Profile

เพิ่งได้ลองใช้ผลิตภัณฑ์จากกิจกรรมคอสเมเน็ท ได้เป็นตัวอิมัลชั่นมา เนื้อน้ำนม สีขาว ไม่มีกลิ่นน้ำหอม และแอลกอฮอล์ให้กวนจมูก เนื้ออิมัลชั่นบางเบา ซึมเร็ว ส่วนตัวชอบนะ ส่วนเรื่องผิวเปล่งปลั่งต้องขอลองเทสต์ระยะยาว ส่วนเรื่องชุ่มชื่นเราว่าช่วยนะ ผิวบริเวณที่แห้งจากการทาออยล์แต้มสิว ไม่ลอก

-เนื้อผลิตภัณฑ์- ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะ เกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบขาว เนื้อผลิตภัณฑ์บางเบา ไม่ทิ้งความมันเงาหลังทา หลังผลิตภัณฑ์ซึมเข้าผิวแล้วทิ้งความมันไว้ที่ผิวเล็กน้อย สังเกตจากความโปร่งแสงของกระดาษซับมัน ถือว่าทิ้งความมันไว้ที่ผิวน้อยมากเมื่อเทียบกันแล้ว และหลังหยดกันแดดลงบนกระดาษซับมันแบบฟิล์ม Biore ไม่มีวงรัศมีการกระจายของน้ำมันซึมออกมาให้เห็น แม้หยดทิ้งไว้นาน 1 ชม. ถือว่าผลิตภัณฑ์กันแดดของ Biore ตัวนี้สามารถพิสูจน์คุณสมบัติ Non-Sticky ได้ ส่วนเรื่องการกันน้ำ (Water Resistant) หลังทาผลิตภัณฑ์ทิ้งให้ซึมเข้าผิว แล้วสเปรย์น้ำลงไป บริเวณที่ทา Biore มีหยดน้ำเกาะอยู่บนผิว ส่วนอีก 2 ยี่ห้อที่เหลือนั้น..แฉะค่ะ! แม้จะกล่าวอ้างว่ากันน้ำแรงกว่า แต่เอาเข้าจริงโดนน้ำแล้วไหลเป็นทางเลยค่ะ ฉะนั้นเรื่องกันน้ำกันเหงื่อยกให้ Biore ทำได้ตามที่เคลมไว้ และหลังโดนน้ำก็ไม่ขึ้นคราบขาวให้เห็นแต่อย่างใด เหมาะกับอากาศประเทศไทย และสามารถใช้ได้ทุกวันอย่างสบายผิว -ประสิทธิภาพการกันแดดและมลภาวะ- ระหว่างที่ใช้ Biore UV Anti-Pollution Body Care Serum SPF50+ PA+++ ซึ่งผิวแห้งเสียจากแดดอยู่ก่อนหน้า และยังตระเวนหาของกินรอบเกาะรัตนโกสินทร์ต่อช่วงวันหยุด ผิวไม่แสบไหม้ ไม่แดง และไม่หมองคล้ำไปกว่าเดิม ปกติเป็นคนที่ผิวแพ้ฝุ่น แพ้อากาศง่าย ถ้าเจอฝุ่นควันเยอะๆ ผิวจะขึ้นผื่นเป็นเม็ดๆ คันๆ แต่ระหว่างใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ โดนทั้งแดด ทั้งเหงื่อ ทั้งฝุ่น ผิวไม่เป็นอะไรเลย ถือว่าช่วยเรื่องกันแดดและมลภาวะได้ตามที่ผลิตภัณฑ์เคลมไว้ นอกจากนี้ได้ลองทาผลิตภัณฑ์แล้วออกแดด ฝ่าฝุ่นควันของมหานครกลางกรุงเป็นเวลา 1 วัน กลับห้องมาใช้คลีนซิ่งลองเช็ดแขนดู รอบแรก...