือยังทำให้ผิวดู look matte ได้อยู่ ไม่วาวจนเกินไป และยังได้ความ glow แบบงานผิวด้วย จัดว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ unique ควรค่าแก่การสอยมาลองมากๆ สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยใช้ค่ะ

Schwarzkopf Fresh Light Foam Color ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมแบบโฟมได้ง่าย ทำเองได้ ไม่ต้องมีผู้ช่วย ทำให้เราเป็น independent girl ได้เต็มที่ 555

วิธีการใช้มีเขียนอย่างละเอียดที่ข้างกล่อง เคยทำนานแล้ว แต่จำได้ประมาณว่าไม่ได้ใช้เหมือนน้ำยาสระผมนะคะ คือทำเหมือนจะย้อมผมทุกอย่าง คือต้องสระผม ทิ้งให้แห้งก่อน เสร็จแล้วก็ใช้โฟมอันนี้ชะโลมลงไปแทนแบบที่เป็นเนื้อครีม กลิ่นฉุนอยู่ คิดว่าสารเคมีข้างในน่าจะคล้ายๆกัน ผู้แพ้สารในน้ำยาย้อมผมควรเช็กส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์อย่างละเอียดก่อนใช้ หรืออาจลองทาที่ท้องแขนทิ้งไว้ 48 ชม. ดูว่ามีปฏิกิริยาหรือผื่นขึ้นหรือไม่ก่อน จะปลอดภัยกว่า

ความรู้สึกหลังใช้ก็รู้สึกว่าสีออกมาตามที่ต้องการ สีติดทนดี ผมยังดูไม่เสียเท่าไรหลังย้อม แต่ก็รู้สึกว่าแห้งๆลง และก็มีกลิ่นน้ำยาติดอยู่หลายวันอยู่ ความติดทนของสีก็พอๆกับที่เป็นเนื้อครีมในความรู้สึกเรา

สรุปก็ยังแนะนำ ใช้ง่าย สะดวก มีหลายเฉดสีให้เลือก หาซื้อได้ตามร้านวัตสันหรือห้างสรรพสินค้าทั่วไป คนอยากย้อมผมเองง่ายๆ ลองซื้อมาใช้ดูค่ะ

Laura Mercier Foundation Primer เป็น primer ที่จำได้ว่ามันมีหลายรุ่นหลายแบบอยู่ แต่ที่ชอบและคิดว่าใช้ได้คือรุ่น original ที่เป็นสีชมพูอ่อน กลิ่นตุ่นๆนิดนึง ก็ช่วยคุมมันได้บ้าง ทำให้ลง foundation ได้ง่ายขึ้น แต่ส่วนตัวก็ไม่ได้ปลื้มเท่าไรนัก เหมือนตอนใช้หรือไม่ใช้ก็เฉยๆ ไม่รู้สึกว่าต่างกันในเรื่องความ longlasting ของเครื่องสำอาง หรือช่วยกระชับรูขุมขนอะไรค่ะ ปัจจุบันเลิกใช้ไปแล้ว

Laura Mercier Tinted Moisturizer ก็คือ moisturizer ที่มีสีผสม ไม่ได้ให้การปกปิดมากนัก เหมาะกับคนผิวดีอยู่แล้ว ไม่มีร่อยรอยสิวหรือรอยแดง รอยดำมากนัก 

จริงๆแล้วตอนแรกคาดหวังไว้กับตัวนี้สูงเหมือนกัน เพราะเห็น reviewer ต่างชาติ review ไว้ดี แต่พอมาใช้จริง อาจจะด้วยสภาพผิวตัวเองที่ค่อนข้างมัน และสภาพอากาศเมืองไทยที่ร้อนมากๆ เหงื่อไหลไคลย้อย tinted moisturizer ตัวนี้สำหรับเราจึงไม่ตอบโจทย์สุดๆ แบบว่าทาลงไปซัก 2 ชั่วโมง โบ๊ะแป้งตามไป ยังต้องซับหน้ามัน คือต้องคอยซับๆๆๆทั้งวันนั่นแหละ จนเบื่อมากเลิกใช้ไปเลย แล้วสีมันก็เข้มไปสำหรับสีผิวเราด้วยค่ะ ใช้สี porcelain แล้ว หน้าก็ดำหมองคล้ำสุดๆ ไม่มี aura ใดๆทั้งสิ้น จึงเลิกใช้ไปแล้วค่ะ

