จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลงเฮโหลลล วันนี้มาแชร์เรื่องรักษาสิวจากการแพ้ first serum ค่า
ซึ่งเรามีลักษณะผิวมัน แพ้ง่ายมาก และช่วงนึงใช้เซรั่มตัวนึงก็ทำให้สิวเห่อหนักมาก!!
ทั้งแก้ม คาง และใต้คาง มีรูปความสยองนี้มาให้ดูด้วย แต่บอกก่อนว่ารูปนี้จริงๆ ไปกดสิวออกแล้วบ้างนะจากคลินิก
เพราะถ้ากดเองไม่เก่งพอ กลัวหน้าพังมากกว่าเดิม!!
และนี่คือความสยองที่อยู่บนหน้าในตอนนั้น!! ล๊องห๊ายยยยยหนักมาก
หลังจากที่กดสิวที่คลินิก 2 ครั้ง ก็เริ่มหาข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่คิดว่าใช้แล้วไม่แพ้ และช่วยรักษารอยสิวกับเพิ่มความชุ่มชื้น
ตอนนั้นไม่คิดเรื่องผิวขาวเลยนะ คิดแค่ว่าเอาสิวหนองและอุดตันออกให้หมดก่อน และรักษารอยแดง เพราะเราเป็นรอยง่ายมาก
เลยกังวลเรื่องนี้ที่สุด จนใช้ผลิตภัณฑ์ 12 ขั้นตอนประมาณ 2-3 เดือน ก็สรุปผลได้ตามรูปนี้เลย ล่าสุดที่ถ่ายไว้วันที่ 2 ก.ย. 61
ด้วยกล้องหน้า iphone 6s ไม่ใช้แอพใดๆ เลยจ้าาา
ขั้นตอนการดูแลรักษา
1. Sephora Waterproof Eye Makeup Remover ตัวนี้ใช้เช็ดตาและลิป ที่เช็ดออกดีมาก เทลงสำลีชุ่มๆ
และแปะที่ตาไว้ 10 วิและเช็ดออก ลักษณะน้ำจะมีน้ำมันผสมด้วย แต่ไม่ทิ้งความมันไว้นะ พวกเครื่องสำอางกันน้ำ
ก็เช็ดออกหมด เริ่ดมากกกก (ราคา 470.- ที่ sephora)
2. Bifesta Cleansing Milky Liquid คลีนซิ่งมิลล์ล้างหน้า ที่เป็นหัวปั้ม จะกดใช้ในปริมาณที่พอเหมาะนวดวนทั่วหน้า
ล้างนวดตามรูขุมขนจนเครื่องสำอางออกหมด ถ้าวันไหนแต่งหน้าแน่นที่ลง bb cream และแต่งตาจัดๆ จะล้าง2รอบ
(ราคา 290.- ที่ watsons)
3. Dr. Somchai Acne Double Micella Cleansing Water พอล้างหน้าด้วย bifesta เสร็จ ก็เช็ดต่อด้วย
คลีนซิ่งน้ำ สูตรนี้ขวดสีชมพูสำหรับผิวมัน เป็นสิวโดยเฉพาะ ขวดจะเป็นหัวปั้มก็ใช้สำลีปั้มน้ำให้ชุ่มเลย แล้วเช็ดทั่วหน้า
ตามแนวรูขุมขนเหมือนเดิม สัก 2-3 แผ่น สำลีก็ขาวสะอาดแล้วว (ราคา 189.- ที่ watsons หรือ tops)
4. Kiehl' Calendula&Aloe Sooting มาร์กเนื้อเจลใสๆ ที่มีกลิ่นหอมผ่อนคลายมาก กลิ่นส้มอ่อนๆ มีดอกไม้ผสมมาด้วย
ใช้มาร์กก่อนล้างหน้า 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ ทิ้งไว้ 5-10 นาทีพอนะ เคยทิ้งไว้นานแล้วคันหน่อยๆ แต่ไม่แพ้ ตัวนี้ทำให้ผิวผ่อน