มีคราบฝุ่นอยู่น้อยมาก สำลีแทบไม่ดำ แสดงว่าผลิตภัณฑ์ไม่เหนียวเหนอะ จนทำให้ฝุ่นเกาะติดผิวแม้เหงื่อออก ซึ่งถือว่า Biore พิสูจน์ให้เห็นว่าสามารถปกป้องผิวจากมลภาวะได้ตามที่ออกตัวไว้ -ความรู้สึก หรือผลลัพธ์หลังใช้- เพิ่งเริ่มใช้ได้ประมาณ 1 อาทิตย์หลังกลับจากทริปตะลุยแว็นซ์ฝ่าแดด ปากเซ ลาวใต้ ผิวไหม้เสีย เป็นทูโทนรอยนาฬิกาที่แขน แล้วกลับมาเจอแดดเมืองไทยที่ไม่รู้ว่าใครทำให้พระอาทิตย์พิโรธหนัก พอใช้ Biore UV Anti-Pollution Body Care Serum สูตร Intensive White แล้วรู้สึกผิวที่แห้งเสีย ดูมีชีวิตชีวานุ่มลื่นขึ้น ไม่แห้งเสียไปกว่าเดิมแม้จะตระเวนหาของกินรอบเกาะรัตนโกสินทร์ต่อช่วงวันหยุด และไม่มีอาการแพ้ระหว่างใช้ ส่วนที่สูตรเคลมว่า Intensive White ต้องรอดูผลต่ออีกสักพัก แต่จากการใช้เบื้องต้นถือว่าผลลัพธ์อยู่ในระดับประทับใจมาก เพราะแม้จะเจอแสงแดดต่อเนื่องทุกวัน แต่ผิวก็ไม่ดำคล้ำลงกว่าเดิม ที่เพิ่มเติมคือ รอดูว่าจะสามารถทำให้สีผิวกลับมาเป็นสีเดิมได้เร็วหรือช้า ตามที่เต้ยได้กล่าวไว้ในโฆษณา ผิวดูกระจ่างใสเห็นผลได้ใน 14 วัน เป็นกันแดดที่เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง ปกป้องผิวไม่ให้ไหม้เสียและหมองคล้ำด้วยค่า SPF 50+ PA+++ จาก 3 ยี่ห้อที่ส่งเข้าประกวด ต้องยกมงให้แบบไม่ทวงคืนกับ Biore UV Anti-Pollution Body Care Serum สูตร Intensive White เพราะที่ค่า SPF 50 PA+++ และเป็นสูตรกันน้ำเหมือนกัน แต่คุณ Biore นั้นในระหว่างปฏิบัติภารกิจทำได้ดีเยี่ยม ให้สัมผัสที่บางเบา แต่ปกป้องแรง จนต้องยกตำแหน่งดีงามอย่างมีคุณค่า ราคาย่อมเยาไปครองค่ะ ปล. การรีวิวครั้งนี้เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล ทั้งนี้การพิจารณาอาจขึ้นกับเกณฑ์การให้คะแนนและสภาพผิวของแต่ละบุคคลด้วย