แต่สำหรับคนที่หน้าไม่มันมาก ปัญหาผิวไม่เยอะ สีผิวเหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ มันก็น่าจะใช้ง่าย เกลี่ยง่ายดีไม่เป็นคราบค่ะ

Hourglass Veil™ Mineral Primer มาอยู่เป็น primer ตั้งอันดับ 46 ได้ยังไงคะ 5555 ไม่อยากจะเชื่อ คืออันนี้มันดีมากๆค่ะ เป็นอันดับ 1 ในใจเราแน่นอน คือมันไม่เหมือน primer ทุกอันที่เคยใช้มา ความพิเศษมันอยู่ที่ว่าปรับ texture หน้าเราให้เนียนละเอียด เหมาะสำหรับการลง foundation ต่อ ทำให้ foundation อยู่ longlasting และเห็นเม็ดสีได้ชัดเจนขึ้น ช่วยอำพรางรอยแดง ริ้วรอย และรูขุมขนกว้าง ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน ตามที่เค้า claim เลย คือเป็น primer ที่ใช้แล้วเห็นความแตกต่างระหว่างการใช้กับไม่ใช้ ไม่ทำให้น้ามันระหว่างวัน

ถ้าเป็นคนหน้าแห้งหรือผิวผสม แนะนำให้ใช้แค่ทีโซนก็พอ แต่ถ้าหน้ามัน ก็ทาบางๆทั้งหน้าไปเลย อันนี้มันเอามาลบเครื่องสำอางได้ด้วยนะ เช่นเขียนอายไลเนอร์เลยไปนิดนึง ใช้ primer อันนี้แตะกับสำลีหรือ cotton bud ลบออกได้เลย ไม่ทำให้ makeup ที่ลงไปแล้วหลุดออกมาด้วยค่ะ สารพัดประโยชน์มากๆ มันควรจะเป็น primer อันดับ 1 จริงๆนะคะ 5555

Hourglass Ambient Lighting Powder เป็นแป้ง highlight ที่เรียกว่าดีเกือบที่สุดเท่าที่เคยใช้มาค่ะ เหตุผลเพราะความเป็นธรรมชาติของแป้งอันนี้ คือ highlighter บางอันและส่วนใหญ่เลย เวลาใช้เราจะรู้สึกว่ามันวาวเกินไป และทำให้เห็นรูขุมขนใหญ่ขึ้น (หรือเป็นเฉพาะเรา 555) และบางอันก็สีเหลืองอร่าม ทาไปบนหน้างิ ผิดสีสุดๆ แต่อันนี้คือไม่มีปัญหาแบบนั้นเลย คือเนื้อแป้งละเอียดแบบ high end เกลี่ยง่ายมากๆ สีธรรมชาติสุดๆ แต่ได้ความวาวเหมือนมีคนมาถือ spotlight ให้ตลอด ไม่มีกลิ่นอะไร อีกอย่างที่ดีคือเนื้อแป้งไม่หลุดออกมาเป็นขุยๆด้วย เนื้อเป็นกึ่งครีม แต่เวลา apply แล้วเป็นลุคแมตต์แบบแป้งค่ะ

แนะนำๆๆๆๆมากๆค่ะ คุ้มทุกบาทุกสตางค์ที่ซื้อไป ถ้าหมดก็ซื้อต่อแน่นอนจ้า

Smashbox Photo Finish Foundation Primer จัดเป็นผู้บุกเบิกกระแส primer แบบ silicone-based ตัวนี้น่าจะเป็นรุ่นแรกๆที่ออกมาทำตลาด และได้รับความนิยมและะมียอดขายสูงมาจนถึงปัจจุบัน

ความรู้สึกจากการใช้คือทำให้หน้ามันน้อยลง หน้า smooth ขึ้น รูขุมขนเล็กลง ใช้ทาก่อนจะลง foundation มันจะเกลี่ยง่ายขึ้น และระหว่างวันก็รู้สึกว่าติดทนมากขึ้น

แต่อย่างไรก็ตามส่วนตัวตอนนี้เลิกใช้ไปแล้ว เพราะรู้สึกว่าไม่ใช้เครื่องสำอางก็อยู่ทนพอสมควรอยู่ และเพื่อลดเวลาและประหยัดเงิน 555 แต่ถ้าคนที่แต่งหน้าไม่ค่อยอยู่ หรืออยากให้เครื่องสำอาง long lasting ก็ลองมาซื้อใช้ดูเผื่อจะชอบและช่วยแก้ปัญหาชีวิตได้ค่ะ

