Profile

น้ำเหนียวๆที่ตอนแรกไม่ชอบเอาซะเลย แต่ก็ทนใช้ เพราะเสียดาย ตอนหลังลองเอาสำลีของ KOSE มาใช้คู่ กัน รู้สึกว่าดีแฮะ สะอาดดี หน้าไม่ตึงด้วย ไม่แน่ใจว่ามี แอลกอฮอล์รึป่าว แต่เราว่ามันอ่อนโยนดี

สบู่ดำในตำนาน แปลกที่หลายคนบอกว่าใช้แล้วหน้า แห้งตึง แต่เราว่ามันสะอาดดีนะไม่แห้งตึงเลย หน้า สะอาดดี ฟองเยอะดีด้วย ก้อนนึงตัดออกเป็นสี่ส่วน ค่อยๆใช้ไป คงอีกนานกว่าจะหมด

ใช้หมดไปสองขวด(ใหญ่ๆ)แล้ว ไม่รู้สึกว่าหน้าขาวเด้ง หรือเปลี่ยนแปลงไปแต่ประการใด แต่ที่ยังใช้ต่อไป เพราะมันสดชื่นดี

ซื้อมาจากญี่ปุ่นเพราะอยากลองบวกกับราคาที่ถูกมาก ผลก็คือใช้สองครั้งตอนนี้ก็นอนแอ้งแม้งในตู้เย็นเพราะ หน้าตึงมากๆๆๆๆ ขนาดเราผิวผสมยังตึงสุดๆ เรื่อง สะอาดกับประชับรูขุมขนนี่ไม่ต้องสงสัยใน ประสิทธิภาพ แต่คงจะเหมาะกับคนผิวมันมากๆ มากกว่านะ

ใช้ดี เขียนง่าย เส้นคมกริบ แต่ล้างยากมากๆๆ ไม่ต้อง กลัวเลอะเลือนระหว่างวัน

เขียนง่ายดีค่ะ ได้ลุคที่เบาลงมาหน่อย ตาไม่ค่อยดุ เหมือนแบบปากกา เสียแต่แห้งไวมากๆ ชอบมีผงเล็กๆ เข้าตาประจำ เจลในกระปุกก็แห้งง่ายจิ้มแล้วต้องรีบปิด ฝา ไม่งั้นแห้งเป็นผงเอาง่ายๆ BA เลยแนะนำมาว่าถ้าเจ ลในกระปุกมันแห้งๆเขียนไม่ค่อยติดหรือเป็นผงให้ใช้ โทนเนอร์เช็ดหน้าหยดลงไปเล็กน้อยก่อนเอาพู่กันคน เบาๆ ช่วยได้นะจ๊ะ

ให้คำนิยามสั้นๆว่า เยี่ยมค่ะ จิ้มนิดเดียวก็สวยแล้ว ติด ทนจากเช้าถึงเย็นไม่ต้องปัดซ้ำ ปกติไม่ชอบซื้อ point makeup มากมาย เอาแค่สีที่ใช้จริงๆ เลยยอม ลงทุนกับ Blush on ตัวนี้ สองสีคือ M Orange 55 กับ M Peach 41 ไม่วิ้งทั้งคู่ สีส้มก็ส้มได้แบบเจ็บปวดมาก แต่พอปัดออกมา โอ้วววว สวยกำลังดี ไม่ส้มแปร๊ดแบบ ที่คิดคนผิวขาวปัดออกมาก็ดูธรรมชาติดี แต่ว่าทำไมสี Peach ปัดแล้วมันไม่เห็นต่างกับสีส้มเลย เป็นสีส้ม อ่อนๆไม่ออกชมพูเลยอ่ะ (น่าจะเหมาะกับคนผิวคล้ำ ด้วยนะเราว่า) แว๊กๆๆๆๆ เซ็งจับใจ สงสัยเป็นเพราะสีผิว เราเองด้วยล่ะ ดีที่ซื้อในดิวตี้ฟรีราคาเลยไม่แพงจนน่า ร้องไห้ เป็นบทเรียนจริงๆว่าต้องใช้เวลาในการลองสีให้ ดี