ใช้แบบซอง ทาเป็นประจำเลย ชอบมากกก เนื้อครีมนุ่มมาก ซึมเร็ว บางเบาสุดๆ หน้าไม่เป็นคราบ ไม่ขาวลอย คุมมันระหว่างวันได้ค่อนข้างดีเลย ชอบตรงไม่มีน้ำหอมนี่แหละ รู้สึกได้ถึงความอ่อนโยน

เนื้อผลิตภัณฑ์บางเบา เกลี่ยง่าย ไม่เหนอะหนะ ซึมไวมาก เนื้อผลิตภัณฑ์ละเอียดนุ่ม กึ่งเจล ไม่มีน้ำหอม ผิวนุ่มลื่นหลังซึม

รองพื้นเนื้อน้ำเกลี่ยง่าย เนื้อเนียนไปกับผิวแบบธรรมชาติ กึ่งแมตต์ ให้ผิวสว่างขึ้น ไม่ดรอป ไม่ปกปิดแต่บิ้วท์อัพได้ ผิวเนียนสว่างขึ้น เราได้สี 30 Almond

เนื้อโฟมข้นเหนียวหนึบสีเขียวอ่อนอมมิ้นท์ เป็นวิปโฟมที่ตีฟองด้วยมือไม่ค่อยขึ้น แต่ใช้ตาข่ายตีช่วยทำให้ฟองเล็กละเอียดแน่นมาก มีกลิ่นหอมอ่อนๆเหมือนกลิ่นดอกไม้หรือพืชพรรณซักชนิด ทำความสะอาดได้ดีมาก รู้สึกหน้าสะอาดหลังล้าง หน้าไม่แห้งตึงขนาดเอี๊ยดผิว ส่วนเรื่องสิวต้องใช้เวลาทดสอบอาจไม่เห็นผลทันที

กันแดดค่า SPF สูง เนื้อเหลวต้องเขย่าก่อนใช้ เนื้อสีอมเหลือง เนื้อบางเบา ซึมไว ไม่เหนอะผิว ไม่ทิ้งความมันเงาไว้บนผิว หน้าไม่วอกลอย กันแดดได้ดีไม่แสบผิว ไม่มีน้ำหอมกลิ่นสารกันแดดก็ไม่แรงมาก ส่วนตัวชอบที่ไม่มีน้ำหอม อ่อเนื้อผลิตภัณฑ์เนียนละเอียดเกลี่ยไม่มีความรู้สึกทิ้งความเป็นเม็ดๆบนผิว บางยี่ห้อที่เป็นเนื้อเหลวแบบนี้ให้ความรุ่สึกแบบนั้นแล้วมันจะคันยิบๆที่ผิว แต่ลาโรชฯตัวนี้ไม่เป็นแบบนั้น
.
ข้อเสียมีแอลกอฮอล์ กลิ่นAlc. ค่อนข้างแรง

ทำความสะอาดได้สะอาดมาก แต่หน้าไม่เอี๊ยด  คงความชุ่มชื้นผิวหลังล้าง หน้านุ่มขึ้น เรามีรอยสิวบ้าง คือใช้ 1 อาทิตย์ไม่แน่ใจคิดไปเองรึป่าว รอยมันจางลง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ใช้พวกครีมบำรุง ลดรอยดำอื่นช่วยๆ กันไป สะอาดแบบที่ใช้สำลีชุบโทเนอร์เช็ดหน้าอีกรอบ เพื่อเตรียมผิว ไม่มีคราบดำๆติดสำลี ไม่มีสิวอักเสบ สิวผดขึ้นระหว่างการใช้โฟม  ถือว่าผ่าน

คือเป็นกันแดดที่ดีนะ กันแดดดี แห้งไว ไม่เหนอะ ไม่มันระหว่างวัน แต่เราใช้ทีไรหน้าลอกตลอด ช่วงจมูกไปก่อนเลย สงสัยเราใช้แบบ milk lotion ไม่ได้ อาจแพ้พวกน้ำหอม ตั้งแต่ Biore ละ

เพิ่งเริ่มใช้ หาแบบพร้อมส่งยากมาก แต่ชอบนะ ดูบอบบางอ่อนโยน กลิ่นกุหลาบธรรมชาติ ใช้แล้วไม่แสบหน้า เราใช้เช็ดตอนเช้าเพื่อปลอบประโลมผิว

ชอบกลิ่น ชอบเนื้อ แต่ไม่แน่ใจเห็นผลอะไรรึป่าว ขวดนึงใช้ได้นานมากกกกกจะปีแล้วอ่า ใช้เป็นเซ็ทเลยค่ะ เนื้อเซรั่มซึมไว มีความรู้สึกหนึบๆเล็กน้อยหลังซึม แต่ไม่เหนียวเหนอะเลยส่วนตััวชอบนะ ผิวชุ่มชื้นดี หน้าไม่มันระหว่างวันด้วย ช่วยให้เนื้อผิวสวยละเอียด

เป็นครีมที่เนื้อละเอียดมากกกกกกกกกกก ครีมเนื้อนุ่มมม ซึมไว ไม่เหนอะหนะเลยยย ซึมดีซึมไว ไม่ทิ้งความมัน กลิ่นส้มดีจ์มากกกกก ชอบ แต่ราคาแพงสุดๆ แต่ใช้ได้นานเว่อร์ๆ กระปุกนึงใช้เช้า-เย็นได้เกือบปีเลย ได้ครั้งแรกจากการเวิร์คชอปกับแบรนด์ แต่ใช้ซ้ำเพราะฝากน้องหิ้วราคาพอรับได้หน่อย

