Profile

Woranan



วันนี้มารีวิวคลีนซิ่งวอเตอร์ตัวใหม่ของนีเวียค่า นั่นก็คือ Nivea Micellair Expert Micellar Water ค่ะ


คำเคลมแบรนด์ : คลีนซิ่งเช็ดเครื่องสำอางสูตรพิเศษ ทำความสะอาดหมดจดแม้คราบเครื่องสำอางติดทน หรือพวกซิลิโคนตกค้างจากเครื่องสำอางที่มองเห็นออก 100% เช็ดสะอาดไม่ทิ้งคราบมันให้เหนอะผิว 
- ไมเซลแอร์ คอมเพล็กซ์ ทำหน้าที่เหมือนแม่เหล็กที่ดูจับเครื่องสำอางออกหมดจดโดยไม่ทิ้งสารตกค้าง 
- ผสานสารสกัดแบล็คที ที่เป็นสารแอนตี้ออกซิเดนท์ ช่วยลดการเกิดริ้วรอยจากแสงแดด เพิ่มความสดชื่นให้ผิว 
- สารสกัดบิลเบอร์รี่ ช่วยให้ผิวหน้าดูกระจ่างใส 
- สามารถเช็ดมาสคาร่ากันน้ำได้
- ไม่มีน้ำหอม 


แพคเกจ : ชอบแพคเกจมาก สีขวดเป็นสีเทาๆดำๆ สีสวยมาก ให้ความรู้สึกแปลกใหม่ดีค่ะ ขวดไม่เล็กไม่ใหญ่เกิน ฝาเป็นฝาเกลียวพกไปไหนมาไหนได้ ไม่ต้องกลัวว่าฝาจะเปิดหกเลอะเทอะในกระเป๋า


เนื้อผลิตภัณฑ์ : น้ำสีขาวใส แต่ว่าเนื้อน้ำจะแยกชั้นกัน เวลาใช้ต้องเขย่าก่อนใช้ ไม่รู้เหมือนกันว่าส่วนผสมในน้ำมีอะไรบ้างนะคะ 


กลิ่น : เฉยๆ ไม่ได้มีกลิ่นอะไรที่ไม่พึงประสงค์ 


ความรู้สึกหลังใช้ : ชอบนะคะ ก็ดูล้างสะอาดดี หลังจากเช็ดเสร็จหน้าก็ไม่มันด้วย แถมยังสบายผิวอีก สามารถล้างเมคอัพได้หมด พวกมาสคาร่าก็เอาออก แต่อาจจะต้องใช้เวลานิดนึงจ้า


เราถ่ายรูปการทดลองใช้คลีนซิ่งตัวนี้แล้วแต่ทดสอบกับแขนตัวเองน้า ทาทุกสิ่งเหมือนเวลาแต่งบนหน้าเลยค่ะ มีทั้งกันแดด รองพื้น คอนซีลเลอร์ บลัชครีม คอนทัวร์ครีม ไฮไลท์ครีม เซตแป้ง แล้วตามด้วยแบบฝุ่น อายแชโดวครีม ตามด้วยแบบฝุ่น อายไลน์เนอร์ ลิปแมต ลิปครีม ดินสอเขียวคิ้วทั้งแบบแท่ง แล้วก็แบบฝุ่น ส่วนมาสคาร่าทดสอบทั้งหมด 5 ตัวด้วยกันตามภาพเลยจ้า ก็สามารถเช็ดออกได้หมด โดยใช้สำลีประมาณ 3-4 แผ่นค่ะ โดยปกติหลังจากเช็ดหน้าด้วยคลีนซิ่งวอเตอร์แล้ว เราจะล้างด้วยโฟมต่อค่ะ จะได้ชัวร์ว่าสะอาดจริงจ้า


ก็ทดสอบคร่าวๆได้ประมาณนี้น้า เราก็ไม่ได้มีแสงแบล็คไลท์ที่สามารถเช็คให้ชัวร์ได้ว่าสะอาดจริงมั้ย แต่จากที่ใช้มาก็รู้สึกโอเคค่ะ ไม่ได้มีปัญหาอะไร ไม่ได้แพ้ด้วย

  • เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
  • รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
  • ผลลัพธ์หลังการใช้ : ทำความสะอาดได้ดี, อ่อนโยน, ชุ่มชื้น, ล้างออกง่าย, ไม่ระคายเคือง, ล้างเครื่องสำอางได้หมดจด
  • ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
รีวิวเมื่อ 6 ก.ย. 2561, 01:20

NAMU LIFE SNAILWHITE CRÈME BODY WASH

วันนี้มารีวิวสบู่อาบน้ำกลิ่นใหม่ของ SNAILWHITE กลิ่น Aroma Swiss Lavender ค่า

คำเคลมแบรนด์ : พิเศษด้วยสารสกัดจากดอกลาเวนเดอร์จากสวิตเซอร์แลนด์ ช่วยให้ผ่อนคลายหลับสบาย ทำความสะอาดผิวกายพร้อมปกป้องแบคทีเรีย บำรุงผิวให้สุขภาพดี นุ่มชุ่มชื้น ฟองเยอะ ล้างออกง่าย ผิวไม่แห้งตึง

แพคเกจ : สีขาวขวดใหญ่ ฝาปั๊ม ใช้งานสะดวกดีค่ะ

เนื้อผลิตภัณฑ์ : สีขาวขุ่นเหมือนสูตรก่อนๆ เนื้อค่อนข้างข้น ให้สัมผัสเหมือนเมือกหอยทาก 555 เวลาเอามือตีๆจะยืดๆติดมือ และคืนตัวได้เร็วค่ะ

กลิ่น : ก็กลิ่นลาเวนเดอร์เลย ถ้าดมใกล้ๆจะได้กลิ่นชัดเจนเลย กลิ่นค่อนข้างชัด แต่พอล้างแล้วกลิ่นไม่ได้ติดตัวขนาดนั้น แต่ว่าใช้แล้วรู้สึกผ่อนคลายดีค่ะ

ความรู้สึกหลังใช้ : รู้สึกว่ากลิ่นแรงไปนิดนึง แล้วฟองก็ไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ แต่ก็ล้างสะอาดดี ล้างง่ายจริงๆ แล้วก็ล้างแล้วผิวไม่แห้งกร้านค่ะ ส่วนตัวเคยใช้กลิ่นสูตรเก่าๆมาแล้ว อยากลองกลิ่นกุหลาบด้วยค่ะ ถ้าหมดซื้อต่อแน่นอน จริงๆส่วนตัวว่าราคาค่อนข้างสูงเลยทีเดียว แต่ด้วยความที่มีโปรจัดบ่อยมาก ราคาก็เลยถูกลงเยอะทีเดียว เพราะงั้นถ้าซื้อรอบหน้าก็จะซื้อกลิ่นอื่นมาลองค่า

  • เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
  • รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
  • ผลลัพธ์หลังการใช้ : สดชื่น , กลิ่นหอม, ชุ่มชื้น, ช่วยให้ผ่อนคลาย, ล้างออกง่าย
  • ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
รีวิวเมื่อ 6 ก.ย. 2561, 00:56

เนื้อผลิตภัณฑ์ : ส่วนตัวไม่ค่อยได้เห็นเซรั่มเนื้อแบบนี้ซักเท่าไหร่ พอปั๊มออกมาจะดูเหมือนน้ำมันที่ค่อนข้างข้นทีเดียว แต่ว่ามีความเกลี่ยง่าย ซึมไว ไม่ทำให้ผิวเหนอะหนะเลย แล้วคือชอบเนื้อสัมผัสเซรั่มตัวนี้มาก พอทาเสร็จจะให้ความรู้สึกที่แบบผิวลื่นๆ เหมือนเวลาทาไพรมเมอร์เลย คือดีมากเลยอะ ชอบมากจริงๆ


กลิ่น : กลิ่นหอมแบบส้มๆนิดๆ สไตล์ครีมรุ่นนี้ของ oriental princess เลย ส่วนตัวเคยใช้ตัว Night Repairing Serum กับ Lightening Day Cream มาแล้ว กลิ่นจะคล้ายๆกันเลย หอมอ่อนๆ ไม่ฉุนจนเกินไป


ผลลัพธ์หลังใช้ : หลังจากที่ได้ลองมา 2 สัปดาห์ คือรู้สึกว่าผิวกระจ่างใสขึ้นจริงๆ ก่อนหน้านี้จะมีรอยสิวที่เกิดจากการบีบสิวแบบสีเข้มมากๆประมาณ 3 จุด แต่หลังจากที่ใช้ คือรู้สึกว่ารอยดำจากสิวมันจางลงเร็วมาก ปกติก็คือรู้กันอยู่แล้วเนอะว่าพวกรอยสิวเนี่ยแหละรักษายาก ใช้เวลาในการรักษาค่อนข้างนาน แต่ใช้ตัวนี้แล้วเห็นผลเร็วดีชอบมากค่ะ แล้วก็ชอบแพคเกจจิ้งตรงที่ ให้บิดฝาขวด แล้วตัวฝาปั๊มจะขึ้นมาให้กด คือสามารถพกพาไปใช้ที่อื่นได้ ไม่ต้องกลัวหกด้วย ดีมากค่า

  • เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
  • รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
  • ผลลัพธ์หลังการใช้ : กระจ่างใส, ชุ่มชื้น, ไม่เหนอะหนะ
  • ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
รีวิวเมื่อ 25 ส.ค. 2561, 00:58