จริงๆแล้วอยากรีวิวรุ่น Natural Glow Finish SPF22 ไม่ แน่ใจว่าใช่รุ่นเดียวรึป่าว แต่หน้าตาคล้ายๆกันเลย เท่า ที่ใช้มาแป้งผสมรองพื้นของชูใช้ดีทีเดียว สีเข้ากับสีผิว เป๊ะ(เราใช้ 774) ไม่หนา ปกปิดปานกลางเป็น ธรรมชาติ(ชื่อก็บอกอยู่) ไม่เป็นคราบด้วย ราคาก็ เอ่อ...มาตรฐานลุงชูอ่ะนะ ตลับแยกขายต่างหาก ถ้า ใครหน้าไม่มันมากก็คิดว่าเป็นอีกตัวเลือกนึงที่น่าลอง นะคะ แต่ต้องบอกก่อนนะว่าไม่คุมมันแต่ไม่ทำให้หน้า มันเพิ่มขึ้นจ๊ะ

ใช้ Pink Idol อยู่ค่ะ สีสวย ติดทน ใช้ง่าย ถ้ามองหา อายแชโดว์สีสวยๆ (จัดสีมาได้ลงตัวมากๆ) ก็น่าจะเป็น อีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ มีหลายเฉดสีให้เลือกด้วย แต่ราคาก็แพงตามแบรนด์นะจ๊ะ (2200 บาท) ปล.ราคาดิวตี้ฟรีอยู่ที่ 1600 กว่าๆจ๊ะ

เราว่าเฉยๆนะ สำหรับแป้ง press ตัวนี้ แถมมีแต่สี translucent เราผิวขาวออกเหลืองทาแล้วรู้สึกว่าหน้า มันลอยๆยังไงบอกไม่ถูก (ไหนบอกไม่มีสีไง) ต้องรอ ให้แป้งเซ็ทตัวซักพักถึงจะโอเค ส่วนตัวแล้วชอบแป้ง ฝุ่นมากกว่าค่ะ ตัวนี้เลยเก็บเอาไว้ touch up ยามจำ เป็น หมดแล้วคงไม่ซื้อใหม่แล้วค่ะ

ใช้สี IVORY อยู่ค่ะ (ทำไมแป้ง press ไม่มีสีนี้น๊า) ใช้ มาปีกว่าแล้วยังไม่ยอมพร่องเลย แป้งฝุ่นตัวนี้ใช้กับ พวกรองพื้นหรือ tinted ของ Laura แล้วช่วยคุมมันดี เลยทีเดียว ใช้แปรงปัดๆหลังลงพวก makeup base จะ ได้ look ที่เป็นธรรมชาติไม่วอกด้วย (แต่ไม่วิ้ง) ปริมาณกับราคาก็สมเหตุสมผลดีค่ะ

เป็นรองพื้นตัวแรกที่ซื้อเอาไว้ใช้ยามต้องออกงาน ใช้ มาตั้งนานแล้วยังไม่หมดเลย ปกปิดพอดีๆไม่หนาเกิน ไป เกลี่ยยากซักนิดเนื่องจากแห้งง่าย เลยต้องหา ทางออกด้วยการเอาไปผสมกับเบสแล้วเกลี่ย จะเกลี่ย ง่ายขึ้นไม่เป็นคราบ ไม่ช่วยเรื่องผ่องเด้งเนื่องจากเป็น แบบ Matt ดังนั้นถ้าอยากให้หน้าผ่องขึ้นต้องอาศัยเบส หรือแป้งฝุ่นช่วยค่ะ ใช้กับแป้งฝุ่นของ Laura ก็โอเคนะ คะ คุมมันดีเลยทีเดียว

เป็นอีกผลิตภัณฑ์หนึ่งของ Laura ที่ชอบมากๆ เพราะ เป็นคนไม่ชอบแต่งหน้าจัดและไม่ชอบทา Moisturizer ตอนกลางวัน เพราะรู้สึกว่าเหนอะหนะ ถ้า บวกพวกกันแดดและ makeup base ต่างๆลงไปด้วย แล้วยิ่งทำให้หน้ามันง่าย Tinted moisturizer เลยเป็น อีกทางเลือกหนึ่งที่ให้ความชุมชื้น(มั้ง) ไม่ทำให้หน้า มันเพิ่มขึ้น ใช้ง่ายแค่ปาดๆ การปกปิดปานกลาง ถ้าใช้ กับ loose powder ก็รวมพลังสองประสาน คุมมันใช้ ได้ แต่ไม่ช่วยเรื่องผ่องค่ะ

เฉยมากๆ ใช้มาครึ่งปีไม่มีผลใดๆเกิดขึ้นเลย อาจช่วย นิดหน่อยเรื่องความชุ่มชื้น แต่น้องหมีแพนด้ายังไม่ไป ไหน สงสัยต้องหายี่ห้อใหม่มาลองแล้ว

หอมดีค่ะ ติดทนดีด้วย สี BLUSH ออกนู้ดๆสวยมากเลย