Profile

เค้าเคลมว่าเป็นสูตรใหม่ไม่เหนียว ลองแล้วเหนียวน้อยกว่าอีกสูตรจริงๆ แต่ถ้าเทียบเรื่องบางเบาซึมเร็ว ยังถือว่าไม่ดีเท่าอีกยี่ห้อหนึ่ง ตัวนี้ยังมีความหนักๆเหนียวๆเล็กน้อย ชอบตรงที่ PA++++ ถือว่าป้องกัน uva ได้สูงมากๆ และรู้สึกว่ารุ่นนี้จะมาสิทธิภาพสูงในหลายๆด้านเลยค่ะ มีดีตรงที่ใส่วิตามินอีบริสุทธิ์ 96% เข้ามาด้วย

ก่อนอื่นขอพูดถึงข้อมูลผลิตภัณฑ์ตัวนี้ก่อนนะคะ ชื่อ : L’Oreal Youth Code Pre-Essence Pre-Essence คืออะไร? Pre-Essence นอกจากเอาไว้บำรุงผิวแล้ว ยังมีขึ้นมาเพื่อเอาไว้ช่วยให้ครีมบำรุงต่างๆ ที่จะลงหลังขั้นตอนนี้มีประสิทธิภาพ และทำงานได้อย่างเต็มที่ เรียกว่าช่วยกระตุ้นการทำงานของครีมตัวอื่นเหมือนการเปิดสวิตช์ให้กับผิวนั้นเองค่ะ Pre-Essence ใช้อย่างไร? ใช้ลงเป็นขั้นตอนแรกสุดก่อนการทาเซรั่มและครีมบำรุงทั้งหลาย ด้วยสรรพคุณของเจ้า Pre-Essence เนี้ย ที่จะช่วยเปิดชั้นของผิวของเรา ให้เซรั่มและครีมต่างๆ เข้าไปในผิวง่ายขึ้น และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ส่วนผสมสำคัญและความสามารถ(คำเคลม) : มีส่วนผสมของ เฟอร์เมนต์ ซี๊ด (Ferment Seed) เข้มข้นถึง 98% มาช่วยเปิดสวิตช์ทั้ง 3 ประการ ได้แก่ 1. ช่วยปลุกผิว บำรุงได้ลึกจนถึงเซลล์ผิว พร้อมช่วยเร่งสร้างเซลล์ผิวใหม่ 2. ช่วยลดเลือนริ้วรอย ทำให้ผิวดูเรียบเนียนละเอียดใสขึ้น 3. ช่วยทำให้ผิวเต้งตึง เสริมความยืดหยุ่นให้กับผิว ทำให้ผิวเด้งกระชับดูอ่อนเยาว์ หลังจากได้ลอง L’Oreal Youth Code Pre-Essence มา 2 สัปดาห์ จะขอมารีวิวตามนี้เลยจ้า แพคเกจ : เป็นขวดที่มาพร้อมหลอดหยดที่ออกแบบมาได้อย่างสวยหรู ดูเด่นขึ้น นำพาให้เรานึกเป็นถึงอย่างแรกสุดก่อนการลงครีมบำรุงทั้งหลาย สะดวกมากเพราะไม่ต้องใช้นิ้วตักขึ้นมา เนื้อผลิตภัณฑ์ : เนื้อ Pre-Essence ออกเป็นเจลเหลวๆใสๆ ที่ลื่นทาง่าย และที่สำคัญคือไม่ทิ้งคราบมันไว้กับผิว เมื่อทาลงไปที่ผิวจะให้ความชุ่มชื่น และซึมง่ายมาก การใช้และประสิทธิภาพ : หลังจากล้างหน้าเสร็จ บีบหัวหลอดหยดเล็กน้อย และหยดแต้มลงปลายนิ้ว ลูบให้ทั่วใบหน้าทุกเช้าเย็นก่อนทาเซรั่ม และครีมบำรุงประจำวัน แค่นี้ก็เป็นการเปิดสวิตช์ให้กับผิวของเรา ซึ่งเจ้า L’Oreal Youth Code Pre-Essence