วันนี้มารีวิว/บอกความรู้สึก หลังจากที่ได้ลองใช้ครีม Concept Anti-Melasma Cream ทาเช้า-เย็นติดต่อกันเป็นเวลา 35 วันค่า คำเคลมแบรนด์ : ช่วยทำให้ฝ้าแลดูจางลงในเวลาเพียง 3 สัปดาห์ ทั้งยังช่วยให้ กระ และจุดด่างดำบนใบหน้าแลดูจางลงด้วย มีส่วนผสมของสารสกัดจากพืชพรรณธรรมชาติหลายชนิด Alpha-Arbutin 1.2% : ช่วยให้ฝ้า กระ และจุดด่างดำแลดูจางลงอย่างเป็นธรรมชาติ Vitamin B3 / Licorice Extract / Pea Seed Extract / Octadecenedioic Acid : ช่วยปรับผิวหน้าที่หมองคล้ำให้แลดูกระจ่างใส เผยผิวใส เรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ Vitamin E / Aloe Vera Powder / Cogongrass Extract : ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ไม่มีส่วนผสมของไฮโดรควิโนน สารปรอท และกรดเรโนโทอิก ไม่มีส่วนผสมที่เป็นอันตรายต่อผิว หรือทำให้หน้าด่างขาว เนื้อผลิตภัณฑ์ : เนื้อครีมมีสีขาวขุ่น บางเบา เนื้อเกลี่ยง่าย ซึมไวมาก แล้วก็ไม่เหนียวเหนอะหนะเลย ชอบเนื้อผลิตภัณฑ์มาก แต่งหน้าต่อก็ไม่ทำให้เป็นคราบ กลิ่น : จากเท่าที่ดูส่วนประกอบข้างกล่อง จะมีการใส่น้ำหอมเข้ามาด้วย แต่ไม่ได้เยอะมาก เรื่องกลิ่นส่วนตัวเคยใช้ยาประเภทนี้มายี่ห้อนึง กลิ่นเจ้าตัวของ concept ก็คล้ายๆกับที่เคยใช้มาเลย กลิ่นไม่ได้หอมมาก แต่ก็ไม่ได้เหม็นถึงขั้นใช้ไม่ได้ ทาแปปๆกลิ่นก็หายไปแล้ว ผลลัพธ์หลังการใช้ : ส่วนตัวได้มีการถ่ายรูปไว้เป็นระยะๆหลังจากที่ได้ใช้มาเป็นระยะเวลา 35 วัน ในรูปอาจจะเห็นความแตกต่างไม่ชัดมาก แต่ถ้าดูจากผิวหน้าจริงๆ รู้สึกพอใจในตัวครีมนี้อย่างมาก ผิวหนัาเราไม่ได้มีรอยฝ้า หลักๆจะเป็นรอยกระแดดมากกว่า เป็นมานานมากแล้ว แล้วก็ไม่เคยเลเซอร์มาก่อน เคยใช้ยาตัวนึงมา แต่ก็นานมากแล้วตอนนั้นก็ไม่ได้เห็นผลอะไร แต่อันนี้คือส่วนตัวว่าเห็นผลอยู่นะ รอยกระดูจางลงจริงๆ ปกติรอยจะค่อนข้างเข้ม แต่งหน้าใช้คอนซีลเลอร์ก็ยังกลบไม่อยู่ อันนี้ถึงแม้ว่าจะใช้ไปแค่ระยะเวลาเดือนนิดๆ แต่ก็รู้สึกว่ารอยจางลงจริงๆ หลังจากนี้ก็จะใช้ไปเรื่อยๆ ส่วนตัวคิดว่าพวกรอยกระมันต้องใช้เวลาในการรักษาอยู่แล้ว มันไม่ได้หายง่ายขนาดนั้น แล้วก็ต้องทาควบคู่ไปกับครีมกันแดดด้วย ถึงจะเห็นผลจริงๆ ถ้าทาครีมรักษาฝ้า กระ แต่ไม่ทาครีมกันแดด ยังไงกระก็ขึ้นอยู่ดี เพราะไม่มีอะไรปกป้องผิวหน้าจากรังสี UVA และ UVB ความรู้สึกหลังใช้ : ส่วนตัวเป็นคนผิวผสมค่อนไปทางมัน เราชอบเนื้อครีมมาก ชอบที่มันเกลี่ยง่าย ซึมไว แต่งหน้าต่อก็ไม่เป็นคราบ ทาได้เช้า-เย็น ให้ความชุ่มชื้น แต่ก็ไม่ได้ทำให้หน้ามันแต่อย่างใด แล้วยิ่งค่อยๆเห็นผลลัพธ์ไปในทางที่ดีด้วยแล้ว ยิ่งชอบไปใหญ่ ตั้งใจว่าถ้าใช้จนหมดหลอดนี้แล้ว เห็นผลดีขึ้นกว่าตอนนี้ จะไปหาซื้อมาให้คุณแม่ใช้ เพราะคุณแม่หน้ามีรอยฝ้า กระเยอะมาก เราก็ได้กรรมพันธุ์จากแม่มา ตอนแรกว่าจะให้แม่ใช้ก่อน แต่เราต้องมาเขียนรีวิวเลยตัดสินใจใช้เองก่อนดีกว่า ถ้าดียังไงจะไปหาซื้อมาให้แม่ใช้ด้วย ของดีก็ต้องบอกต่อเนอะ อันนี้หลอดที่ใช้คือปริมาณ 24 กรัม หลอดก็ไม่ได้ใหญ่มาก สามารถพกพาไปใช้เวลาไปต่างจังหวัดหรือต่างประเทศได้ ปริมาณ / ราคา : 12 กรัม / 290 บาท

  • เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
  • รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
  • ผลลัพธ์หลังการใช้ : กระจ่างใส, อ่อนโยน, ชุ่มชื้น, ลดจุดด่างดำ, ไม่เหนอะหนะ
  • ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
รีวิวเมื่อ 15 ส.ค. 2561, 19:17

สวัสดีค่า มารีวิวกันแดดของแบรนด์ SMITH หรือของหมอโอ๊คนั่นเองค่า


SMITH PRIVE AESTHETIQUE TOTAL SUNSCREEN SPF 50+ PA+++  
คำเคลม : ครีมกันแดดสูตรปราศจากสารเคมี จึงอ่อนโยนเหมาะกับทุกสภาพผิว ปกป้องยาวนานตลอดวัน


ปกป้องผิวจากรังสี UVA, UVB, รังสี Infrared และ Blue-Light แสงสีฟ้าจากอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์
สูตรปราศจากสารเคมี จึงอ่อนโยนเหมาะกับทุกสภาพผิว
เนื้อบางเบา ไม่อุดตัน ไม่ก่อให้เกิดสิว
ปกป้องยาวนานตลอดวัน


วิธีใช้ : ทาทั่วใบหน้าก่อนออกแดด 30 นาที


เนื้อผลิตภัณฑ์ : สีน้ำตาลเบจอ่อน แต่เกลี่ยแล้วซึมเข้าสู่ผิวไปเลย ตัวกันแดดไม่ได้ช่วยปรับสีผิวแต่อย่างใด เนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย ซึมไวมากๆ พอซึมเข้าผิวแล้วจะไม่ทิ้งความมันวาวบนผิวเลย แต่ว่ายังรู้สึกถึงความชุ่มชื้นอยู่ พอทาเสร็จผิวจะลื่นๆหน่อย ส่วนตัวว่าทำให้แต่งหน้าต่อง่ายด้วยค่ะ ดูจากส่วนผสมหลังกล่องแล้ว ตัวนี้ไม่มีแอลกอฮอลล์ และน้ำหอมนะคะ ผิวแพ้ง่ายใช้ได้แน่นอนค่า จากที่ลองทดสอบความมันบนกระดาษซับมันโดยทิ้งไว้ประมาณ 5 ชม.ก็ตามรูปเลยค่ะ มีน้ำมันออกมาประมาณนึงเลย ส่วนตัวเป็นคนผิวผสมค่อนมันอยู่แล้ว ก็ไม่ได้รู้สึกว่าทำให้หน้ามันขึ้นค่ะ


กลิ่น : กันแดด SMITH ตัวนี้ ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอลล์และน้ำหอมค่ะ แต่ว่าเนื้อครีมกันแดดจะมีความหอมอยู่ในตัว ไม่ทราบเหมือนกันว่าเป็นกลิ่นของอะไร ทุกครั้งเวลาใช้จะรู้สึกคุ้นกลิ่นนี้มาก เหมือนเคยได้กลิ่นในครีมยี่ห้ออื่นแต่นานมาแล้ว แต่กลิ่นหอมดีค่ะ ไม่ได้ฉุนเกินจนปวดหัว


ความรู้สึกหลังใช้ : ส่วนตัวชอบตัวนี้มากค่ะ คือเนื้อมันบางเบามาก แล้วก็เกลี่ยง่ายมากจริงๆ แปปๆซึมเข้าผิวเลยคือสบายผิวมาก สามารถทาได้ทั้งตอนที่ต้องออกไปทำธุระข้างนอก หรือแม้แต่พักผ่อนอยู่ที่บ้านก็แนะนำให้ใช้ค่ะ แถมที่ชอบมากๆเลยคือคุณสมบัติในการกันแดดของเจ้าตัวนี้ค่ะ เพราะว่าสามารถปกป้องผิวจากรังสี UVA, UVB, รังสี Infrared และ Blue-Light แสงสีฟ้าจากอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ได้ แค่อ่านก็รู้สึกว่าน่าใช้แล้วค่ะ ส่วนตัวไม่ค่อยได้ออกไปไหน ค่อนข้างอยู่แต่ที่บ้านซะส่วนใหญ่ ใช้เวลาอยู่กะคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ตลอด เลยรู้สึกว่ากันแดด SMITH ตัวนี้ตอบโจทย์มากค่ะเพราะช่วยป้องกันแสงสีฟ้าจากอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆได้ คือดีจริงๆ แต่ว่ากันแดดตัวนี้ต้องทาก่อนออกแดด 30 นาทีนะคะ ซึ่งส่วนตัวข้อนี้ไม่มีผลอยู่แล้วค่ะ เพราะกว่าจะแต่งหน้าเสร็จก็เลย 30 นาทีไปแล้วค่า


ปริมาณ / ราคา : 30 กรัม / 760 บาท

  • เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
  • รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
  • ผลลัพธ์หลังการใช้ : กลิ่นหอม, อ่อนโยน, ชุ่มชื้น, กันแดดได้ดี, ล้างออกง่าย, ไม่ระคายเคือง, ไม่เหนอะหนะ, เหมาะกับผิวแพ้ง่าย
  • ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
รีวิวเมื่อ 1 ส.ค. 2561, 01:46

สวัสดีค่า วันนี้มารีวิว Biore UV Makeup Base UV SPF50+ PA++++ ค่า
ตัวกันแดดผสมเมคอัพเบสรุ่นนี้จริงๆมีทั้งหมด 3 สูตรด้วยกันค่ะ
Biore UV Bright Up Base UV SPF50+ PA++++ ช่วยปรับสีผิวให้ดูกระจ่างใสมีออร่าทันทีทีทา 
Biore UV Oil Control Base UV SPF50+ PA++++ ช่วยควบคุม ความมัน บนใบหน้า ให้ผิวสวยไม่มันหมอง (เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาผิวมันเป็นพิเศษ) 
Biore UV Covering Base UV SPF50+ PA++++ ช่วยปกปิดปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ พร้อมอำพรางรูขุมขนอย่างเป็นธรรมชาติด้วย 
แต่วันนี้จะมารีวิวสูตร Biore UV Bright Up Base UV SPF50+ PA++++ ที่ช่วยเรื่องปรับสีผิวให้ดูกระจ่างใสมีออร่าค่ะ


คำเคลมผลิตภัณฑ์ : Biore UV Bright Up Base UV SPF50+ PA++++ กันแดดเมคอัพเบส ปกป้องสูง เมคอัพเนียน แน่นเป๊ะติดทนนาน 
SPF50+ PA++++ >> ปกป้องผิวจากรังสี UVB และ UVA ที่ระดับสูงสุด ช่วยปกป้องผิวจากริ้วรอย ฝ้า จุดด่างดำจากแสงแดด 
Makeup Base >> เมคอัพเนียนติดทนยาวนาน ด้วย Anti-Sebum Technology ช่วยดูดซับความมันสาเหตุของเมคอัพเยิ้ม
ผิวดูกระจ่างใสทันที ด้วย “Bright Up Pearl” 
เจลครีมสีชมพูปรับสีผิวให้ดูกระจ่างใส
บางเบาสบายผิว
ผสานคุณค่าการบำรุงให้ผิวชุ่มชื่น
ไม่มีน้ำหอม
ผ่านการทดสอบการระคายเคืองผิว


เนื้อผลิตภัณฑ์ : เนื้อครีมสีชมพูอ่อนๆ บางเบา เกลี่ยง่าย แต่ค่อนข้างแห้งไวนิดนึง แนะนำให้เกลี่ยไวหน่อยจะดีกว่าค่า เพราะถ้าแต้มทิ้งไว้นานจะเริ่มเกลี่ยค่อนข้างยาก แล้วยิ่งถ้าเกลี่ยไม่ดี จะทำให้เป็นคราบได้ค่ะ พอเกลี่ยเสร็จจะแห้งแมตไปเลย ซึ่งดีมาก สบายผิวมากค่ะ ไม่ได้รู้สึกเหนอะหนะเลย แต่เนื้อครีมมีส่วนผสมของแอลกอฮอลล์เยอะนะคะ ใครที่ผิวแพ้ง่ายแนะนำให้ลองเทสต์ดูก่อนจ้า 