ใช้ครั้งแรกจากการไป workshop แล้วได้ตัวเทสต์มา คือชอบเลยค่ะ จากนั้นก็ฝากน้องหิ้วมาจากออสฯคือคุ้มมากก ใช้ได้นานประมาณ 6 เดือนได้ ขนาด 100 มล. คือชอบกลิ่นที่ช่วยให้ผ่อนคลาย ปลอบประโลมผิว เป็นกลิ่นกระดังงาอ่อนๆ แรกๆอาจไม่ชอบแต่พอใช้ไปเรื่อยๆคือกลิ่นมันช่วยปลอบประโลมผิว ผ่อนคลายโสดประสาท ซึมเข้าผิวดี เราใช้ตัวนี้แล้วตามด้วย Pasley seed serum แล้วก๋ Mandarin Cream ต่อ

เนียนเป็นธรรมชาติ ไม่หนา แป้งไม่แคร็ก หน้าผ่อง แรกๆหน้าจะแมตต์ แต่พอระหว่างวันจะผ่องและดิวอี้ขึ้น ช่วยกระจายแสงดี ไม่หลุดระหว่างวัน ไม่ต้องเติมด้วย ใช้เซ็ตรองพื้น

เป็นครีบอาบน้ำที่หมดซื้อซ้ำตลอด แต่แพงกว่ายี่ห้ออื่นหมดเลย เวลาซื้อต้องรอโปรโมชั่น แต่ก็ไม่เคยเปลี่ยนใจหมดซื้อซ้ำเป็นแกลอนๆตลอด คือให้ความชุ่มชื้นดี กลิ่นหอมอ่อนๆแนวอ่อนโยน แล้วก็ล้างออกยากนะบางคนอาจไม่ชอบ แต่เรามองว่ามันคงความชุ่มชื้นให้ผิว มันไม่ได้เป็นเมือกๆหรือเป็นฟิล์มค้างที่ผิว พอล้างฟองเสร็จชโลมด้วยออยล์ฝาเขียวต่อ ผิวเนียนดีมากกก

เนื้อบางเบา คุมมัน แมตต์ดีมาก หน้าไม่ดรอป ให้ความเป็นธรรมชาติสามารถบิ้วท์อัพได้ ปกปิดสิวดี แต่มีแอบตกร่องบ้าง พวกร่องแก้ม 

เคยใช้นานมาแล้ว หน้าไม่มีสิวอุดตันเลย แม้จะใช้รองพื้นทุกวันไม่เช็ดคลีนซิ่งด้วย ใช้ตัวนี้ตัวเดียวล้างหน้า ล้างได้ค่อนข้างสะอาดล้ำลึก ว่าจะหามาใช้อีกรอบ

หน้าผ่องทั้งวัน คุมมัน ผิวสวยให้ลุคธรรมชาติ สีไม่ดรอป เนียนไปกับผิว บางเบามาก เกลี่ยง่าย แต่เฉดสีจะค่อนไปทางชมพู เราผิวสองสีโทนเหลืองจะแมทช์สียากหน่อย แม้จะมีสีให้เลือกเยอะก็ตาม

เป็นกันแดดที่ปรับผิวเนียนได้ระดับนึงเลย วันไหนต้องการลุคใสๆ ตัวเดียวเอาอยู่ แล้วทับด้วยแป้งฝุ่น ผิวคล้ำก็ไม่วอกนะ เนื้อกันแดดปรับสีเข้ากับผิวไปเลยหลังเกลี่ย

กันแดดได้ดีเลยค่ะ แต่ไม่ค่อยคุมมันเท่าไหร่ ผิวชุ่มชื้นดี ไม่มีอาการแพ้หรือสิวอุดตันขึ้นนะ

สะดวกใช้ฉีดก่อนออกไปกินข้าวกลางวัน ใช้ง่ายดีค่ะ ไม่ต้องเหนียวเหนอะมือด้วย ยิ่งใช้ตอนไปเที่ยวคือฉีดทับบนผิวเปียกๆได้แบบไม่ไหล ไม่เป็นคราบเลย ชอบค่ะ ราคานี่ยิ่งถูกสุดๆ