ข้อมูลทั่วไปผลิตภัณฑ์
Biore UV Aqua Rich Watery Essence SPF50+ PA++++ กันแดดเนื้อเจลบางเบา กันน้ำ กันเหงื่อ SPF สูงแต่ไม่เหนียวเหนอะหนะ สูตรที่ได้มาแนะนำการใช้ทาหน้าและลำคอ

ที่มาสินค้า
ได้มาจากกิจกรรมดีๆของ cosmenet 

ความรู้สึกหลังใช้
Texture ผลิตภัณฑ์
เป็นครีมกันแดดที่เนื้อเจล unique มากๆ คือไม่มีความเหนอะหนะ ไม่มีคราบขาว คราบเหลือง แล้วก็ทาและเกลี่ยไปกับผิวง่ายมากๆ ครีมกันแดดบางอันมันจะเหนียวแล้วก็เวลาเกลี่ยก็จะเป็นคราบๆไปทั่วๆ แต่อัันนี้คือไม่มีความรู้สึกแบบนั้นเลย เหมือนเป็น skin care มากกว่า รู้สึกเหมือนไม่ได้ทาอะไรเลย มันเบาขนาดนั้น

กลิ่น
กลิ่นหอมอ่อนๆแบบทำให้รู้สึกสดชื่น เหมาะกับอากาศประเทศไทย ไม่มีกลิ่นฉุนแบบครีมกันแดดแบบอื่นๆ ผลิตภัณฑ์นี้ใส่น้ำหอม จึงอาจไม่เหมาะกับผู้แพ้น้ำหอม

ความติดทนนาน
อันนี้ติดทนนานจริงๆ คือมีเหงื่อไหลซึมออกมาบ้างระหว่างวัน แต่ครีมกันแดดก็ไม่ไหลตามออกมา จริงๆผลิตภัณฑ์ claim ว่าทาทับ makeup ระหว่างวันได้เลย แต่ยังไม่ได้ลอง แต่คิดว่าด้วยเนื้อบางเบาขนาดนี้ น่าจะทาทับได้เลย ไม่เป็นคราบจริงๆ

ประสิทธิภาพ
จากที่ดูส่วนประกอบ น่าจะเป็น pure chemical sunscreen ซึ่งข้อดีก็คือว่าซึมไว ไม่เป็นคราบขาว แต่ข้อเสียนิดเดียวก็คือว่าถ้าออกแดดนานๆ น่าจะต้องทาซ้ำ และทาแล้วอาจจะต้องรอซัก 15 นาทีก่อนค่อยไปออกแดด คือต้องรอให้มันซึมก่อน

ราคา
อันนี้เป็นอีกข้อดีเหมือนกัน คือราคาน่ารัก หาซื้อง่าย เป็นผลิตภัณฑ์ drugstore แต่ใช้ได้จริง แหล่งซื้อหลักๆก็น่าจะ watsons/Boots/ซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป ราคาที่ watsons ปัจจุบัน 50 กรัมอยู่ที่ 420 บาท

แนะนำผลิตภัณฑ์
ผลิตภัณฑ์ YSL all hours foundation ใช้สี B10 อยู่ ซื้อเพราะมีคุณอาแนะนำ ข้อเด่นของผลิตภัณฑ์นี้เท่าที่ทราบมาคือติดทนยาวนาน 24 ชม. แต่ไม่แห้งเกิน ไม่เป็นเค้ก ไม่ตกร่อง SPF 20 PA+++ เหมาะกับทุกสภาพผิว

ความรู้สึกส่วนตัวแบบ honest
ความรู้สึกหลังใช้คือรู้สึกว่าเป็น foundation ที่ปังมาก คือเหมือนได้ผิวใหม่ขึ้นมาเลย หน้าจะ glow แต่ไม่ดูมัน คงจะด้วยด้วย pigment ระดับ high end brand เป็น foundation ที่ใช้มือเกลี่ยก็ได้ ใช้ฟองน้ำหรือแปรงเกลี่ยก็ดี ที่รู้สึกว่าถูกใจมากคือพอถ่ายรูปออกมาหน้า glow กริบมีออร่ามากๆค่ะ

กลิ่น?
foundation อันนี้มีกลิ่นฉุนอยู่ แต่เป็นกลิ่นดีค่ะ ถ้าคนที่ไม่ได้แพ้น้ำหอมอะไรก็คงไม่มีปัญหา