กลิ่น : ตัวนี้ไม่มีน้ำหอมนะคะ กลิ่นก็เลยเฉยๆอะค่ะ ถ้าไม่ได้ตั้งใจดมมันก็ไม่ได้กลิ่นอะไรจ้า ซึ่งส่วนตัวว่าดีกว่าใส่น้ำหอมค่ะ


ประสิทธิภาพการกันแดด : ใส่สารกันแดดมาให้สูงถึง SPF50+ PA++++ คือถือว่าเยอะมากแล้วในบรรดาครีมกันแดดสมัยนี้ ซึ่งเหมาะกับสภาพอากาศแบบบ้านเรามาก เอาจริงๆไม่ว่าจะออกไปข้างนอก หรือว่าอยู่แต่ในบ้านก็แนะนำให้ทากันแดดอยู่ดีอะค่ะ เพราะเจ้ารังสี UV ทั้ง UVA UVB สามารถทำลายผิวเราได้มากจริงๆ ส่วนตัวเป็นคนมีกระแดดค่ะ ถ้าไม่ทากันแดดแล้ววออกไปโดนแดดจังๆนี่ ฝ้ากระขึ้นแน่นอน แต่หลังจากที่ได้ลองใช้ Biore UV Bright Up Base UV แล้วรอยกระก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นค่ะ คิดว่าทำหน้าที่กันแดดได้ดีเลยค่า


ความรู้สึก/ผลลัพธ์หลังใช้ : ชอบนะคะ เพราะเป็นทั้งกันแดดและเบสปรับสีผิวในตัว ทาตัวเดียวได้สองอย่าง สามารถใช้ได้ทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นวันที่พักผ่อนอยู่บ้าน หรือออกไปทำธุระหรือทำงานข้างนอก คือเหมาะมากค่ะ ประสิทธิภาพในการกันแดดก็ทำได้ดี ส่วนเรื่องเบสเนื้อชมพู ที่ช่วยให้หน้ากระจ่างใสขึ้น สำหรับเราเราว่าก็ช่วยได้นิดนึงจ้า ไม่ได้ปรับสีจนขาวลอย แค่ช่วยให้หน้าดูกระจ่างขึ้นนิดหน่อย คิดว่าทุกสีผิวน่าจะใช้ได้ค่ะ คนผิวเข้มหน่อยก็แนะนำให้ใช้ทีละนิด ไม่พอก็ค่อยๆเพิ่มเอาจ้า แล้วก็ชอบที่มี Bright Up Pearl ค่ะ คือทาแล้วผิวดูฉ่ำๆนิดนึง แต่ว่าหน้าแมตไม่เหนอะหนะนะ ลองดูจากรูปที่ทาบนมือได้จ้า มันดูมีประกายนิดๆดูผิวดี แล้วก็ไม่ได้เห็นเป็นเม็ดๆชิมเมอร์ขนาดนั้นอะค่ะ คือกำลังดีไม่เยอะไป ทาทั่วหน้าก็ไม่มีปัญหา ส่วนตัวเป็นคนผิวผสมค่อนมัน ก็เลยไม่ชอบทาอะไรที่มันเนื้อฉ่ำวาวจนเกินไป เพราะแทนที่จะหน้าฉ่ำโกลว์ จะกลายเป็นเหมือนหน้ามันไป ซึ่งตัวนี้ตอบโจทย์มาก ช่วยให้แต่งหน้าต่อได้ง่ายขึ้น ผิวไม่ดูหมองๆด้วยค่า


ปริมาณ/ราคา : 30 กรัม / 650 บาท 

  • เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
  • รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
  • ผลลัพธ์หลังการใช้ : กระจ่างใส, ติดทนนาน, ดูเป็นธรรมชาติ, ควบคุมความมัน, กันน้ำ/กันเหงื่อ, สีสม่ำเสมอ, เกลี่ยได้ง่าย, ไม่ระคายเคือง, เรียบเนียน, กระจายแสง/ ปรับสีผิว, ไม่เหนอะหนะ
  • ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
รีวิวเมื่อ 31 ก.ค. 2561, 22:08

จากที่ได้ลองใช้กันแดดทาตัว NIVEA Sun Body Daily Protect Whitening Sun Serum SPF50 PA+++ มาประมาณ 3 สัปดาห์

ส่วนตัวรู้สึกโอเคกับกันแดดตัวนี้ ประสิทธิภาพในการกันแดดดี ทาออกแดดทุกวัน แต่ผิวไม่คล้ำขึ้นเลย แต่ส่วนตัวว่ากลิ่นน้ำหอมแรงไปนิดนึงค่ะ เนื้อกันแดดเป็นสีขาว แต่พอทาแล้วไม่ได้ปรับสีผิวให้ดูขาวขึ้นแต่อย่างใด แต่ก็ยังรู้สึกว่า ต้องเกลี่ยให้ดีๆนิดนึง เพราะถ้าเกลี่ยไม่ดีจะเห็นว่าเป็นคราบขาวๆค่ะ ถ้าเกลี่ยดีๆก็จะเนียนไปกับผิวเลย แล้วก็ตัวนี้ซึมไว ไม่เหนอะหนะเลยค่ะ ทาแล้วสบายผิวมาก เป็นอีกอย่างที่ชอบกันแดดตัวนี้เลยค่ะ

แต่ส่วนตัวว่าไม่ค่อยกันน้ำเท่าไหร่ จากเท่าที่ลองฉีดสเปรย์น้ำแร่ใส่ แล้วเอามือถูๆดู ก็มีละลายไหลเป็นน้ำขาวๆเหมือนกันนะคะ ถ้าอยากให้ช่วยกันแดดได้ดียิ่งขึ้น ยังไงก็แนะนำให้ทาซ้ำระหว่างวันอยู่ดีค่า

เป็นกันแดดอีกตัวที่แนะนำค่ะ ราคาไม่สูงมาก จับต้องได้ มีหลายไซส์ให้เลือกซื้อ ซื้อไซส์เล็กพกพาไว้ก็สะดวกดีค่า

  • เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
  • รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
  • ผลลัพธ์หลังการใช้ : เหมาะกับผลิตภัณฑ์นี้, ดูเป็นธรรมชาติ, กันแดดได้ดี, ไม่เหนอะหนะ, เหมาะกับผิวแพ้ง่าย
  • ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
รีวิวเมื่อ 11 มิ.ย. 2561, 00:31

สวัสดีค่า วันนี้มารีวิวกันแดด NIVEA Sun Protect & White Instant Aura Serum SPF50+ PA+++ ค่า อันนี้คือคำเคลมจากทางแบรนด์นะคะ กันแดดผสานพิงค์ ไพรม์เมอร์ ให้ผิวดูออร่าขึ้น 1 เบอร์ แต่งหน้าได้เรียบเนียน กันแดดเนื้อเซรั่ม เพื่อผิวขาวออร่าทันที* เพราะแดดที่เจอเป็นประจำ ทำให้ผิวไม่กระจ่างใส นีเวียจึงขอนำเสนอครีมกันแดดที่ช่วยให้สีผิวดูกระจ่างใส ดุมีออร่าทันที* Double UV Protection ปกป้องเต็มที่ด้วย SPF50+ และ PA+++ ปกป้องผิวจากรังสี UVA, UVB สาเหตุหนึ่งของผิวคล้ำเสีย ฝ้าแดด กระ จุดด่างดำ และริ้วรอยก่อนวัย Aura Booster & Vitamin E ช่วยให้ผิวดูขาวออร่า^ กระจ่างใสในทันที* ด้วย Aura Booster สูตรเฉพาะจากนีเวีย ซัน และคงความชุ่มชื้นให้ผิวด้วย Vitamin E Licorice Extract สารสกัดจากธรรมชาติ ฟื้นบำรุงผิวให้ดูกระจ่างใส^ Perfect Make-up Preparation เนื้อครีมสีชมพูอ่อน บางเบา เกลี่ยง่าย ซึมซาบลงสู่ผิวได้รวดเร็ว เหมาะกับทุกสภาพผิวแต่งหน้า ดูกลมกลืนเป็นธรรมชาติ หน้าไม่ขาวลอย ใช้เป็นรองพื้นก่อนแต่งหน้าได้ *ด้วยประสิทธิภาพของ Titanium Dioxide ^สีผิวดูขาวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ ผลิตภัณฑ์ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสีผิวตามธรรมชาติของแต่ละบุคคล ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล บอกก่อนว่าส่วนตัวเคยใช้กันแดด NIVEA Sun Protect & White มาก่อนอยู่แล้ว แต่เป็นสูตรลดความมัน (หลอดสีเขียว) ค่า เพราะเป็นคนผิวผสม ทีโซนจะมันมากเป็นพิเศษเลยเลือกที่จะซื้อหลอดสีเขียวมาใช้ค่ะ แต่สูตรดูขาวออร่าทันที (สีชมพู) ได้มาจาก กิจกรรมที่ทาง cosmenet จัดขึ้นค่ะ แพคเกจ : มาในรูปแบบหลอดๆ มีหลายไซส์ให้เลือกซื้อ ตัวหลอดไซส์ใหญ่สุดจะให้มาในปริมาณ 30 ml ซึ่งใช้ได้นานพอสมควรเลย ส่วนใครที่อยากลองใช้ เค้าก็มีไซส์เล็กจัดจำหน่ายอยู่ ลองหาซื้อมาใช้กันดูได้จ้า เนื้อผลิตภัณฑ์ : เป็นเนื้อเซรั่มสีชมพูอ่อนๆ เนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย แล้วก็ซึมไว พอเกลี่ยเสร็จจะให้ลุคผิวที่ดูฉ่ำๆนิดนึง แต่ไม่ได้ถึงกับมันเยิ้ม คือมันสบายผิวหน้ามากเลยอะ กลิ่น : มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ไม่ได้ฉุนมากเกินไป ผลลัพธ์หลังใช้ : จากคำเคลมที่บอกว่าทาแล้วให้ผิวออร่าขึ้น 1 เบอร์ ส่วนตัวเราว่าเฉยๆ ไม่ได้ออร่าขึ้นขนาดนั้นอะ แค่ผิวดูฉ่ำขึ้นมานิดเดียว นิดเดียวจริงๆ และถึงแม้ว่าเนื้อเซรั่มจะเป็นสีชมพู แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นปรับสีผิวให้ดูขาวอะไรมากมาย คือเนื้อหรือเม็ดสีมันไม่ได้หนักแน่นเหมือนพวกเมคอัพเบสที่มีสีอะไรจำพวกนั้นอะค่ะ ของเราจากที่ลองทาดูครึ่งหน้า ผิวมันก็ไม่ได้ดูขาวออร่าขึ้นกว่าข้างที่ไม่ได้ทาแต่อย่างใด แค่รู้สึกผิวดูมีน้ำมีนวลมากขึ้นนิดเดียว แต่ถ้ามองในแง่ของกันแดดที่มีสารป้องกันแสงแดดมาให้ถึง SPF50+ PA+++ เราว่าเป็นกันแดดที่ดีนะ เพราะเนื้อเซรั่มบางเบามากจริงๆ เกลี่ยง่าย ซึมไว ประสิทธิภาพในการกันแดดดี ความคิดเรานี่น่าจะเป็นส่วนประกอบหลักๆในการตัดสินใจซื้อกันแดดตัวนึงมากกว่า เพราะคงไม่มีใครชอบเนื้อกันแดดที่หนักๆ ทาแล้วไม่สบายผิวเท่าไหร่อะค่ะ เวลาเลือกซื้อ ก็เลือกซื้อตามสภาพผิวของเราดีกว่า ใครที่ผิวหน้าค่อนข้างมัน เราแนะนำหลอดสีเขียว แต่ถ้าใครอยากให้ผิวดูกระจ่างใสนิดนึงก็เลือกหลอดชมพูจ้า ส่วนตัวจากที่ได้ลอง NIVEA มาทั้ง 2 สูตรก็รู้สึกชอบนะคะ เพราะราคาก็ไม่ได้แรงมาก จับต้องได้ คุณภาพดีด้วย พกไปไหนมาไหนก็สะดวก เพราะมีหลายไซส์ให้เลือกซื้อใช้ หลอดใหญ่ก็ใช้ได้นานทีเดียว คิดว่าถ้าใช้หมดแล้วมีซื้อต่อแน่นอนค่า

  • เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
  • รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
  • ผลลัพธ์หลังการใช้ : กลิ่นหอม, ชุ่มชื้น, กันแดดได้ดี, ล้างออกง่าย, ไม่ระคายเคือง, ไม่เหนอะหนะ
  • ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
รีวิวเมื่อ 21 พ.ค. 2561, 01:23

สวัสดีค่า วันนี้จะมารีวิว โฟมล้างหน้า NIVEA Caring Whip Foam ค่า คำเคลมทางแบรนด์นะคะ ครั้งแรกที่การล้างหน้าจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์บำรุงไปพร้อม ๆ กับการล้างหน้า ด้วยวิปโฟมล้างหน้า เนื้อละเอียดหนานุ่ม เพิ่มมอยเจอร์ไรเซอร์ 3 เท่า เพียงถูกับน้ำเบา ๆ เนื้อโฟมจะเปลี่ยนเป็นวิปเนื้อละเอียดหนานุ่ม ให้ผิวสัมผัสที่อ่อนโยน ไม่ระคายเคืองแม้ผิวแพ้ง่าย ด้วยสูตรปราศจากแอลกอฮอล์ - วิปโฟมล้างหน้าอ่อนละมุน ทำความสะอาดสิ่งสกปรกและเมคอัพอุดตันลึกถึงรูขุมขน* - เป็น 0% แอลกอฮอล์ อ่อนโยนและไม่ระคายเคืองแม้ผิวแพ้ง่าย - มีมอยส์เจอร์ไรเซอร์เข้มข้น 3 เท่า^ ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้น พร้อมปกป้องผิว ไม่รู้สึกผิวหน้าแห้งตึงหลังล้างหน้า มีให้เลือกด้วยกัน 2 สูตร - Pearl White เหมาะสำหรับผิวธรรมดา มีเซรั่มไข่มุกสกัด ช่วยให้ผิว-หน้าแลดูขาวกระจ่างใส สังเกตได้ทันทีที่ใช้ - White Oil Clear เหมาะสำหรับผิวมัน มีคาร์นิทีนช่วยควบคุมความมันบนใบหน้าระหว่างวัน จึงลดโอกาสการเกิดสิวอุดตัน ที่เค้าได้มาทดลองใช้จะเป็นสูตร Pearl White เหมาะสำหรับผิวธรรมดาค่า เนื้อผลิตภัณฑ์ : เป็นสีขาวขุ่น ค่อนข้างข้นเลยทีเดียว กลิ่น : กลิ่นหอมสไตล์นีเวียดีค่ะ กลิ่นไม่ฉุนจนเกินไป ปกติไม่ค่อยชอบกลิ่นน้ำหอมแรงๆเท่าไหร่ แต่อันนี้ให้ผ่านเลย ดมแล้วไม่ทำให้ปวดหัวจ้า ปริมาณ : 100 มล. อันนี้เราว่าให้มาเยอะเลยทีเดียวแหละ เพราะใช้แต่ละครั้งคือใช้น้อยมาก บีบนิดเดียว แต่ตีฟองได้ฟู เพราะงั้นเราว่าคุ้มค่า ใช้ได้นานเลยจ้า วิธีตีฟองให้ขึ้นฟูนุ่ม : 1. วิธีแรก เค้าใช้วิธีตีด้วยมือ ถูๆวนๆแล้วค่อยๆหยดน้ำใส่นิดหน่อย แล้วถูๆวนๆ ใส่น้ำอีก ทำซ้ำประมาณ 2-3 รอบ ฟองถึงจะขึ้นเยอะ แต่ค่อนข้างเหลว แล้ววิธีนี้ฟองที่ได้ก็ยังไม่เยอะ และยังไม่แน่นเท่าที่ควร 2. วิธีที่สอง เค้าใช้ตัวฟองน้ำอาบน้ำ จริงๆมันก็ใช้ได้นะ แต่ใช้แยกกะที่เราใช้อาบน้ำดีกว่า เอาที่ใช้อาบน้ำมาใช้กับที่ล้างหน้า คงไม่โอเคเท่าไหร่ค่ะ 555 วิธีนี้ฟองจะขึ้นฟูกว่าวิธีแรก และค่อนข้างแน่นเลยทีเดียว 3. วิธีที่สาม เค้าใช้ตาข่ายตีฟองที่นิยมใช้ตีฟองโฟมล้างหน้ากัน วิธีนี้ก็ให้ฟองที่ฟูทีเดียว แต่เนื้อฟองที่ได้จะไม่ค่อยแน่นเท่าไหร่ คือฟองที่ได้จะอยู่กึ่งกลางระหว่างวิธีแรกกะวิธีที่สองจ้า จริงๆก็ใช้ได้ทั้ง 3 วิธีที่บอกไปนะ แล้วแต่สะดวกเลย ส่วนตัวเค้าถนัดใช้วิธีแรกมากกว่า รู้สึกเร็วดี ผลที่ได้หลังจากล้างหน้าก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่จ้า ผลลัพธ์หลังจากที่ได้ลองใช้ : - หลังลองใช้ครั้งแรก : ด้วยความที่เค้าได้สูตร Pearl White มา คำเคลมบอกไว้ว่า ” ช่วยให้ผิวหน้าแลดูขาวกระจ่างใส สังเกตได้ทันทีหลังใช้ “ คืออันนี้ไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ง่า อาจจะเป็นเพราะเราขาวอยู่แล้วด้วยรึเปล่าก็ไม่รู้นะ แต่มันไม่ได้เห็นผลชัดขนาดนั้นหลังจากที่ได้ใช้ครั้งแรกอ่า คือเราว่ามันก็ดูกระจ่างใสขึ้นนิดเดียว แค่นิดเดียว ไม่ได้ถึงขั้นเห็นชัดว่าขาวขนาดนั้นนะ แล้วส่วนตัวเรายังมีความคิดที่แบบ อะไรที่มันมีส่วนช่วยในการบำรุงผิว แล้วยิ่งเรื่องความขาวกระจ่างใสด้วยแล้ว ยังไงมันก็ไม่มีทางเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกอยู่แล้วอะ คือยังไงมันก็ต้องใช้เวลาอยู่ดีอะค่ะ - หลังจากที่ได้ลองใช้มา 2 สัปดาห์กว่าๆ : อันนี้คือเราใช้ทุกวันเช้า-เย็นติดกันเลยนะ คือส่วนตัวเป็นคนนอนดึกมากก หน้าค่อนข้างโทรม และหมองคล้ำมาก มีรอยกระรอยสิวเยอะ หลังจากที่ใช้ คือไม่รู้ว่าคิดไปเองเปล่า แต่เราว่าหน้าเราดูกระจ่างใสขึ้นจริงๆ มันไม่ได้ถึงขั้นขาวขึ้นหนึ่งระดับอะไรขนาดนั้น คือมันก็ขึ้นกับพื้นผิวของแต่ละคนด้วยเนอะ แต่ที่เรารู้สึกได้คือหน้าไม่ค่อยดูหมองๆ เวลาแต่งหน้าก็แต่งน้อยลง บางทีใช้แค่แป้งโดยใช้แปรงปัดๆเอาเท่านั้น ปกติเราจะลงพวก บีบีครีม บีบีคุชชั่นก่อนลงแป้ง แต่อันนี้คือรู้สึกแต่งหน้าน้อยๆก็รอดแล้ว แล้วชอบผิวหน้าตัวเองมากกว่าเมื่อก่อนด้วย เรื่องความชุ่มชื้น : อันนี้เราชอบนะ ส่วนตัวเป็นคนชอบใช้โฟมล้างหน้าแบบฟองเยอะๆอยู่แล้ว แล้วเวลาใช้พวกแบบโฟมฟองเยอะๆ จะรู้สึกว่าหน้าค่อนข้างแห้ง บางยี่ห้อลูบหน้าทีดังเอี๊ยดเลย แต่อันนี้ลองลูบๆหลายครั้งแล้ว เออไม่เป็นอะ ดูไม่ถึงกับล้างเอาความชุ่มชื้นความมันไปหมด แต่คือหน้ายังมีความชุ่มชื้นอยู่ คือชอบมาก แล้วหน้าก็นุ่มขึ้นจริงๆ ที่จริงอยากลองสูตร White Oil Clear มากกว่า เพราะเป็นคนผิวผสม ทีโซนมันมาก ก็เลยกะว่าเออถ้าใช้หลอดนี้หมด ว่าจะซื้ออีกสูตรมาลองดู เผื่อจะช่วยเรื่องความมัน เรื่องสิวได้บ้างจ้า ก็ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ค่า ใครสนใจก็ลองซื้อมาใช้ดูได้นะ เป็นโฟมล้างหน้าอีกตัวที่เรารู้สึกโอเคเลยจ้า

  • เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
  • รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
  • ผลลัพธ์หลังการใช้ : กระจ่างใส, ทำความสะอาดได้ดี, อ่อนโยน, ชุ่มชื้น, ล้างเครื่องสำอางได้หมดจด
  • ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
รีวิวเมื่อ 14 พ.ค. 2561, 03:25