คลายและสดชื่นดี ปกติใช้ยี่ห้ออื่นตลอด แต่อันเก่าหมดเลยลองแบรนด์นี้ ไม่แพ้นะ เลยใช้ต่อเนื่อง (ราคา 380.- ที่ konvy)
5. Acne Aid Liquid Cleanser เจลล้างหน้าสูตรรักษาสิวและผิวมัน เนื้อเจลขาวขุ่น วิธีล้างของเราคือให้หน้า
เปียกน้ำนิดเดียวที่ยังคงมีความหนืดอยู่ แล้วนวดวนเจลทั่วหน้าตามรูขุมขนเหมือนเดิม จากนั้นเพิ่มน้ำทีละนิดให้หน้าเปียก
และนวดวนเรื่อยๆ ทำแบบรู้สึกล้างหน้าได้เกลี้ยงและสะอาดมาก โดยที่ผิวไม่แห้งตึงเลย (ราคา 190.- ที่ร้านขายยาและ tops)
6. Vichy Eau Thermale สเปรย์น้ำแร่ ใช้ฉีดทั่วหน้าฉ่ำๆ หลังล้างหน้าเสร็จ ซึมไว ไม่ทิ้งความมัน ชอบแช่ตู้เย็นไว้แล้วฉีด
ผิวยิ่งฟินและเฟรชสุดๆ เคยลองยี่ห้ออื่นแล้วแพ้ เลยกลับมาใช้ตัวเดิมตลอด (ราคา 190-250.- ที่ konvy และ boost)
7. Vichy Mineral 89 เซรั่มเติมความชุ่มชื้นให้ผิว ใช้ปริมาณค่อนข้างเยอะตบๆ ที่บริเวณทีโซนและหน้าแก้มที่รูขุมขน
กว้าง ตัวนี้ก็ซึมไวและไม่ทิ้งความมัน แต่ไม่ได้ใช้ทุกคืนนะ บางทีขี้เกียจก็เน้นฉีดสเปรย์ฉ่ำๆ แทน (ราคา 800-1,200.- ที่ Boost)
8. Burnova gel เจลว่านหางจระเข้ ที่ช่วยรักษารอยแดงและเพิ่มความชุ่มชื้น ก่อนหน้านี้ใช้แต่สูตรหลอดสีเขียว
และนางออกใหม่เลยลองใช้สีชมพู ที่เห็นชัดๆ คือผิวหน้าขาวกระจ่างใสขึ้น แต่ส่วนตัวชอบสีเชียวมากกว่า
หมดหลอดนี้จะกลับไปใช้สีเขียวอีก หรือเปลี่ยนไปใช้ laroche แทน (ราคา 65.- ที่ watsons)
9. Kiehl's Clearly Corrective Dark Spot Solution เซรั่มน้ำใส ไม่มีกลิ่นและสี ที่รักษารอยแดงจากสิวใหม่ได้ดี
มาก! ทาไม่เกิน 3 คืน ไม่ทิ้งรอยไว้เลย ตัวนี้อยากให้ทุกคนได้ลองนะ เราว่านางดีมาก รักษารอยสิวได้ดี แต่เรามีรอยลึก
ที่หมอกดสิวสะสมมานาน ก็ใช้เวลานานหน่อย ตอนนี้ใช้ขนาดทดลองหมดแล้ว 3 ขวดเล็ก (4ml) จะซื้อขวดใหญ่ล่ะ
เพราะนางดีจริงๆ !! (ราคา 300.- ที่ Shopee หรือร้านหิ้วเครื่องสำอาง)
10. BK Acne Serum Brightening ตัวนี้แบรนด์เครมว่าเพื่อคนเป็นสิว แพ้ง่าย เลยซื้อแบบซองมาใช้
ปรากฏว่าไม่แพ้ เลยซื้อแบบขวดปั้มมา เซรั่มสีส้ม กลิ่นหอมอ่อนๆ ซึมไว ไม่ทิ้งความมัน รักษารอยได้ระดับนึง
แต่ไม่เท่า kiehl แต่ใช้คู่กันมาตลอดก็ได้ผลลัพธ์ที่ดีนะ แต่คิดว่าถ้าหมดคงเปลี่ยนแบรนด์อื่นที่ดีกว่า
เพราะอยากลองของ kiehl ตัวอื่นๆ บ้าง (ราคา 329.- ที่ konvy)
11. innisfree bija cica balm ครีมเข้มข้นที่ดูแลผิวอ่อนแอ และรอยสิว ตัวนี้เราชอบทาหนาๆ บริเวณที่มีรอยสิว