ความติดทนนานสมคำร่ำลือ?
ส่วนที่ว่าอยู่จริงๆมันจะอยู่ได้ซักกี่ชั่วโมงนั้น ส่วนตัวเคยใช้ยาวนานประมาณ 12-16 ชั่วโมง ก็มีเยิ้มต้องซับบ้าง แต่มันเป็นเยิ้มแบบดูสุขภาพดี 555 พูดยากจัง ต้องลองใช้เองค่ะ

วิธีที่จะทำให้ได้ผลดียิ่งขึ้น?
เพื่อประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นของผลิตภัณฑ์ สามารถใช้คู่กับ ไพรเมอร์ได้ แต่ส่วนตัวไม่ได้ใช้ primer ก็รู้สึกติดทนดี

ซื้อที่ไหน? ราคาเท่าไร?
ราคาตัวนี้อยู่ที่ 2,500 บาท ขนาด 25 ml เราใช้ได้นานเป็นปีอยู่ ซื้อจาก central online รีบกดตอนมันลด 10% จะเหลือ 2,250 บาท แหล่งซื้ออื่นๆก็คือที่ร้าน YSL เองที่ Emquatier ชั้น 1/siam paragon/central ชิดลม/central ลาดพร้าว/central ปิ่นเกล้า/central บางนา

รีบไปลองกันนะคะ คุ้มค่าคุ้มราคาค่ะ

ANESSA Perfect UV Sunscreen Skincare Milk SPF50+ PA++++ หรือที่เรารู้จักกันดีในนาม Anessa สีทอง จัดเป็นครีมกันแดดในตำนาน และคนรอบข้างก็ใช้กันเยอะมาก 

พอได้มาลองใช้เองก็ชอบในความบางเบาแต่ไม่ถึงขั้น matt เป็นเนื้อแป้งทำให้ผิวเป็นขุยๆ คือมันก็เป็นเจลกึ่งโลชั่นน้ำนม แต่ทาไปแล้วซึมซาบดีมากๆ ไม่ทำให้ผิวเหนอะหนะ ใช้เหมือนเป็น primer ก่อนแต่งหน้าได้ ไม่ทำให้มันเยิ้มระหว่างวัน ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่หายากของครีมกันแดด เข้าใจว่าอันนี้เป็นทั้ง physical และ chemical sunscreen รวมกัน ก็เลยได้ข้อดีของทั้ง 2 แบบ คือสะท้อนแสงออกไปด้วย และติดทนดีด้วย จัดว่าเป็นครีมกันแดดในตำนานที่คุณภาพเหมาะสมกับชื่อเสียงจริงๆค่ะ

SNAILWHITE Crème Body Wash เป็นผลิตภัณฑ์อาบน้ำที่ได้มาลองใช้โดยบังเอิญ เป็นผลิตภัณฑ์ที่คนในครอบครัวซื้อมา แต่พอใช้แล้วรู้สึกชอบมากคือตอนบีบออกมารู้สึกเหมือนเป็นครีมหรือโลชั่นเหนียวๆที่เข้มข้นมาก กลิ่นก็ถูกชะตากันดี ใช้แล้วรู้สึกว่าสะอาด ล้างออกง่าย และรู้สึกสนุกกับการอาบน้ำมากยิ่งขึ้น มีครีมทาตัวที่กลิ่นเดียวกันด้วย ใช้คู่กันแล้วก็ยิ่งหอมสดชื่น เป็นผลิตภัณฑ์ไทยๆราคาน่ารัก เหมาะแก่การอุดหนุนจริงๆค่ะ

ผลิตภัณฑ์ Biore
UV Anti-Pollution Body Care Serum Refresh Bright SPF50+/PA+++ นั้นเป็นผลิตภัณฑ์กันแดดที่รู้สึกว่าเด่นตรงความไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมง่าย มีกลิ่นที่ให้ความสดชื่น (ซื้อรุ่นที่เป็นสีฟ้า) และรู้สึกเย็นนิดๆด้วย ให้ความสดชื่นเหมาะกับประเทศไทยดีค่ะ ตอนโดนเหงื่อ (แต่จริงๆเป็นคนเหงื่อไม่เยอะเท่าไร) ก็ไม่รู้สึกว่าเหนอะหนะ หรือทำให้ซึมออกมา แต่แนะนำว่าถ้าต้องอยู่กลางแจ้งนานๆ ก็ทำตามข้างขวดแนะนำ ก็คือทาซ้ำทุกๆ 2-4 ชั่วโมงก็จะดีค่ะ