ควรใช้เป็นขั้นตอนแรกสุด เป็นขั้นตอนสำคัญ ที่จะช่วยทำให้ขั้นตอนหลังจากนี้ซึมเข้าไปถึงผิวด้านใน ไว้ใจได้เลยว่าครีมที่ทาหลังจากนี้จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นแน่นอน ผลลัพธ์ : หลังใช้ 2 สัปดาห์ เหมือนเค้าช่วยนำพาสกินแคร์ตัวอื่นเข้าสู่ผิว และช่วยกระตุ้นสกินแคร์ตัวอื่นให้ทำงานได้ดีขึ้น รู้สึกว่าผิวหน้าดีขึ้น ชุ่มชื้น อิ่มน้ำขึ้น ผิวตึงขึ้น เรียบเนียนขึ้น สว่างใสขึ้นด้วย ความรู้สึกหลังใช้ : รู้สึกว่าใช้เจ้าพรีเอสเซนส์แล้วมันช่วยเพิ่มการบำรุงผิวหน้ามากขึ้น ชอบมากค่ะ รู้สึกว่าใช้แล้วไม่เสียเปล่า ทีแรกก่อนใช้มองว่าเค้าคงเป็นแค่เจลใสๆที่อาจช่วยบำรุงผิวหน้าแค่เพียงเล็กน้อย แต่จริงๆแล้วหลังใช้รู้สึกเลยว่าเจ้าพรีเอสเซนส์นี่สำคัญจริงๆ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของสกินแคร์ตัวอื่น ช่วยเปิดสวิตช์ผิวให้พร้อมรับการบำรุง ผิวหน้าเราดีขึ้นมากค่ะ ชอบมาก ดูใช้แล้วหน้าเด็กลงด้วย ถ้าหมดแล้วซื้อใช้ต่อแน่นอน ^^ สุดท้ายขอฝากไว้ว่า การจะทำให้ครีมบำรุงแสดงประสิทธิภาพได้อย่างเต็มที่นั้น ขั้นตอนแรกสุดถือว่าสำคัญที่สุดเลยค่ะ

วันนี้ขอรีวิว Biore Cleansing Milk หลังจากได้ลองใช้มาแล้ว 2 สัปดาห์ ใช้แล้วหน้าไม่แพ้ ไม่เกิดสิวอุดตัน หลังล้างผิวหน้ายังรู้สึกชุ่มชื้นอยู่ ไม่เหนอะหนะผิว ล้างออกได้หมดจดจริงๆ โดยไม่ต้องใช้สำลี ลองทดสอบควมเหนอะหนะโดยการผสมคลีนซิ่งบิโอเรกับรองพื้น ละผสมคลีนซิ่งX กับรองพื้น ทาบนพลาสติกสีขาว ปรากฏว่าไม่เหนอะหนะด้วยค่ะ

สวัสดีจ้า วันนี้เราจะมารีวิว Srichand Luminescence Glowing Brilliance Perfecting Powder หรือ ขอเรียกสั้นๆว่า แป้งพัฟศรีจันทร์ นั่นเองค่า ซึ่งเจ้าแป้งพัฟตัวนี้ เป็นแป้งอัดแข็งผสมรองพื้น รุ่นแรกของศรีจันทร์ ที่เปิดตัวมาพร้อมกับครีมกันแดดและรองพื้น โดยใช้ชื่อรุ่นว่า Srichand Luminescence Series ขอแปลเล่นๆว่า รุ่นแสงประกายสุกใสของศรีจันทร์ (เก๋กู๊ดไม่เบา อิอิ) แน่นอนว่าเรารู้จักศรีจันทร์จากแป้งฝุ่นโปร่งแสงที่มีขายกันมาตั้งแต่รุ่นยาย วันนี้ขอไม่พูดพร่ำทำเพลง เรามาทำความรู้จักเจ้าแป้งพัฟศรีจันทร์น้องใหม่ให้มากขึ้นกันดีกว่าค่า คำเคลมของแบรนด์ บอกไว้ว่าเป็นแป้งอัดแข็งผสมรองพื้นสูตรพิเศษที่มีเนื้อละเอียดละมุน • ช่วยมอบความเนียนนวลให้กับผิวหน้า พร้อมการปกปิดระดับปานกลาง • ช่วยให้ผิวแลดูเปร่งประกายอย่างเป็นธรรมชาติตลอดวัน • ใช้วัตถุดิบคุณภาพสูงที่ผ่านการคัดสรรจากทั่วโลก ทำให้ได้แป้งผสมรองพื้นสูตรควบคุมความมันที่เหมาะสำหรับผู้หญิงเอเชียที่มีผิวมันหรือผิวผสม • พัฟเนื้อดี ช่วยให้การทาและเกลี่ยอณูแป้งให้กระจายตัวเกาะติดผิวหน้าได้ดียิ่งขึ้น • มาพร้อม SPF 20 PA+++ ปราศจากน้ำหอมและพาราเบน ผ่านการทดสอบการระคายเคืองมาเรียบร้อย • เหมาะสำหรับผิวผสมหรือผิวมัน โดยผลิตออกมา 3 เฉดสีด้วยกัน ได้แก่ • SC10 Ivory สำหรับผิวขาวหรือขาวเหลือง • SC30 Warm Beige สำหรับผิวสองสี • SC50 Honey สำหรับผิวแทนหรือผิวเข้ม แถมยังผลิตจากเมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย (ว้าวววววว) มาในปริมาณ 10 กรัม ราคา 590 บาทไทยจ้า ต่อไปจะเป็นรีวิวของเราหลังจากการใช้จริงนะคะ มาดูกันเล้ยย (อ้อ ลืมบอกไปว่า เราใช้สี SC50 น้าคะ) • เริ่มจาก เนื้อแป้ง : คะแนน 4.5 เต็ม 5 คือเค้าเนื้อนุ่มและละเอียดมากกกก มีความเกลี่ยง่ายและเกาะผิวสุดๆ ทาโดดๆ 2-3 รอบก็ดูไม่หนา ทากับรองพื้นยิ่งเกิด • สีแป้ง : คะแนน 4.5 เต็ม 5 เค้าจะออกโทนเหลืองอมชมพูอมแดงนิดๆ เหมาะกับทั้งคนผิวอันเดอร์โทนเหลืองและชมพูเลย สาวผิวเข้มหน่อยแบบเราก็ใช้ได้ ไม่ลอยจ้า • การกระจายแสงปรับสีผิว : คะแนน 4.5 เต็ม 5 กระจายแสงได้ค่อนข้างดี สีแทบไม่ดรอประหว่างวันเลย ปรับผิวให้เนียนดูเป็นธรรมชาติ • การกันแดด : คะแนน 4.5 เต็ม 5 แป้งผสมสารกันแดดมาด้วย จึงกันแดดได้ระดับหนึ่ง (แต่ถ้าให้สบายใจทาครีมกันแดดร่วมด้วยดีที่สุดค่า) • ความคุมมัน : คะแนน 4.5 เต็ม 5 เราได้ทดสอบทาแป้งศรีจันทร์ครึ่งหน้า และแป้งพัฟยี่ห้อXที่ใช้บ่อยๆ อีกครึ่งหน้า ทีแรกคิดว่าแป้งX จะคุมมันได้ดีกว่า แต่ปรากฏว่าผ่านไป 3 ช.ม. ลองใช้กระดาษซับมันซับดู กระดาษที่ซับฝั่งศรีจันทร์มีความมันน้อยมาก กระดาษอีกแผ่นที่ซับฝั่งแป้งX มันมากกว่า (คือเห็นมันจนมองทะลุกระดาษได้เลย) (เค้าดูเป็นคนหน้ามากจริงๆ555 เจอแป้งที่ใช่เข้าแล้วสิ อิอิ) • ความติดทน กันน้ำ กันเหงื่อ : คะแนน 4 เต็ม 5 วันก่อนทาแป้งศรีจันทร์ไปงานแต่งตอนกลางวัน (ทากันแดดและรองพื้นศรีจันทร์แบบครบสูตรเลย) มีเหงื่อออกบ้าง