เป็นออยล์ที่เนื้อบางเบา ซึมไวไม่เหนอะเลย เราใช้หลังอาบน้ำ ชโลมตัวตอนผิวเปียก ไม่เหนอะเลยจ้าา ชอบมาก แถมมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ผิวเรียบเนียนเหมือนผิวเด็กเลย

บางเบา ซึมง่าย เกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ กันแดดได้ดี ไม่มันไม่เหนอะผิว ฝุ่นควันไม่เกาะผิว

เนื้อเหลวเกลี่ยง่าย ให้ลุคธรรมชาติ บางเบาไปกับผิว เนียนสีเดียวไปกับผิว ไม่หนา ให้ลุคดิวอี้เบาๆ ธรรมชาติหน่อยๆ หากต้องการการปกปิดตัวนี้ไม่ช่วยน่าคา

ชอบมากกกกก บางเบาธรรมชาติงานผิวสุดๆ เนียนไปกับผิว คุมมันระหว่างวัน สีไม่ดรอปเลย เป็นแป้งที่ใช้ทุกวันในลุคเบาๆ เราซื้อตุนไว้ตลอดเลย เพราะชอบขาดตลาด ปล.เจอที่ร้านบูทส์สนามบินสิงคโปร์ ราคาถูกกว่าไทยหน่อยนึงแหละ

เคยใช้สมัยทินท์กำลังฮิตๆ ใช้ทาปากด้านในให้ระเรื่อยหน่อยๆ ให้ลุคธรรมชาติดีค่ะ สีบางๆ

สีสวยชัด ติดทนทั้งวัน มีชิมเมอร์ ทำให้หน้ามีมิติ กระจายแสง ใช้ตัวนี้ไม่ต้องปัดโหนกแก้มด้วยไฮไลท์เลยค่ะ แต่ตลับเครอะง่ายมาก ตลับนึงใช้ได้นานมากเพราะไม่ต้องปัดเยอะสีก่ชัดจ้า

ใช้แล้วผิวนุ่ม ชุ่มชื่นดีค่ะ ตบๆทุกเช้าเย็นเลยยย ฟินนนน^^ ผลที่ได้ผิวเนียนละเอียด เครื่องสำอางติดทนจ้าา ราคาน่ารัก

ใช้ดีไม่หนักตา ขนตาหนาขึ้น เรียงตัวเป็นแพดูธรรมชาติดีค่ะ โดนน้ำ โดนเหงื่อไม่ไหลย้อย ชอบค่ะ

ซึมไว ไม่ทิ้งคราบ ไม่เหนียวเหนอะให้น่ารำคาญใจ คุมมันระหว่างวันได้ดี หน้าไม่ลอกไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ดี้ดี ชีวิตชิล แนะนำค่ะ