Eucerin Aquaphor Soothing Skin Balm อันนี้จริงๆก็เหมือนวาสลีนแบบอัพเกรดให้ใช้ได้สารพัดประโยชน์มากขึ้น texture คล้ายวาสลีนทั่วไปแต่ส่วนตัวรู้สึกว่าเบาบางกว่าเล็กน้อย ใช้ทาหน้าตรงแห้งๆลอกๆก็พอได้ ไม่หนาหรือทำให้รู้สึกอุดตันมากนัก กลิ่นดีและละมุนอยู่ (บางคนจะสงสัยว่าดมทำไม 555)

ข้อเด่นของมันเลยคือความสารพัดประโยชน์ คนขายบอกว่าใช้ได้ตั้งแต่หัวจรดเท้า หรือใช้ได้ทุกที่ที่คิดว่าแห้ง ไม่ว่าจะหน้า ตัว หรือส้นเท้า ตอนโฆษณาตัวนี้เขาก็ claim หนักไปที่ส้นเท้าเลยว่าลดส้นเท้าแตกได้ ทาตามซอกนิ้ว ซอกมือ ซอกเล็บที่แห้งๆก็ได้เช่นกัน เวลามีแผลหลังทำ laser ตัวนี้ก็เป็นจุดขายของเขานะคะ ว่าเอาอยู่ ทาหลังทำ laser ได้เลย จะช่วยลดแดง ลดขุยได้เร็วกว่าวาสลีนทั่วไป (จากงานทดลอง)

ลองใช้ดูนะคะ สำหรับคนที่ผิวแห้งมากๆ หรืออยากลองวาสลีนแบบอัพเกรดดู ราคาไม่่แพงมาก หาซื้อได้ทั่วไป วัตสันหรือบู๊ทส์มีค่ะ

Laura Mercier Translucent Loose Setting Powder จัดเป็นแป้งในตำนานเปลี่ยนชีวิตใครหลายๆคนๆ และจัดเป็น game changer อันนึงในวงการเครื่องสำอางก็ได้ เพราะทำให้หน้าเนียนกริบ โดยไม่ทำให้ดูเค้ก เป็นแป้ง หรือไปเพิ่มความหนาให้กับรองพื้นด้านใต้ หน้าที่หลักของมันคือ set ให้เครื่องสำอางอยู่ไม่ move ระหว่างวัน เคยเห็น beauty guru ท่านนึงสาธิตปาดลิปสติก 2 ที่ ที่นึงทาแป้งอันนี้ อีกอันไม่ทา เอามือลูบหรือเอามือไปโดน จะเห็นความแตกต่างเลยว่าฝั่งที่ set ด้วย loose setting powder นี้จะอยู่ทน ไม่ขยับตามมือ จัดว่าดีค่ะ

ความรู้สึกส่วนตัวตอนใช้ก็รู้สึกเข้าใจว่าทำไมมันถึงโด่งดังค่ะ เพราะว่าเกลี่ยได้เนียน ใช้ง่าย ใช้ beauty blender หรือ แปรงเกลี่ยให้ฟุ้งๆไปทั่วหน้าก็ได้ ช่วยคุมความมัน ไม่ add coverage ให้ดูหนา และเติมระหว่างวันก็ยังได้ ไม่มีกลิ่นเท่าไร ตอนใช้รู้สึก high end สมราคาค่ะ

ซื้อมาหลายกระปุกแล้ว ลดราคาตัวนี้เมื่อไร ไม่มีพลาดค่ะ ^^

SRICHAND Translucent Loose  Powder เป็นผลิตภัณฑ์ที่เรารู้สึกว่ามันคุ้มราคา คือถึงแม้จะมี Loose powder อีกหลายอันที่ชอบ แต่ถ้าเทียบกับราคาแล้ว ไม่มีอันไหนคุ้มเท่าอันนี้ค่ะ

ที่ชอบเพราะว่าเนื้อเนียนละเอียด สีออกขาวเหลืองเหมาะกับสีผิวจีนๆแบบเรา เกลี่ยง่ายมากๆ คือใช้แล้วรู้สึก air brush แบบไทยๆมากค่ะ 5555 ที่สำคัญคุมมันได้ดีมากๆ ใช้แล้วรู้สึกว่าหน้าไม่มัน ไม่เยิ้ม ไม่ต้องคอยซับบ่อยๆระหว่างวัน กลิ่นก็ไม่แรงมากด้วย ทำให้ตอนใช้ไม่ค่อยรู้สึกระคายเคืองหรือคัดจมูกมากนัก

