คัดมาแล้ว! 5 โลชั่นสำหรับคนผิวแห้ง บำรุงผิวให้เนียนนุ่มจนน่าสัมผัส ~

รีวิว Yves Saint Laurent Mon Paris Couture Eau de Parfum

Mon Paris Couture Eau de Parfum
อันดับ
Yves Saint Laurent
Mon Paris Couture Eau de Parfum
  • 0
    • star_border
    • star_border
    • star_border
    • star_border
    • star_border
  • 1All Reviews
ผลลัพธ์หลังการใช้
กลิ่นหอม
25%
กลิ่นหอมสดชื่น
25%
กลิ่นหอมหวาน
25%
สดชื่น
25%
กลิ่นหอมติดทนนาน
0%
กลิ่นเซ็กซี่
0%
คุ้มราคา
0%
ระงับกลิ่นระหว่างวัน
0%
ไม่ระคายเคือง
0%
หมายเหตุ : การคำนวณค่าผลลัพธ์หลังการใช้ จะแสดงผลเป็นเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเมื่อรวมกันแล้ว จะประมาณ 100%
ข้อมูลผลิตภัณฑ์ ข้อมูลผลิตภัณฑ์
รีวิวจากผู้ใช้จริง รีวิวจากผู้ใช้จริง (1)
ข้อมูลผลิตภัณฑ์
จากประเทศFranceเหมาะสำหรับทุกสภาพผิว
อายุการใช้งาน3 ปี หลังจากเปิดใช้ปริมาณ30 / 50 / 90 มล.
ราคา3,300 / 4,500 / 6,500 บาทข้อแนะนำเก็บให้พ้นจากแสงแดด
จุดเด่นโดดเด่นในแนวกลิ่นชีแพรจากการผสานความหอมของดอกไม้และผลไม้อันทันสมัย ที่ให้ความรู้สึกตื่นเต้น เย้ายวน และมีเสน่ห์เร้าใจ

Mon Paris Couture Eau de Parfum

โดดเด่นในแนวกลิ่นชีเพรจากการผสานความหอมของดอกไม้ทันสมัย ที่ให้ความรู้สึกตื่นเต้น เย้ายวน และมีเสน่ห์เร้าใจ

แนวกลิ่นไวท์ ชีเพรใหม่นี้หอมจับใจตั้งแต่แรกพร่างพรม ทำให้เคลิบเคลิ้ม หลงใหลดั่งต้องมนตร์ ด้วยความกระจ่างใสบริสุทธิ์เป็นพิเศษ ซึ่งผสานกลิ่นพิมเสนใบ (patchouli) เข้ากับกลิ่นหอมจากดอกไม้สีขาว และทำให้สมดุลด้วยกลิ่นหอมเย้ายวนของมัสก์ (musk)




กลิ่นหอมชวนเคลิบเคลิ้มราวกับโลกหมุน  2 กลิ่น (accord) ใหม่ก่อให้เกิดแนวกลิ่นไวท์ชีเพรชวนเคลิบเคลิ้ม

ดอกลำโพง (Datura) ซึ่งน่ารักพอๆ กับน่ากลัว เป็นดอกไม้ในตำนานที่สวยงามชวนมอง เริ่มบานช่วงหัวค่ำและหุบในตอนบ่าย วิธีเดียวที่จะเก็บสารหอมสะกดใจของดอกลำโพงได้คือใช้เทคโนโลยีเฮดสเปซ (headspace)
ชูกลิ่นของดอกลำโพงด้วยความขาวสะอาดใสที่โชยกลิ่นหอมดึงดูดใจเนิ่นนานของพิมเสนต้น ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่หนึ่งแต่เป็นสองสายพันธุ์ แม้จะแตกต่างกันแต่เติมเต็มซึ่งกันและกัน สารหอมจากพิมเสนต้นจากกัวเตมาลา (Guatemala) เป็นที่ชื่นชอบในกลิ่นแฝงแบบอำพัน (amber) และวูดดี้ (woody) ส่วนพิมเสนต้นจากอินโดนีเซีย (Indonesia) มีกลิ่นหอมที่อบอุ่นเผ็ดร้อนแบบเครื่องเทศ (spicy) การจับคู่พิมเสนต้น 2 พันธุ์นี้ก่อเกิดเป็นกลิ่นหอมทรงอานุภาพที่ให้รอยกลิ่นของความปรารถนา เมื่อผสานกันกลิ่นมัสก์ กลิ่นหอมของพิมเสนต้นเปลี่ยนไปเป็นโครงสร้างพิเศษที่ให้ความรู้สึกโปร่งเบาราวอากาศ ขาว และสะอาด กฎเกณฑ์เดิมถูกทำลาย แล้วแทนที่ด้วยกลิ่นหอมใหม่ที่ชวนเคลิบเคลิ้มราวกับโลกหมุน