และช่วงผิวที่มีผดขึ้นบ่อย เช่นหน้าผากและคาง ช่วยให้ผดยุบได้ ส่วนรอยสิวต้องใช้เวลาค่ะ แต่เรื่องดูแลผิวอ่อนแอ
เราว่าเวิร์คมาก ตัวนี้เนื้อหนาและเข้มข้นหน่อยน๊าา แต่ทาแล้วก็ซึมอยู่ ไม่ทิ้งความเหนอะหนะไว้ค่ะ
(ราคา 750.- ที่ Shopee)
12. แผ่นมาร์กหน้า หลังทาครีมทุกตัวเสร็จจะจบด้วยแผ่นมาร์กทับอีกครั้ง ทิ้งไว้ 15-20 นาที เพื่อให้ผิวชุ่มชื้น
และคิดว่าการมาร์กหน้าจะช่วยรักษาสิวได้ดีขึ้น ซึ่งมันก็เวิร์คกับเรามาก ทำแบบนี้สัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง
บางวันก็ทาครีมไม่ครบนะ จะฉีดสเปรย์น้ำแร่และว่านหางจระเข้และตามด้วยมาร์กเลย เพราะอยากให้ส่วนผสมจาก
แผ่นมาร์กเข้าบำรุงผิวตรงๆบ้าง ยี่ห้อที่ชอบใช้คือ innisfree เพราะมีหลายสูตรจากธรรมชาติที่เพิ่มความชุ่มชื้น
และ leader clinic ที่เป็นสูตรรักษาสิว&รอยโดยตรง (ราคา 50.- innisfree / 99.- leader ที่ innisfree
และ watsons)
หุ้ยยยย ยาวมากกับ 12 ขั้นตอนในการดูแลผิวเองที่บ้าน จะบอกว่าทุกขั้นตอนเราเน้นตอนกลางคืนนะคะ เพราะคิดว่าผิวจะได้รับการ
บำรุงเต็มที่ จะสามารถทาทุกอย่างได้เยอะ คือเรียกว่าโบกหนาๆ กันเลยทีเดียว 5555+ และผลลัพธ์ที่ได้เราก็แฮปปี้มาก คือสิวจะขึ้น
แค่ช่วงเมนมาหรือนอนดึกแล้วอ่ะ ที่ต้องดูแลต่อก็รอยแดง และกลางวันจะใช้แค่สเปรย์น้ำแร่ ว่านหางจระเข้ kiehl BK Serum
และกันแดดบานาน่าโบ๊ท (หลอดขาวฝาเขียว) และแต่งหน้าได้ปกติ^^
สุดท้ายนี้ขอบอกเคล็บลับอีกนิดที่สิวอักเสบหายไวขึ้นก็คือ
1. ใช้ remover เช็ดตาและลิปก่อนที่จะใช้คลีนซิ่งมิลล์หรือน้ำ
2. ใช้คลีนซิ่งมิลล์/ออยล์ จะช่วยดึงเมคอัพและสิ่งสกปรกออกมาได้ดีกว่าใช้สำลีเช็ดด้วยแบบน้ำเพียงขั้นตอนเดียว
3. หลังล้างด้วยคลีนซิ่งมิลล์/ออยล์ ต้องเช็ดด้วยคลีนซิ่งน้ำอีกครั้งจนกว่าสำลีจะเป็นสีขาว พยายามเช็ดตามแนวรูขุมขน
4. ต้องบำรุงให้ผิวชุ่มชื้นและอิ่มน้ำ เพราะหน้าจะได้ผลิตน้ำมันออกมาน้อย ทำให้สิวและผิวมันน้อยลง
5. บำรุงผลิตภัณฑ์ที่เหลวที่สุดก่อน และไล่ลำดับไปเรื่อยๆ จนถึงครีมที่เข้มข้น หรือถ้าใครผิวอุดตันง่ายใช้แบบครีมหนักๆ วันเว้นวันก็ได้
6. งดลองครีมใหม่ๆ และครีมตลาดที่ชวนเชื่อเกินไป ต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงและอ่อนโยนจะดีที่สุด ไม่จำเป็นต้องราคาแพง แต่เลือกที่เหมาะกับปัญหาผิวตอนนั้นก็พอ
ขอบคุณค่ะ