ชอบมากๆค่ะ ไว้มีโอกาสจะต้องซื้อใช้ต่อค่ะ

ทราบข่าวสารกิจกรรมจาก cosmenet ค่ะ ยี่ห้อ shu uemura นี้น่าสนใจ แต่ยังไม่เคยลองใช้ผลิตภัณฑ์ใดๆเลย จึงได้ไปสอยผลิตภัณฑ์ขนาดตัวอย่างมาที่เคาน์เตอร์แบรนด์แห่งหนึ่งค่ะ

พอไปถึงเคาน์เตอร์แบรนด์ก็ได้รับคำแนะนำอย่างดีจากพนักงาน และให้ข้อมูลสินค้าได้ดีค่ะ จึงได้ทราบว่า cleansing oil ตัวนี้เป็นผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่ออันดับต้นๆของแบรนด์นี้ ด้วยลักษณะที่โดดเด่นในเรื่องของการทำลายล้างคราบเครื่องสำอางอย่างหมดจด พร้อมด้วยส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ที่จำไม่ได้555 และพยายามพลิกดูข้างหลังแล้วแต่ไม่เจอส่วนประกอบ ไม่แน่ใจว่ามีสารอะไรที่น่ากลัวจะแพ้ได้หรือไม่ กลับมาต่อค่ะ คือเธอก็แนะนำต่อว่าการใช้ ใช้ตอนมือแห้ง หน้าแห้ง ไม่จำเป็นต้องใช้สำลี และเธอก็สาธิตด้วยการเอาลิปสติกสีแปร๊ดปาดมือเรา เอา cleansing oil นี้เทลงบนมือแล้วนวดลงไป นวดๆไปเรื่อยๆ และคราบลิปสติ๊กก็ค่อยๆจางหายไปอย่างหมดจด หลังจากนั้นใช้น้ำเปล่าสะอาดล้างออก และไม่ต้องใช้โฟมล้างหน้าตามด้วยนะคะ เพราะตัวนี้เป็นเหมือน cleansing อยู่แล้ว อีกทั้งพอล้างออกจะได้ความรู้สึกนุ่มชุ่มชื้น (ที่มือเราตอนนั้น) ก็นุ่มดีจริงๆ คือยัง moisturize ได้อีกด้วย มือเราประทับใจมาก

พอกลับมาบ้าน ก็ลองใช้กับหน้ามีเครื่องสำอางแบบจัดเต็มดูด้วย step เดียวกัน เนื้อสัมผัสเป็นใสๆไม่มีสีนวดๆไปซักประมาณ 1-2 นาที ลืมตามาก็เป็นหน้าสดสะอาด แต่ยังมันๆอยู่ จากนั้นก็ใช้น้ำเปล่าสะอาดล้าง รู้สึกได้ว่าหน้านุ่มมากๆๆค่ะ ประทับใจจริงๆ กลิ่นอ่อนๆ ไม่ฉุนหรือทำให้ใครไม่ชอบมันเพราะกลิ่นได้ ล้างหน้าเสร็จตอนจะมาลง moisturizer ยังรู้สึกหน้านิ่มอยู่เลย ชอบมาก กลิ่นก็หอมละมุนมากด้วย

เขียนยาวมาเป็นนิทาน สรุปว่าชอบค่ะ ด้วยเนื้อสัมผัส กลิ่นไม่แรง วิธีการใช้ก็ unique ดี ดูเป็นอะไรได้หลายอย่าง เราชอบอะไรที่มัน simple ใช้ง่ายๆไม่ต้องหลาย step ใช้ตัวนี้ตัวเดียวจบ ตอบโจทย์ ทั้งล้างเครื่องสำอาง ล้างหน้า และให้ความชุ่มชื้น แนะนำสำหรับคนทุกสภาพผิวค่ะ เราผิวมัน ก็รู้สึกว่าใช้ได้ คือมันไม่ได้มันแผลบแบบ greasy มันเป็นมันแบบให้ความชุ่มชื้นค่ะ คนผิวแห้งน่าจะยิ่งชอบค่า