ก่อนหน้านี้ไม่เคยใช้คลีนซิ่งมิลค์มาก่อน จะใช้แต่คลีนซิ่งวอเทอร์มาตลอดหลายปี เนื่องจากเป็นคนแพ้กลุ่มคลีนซิ่งออยล์(ออยล์ล้างเครื่องสำอาง) เคยใช้หลายยี่ห้อมากตอนแรกก็คิดว่าคงไม่ถูกกับยี่ห้อนี้มั้งก็เปลี่ยนมาเป็นคลีนซึ่งออยล์ยี่ห้ออื่นๆอีกหลายตัว จากคนที่นานๆ สิวอักเสบจะขึ้นเม็ดใหญ่ที กลายเป็นคนที่มีสิวอักเสบขึ้นหน้าตลอดเวลา ถึงขั้นเพื่อนเจอหน้า ประโยคแรกที่นางทัก...หน้าเมิงสิวขึ้นด้วยหรอ... เพื่อนไม่เคยทักแบบนี้เลยตั้งแต่รู้จักกันมาจนเรียนจบ เริ่มเสียเซล์ฟเลยมานั่งคิดเราใช้ไรแตกต่างไปจากเดิมก่อนหน้านั้นเราใช้แค่ไหน เริ่มเป็นสิวช่วงไหน จนมาจบที่คลีนซิ่งออยล์ ใครบอกว่าออยล์ล้างสะอาดเราเชื่อนะเพราะมันละลายเมคอัพได้หมด แต่กลไกการทำงานคือต้องนวดออยล์บนหน้า น้ำมันอาจทำอะไรกับผิวจนทำให้เกิดอุดตัน หรือไปกระตุ้นให้เกิดสิวอักเสบ ซึ่งเราก็ล้างตามด้วยโฟมจนหายมันตลอด จากนั้นก็ Say good bye ใส่ Converse ให้กับคลีนซิ่งออยล์ไปเลย หันมาซบ Cleansing Water ตลอด เปลี่ยนมาหลายยี่ห้อ เราไม่ยึดติดกับแบรนด์ใดเป็นพิเศษใช้ได้เรื่อยๆขึ้นกับโปรโมชั่น ซึ่งส่วนตัวเราคิดว่า Cleansing Water ล้างเครื่องสำอางกลุ่มเมคอัพได้ไม่หมดเท่า Cleansing oil แต่ทำไงได้เราใช้ Oil ไม่ได้จิงๆ ต้องเลือกว่าจะหน้าสิว หรือหน้าดี แต่ความหน้าดีก็ทำให้รู้สึกผิวหยาบกร้าน ไม่สดใส เพราะผิวถูกทำร้ายด้วยสำลี และนำมาซึ่งริ้วรอยก่อนวัย เนื่องการการเสียดสีของสำลีไปอี๊กกก พอ Biore ออก Cleansing Milk เราก็ชั่งใจลองดีไม๊ สุดท้ายก็เอาซะหน่อยเดี๋ยวตกเทรนด์ *ผลิตภัณฑ์* Biore Cleansing Milk เนื้อคล้ายๆสบู่อาบน้ำเด็กยี่ห้อนึง(^____^) แต่ไม่มีฟอง ลักษณะเนื้อข้นกำลังดี ดูมีเนื้อไว้สำหรับนวด เนื้อนุ่มๆ ลื่นๆ เท่าที่ดู Ingredients ข้างขวดก็ไม่มีส่วนผสมของ Alcohol นะ เข้าตาก็ไม่แสบ เพราะเราขยี้ตาพอสมควรเนื่องจากเป็นคนที่ต้องเขียน inner liner ตลอด และไม่ใช้พวก remover เลย จะใช้ Cleansing ตัวเดียวเช็ดทั้งปาก ตา หน้า Cleansing Milk ตัวนี้ก็ถูกใช้งานทุกจุดบนหน้าเช่นกัน *การใช้งาน* เนื้อโลชั่นข้นนุ่ม เกลี่ยลื่นบนหน้า ไม่เหลวจนไหลย้อยเป็นทางเปรอะเปื้อนเสื้อผ้า สามารถทานวดวนบนหน้าได้นานพอสมควร หากรู้สึกแห้งเกินไปก็แตะน้ำเล็กน้อยแล้วนวดวนใหม่อีกรอบ 3 ปั๊มนี่เคลียร์เมคอัพบนหน้าได้กำลังดีเลยค่ะ ชอบตรงที่ใช้สะดวกแค่ กด ปั๊ม แตะ นวดวนแล้วล้างออก ไม่ง้อสำลี(ไม่เปลืองตังค์เพิ่ม^^) ที่สำคัญลดการเสียดสีของสำลีบนหน้าซึ่งอาจนำมาซึ่งริ้วรอยได้ ส่วนการนวดวนบนใบหน้าช่วยเรื่องการไหลเวียนเลือดอีกด้วย จากนั้นก็ล้างออกด้วยน้ำเปล่า