  • เริ่มต้นด้วยกลิ่นแรกที่ให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวาของมะกรูดจากแคว้นคาลาเบรีย (Calabria) กับความสดชื่นของกลิ่นราสพ์เบอรี่ (raspberry accord) และกลิ่นสตรอว์เบอรี่ (strawberry accord) เสริมด้วยกลิ่นหอมของลูกแพร์ (pear) มอบความสดชื่นชุ่มฉ่ำ – ขั้นตอนลับสู่ความเคลิ้มสุข 
  • ถัดมา ในกลิ่นกลาง แทนการใช้ส่วนผสมที่ให้ความรู้สึกทึบตันอันเป็นแบบฉบับของแนวกลิ่นชีเพรโดยส่วนใหญ่ กลิ่นกลางของ Mon Paris ให้ความรู้สึกโปร่งใส สะอาด และสดชื่น พุ่งขึ้นและลงเหมือนลำแสงตลอดการพัฒนากลิ่นของน้ำหอมนี้ เบ่งบาน รุ่งโรจน์ ร้อนแรง ด้วยกลิ่นดอกโบตั๋น (peony accord) ที่โปร่งเบาราวอากาศ ผสานกับสารหอมจากดอกมะลิลา (Jasmine Sambac absolute) จากอินเดีย และสารหอมจากมะลิจากมณฑลยูนนาน (Yunnan) ของจีน ระเบิดความเป็นหญิงที่เอิบอาบกลิ่นดอกลำโพงอันสดใสหอมตรึงใจ ตามมาด้วยความอบอุ่นของพิมเสนต้น 
  • กลิ่นฐาน เป็นอีกครั้งที่ฉีกกรอบ แทนที่จะปรากฏเฉพาะในกลิ่นฐานเหมือนอย่างน้ำหอมแนวกลิ่นชีเพรทั่วไป Mon Paris ท้าทายรูปแบบเดิมๆ ด้วยการระเบิดกลิ่นมัสก์ที่โชยกลิ่นอยู่โดยตลอดการพัฒนากลิ่นของน้ำหอมนี้ ตั้งแต่กลิ่นแรกจนถึงกลิ่นฐาน
  • กลิ่นไวท์มัสก์ (white musk) 3 ชนิด มีบทบาทสำคัญและสลับซับซ้อน ผสมผสานกับกลิ่นดอกไม้ขาว เพื่อเอิบอาบแนวกลิ่นชีเพรที่ชวนลุ่มหลงในแสงสีขาวอันสว่างสดใส เสริมความโดดเด่นให้กับความโปร่งเบาของกลิ่นกลางจากดอกไม้และกลิ่นพิมเสนต้นที่กระจ่างใส ก่อให้เกิดสัมผัสพิเศษของความโปร่งใสและบริสุทธิ์ 
  • ปิดท้ายอย่างสวยงามด้วยกลิ่นหอมอบอุ่นเย้ายวนของแอมบร็อกซ์ (ambrox) ซึ่งให้ความรู้สึกหรูหรา เสมือนความสบายของอ้อมแขนคนรัก เพื่อถ่วงดุลความสดใสของ Mon Paris เน้นกลิ่นน้ำหอมด้วยความเข้มข้น หรูหรา และสไตล์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และปราศจากกลิ่นแบบมอสส์ที่หม่นและขุ่นมัว 

ความรู้สึกที่ยากต่อต้าน คือความมีชีวิตชีวาที่ทันสมัย ชวนให้เคลิบเคลิ้ม ความบริสุทธิ์ที่ทรงอำนาจไม่สิ้นสุด และความขาวที่เปล่งประกายกระจ่างใส