คลีนซิ่งบาล์ม Clinique Take The Day Off Cleansing Balm ถือเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเครื่องสำอางที่เข้ามาเป็นลูกรักแบบงงๆอีกตัวนึง คือได้ฟรีมาจากการซื้อครีม clinique แล้วก็เลยเอามาลองใช้ดู คือเป็นรักแรกพบและชอบมากๆ เพราะมันสนุกดีตอนใช้ 555 ได้วน balm นุ่มๆกลิ่นละมุนไปบนหน้า วนเบาๆให้ทั่วใบหน้า ใช้รอบดวงตาได้ไม่แสบร้อน จากนั้นใช้น้ำเปล่าสะอาดล้างออกเป็นอันเสร็จพิธี

ความรู้สึกหลังใช้คือรู้สึกว่าหน้าสะอาด เครื่องสำอางออกหมดจด ไม่ทิ้งคราบ ไม่ทิ้งความแสบร้อนไว้ที่ใบหน้า และทำให้หน้ายังชุ่มชื้นอยู่ แม้จะเพิ่งล้างหน้าไปก็ตาม แค่นี้สำหรับเราก็เพียงพอแล้วสำหรับการเป็น make up cleanser ที่ดีค่ะ

Foundation อันนี้คือเป็นตำนานในความรู้สึกเรา คือเห็น beauty blogger หลายคนใช้ และเคยเห็น Kylie Jenner ใช้ในวิดีโอสาธิตการแต่งหน้าอันนึงของเธอด้วย (ใช้ผสมกับ urban decay naked skin one and done) ก็เลยหาโอกาสสอยมาตลอด

หลังจากได้มา เราว่าความเด่นมันอยู่ตรงที่ว่ามันไม่ครบ และมันกลืนกับผิว เป็นธรรมชาติ coverage อาจจะอยู่ประมาณไม่เกิน medium แต่ก็พอ bulit ได้ ทาซ้ำๆก็ไม่คราบ ไม่ดูเค้ก ใช้ใน everyday look ได้สบายมาก ใช้มือเกลี่ยเลย ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ช่วย สี shade range ก็ครอบคลุมดี มีสีผิวขาวเหลืองเหมาะกับคนเอเชีย และที่เขา claim ตามชื่อก็คือ ultra HD คือประมาณว่าเอากล้องระดับ ultra HD ซูมลงไปไม่เห็นเป็นคราบ อันนี้รู้สึกว่าจริง 

ข้อเสียก็อาจจะว่ามันน้ำไปหน่อย แต่ก็ไม่ใช่ข้อเสียนะ ถ้าอยากได้ลุคแบบธรรมชาติ กลิ่นตัวนี้ไม่มีอะไรเด่น มีกลิ่นอ่อนๆ ไม่ได้รู้สึกว่าฉุนไป โดยรวมถือว่าเป็น foundation ที่ดีตามคำร่ำลือ

ขอแหวกแนวสวนกระแสแล้วกันนะคะ foundation ตัวนี้คือลองมาทุกท่าแล้ว แต่ยังไม่เป็นลูกรักเท่าไร

ส่วนตัวเป็นคนหน้ามัน ผิวไม่สม่ำเสมอบ้าง เห็นตัวนี้ shade range กว้างไกลมาก สีออกขาวเหลืองเอาใจคนเอเชีย (พวก high-end brand ของฝรั่งอื่นๆจะออกสีแดงๆซะเยอะ) และที่สำคัญมันน่าจะ matte เพราะเขียนว่า all day wear ก็เลยรีบไปสอยมา

พอใช้แล้วรู้สึกว่ามันหน้าแห้งไปค่ะ และเกลี่ยยังไงก็ไม่เรียบ ไม่ว่าจะนิ้วตัวเอง beauty blender หรือแปรง หรือพอเรียบเสร็จแล้ว ผ่านไปหลายๆชั่วโมงหน่อยจะเป็นคราบเร็วมาก และความรู้สึกคือว่ามันแห้ง แห้งมากๆ แต่สีมันก็สม่ำเสมอดีนะ แล้วกลิ่นมันก็ high end ดี คือเราลองก็พอเข้าใจว่าทำไมมันถึง popular แต่มันคงจะไม่เหมาะกับ texture ผิวแบบเรา

อาจจะแนะนำว่าคนที่ผิวมีปัญหานิดนึง เช่นหลุมสิว ริ้วรอย ใช้ foundation ทรงประมาณนี้ ที่ matte และแห้งมากอาจจะยาก เพราะจะทำให้เห็นรอยชัดขึ้น แนะนำหาตัวที่ชุ่มชื้นกว่านี้จะดีกว่าค่ะ