แต่หน้าไม่เมือกไม่เป็นคราบเลยจ้า ใช้ทิชชูซับ ก็รอดอยู่ แต่ถ้าให้ดีก็ต้องเติมแป้งซ้ำสักหน่อย • การปกปิด : คะแนน 4 เต็ม 5 คือถ้าทา 2-3 รอบก็ปกปิดจุดดำได้ระดับปานกลางนะ ถ้าใครรูขุมขนกว้างมากแบบเราก็แอบเอาไม่อยู่เหมือนกันน้า (แนะนำว่าถ้าใครต้องการปกปิดขั้นสุด ก็ปล่อยให้ไพรเมอร์ รองพื้น และคอลซีลเลอร์ได้ทำหน้าที่ของมันนะ 555) แต่ถ้าใครผิวหน้าดีต้องการงานผิว ทารอบเดียวก็ได้เลยจ้า • การระคายเคือง : คะแนน 5 เต็ม 5 ไม่ระคายเคืองเลย :)) ผ่านจ้าาา • ความอุดตัน ตกค้าง : คะแนน 5 เต็ม 5 ไม่ตกค้างหรืออุดตันเลย (เพื่อความสบายใจอย่าลืมใช้คลีนซิ่งด้วยน้า) • ตลับและพัฟ : คะแนน 4.5 เต็ม 5 ตลับแอบเปิดยากและหยิบพัฟยากนิดนึง บางทีฝงแป้งชอบหลุดและติดกระจก แต่พัฟนุ่มมากและเกลี่ยแป้งได้ดีอันนี้ขอให้คะแนนเต็มเลยจ้า • ความคุ้มค่าและราคา : คะแนน 4.5 เต็ม 5 เป็นแป้งพัฟแบรนด์ของไทยที่ราคาสูงเล็กน้อยสำหรับนักศึกษาอย่างเรา แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าน่าซื้อเลยหละ เพราะใจเราก็แอบเข้าข้างแบรนด์ว่าเค้าสรรหาวัตถุดิบที่มีคุณภาพจากทั่วโลกมาเลยนะ ลงทุนและใส่ใจในวัตถุดิบมากๆ อันนี้ขอชื่นชมศรีจันทร์จากใจจริง :) สรุปจากใจ ^^ : คะแนน 5 เต็ม 5 เป็นแป้งพัฟที่เราตั้งใจซื้อมาลอง และก็ไม่ผิดหวังเลยค่ะ เหมาะกับคนผิวมันอย่างเรา ถ้าอยากแต่งแบบ makeup no makeup ก็ทาเจ้าตัวนี้โดดๆได้เลย ให้ลุคธรรมชาติ หรือจะเอามาใช้แต่งหน้าแบบจัดเต็มก็ได้เหมือนกัน สีไม่ดรอป แป้งไม่หลุด ถ่ายรูปขึ้น เลิศศศศ เดี๋ยวจะหาว่าชมอย่างเดียวเลย เราก็มีข้อเสนอแนะมาฝากทางแบรนด์ด้วยน้า : คือตัวแป้งออกโทนชมพูไปนิดดดนึง อยากให้ใส่โทนผิวเหลืองเข้าไปอีกหน่อย เพราะว่าผิวคนเอเชียผิวค่อนข้างออกโทนเหลือง จะได้เป็นแป้งพัฟที่เกิดมาเพื่อสาวเอเชียสุดๆ (โทนเหลืองประมาณสีรองพื้นของศรีจันทร์ก็โอเคเลยน้า) และถ้าได้เพิ่มความสามารถในการปกปิดอีกนิดนึงจะดีมาก สัญญาว่าจะไม่นอกใจเลย หาซื้อได้ตาม : วัตสัน ท็อป โลตัส อีฟแอนด์บอย เป็นต้น ปล.นี่เป็นรีวิวครั้งแรกของเรา ถ้าผิดพลาด ตกหล่นประการใดก็ขออภัยด้วยน้า ตั้งใจรีวิวให้เพื่อนๆได้รับข้อมูลของเจ้าแป้งพัฟศรีจันทร์ให้ได้มากที่สุดเลย ^^