สวัสดีค่า วันนี้จะมารีวิว ครีมอาบน้ำ Parrot Natural Natural Filler Hyaluron ค่า อันนี้คือคำเคลมที่ทางแบรนด์บอกไว้นะคะ ครีมอาบน้ำ แพรอท เนเชอรัล ฟิลเลอร์ ไฮยาลูรอน เหนือชั้นกว่าด้วยไฮยาลูรอนเติมเต็มผิวประหนึ่งฟิลเลอร์ธรรมชาติ พร้อมทริปเปิ้ลมอยส์เจอร์จากธรรมชาติอันทรงคุณค่า บำรุงผิวให้นุ่มชุ่มชื่นยิ่งกว่า เติมเต็มผิวให้ช่วงเวลาที่ดีที่สุดทุกครั้งที่อาบ ผิวแลดูอ่อนเยาว์ ผิวชุ่มชื้นขั้นสุด ผิวเนียนเด้งอิ่มน้ำ วิธีใช้ : ใช้ทำความสะอาดผิวกาย ลูบไล้ให้เกิดฟองครีมหนานุ่ม แล้วล้างออก มีทั้งหมด 4 สูตรให้เลือกใช้ด้วยกันค่ะ 1.Morning Peony กลิ่นหอมสไตล์หวานโรแมนติก จากดอกพีโอนี 2.Secret Blossom มนต์สเน่ห์ความหอมมีระดับ จากดอกทิวลิป 3.Fresh Breeze กลิ่นหอมสดชื่นจากดอกไวท์ ทิวลิป เพิ่มความแอคทีฟในตัวคุณ 4.Soft Cashmere กลิ่นหอมละมุนสไตล์สาวแฟชั่นนิสต้า จากดอกแดฟโฟดิล โดยทุกๆสูตรเนี่ย รังสรรค์โดย Perfume Master ระดับโลกเลยนะคะ แล้วแต่ละสูตรก็จะมีสี และกลิ่นที่ต่างกันไป อันนี้เค้าได้มาจากกิจกรรมของทาง cosmenet เพราะฉะนั้นสูตรที่จะมาพูดถึงวันนี้คือสีชมพู Morning Peony ค่ะ ส่วนตัวเคยใช้ครีมอาบน้ำกับสบู่ก้อนของ Parrot มาบ้างแล้ว ครีมอาบน้ำที่เคยใช้คือรุ่น Parrot Gold ตัวนี้คือบอกตามตรงว่าไม่ชอบกลิ่นน้ำหอมที่ใส่มาในผลิตภัณฑ์เลยค่ะ ส่วนตัวเป็นคนไม่ค่อยชอบกลิ่นน้ำหอมแรงๆอยู่แล้ว แล้วรุ่น parrot gold คือกลิ่นน้ำหอมแรงมาก แรงจนปวดหัว ตัวเนื้อครีมอาบน้ำสีทองคือดี แต่เสียเรื่องกลิ่นอย่างเดียวค่ะ ส่วนสบู่ก้อนเคยใช้รุ่น Parrot Herbal Turmeric อันนี้ก็ดี ใช้กับตาข่ายตีฟอง ฟองเยอะมาก อาบแล้วเหมือนได้ขัดตัวไปด้วย ชอบมากค่ะ ทีนี้พอได้มาลองเจ้า Parrot Natural Filler Hyaluron ตัวนี้ ก็รู้สึกชอบแล้วอยากกลับมาใช้ครีมอาบน้ำของ parrot อีก คือกลิ่นน้ำหอมแบบหอมกำลังดีเลย ไม่เยอะไป ไม่น้อยไป ชอบมาก ใช้แล้วผิวก็นุ่มตัวก็หอม แล้วส่วนตัวเป็นคนที่ขี้เกียจทาครีมมาก บางวันก็ลืม แต่ๆหลักจะขี้เกียจ แล้วอยู่แต่ห้องแอร์ตลอด ทำงานก็ทำห้องแอร์ เพราะฉะนั้นผิวคือจะแห้งมาก ถ้าช่วงหนักๆเลย ผิวจะดูแห้งแตกระแหงมาก ส่วนบริเวณขาจะลอกเป็นขุยๆเลย แต่พอลองใช้ครีมอาบน้ำสูตรนี้ไปได้ 16 วัน คือรู้สึกได้ว่าผิวจากที่แห้งมาก มันดูโอเคขึ้นจริงๆค่ะ อาจจะไม่ได้ดูชุ่มชื้นมากแต่ลูบๆผิวแล้วไม่แห้งสากก็รู้สึกดีมากแล้วอะค่ะ ส่วนตัวคิดว่าถ้าใช้ขวดนี้หมด ก็ว่าจะลองไปหาซื้อสูตรอื่นๆมาใช้ต่อ กลิ่นน่าจะหอมอยู่ค่า แพคเกจ : อันนี้ไซส์ที่ได้มาจะมีขนาด 200ml ค่ะ รูปแบบขวดเป็นแบบขวดบีบ จับสะดวก ขวดเป็นพลาสติก น้ำหนักเบาค่ะ แต่ถ้าเป็นขนาด 450ml จะมาในรูปแบบขวดปั๊มค่า แล้วก็มีการออกแบบลวดลายสีสันได้สวยมากๆ แค่เห็นขวดก็รู้เลยว่าแต่ละสูตรคือกลิ่นของดอกไม้อะไร เนื้อผลิตภัณฑ์ : รุ่น Morning Peony ขวดจะเป็นสีชมพูค่ะ เนื้อครีมอาบน้ำก็เลยเป็นสีชมพูด้วย จะออกสีชมพูอ่อนๆ เป็นครีมอาบน้ำที่ส่วนตัวชอบเนื้อแบบนี้มาก บีบออกมาถูๆ แล้วคือมีฟอง ฟองขึ้นง่าย อาบแล้วรู้สึกผิวชุ่มชื้นจริงๆ ไม่แห้งเอี๊ยด แล้วก็ล้างออกง่าย แค่ถูๆแล้วล้างด้วยน้ำเปล่าก็ออกหมดแล้วค่า แนะนำสำหรับคนที่ชอบอาบน้ำแบบฟองเยอะๆ ให้ใช้ฟองน้ำ หรือตาข่ายตีฟองช่วยค่ะ จากรูปเค้าบีบลงตาข่ายแค่นิดเดียว ขยำๆแปปเดียว ฟองขึ้นเต็มเลย ใช้แค่นิดเดียวก็สามารถทำความสะอาดร่างกายได้อย่างหมดจดแล้ว แล้วก็สามารถใช้ได้นานขึ้นอีกแน่นอนค่า กลิ่น : ตัวเนื้อผลิตภัณฑ์ของแต่ละสูตรก็มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ตามกลิ่นดอกไม้ๆต่าง เป็นความหอมที่พอดีๆ ไม่ฉุนเกินไปจนทำให้ปวดหัว แล้วก็กลิ่นน้ำหอมติดตัวดีประมาณนึงเลยค่า ใช้แล้วห้องน้ำกลิ่นหอมแบบคลุ้งมาก ผลลัพธ์หลังใช้ : ส่วนตัวชอบมากค่ะ ดูจากส่วนผสมที่ทางแบรนด์เคลมแล้ว เป็นครีมอาบน้ำที่น่าสนใจอีกตัวนึงเลยค่ะ เพราะมีไฮยาลูรอนที่ช่วยเรื่องความชุ่นชื้นแบบสุดๆ มีหลายสูตร สามารถเลือกใช้ตามกลิ่นน้ำหอมแบบต่างๆที่ชอบ ส่วนตัวคิดว่าการบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นเป็นเรื่องที่สำคัญค่ะ เพราะพอผิวชุ่มชื้นแล้วเนี่ย ผิวเราก็จะดูอ่อนเยาว์ขึ้น มีความเนียนเด้ง ใครๆก็ชอบเนอะ แต่เราว่ากว่าผิวจะชุ่มชื้นได้เนี่ย มันต้องใช้เวลานานพอสมควร จากที่เค้าได้ลองใช้เช้าเย็นมา 16 วันติด โดยที่ไม่ได้ทาครีมบำรุงตามเลย เพราะอยากทดลองใช้จริงๆ ก็รู้สึกว่าผิวดูอิ่มน้ำขึ้นนะ อาจจะไม่ได้มากมายอะไร แต่ก็ชอบผิวตัวเองตอนนี้พอสมควร ถ้าดูจากรูป before-after อาจจะไม่เห็นความแตกต่างที่ชัดเจนเท่าไหร่ จากรูปเราใช้เลนส์กล้อง Macro ถ่าย ไม่รู้ว่าจะช่วยได้มั้ยนะคะ แต่ว่ารูป before เนี่ยเราว่าผิวมันดูแห้งๆรอยแตกแบบลึกและเห็นชัดแล้วก็รอยเยอะมาก ส่วนฝั่ง after ก็ยังมีรอยๆอยู่ แต่รู้สึกว่ารอยมันดูตื้นขึ้นนิดนึง คิดว่าถ้าใช้ไปเรื่อยๆ แล้วก็หมั่นทาครีมบำรุงควบคู่ไปด้วย มันจะต้องดีขึ้นมากกว่านี้ได้อีกแน่นอนค่า สุดท้ายก็ขอขอบคุณทาง Cosmenet ด้วยนะคะที่จัดกิจกรรมดีๆแบบนี้มาให้ได้ร่วมสนุกกัน ก็ขอจบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้ค่า ^^

  • เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
  • รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
  • ผลลัพธ์หลังการใช้ : สดชื่น , กลิ่นหอม, ชุ่มชื้น, ช่วยให้ผ่อนคลาย, ล้างออกง่าย
  • ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
รีวิวเมื่อ 9 เม.ย. 2561, 02:54