ง่ายมั๊กมัก ข้างขวดเค้าบอกว่าไม่ต้องล้างซ้ำด้วยโฟมล้างหน้ายังได้ แต่ใครไม่ชัวร์จะล้างต่ออีกรอบไม่ว่ากันจ้า *กลิ่น* ถือว่ากลิ่นอ่อนๆ ดูละมุนปลอดภัยคล้ายๆกลิ่นครีมอาบน้ำเด็ก ซึ่งเราถือว่ารับได้นะ ดูไม่แรงเกินไปจนไม่อยากเอามาใช้กับหน้า ปกติจะเป็นคนที่ Anti ผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่น โดยเฉพาะครีมที่ต้องนำมาใช้บนหน้า เราจะเลี่ยงทันที *ความรู้สึกขณะใช้ ความยากง่ายในการล้าง* รู้สึกถึงความนุ่มละมุนผิว เทียบกับการที่เราใช้สำลีเช็ดหน้าทุกวันทำให้ผิวหยาบกร้าน พอเปลี่ยนมาใช้ Biore Cleansing Milk แรกๆก็ไม่ชินกับความลื่นๆบนผิวหลังล้าง แต่รู้สึกได้ว่าผิวสะอาดไม่ได้สะอาดแบบผิวเอี๊ยดแต่ยังมีความนุ่ม ชุ่มชื่น ของผิวอยู่ เมคอัพหลุดออกง่ายมากกกก รู้สึกได้ถึงความสะอาดจุดนี้ ตรงบริเวณรอบดวงตาต้องใช้ระยะเวลาในการวน(อย่างเบามือ)นิดนึง แต่มาสคาร่ากันน้ำ inner liner หลุดหมด (คลีนซิ่งวอเทอร์+โฟมล้างหน้าบางตัวรวมกันแล้วบางทียังมีแพนด้าอยู่เลย แต่ตัว Cleansing Milk ตัวนี้ตัวเดียวเอาอยู่ค่ะ) ล้างสะอาดหยุดผิวหยาบพัง เผยผิวสวยปังสุขภาพดี สำหรับเราถือว่าล้างเมคอัพออกง่าย ประหยัดตังค์ค่าสำลี แล้วยังประหยัดเวลาในการล้างหลายขั้นตอนอีกด้วย เพราะล้างออกง่ายด้วยน้ำเปล่าไม่ง้อโฟม *ความรู้สึกหลังใช้* รู้สึกผิวสะอาดหมดจด แต่ยังคงนุ่มลื่น เบาสบายผิว ไม่ทิ้งความเหนอะหนะแม้ไม่ล้างซ้ำด้วยโฟมล้างหน้า แถมยังล้างออกง่าย ผิวนุ่มเด้ง ไม่มัน ไม่แห้งตึง ชุ่มชื่นกำลังดี ไม่แสบตา ไม่แพนด้า หลังจากลองมา 5 วัน ยังไม่มีสัญญาณของสิวเกิดขึ้น(เมื่อเทียบกับการใช้คลีนซิ่งออยล์มาตั้งแต่วันแรกที่ใช้ข่าาา) *ผลลัพธ์หลังใช้* ผิดหน้าสะอาดนุ่ม แถมยังชุ่มชื่นพอดี ไม่เหนอะผิว สิวไม่ขึ้น ไม่ทิ้งคราบเครื่องสำอางให้หลงเหลือบนใบหน้า *อ่อนโยนไม่ระคายเคืองผิว* 10 10 10 ไปเลยจ้า ขนาดมีส่วนผสมของน้ำหอม ยังไม่มีอาการแพ้ผื่น ไม่สิว อ่อนโยนไม่แสบตา(เพราะใช้นวดแทน makeup remover ไปเลย) *ความพึงพอใจ* พอใจในผลลัพธ์และใช้ต่อค่ะ ชอบตรงล้างเมคอัพได้สะอาดไม่ทิ้งคราบ ไม่แพนด้า ผิวไม่หยาบเพราะไม่ต้องใช้สำลีเช็ดให้เสียดสีผิว แถมยังได้นวดเพิ่มการไหลเวียนเลือดกับผิวหน้า ผิวสวยปัง ไม่หยาบพังอีกต่อไป ราคาถือว่าถูกนะเมื่อเทียบกับคลีนซิ่งวอเทอร์ที่ใช้ประจำแถมยังประหยัดตังค์ค่าสำลีไปอี๊กกกก เริ่ชตรงนี้ *แนะนำ* ดันค่ะ แนะนำให้ลองเอง แล้วจะรู้ผลลัพธ์ที่ได้ ใช้งานง่ายไม่ต้องหลายขั้นตอน ไม่พูดมาก ลองแล้วจะรัก... #Biorethailand #Biorecleansingmilk #ล้างเมคอัพนุ่มสุดหยุดผิวหยาบพัง #เปลี่ยนผิวหยาบพังเป็นผิวสวยปัง