Eyeshadow ลูกรัก ใช้ทุกวัน ชื่อว่า Naked 1 ตอนแรกที่ซื้อด้วยแรงเชียร์จากเพื่อนและญาติว่าใช้ดี ตอนนั้นก็เพิ่งแต่งหน้าไม่ได้คิดอะไร เห็นว่าตัวเองยังไม่มี palette ดีๆซักอันเลยลองลงทุนกับอันนี้ไปค่ะ

พอซื้อมาใช้ก็ติดใจ คือเป็น palette ที่ยิ่งใช้จะยิ่งรัก แรกๆจะงงๆว่าจะใช้สีไหนดี ก็ปาดไปมั่วๆ แต่ปาดมั่วๆสีไหนก็ดูเข้ากันได้หมด คือมันออกแนว nude คุมโทน ทาแล้วไม่ทำให้ตกใจหรือแบบเราทาเยอะไปหรือเปล่า บางสีเช่นสีกลางๆตรงแบบ half baked หรือ smog เอามือเกลี่ยทาสีเดียวแล้วจบเลย หรือถ้าอยากเล่นแบบ smoky eye ก็เอาสี naked คัดเบ้าก่อน แล้วเอาสีเข้มๆประมาณ darkhorse จิกตรงปลายหางตาอย่างเดียว คือจะสวยมาก สี sidecar นี้สีโปรดที่สุด ทาตรงหัวตาคือเกิดมาก มีจรัสขึ้นมาทันทีค่ะ

เขียนแล้วยาวเลย สรุปแนะนำเป็น first eye palette สำหรับคนหัดแต่งหน้าค่ะ เพราะทาเยอะไป ไม่ผิด ไม่มี skill มากก็รอดค่ะ

review ครีม NARS อเนกประสงค์ ตัวเองมีสี orgasm

ขอบอกตามตรงว่าไม่ชอบละกันนะคะ 5555 คือตอนแรกมีความตั้งใจและหวังสูงกับผลิตภัณฑ์นี้มาก เพราะเคยใช้แบบที่เป็น blush แบบแป้งแล้วชอบ สีปังและมีกลิตเตอร์กำลังดี แต่คงด้วยสภาพผิวหน้าที่ไม่ได้เกิดมาคู่กับผลิตภัณฑ์นี้ คือใช้แล้วมันมีทั้งคราบ ทั้งขุย ทั้งลอก ทั้งๆที่ตัวเองก็เป็นคนหน้ามัน แต่ก็มีคราบ ดูประหลาดไปเลย ไม่รู้ทำไมเหมือนกันค่ะ และมันก็แห้งเกินกว่าที่จะเอามาทาปากด้วย

แนะนำคนที่ผิวไม่ได้ texture ดีมากๆ คือเราอาจจะหน้ามัน แต่ texture อาจจะไม่ได้ละเอียดเท่าไร ครีมมันเลยเกลี่ยไม่ดีมั้ง ต้องเป็นคนที่ไม่มีปัญหาผิวอะไรระดับหนึ่งค่ะจึงจะใช้ได้ ส่วนตัวคิดว่าอย่างนั้น

estee lauder foundation ตัวนี้น่าจะเป็นรุ่นยอดฮิตติดอันดับอันนึงค่ะ คนใช้และแนะนำเยอะมาก ซื้อเพราะแรงเชียร์

แต่หลังใช้แล้ว เราว่าข้อดีมันคือคุมมันได้ดีจริงๆ แบบว่าถ้าคนหน้ามันมากๆ คือเอาอยู่ ผ่านไป 10 ชั่วโมง หน้ายังคมกริบเหมือนเดิม ไม่มีคราบ ไม่ดูเยิ้ม กลิ่นอาจจะฉุนไปหน่อย แต่ก็เป็นกลิ่นเหมือน high-end brand ทั่วๆไป

ข้อเสียอย่างแรกคือขวด มันจะเลอะเทอะหน่อยๆ เพราะไม่มีหัวปั๊ม แต่เราก็ไม่มีปัญหามาก แต่ที่ไม่ชอบสุดคือสี เพราะไม่มีสีที่ตรงกับสีผิวเรา เราใช้ bone ซึ่งบอกว่าเหมาะสำหรับขาวเหลือง แต่ใช้กับหน้าเราแล้ว รู้สึกว่าทำให้หน้าออกคล้ำๆไปหน่อย ไม่รู้เพราะมัน oxidize กับผิวหรือเปล่า ก็เลยหยุดใช้ไป