สวัสดีค่า วันนี้จะมารีวิว Dove Moisture Care Treatment ค่า อันนี้คือคำเคลมของเจ้า Dove Moisture Care Treatment ที่ทางแบรนด์บอกมานะคะ ครีมนวดผมแบบหลอด นำเข้าจากญี่ปุ่น และ Best Seller ขายดีที่ญี่ปุ่น - สูตรสำหรับผมเสียมาก บำรุงผมให้สวยได้ใน 30 วินาที - ด้วยเทคโนโลยี มอยส์เจอร์ มิลค์ เอ็กซ์ จากญี่ปุ่น ช่วยฟื้นบำรุงผมที่เสียมากจากภายใน พร้อมเคลือบปิดล็อคผมทันที ให้ผมสวยจากภายในสู่ภายนอก วิธีใช้ : หลังสระผม ชโลมเนื้อครีมลงบนผมเปียกโดยเน้นบริเวณกึ่งกลางจนถึงปลายผม ทิ้งไว้ 30 วินาที แล้วล้างออก บอกตามตรงว่า ไม่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับผมของ DOVE มานานพอสมควร พอได้ลองตัวนี้แล้ว แบบเอ้อมันดีอะ ส่วนตัวเป็นคนสระผมทุกวัน เพราะผมมันง่าย แต่ก็ใช้ครีมนวดผมทุกวัน เพราะผมแห้งเสียมาก เหตุเกิดจากการย้อมสีผมที่บ่อยพอสมควร แรกสุดคือกัดสีจนอ่อนมากๆแบบออกทองๆเหลืองๆเลย หลังจากนั้นก็เปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ ชมพูบ้าง ม่วงบ้าง ฟ้าบ้าง เทาบ้าง สีหลุดก็ย้อมใหม่ บวกกับพอตัดผมสั้น ปกติเป็นคนผมเป็ดมาก เกือบทุกเช้าก็จะใช้พวกเครื่องหนีบผม ตอนกลางคืนก็ใช้ไดร์เป่าผมให้แห้ง คือผมโดนสารเคมี โดนความร้อนหนักมาก ผมแห้งฟู ขาดง่าย แตกปลาย สางยาก บางทีสางแล้วกระตุกเส้นผมหลุดมาด้วยอีก ก็เลยรู้สึกว่าจำเป็นต้องใช้ครีมนวดผมทุกวันค่ะ พอได้ลองตัวนี้เป็นเวลา 19 วัน คือส่วนตัวรู้สึกว่าสภาพผมดีขึ้นมาก ในรูปอาจจะไม่ได้เห็นส่วนต่างมากมาย แต่ผมเราอะเนอะ สภาพผมมันดูสุขภาพดีขึ้น ทุกเช้าไม่ต้องทำอะไรกับผมมากเหมือนเมื่อก่อน แค่เอาหวีๆผมก็พอ เสยผม สางผมก็ง่าย ไม่กระตุกเส้นผมมาด้วย คือสังเกตได้เองเลย ถือว่าดีมากค่ะ แพคเกจจิ้ง : มาในรูปแบบหลอดบีบ ใช้งานง่าย ออกแบบตัวแพคเกจจิ้งได้ดูหรู น่าใช้ดีค่ะ พอใกล้จะหมดก็สามารถตัดหลอด ควักออกมาใช้ได้แบบหมดจริงๆ เนื้อผลิตภัณฑ์ : ในเรื่องของเนื้อผลิตภัณฑ์ มีสีขาวขุ่น ค่อนข้างข้นเลยทีเดียว แต่พอชโลมลงบนผมแล้ว มันเกลี่ยง่าย ไม่ได้เหนอะหนะเป็นก้อนๆ ซึมเข้าไปในผม แล้วผมก็ลื่นขึ้น สางง่ายขึ้นเลย เวลาล้างก็ล้างออกง่าย ชอบเนื้อผลิตภัณฑ์มากค่ะ คือมันไม่ทำให้ผมมันขึ้นด้วยค่า กลิ่น : มีกลิ่นหอมสไตล์ DOVE เลยค่ะ แต่รู้สึกกลิ่นจะหอมอ่อนๆกว่ารุ่นก่อนๆของ DOVE คือดีตรงที่กลิ่นไม่ฉุนเลย แถมกลิ่นยังติดดี ใช้แล้วผ่อนคลาย ไม่ได้รู้สึกเหม็นหรือรู้สึกไม่สบายจมูกแต่อย่างใด คือดีมาก เราเป็นคนนึงที่เวลาใช้อะไรจะให้ความสำคัญกับกลิ่นด้วย เป็นคนไม่ค่อยชอบกลิ่นน้ำหอมจ๋าๆเท่าไหร่ค่ะ เคยเจอครีมนวดผมบางแบรนด์สาดกลิ่นน้ำหอมมาแบบอึ้บมาก แค่เปิดฝามาก็ไม่อยากใช้แล้ว ไม่โอเคเลย แบบนั้นคือใช้แล้วจะรู้สึกปวดหัวมากค่ะ แต่อันนี้ผ่านจ้า วิธีใช้ : ส่วนตัวเคยได้ยินมาว่า เวลาใช้ครีมนวดผมไม่ควรชโลมบริเวณหนังศีรษะ เพราะอาจจะทำให้หนังศีรษะเกิดการอุดตันได้ เวลาใช้เราก็จะเน้นชโลมและขยำๆตรงช่วงกลางถึงปลายเส้นผม ส่วนเรื่องเส้นผมส่วนต้นๆ เราจะใช้วิธีเอามือสางๆเอาค่ะ ให้พอโดนเส้นผมช่วงต้นๆบ้าง แต่จะไม่ถึงขั้นขยำๆบริเวณหนังศีรษะ เราคิดว่าวิธีนี้ก็จะช่วยให้เส้นผมบริเวณต้นๆได้รับสารบำรุงไปด้วยค่า เพราะถึงแม้จะเป็นผมธรรมชาติที่ไม่ได้ผ่านการย้อมมาก็จริง แต่ก็ยังโดนความร้อนจากไดร์เป่าผมทุกวันอยู่ดี อย่างน้อยก็ให้ได้รับการบำรุงซักนิดก็ยังดีค่ะ ผลลัพธ์หลังใช้ : อย่างที่บอกว่าได้ทดลองใช้ติดต่อกันมา 19 วันแล้ว รู้สึกชอบมากๆทั้งเรื่องของเนื้อผลิตภัณฑ์ที่ไม่หนักเกินไป กลิ่นที่หอมกำลังดี ล้างออกง่าย แถมยังใช้เวลาแค่ 30 วินาทีเท่านั้น คือถือว่าเร็วมากเลยค่ะ ปกติเวลาเราใช้ครีมนวด ก็จะชโลมนานประมาณ 3-5 นาทีได้ แต่นี่แค่ 30 วินาที ย่นระยะเวลาในห้องน้ำไปได้มากทีเดียว ที่สำคัญและเห็นได้ชัดเลยคือ สภาพผมดีขึ้นมากๆจริงๆ รู้สึกได้ว่าผมดูมีน้ำหนักมากขึ้น แค่เอามือสางๆ ผมก็เข้าที่ดี อีกอย่างเราว่าคนผมสภาพแบบไหนก็ใช้ได้ ไม่ว่าจะผมหยักโศก ผมที่ผ่านการย้อมสี การดัด หรือผมตรง อย่างเราจริงๆก็เป็นคนผมตรงนะ แต่พอมันไม่มีน้ำหนักมันก็ชี้ฟู แล้วพอผมสั้นผมก็เป็ดอีก เป็นปัญหากวนใจมากๆ แต่พอผมได้รับการบำรุงมาดี ปัญหาผมแห้งเสีย ชี้ฟู ไม่มีน้ำหนักมันก็หายไปเลยค่ะ และสุดท้ายที่รู้สึกว่าโอเคมากคือ ปริมาณกับราคา หลอดนี้ให้ปริมาณมา 180 กรัม ในราคา 189 บาทจ้า ส่วนตัวว่าราคาโอเคนะถ้าเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้ อีกอย่างเจ้าตัวนี้ก็เป็นผลิตภัณฑ์ที่มาจากประเทศญี่ปุ่น แถม Best Seller ในญี่ปุ่นอีก คือมั่นใจได้เลยว่าผลิตภัณฑ์เค้าต้องดีจริงๆค่า หลังจากที่ได้ลองใช้ก็ไม่ผิดหวังจริงๆค่ะ

  • เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
  • รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
  • ผลลัพธ์หลังการใช้ : กลิ่นหอม, ชุ่มชื้น, ช่วยให้ผมมีน้ำหนัก, ล้างออกง่าย, ผมนุ่มลื่น/ไม่พันกัน, ช่วยฟื้นฟูสภาพผม, ช่วยให้ผมจัดทรงง่าย, กลิ่นหอมติดทนนาน
  • ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
รีวิวเมื่อ 2 เม.ย. 2561, 02:46

รีวิว Pro-V 3 Minute Miracle Conditioner Color & Perm Lasting Care จ้า บอกก่อนว่าปกติใช้ Pantene สูตรนี้อยู่แล้ว แต่ว่าไม่ได้ใช้รุ่น 3 minute miracle ค่ะ ขวดใหญ่ที่ใช้อยู่ก็ใกล้จะหมดแล้ว แล้วได้รุ่น 3 minute miracle มาลองพอดี ส่วนตัวเป็นคนย้อมสีผมบ่อยค่ะ ก่อนหน้านี้ผมตรงที่ย้อมสี ก็ผ่านการกัดสีมาค่อนข้างอ่อนมากทีเดียว กัดจนถึงเหลืองทองอ่อนๆเลยค่ะ แล้วเวลาย้อมจะใช้พวกสีย้อมแบบชั่วคราวผสมกับครีมนวดเอา เวลาสีหลุดเยอะๆก็จะเปลี่ยนสีย้อมไปเรื่อย ชมพูบ้าง เทาบ้าง ม่วงบ้าง อย่างล่าสุดสีชมพูอันนี้ก็เอาตัวแพนทีนที่ได้มามาผสมด้วย เวลาย้อมเสร็จคือผมนุ่มมาก จากรูปคือใช้ Pantene Pro-V 3 Minute Miracle Conditioner Color & Perm Lasting Care แทนครีมนวดผมเลย ใช้มาประมาณอาทิตย์กว่าๆได้ค่ะ ปกติถ้าคนที่ย้อมสีผมโทนแดง ชมพู ม่วง ฟ้า เทา บ่อยๆก็จะทราบดีว่าสีจะหลุดง่ายมก ทุกครั้งเวลาสระผมสีก็จะหลุดไหลตามน้ำ เพราะงั้นสีพวกนี้มันติดไม่ทนอยู่แล้วค่ะ แต่ส่วนตัวว่าพอใช้กับแพนทีนสูตรนี้แล้ว ทำให้สีผมหลุดช้าลง คือก็ยังหลุดนะคะ แต่ช่วยให้สีติดอยู่นานมากกว่าไม่ได้ใช้ ปกติอาทิตย์กว่าๆคือเหลือสีติดจางมากแล้ว อันนี้ถือว่ายังดีเลยค่ะ สรุป เนื้อผลิตภัณฑ์ : เนื้อครีมสีขาวขุ่น ไม่ข้นมากจนเกินไป ใช้ไม่ต้องเยอะมากก็ทั่วผมแล้ว กลิ่น : กลิ่นหอมตามสไตล์แพนทีนเลยค่ะ ปกติไม่ชอบกลิ่นน้ำหอมที่รุนแรง แต่ว่ากลิ่นของตัวนี้โอเคเลยค่ะ หอมกำลังดี ไม่ฉุนจมูก ผลลัพธ์หลังการใช้ : ชอบมากค่ะ ช่วยยืดระยะสีผมให้ติดทนนานขึ้นกว่าตอนไม่ใช้ ยิ่งเป็นคนที่เปลี่ยนสีผมบ่อยๆอยู่ด้วย คือเหมาะมาก นอกจากสีจะติดดีแล้ว ผมก็ไม่เสีย แถมยังนุ่มลื่นสางง่ายอีกต่างหาก ปกติก็ใช้อยู่แล้ว ซื้อต่อแน่นอนค่า

  • เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
  • รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
  • ผลลัพธ์หลังการใช้ : กลิ่นหอม, ชุ่มชื้น, ช่วยให้ผมมีน้ำหนัก, ผมนุ่มลื่น/ไม่พันกัน, ช่วยฟื้นฟูสภาพผม, ช่วยให้ผมจัดทรงง่าย
  • ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
รีวิวเมื่อ 10 ม.ค. 2561, 00:15

ได้รับ nivea oil in lotion สูตร cocoa & macadamia oil ค่า เนื้อผลิตภัณฑ์ : เป็นสีขาวขุ่น อธิบายลักษณะเนื้อครีมไม่ถูก แต่ว่าทาแล้วไม่รู้สึกเหนอะหนะผิวเลย ให้ผิวดูชุ่มชื้นยาวนานด้วย ส่วนตัวใช้ทาหลังอาบน้ำเสร็จทันที จะทำให้ผิวยังคงเก็บความชุ่นชื้นไว้ได้อยู่ กลิ่น : กลิ่นอาจจะแรงไปนิดนึง แต่ว่าเป็นกลิ่นที่หอมหวานมากค่า ความรู้สึกหลังใช้ : ใช้แล้วชอบนะคะ ผิวดูชุ่มชื้นดี ไม่ดูแห้งกร้าน ตอนนี้ก็ใช้มาได้อาทิตย์นึงแล้ว ถ้าหมดซื้อต่อแน่นอนจ้า

  • เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
  • รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
  • ผลลัพธ์หลังการใช้ : กลิ่นหอม, ชุ่มชื้น, ไม่เหนอะหนะ
  • ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
รีวิวเมื่อ 11 ต.ค. 2560, 21:32

จากที่ได้ลองใช้ PONDS age miracle ทั้ง day cream และ night cream ควบคู่กันมาได้ซักระยะ ก็รู้สึกชอบนะคะ day cream ตัวเนื้อผลิตภัณฑ์ : day cream จะมีสีชมพูออกม่วงกว่า night cream เนื้อสัมผัส บางเบา เกลี่ยง่าย พอทาแล้วผิวหน้าดูชุ่มชื้นขึ้นนิดหน่อย แล้วก็ช่วยปรับสีผิวให้ดูสว่างกระจ่างใสขึ้นนิดนึง ทาแล้วผิวดูฉ่ำๆวาวๆ แต่ไม่ได้มันเยิ้ม มี spf18 pa++ ด้วย ก็ช่วยกันแดดได้ระดับนึง กลิ่น : ตัว day cream ส่วนตัวว่ากลิ่นน้ำหอมแรงไปนิดนึง แต่ว่าส่วนตัวไม่มีปัญหา คนที่ผิวแพ้ง่ายอาจจะต้องลองใช้ดูก่อนค่า night cream ตัวเนื้อผลิตภัณฑ์ : night cream จะมีสีชมพูกว่า day cream เนื้อสัมผัสบางเบา เกลี่ยง่ายเหมือนกัน แต่ว่าทาแล้วไม่ได้รู้สึกว่าปรับผิวให้ดูกระจ่างใสเท่าตัว day cream แต่ว่าโดยรวมทาแล้วให้ความรู้สึกเหมือนๆกัน ทาแล้วไม่ได้ทำให้หน้ามันเยิ้ม ส่วนตัวเป็นคนผิวมัน ใช้แล้วโอเค ให้ความชุ่มชื้นได้ระดับนึง กลิ่น : ส่วนตัวว่า night cream กลิ่นน้ำหอมอ่อนกว่า day cream เป็นกลิ่นหอมจางๆ ใช้แล้วไม่ได้แพ้อะไร ความรู้สึกหลังใช้ : เรื่องริ้วรอยส่วนตัวยังไม่ค่อยเห็นผลเท่าไหร่ แต่คือรู้อยู่แล้วว่าพวกสกินแคร์กว่าจะใช้ให้เห็นผลได้มันต้องใช้เวลา ตอนนี้ตัวเทสเตอร์ที่มี ก็ได้ลองใช้ไปครึ่งกระปุกเล็กๆแล้ว ก็รู้สึกว่าหลังทาทันทีผิวดูโอเคขึ้นนิดหน่อย คิดว่าถ้าใช้หมดแล้ว อาจจะซื้ออีก แล้วเอาให้คุณแม่ได้ลองใช้บ้างค่า

  • เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
  • รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
  • ผลลัพธ์หลังการใช้ : ชุ่มชื้น, ไม่ระคายเคือง, ไม่เหนอะหนะ, ไม่เป็นคราบ
  • ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
รีวิวเมื่อ 1 ต.ค. 2560, 00:10

รีวิว SNAIL WHITE BODY BOOSTER SPF30 PA+++ คำเคลม : ครีมฟื้นบำรุงผิวกาย สูตรผสมสารป้องกันแสงแดด ด้วยสารสกัดเมือกหอยทากผสานแอสตาแซนธิน ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว และเซรามายด์ที่ช่วยเติมพลังความชุ่มชื้นทำให้ผิวกายเนียนนุ่ม น่าสัมผัส พร้อมคุณสมบัติในการปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ด้วยค่า SPF30PA+++ ช่วยฟื้นบำรุงผิวกายที่แห้งเสียจากแสงแดด ให้กลับมามีสุขภาพดี ชุ่มชื้น แลดูกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งปกป้องและบำรุงในหนึ่งเดียว - ฟื้นบำรุงผิวกายให้มีสุขภาพดี - ผิวแลดูกระจ่างใสทันทีที่ทา - บำรุงผิวให้นุ่ม ชุ่มชื้น อ่อนเยาว์ - ปกป้องผิวจากรังสียูวีด้วยค่า SPF30 เนื้อสัมผัส : สีขาวข้น ดูเกลี่ยยาก แต่ไม่เลย เนื้อครีมเกลี่ยง่าย ซึมไว กลิ่น : มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ตามสไตล์ผลิตภัณฑ์ของ SNAIL WHITE ประสิทธิภาพ : เป็นครีมทาตัวที่มีสารกันแดดในตัว ระหว่างวันปกป้องผิวจากแสงแดดได้ดี แม้ว่าจะมี SPF แค่ 30 แต่ว่าจากที่ใช้มา ไม่ได้รู้สึกว่าผิวคล้ำเสียจากแสงแดดมากขึ้นแต่อย่างใด ความรู้สึกหลังใช้ : ตอนปั๊มออกมาครั้งแรกแอบตกใจ เพราะเนื้อครีมสีขาว ดูเนื้อเข้มข้นมาก แอบกลัวว่ามันจะเกลี่ยยาก แล้วเหนอะหนะเหมือนกันแดดตัวอื่นๆ แต่ว่าไม่เลย ความรู้สึกตอนที่ทาไปบนผิวคือดีมาก เกลี่ยง่าย ซึมไว ไม่รู้สึกเหนอะหนะผิวเลย แถมยังช่วยปรับสีผิวให้ขาวขึ้นระดับนึงตามคำเคลมที่ได้เคลมไว้อีกด้วย เนื้อครีมมีกลิ่นหอมอ่อนๆตามสไตล์ผลิตภัณฑ์ของ SNAIL WHITE กลิ่นน้ำหอมไม่แรงจนเกินไป เรื่องช่วยบำรุงผิวให้ดูสุขภาพดี ชุ่มชื้น อ่อนเยาว์ ยังตอบไม่ค่อยได้ ส่วนตัวทดลองใช้ทุกวัน เป็นเวลาอาทิตย์กว่าๆ ก็ยังไม่ได้เห็นผลมากมาย และคิดว่าพวกครีมบำรุงผิว ยังไงก็ต้องใช้ระยะเวลานานกว่าจะเห็นผล ส่วนตัวว่าตอนนี้แค่ทาแล้วไม่ทำให้ผิวดูคล้ำลงก็พอใจมากแล้วค่ะ แล้วก็คงจะใช้ต่อไปเรื่อยๆจนหมด ถ้าเห็นผลดีตามที่เคลม ซื้อมาใช้ต่อแน่นอนค่ะ เพราะราคาก็ไม่ได้สูงมาก แถมยังมีหลอดเล็กไว้ใช้สำหรับพกพาได้อีก สุดท้ายคิดว่าเป็นครีมทาตัวที่ควรมีติดบ้าน หรือพกติดตัวไว้ เพราะนอกจากจะช่วยบำรุงผิวแล้วยังช่วยป้องกันแสงแดดได้อีกด้วย เลิศค่า

  • เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
  • รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
  • ผลลัพธ์หลังการใช้ : กระจ่างใส, กลิ่นหอม, ชุ่มชื้น, ไม่เหนอะหนะ
  • ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
รีวิวเมื่อ 14 ก.ย. 2560, 02:18

หลังจากที่ได้ผลิตภัณฑ์มาลองใช้ ก็ใช้ติดต่อกันทุกวันเลยค่ะ มีทดสอบเล็กๆน้อยว่าทำได้ตามที่เคลมไว้มั้ยด้วย ถ้าดูจากกระดาษหลังแพคเกจก็จะมีเขียนคำเคลมไว้ด้วยว่ากันน้ำและเหงื่อ กันแดดติดทน รูป 3.1 เราได้ทำการเปิดน้ำใส่มือ จะเห็นหยดน้ำเกาะเป็นเม็ดๆบนหลังมือ มีสีขุ่นๆแค่นิดหน่อยเท่านั้น รูป 3.2 พอลองเอามือถูๆดู ก็ไม่ได้รู้สึกว่าเนื้อกันแดดหลุดแต่อย่างใด คิดว่าเรื่องกันน้ำและเหงื่อทำได้ดีเลย พอดีอยากทดสอบว่าตัวเนื้อน้ำนมจะมีน้ำมันผสมเยอะมั้ย คือส่วนตัวคิดว่าเพราะต้องเขย่าให้เนื้อเข้ากันก่อนใช้ด้วย เลยคิดว่ามันน่าจะมีน้ำมันผสมอยู่ด้วยก็เลยลองนำมาทดสอบกะกระดาษซับมันดู รูป 3.3 คือเพิ่งหยดลงบนกระดาษ รูป 3.4 คือหลังจากผ่านไป 8 ชั่วโมงแล้ว จะเห็นได้ว่าในเนื้อผลิตภัณฑ์มีน้ำมันผสมอยู่พอสมควรเลย รูป 4.1 คือหลังจากลงสกินแคร์เสร็จ หน้าจะมีความมันวาวนิดหน่อย รูป 4.2 คือหลังจากทากันแดดทิ้งไว้ซักพักนึง คือหน้าดูแมตท์เลย เนื้อกันแดดซึมลงผิวไวมาก ไม่รู้สึกเหนอะหนะเลย รูป 4.3 คือหลังจากที่แต่งหน้าเสร็จ ในรูปคือใช้แค่กันแดด biore แล้วลงต่อด้วยแป้งฝุ่นเลย รูป 4.4 จากรูปคือผ่านไปประมาณ 9 ชั่วโมง หน้าก็จะมีความมันอยู่ ช่วงทีโซนจะมันมากเป็นพิเศษ ข้างแก้มมีมันนิดๆหน่อย (ทั้งสองรูปถ่ายคนละวันกัน แต่ว่าแต่งหน้าเหมือนกันจ้า) เนื้อผลิตภัณฑ์ : เป็นเนื้อน้ำนม สีขาวขุ่น เนื้อบางเบา ส่วนตัวว่าเกลี่ยง่ายมาก เกลี่ยแปปเดียวก็ซึมเข้าผิวแล้วแห้งไปเลย พอลูบๆหน้าแล้วรู้สึกลื่นๆไม่ได้รู้สึกถึงความเหนอะหนะเลย แต่กลิ่นแอลกอฮอลล์แรงมากก น่าจะเป็นส่วนที่ทำให้เนื้อกันแดดแห้งไวด้วย ประสิทธิภาพกันแดด : ในส่วนนี้คิดว่าทำได้ดีค่ะ ค่า spf สูงถึง 50+ มี pa+++ อีก ส่วนตัวเป็นคนที่ผิวหน้ามีรอยกระเยอะค่ะ เกิดจากการตากแดดด้วย กรรมพันธุ์ด้วย แต่หลังจากที่ใช้ biore ตัวนี้มา ออกแดดนานๆก็ไม่ได้ทำให้แสบหน้าแต่อย่างใด รอยกระก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นด้วย ความรู้สึกผลลัพธ์หลังใช้ : ผลลัพธ์ที่ได้ก็ตรงตามคำเคลมที่เขียนมาอยู่นะ ส่วนตัวก็ชอบน้า คิดว่าเรื่องคุมมันทำได้โอเคเลย อาจจะไม่ได้คุมมันยาวนานเว่อๆ แต่ใช้ในวันออกแดดธรรมดา สำหรับเราเอาอยู่ค่ะ ส่วนตัวเป็นคนผิวผสม ทีโซนมันมาก แต่ใช้ตัวนี้แล้วโอเคกว่าตัวอื่นๆที่เคยใช้อะค่ะ แต่ก็มีส่วนที่ไม่ชอบนะ คือเรื่องแอลกอฮอล์ค่ะ เคยใช้กันแดด biore ตัวก่อนๆอยู่เหมือนกัน ก็รู้สึกว่าเค้าใส่แอลกอฮอล์มาเยอะอยู่นะ ส่วนตัวนี้คือกลิ่นแรงมากจริงๆ คิดว่าใช้ติดกันหลายๆวันอาจจะทำให้หน้าแห้งได้ (เพราะช่วงแรกๆที่ใช้ติดต่อกันเป็นอาทิตย์ รู้สึกว่าอยู่ดีๆหน้าก็แห้งลอก ทั้งๆที่สกินแคร์ที่ใช้ก็เหมือนเดิม เลยลองหยุดใช้ไป ผิวหน้าก็กลับมาดีขึ้น เลยแอบคิดว่าน่าจะเป็นผลจากแอลกอฮอล์รึเปล่า หลังๆก็เลยใช้ biore สลับกะตัวอื่นที่มีอยู่บ้างจ้า) แล้วก็ไม่ค่อยแนะนำสำหรับคนผิวแพ้ง่ายเท่าไหร่ ถ้าแพ้ง่ายอยากให้ไปทดลองใช้กันก่อนซื้อค่า

  • เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
  • รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
  • ผลลัพธ์หลังการใช้ : ควบคุมความมัน, กันแดดได้ดี, กันน้ำ/กันเหงื่อ, ไม่เหนอะหนะ
  • ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
รีวิวเมื่อ 7 มิ.ย. 2560, 20:19

มีกลิ่นหอม ไม่เหนอะหนะ ปกติเป็นคนผมแห้งแตกปลาย แต่พอใช้แล้ว ช่วยให้ผมชุ่มชื้นขึ้น ผมแตกปลายก็ลดลง แถมช่วยให้จดแต่งทรงผมง่ายยิ่งขึ้น ช่วยปกป้องเส้นผมจากความร้อนที่เกิดจากการใช้ที่หนีบผมอีกด้วย

  • เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
  • รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
  • ผลลัพธ์หลังการใช้ : กลิ่นหอม, ชุ่มชื้น, ผมนุ่มลื่น/ไม่พันกัน, ช่วยฟื้นฟูสภาพผม, ช่วยให้ผมจัดทรงง่าย, ไม่เหนอะหนะ
  • ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : ดรักสโตร์ (วัตสัน, บู๊ทส์, ซูรูฮะ, โอเกนกิ)
รีวิวเมื่อ 13 ส.ค. 2559, 16:12

REVIEW

Expert White Spot Protect Sunscreen SPF50+ PA++++
BSC
Expert White Spot Protect Sunscreen SPF50+ PA++++

หลังจากได้ลองกันแดด BSC แล้วรู้สึกเป็นกันแดดที่โอเคเลยย ? เนื้อครีมเป็นสีสาวขุ่น เนื้อข้นแต่เกลี่ยง่ายมาก ไม่มีกลิ่น ไม่มีคราบสีขาวเลย พอเกลี่ยแล้วน้องกลายเป็นสีใส แต่ติดตรงที่น้องไม่ค่อยซึม ไม่แมท ทำให้หน้าเยิ้มต้องใช้ทิชชู่ซับอีกทีค่ะ
Expert White Spot Protect Sunscreen SPF50+ PA++++
BSC
Expert White Spot Protect Sunscreen SPF50+ PA++++

จากที่ลองใช้มาสักพักนะคะ กันแดด BSC Expert White Spot Protect Sunscreen SPF50+ PA++++
▪️เนื้อกันแดดเป็นสีขาว
▪️เกลี่ยง่าย ซึมไว ไม่เหนอะหนะ (แต่ต้องรอให้เซตตัวกับผิวก่อนค่อยลงไพร์เมอร์หรือกันแดดนะคะ)
▪️ให้ความชุ่มชื้นกับผิวมาก แจ๊สผิวมันขาดน้ำ บางวันคือใช้แทนมอยส์ได้เลย
▪️สำหรับตัวนี้ประทับใจดีไซน์แพคเกจมาก เค้าปรับมาดีมาก ดูคลีน ดูเรียบ ดูแพง

ความชุ่มชื้นดูได้จากรูปที่ลงที่มือได้เลยค่ะ ฉ่ำโกลว์มากมาก
Expert White Spot Protect Sunscreen SPF50+ PA++++
5 hour ago
JazziiMe
Body Wash Glutaglow
Vaseline
Body Wash Glutaglow

ครีมอาบน้ำเนื้อเซรั่ม มีกลิ่นหอมติดผิวมากค่ะ เวลาทาบนผิวจะมีฟองเล็กน้อยแต่จะให้ความรู้สึกชุ่มชื่นผิว​มากเลยค่ะ รู้สึกสดชื่น แถมบำรุงผิวเวลาอาบน้ำให้มีสุขภาพผิวดีขึ้นด้วยค่ะ คิดว่าถ้าหมดแล้วจะซื้อใช้ต่อค่ะ
Body Wash Glutaglow
8 hour ago
Lalita
Expert White Spot Protect Sunscreen SPF50+ PA++++
BSC
Expert White Spot Protect Sunscreen SPF50+ PA++++

สวัสดีค่ะ วันนี้มีนมาอัพเดทผิวหน้ากับ
กิจกรรม :: ชวนทดลองใช้ กันแดด BSC Expert White Spot Protect Sunscreen SPF50+ PA++++ ปิดจบทุกจุดดำ ผิวปังรับซัมเมอร์

แน่นอนว่าตอนนี้ทุกที่ของประเทศไทยแสงแดดร้อนแรงมาก ส่วนตัวมีนอยู่จังหวัดภูเก็ต มีทะเลด้วยอีก ยิ่งทั้งร้อนทั้งแสบผิวจากไอทะเล และเจอแสงแดดที่แรงมาก ๆๆๆๆ

ฉะนั้น “ครีมกันแดด” จึงเป็นไอเท็มสำคัญที่ขาดไม่ได้เลย ทั้งกันแดดหน้าและกันแดดตัว เพื่อป้องกันฝ้า กระ จุดด่างดำ ที่จะเกิดขึ้นก่อนวัยอันควร

มีนดีใจมากๆ ที่มีโอกาส ได้ร่วมเป็น 1 ใน 50 ท่าน ที่ได้ทดลองใช้ กันแดด BSC Expert White Spot Protect Sunscreen SPF50+ PA++++

ข้อมูลจากทางแบรนด์นะคะ

ความพิเศษของกันแดดตัวนี้ : เป็นครีมกันแดดไฮบริดจาก BSC เป็นครีมกันแดดที่ทั้งบำรุงผิว และปกป้องผิวด้วย มันจึ้งมากตรงนี้

ข้อมูลจากทางแบรนด์
มี HYDROWHITE TECHNOLOGY+
* ✓มีเทคโนโลยีออร่าอัจฉริยะ เผยผิวกระจ่างใส 5D
* ✓ลดเลือนความหมองคล้ำ ผิวดูใสใน 7 วัน
* BI-GEL INNOVATION TECHNOLOGY
* ✓มีเทคโนโลยี BI-GEL ที่ทำให้กันแดดเนื้อบางเบา
* HYBRID SUNSCREEN
* ✓เป็นกันแดดไฮบริด นำ 2 จุดเด่นมาผสมผสานกัน
* ✓ใช้ได้ทุกสภาพผิว รวมทั้งผิวแพ้ง่าย


จากที่มีน ได้ใช้ กันแดด BSC Expert White Spot Protect Sunscreen SPF50+ PA++++ ประมาณ 1 สัปดาห์

เนื้อครีม : เกลี่ยง่าย บางเบา ไม่เป็นคราบ ช่วยปรับสภาพสีผิวให้สว่างขึ้นด้วย ทาแล้วหน้าไบรท์ขึ้นทันที

อันนี้จริง ดีมาก ทาแล้วเย็นสบาย
ไม่หนักหน้า ซึมเร็ว แต่งหน้าง่าย
แล้วก็ผิวดูใสไบรท์ขึ้นด้วย
แต่ไม่วอกไม่ลอยไม่เทานะคะ
ชอบตรงที่ “มีสารบำรุงในตัวด้วย”

คือ เราไม่ต้องทาหลายขั้นตอนให้ยุ่งยาก
เป็นทั้งกันแดดและบำรุงผิวในตัว

มีนทาตั้งแต่ 6.00 กลับมาถึงบ้าน
กว่าจะล้างหน้าอาบน้ำ ราวเที่ยงคืน
ผิวหน้ายังสวย ไม่เละเป็นสังขยาค่ะ ตามภาพเลย
(ซับมัน ตบแป้งนิดหน่อย ยังเที่ยวต่อได้นะคะ 555)

ประสิทธิภาพ : ทากันแดดตัวนี้ + กับการใส่หมวก
ไปออกเที่ยวริมทะเลท่าเรือด้วย แดดแรงสุดๆ ☀️☀️☀️☀️☀️
สรุป หน้าไม่ดรอปนะคะ ยังสวยใส
ถ่ายรูปสวยเลย ไม่ต้องใช้แอพเลยค่ะ
หน้าไม่มันเยิ้มด้วย

ไม่กระตุ้นให้เกิดสิว ไม่แพ้ค่ะ ถือว่าอ่อนโยน
เพราะกันแดดบางยี่ห้อ มีนใช้แล้วเป็นสิวอุดตันค่ะ


หาซื้อที่ไหนกันได้บ้าง
Shop Online : Lazada / Shopee / ICC
ขนาด 40g / ราคา 1,250 บาท

เรื่องของราคา ต้องเข้าใจก่อนว่า กันแดด BSC Expert White Spot Protect Sunscreen SPF50+ PA++++ ตัวนี้ มีความ พิเศษกว่ากันแดดปกติ

ตรงที่ เป็นทั้งครีมกันแดดช่วยปกป้องผิว
และมีตัวบำรุงผิว รับจบครบในหลอดเดียว

ราคาอาจจะสูงกว่าครีมกันแดดทั่วไปตามท้องตลาดอีกสักหน่อยนึง

แต่มีข้อดี ตรงที่เราไม่ต้องแยกซื้อครีมหลายหลายตัว ไม่ต้องแยกทา ไม่ต้องรอให้ครีมแห้งทีละชั้น เสียเวลา และไม่ต้องเสี่ยงเป็นสิว เพราะคนที่มีสภาพผิวเสี่ยง ต่อการเป็นสิวอุดตัน ผิวแพ้ง่าย จะไม่เสี่ยงทาครีมหลายๆ ตัวค่ะ เพราะเราไม่รู้ว่าส่วนผสมมันจะตีกันหรือเปล่า ?

❤️กันแดด BSC Expert White Spot Protect Sunscreen SPF50+ PA++++ ดีตรงที่ สวยครบ จบในหลอดเดียว
ทั้งบำรุงด้วย + กันแดดด้วยถือว่าคุ้มค่าค่ะ

ถ้าจะลงทุนกับครีมกันแดดดีๆ สักหลอด
มีนว่ามันคุ้มค่า กว่าการจ่ายค่ารักษาฝ้าค่ะ
เพราะค่าครีมกันแดด ยังถูกกว่าค่าเลเซอร์ของคุณหมอแน่นอนค่ะ ❤️
Expert White Spot Protect Sunscreen SPF50+ PA++++
9 hour ago
MeeN Jiida
more +