Profile

ใครว่ามัน100% มีส่วนผสม3อย่าง water ,butylene glycol (2 ตัวนี้เป็นสีฟ้า--ดี มี ประโยชน์)แต่มันก็แค่น้ำกะสารที่ช่วยเพิิิิ่มความชุ่มชื้นผิว ประเภทอุ้มน้ำและดึงน้ำจากชั้น Dermis(หนั้งแท้ )ไปสู่ชั้น Epidermis (หนังกำพร้า)เท่านั้นเองส่วน อะเซโรล่า ที่ว่า ดีนักดีหนา Malpighia Glabra (Acerola) Fruit Extract

ใช้แล้วหน้าเนียนดี เพราะมียีสต์เป็นส่วนผสมรึป่าวไม่รู้นะ แต่ ต้องใช้นานๆกว่าจะช่วยเรื่องความขาวใสเขาบอกมานะแต่ อ่านในรีวิวที่เขาเขียนกัน ใน Olive club Magazine บอกว่า 3 อาทิตย์ผิวขาวใสจนเป็นดาวเด่นของงาน(สำหรับ หน้าเรานะไม่เห็นขาวขึ้นเลย จุดด่างดำก็ไม่จางด้วย หน้า เนียนเรียบอย่างเดียว) ส่วนผสมดี ไม่มีตัวสีแดง แต่ทว่า โฆษณาว่า acerola มีวิตามีวิตามินซีมากกว่ามะนาว 34 เท่า แต่เหตุไฉน ในส่วนผสม ingredient list เป็นสีดำ หล่ะคะ (ไม่รู้ว่าช่วยอะไรได้รึป่าวเพราะไม่มีข้อมูล) แถมอยู่อันดับที่3 ของส่วนผสมด้วย ความเข้มข้นใช้ได้เลย ฮ่ะ ฮ่ะ แต่ สงสัยวิตามินซี ในอะเซโรล่าตามคำล่ำลือเล่าอ้างนี่ คงไม่เสถียรมั้ง จึงไม่ได้ช่วยไรเลย ผลก็คือหลังจากที่เรารู้เลย เลิกใช้ยกเซ็ต

ตอนนี้เลิกใช้แล้วด้วยเหตุผลเดิมๆ--ส่วนผสมของมัน แต่อยากบอกว่าเป็นโทนเนอร์ที่ชอบ(ที่ญี่ปุ่นจะเรียกว่า lotion) เคยมีแผลเป็นสิว แล้วทายาแล้วหายช้าแต่พอใช้ัวนี้ นะ แล้วตามด้วยครีมลดรอยดำ -- มันช่วยให้ครีมที่ทาทำงาน ได้ดีขึ้นจริงๆ เพราเราลองเปรียบเทียบดูแล้วกะตอนที่ทาด้วยครีมลดรอยดำ อย่างเดียวจะใช้เวลาอย่างน้อย 2 อาทิตย์โดยประมาณ ก็จะจาง แต่ถ้าใช้ร่วมกะ mild lotion ก็จะเหลือ 5 วันเอง จางแล้ว เราเคยใช้มันแทนครีมบำรุงตอนกลางคืนด้วยเวลาที่ขี้เกียจทา ครีมอื่นๆ ผิวเนียนขึ้น รูขุมขนกระชับ(แค่ตอนที่ทา พอเลิกมันก็เหมือน เดิม --สำหรับเรานะ) เราเลิกใช้แล้วตอนนี้เพราะเราเจอโทนเนอร์ที่ดีกว่า ถูกกว่า แล้วจ้า ปล. mild lotion ตัวนี้ไม่มีส่วนผสมที่ทำให้ระคายเคืองผิว เลย ส่วนผสมมีไม่เยอะเป็นสีฟ้า(ส่วนผสมที่ช่วยในการบำรุง -มีประโยชน์ว่างั้นเหอะ)ทั้งหมดยกเว้น สารสกัดจากแตงกวา Cucumis Sativus (Cucumber) Juice อ่ะที่เป็นสีดำ (ส่วนผสมที่ไม่ก่อให้เกิดผลในทางลบแต่ก็ไม่ก่อให้เิกิดผลบวก) ทั้งๆที่บอกว่ามันเป็นส่วนผสมสำคัญที่ช่วยประโลมผิว แล้วก็นี่อีก ตัวที่เป็นสีดำPlacental Protein, ส่วนประกอบหลักๆก็แค่ น้ำ กะ glycerin (ตัวเพิ่มความชุ่ม ชื้นผิว) คำโฆษณานี่ ก็เชื่อไม่ได้อีกแล้ว--แย่จัง

พอดีเขามาเปิด Read Show ที่เซ็นทรัลปิ่นเกล้าเราเลยไป สอยมา เป็นอย่างแรกของ DHC ที่เราใช้ ตอนจ่ายตัง พนักงานบอกว่าอันนี้ใช้ดี แต่พนักงานอีกคนย้อนถามเพื่อนตัว เองว่ารู้ได้ไงเคยใช้เหรอ--เราเลยงง--เขาขายของแต่ไม่ เคยใช้หรือนี่ พวก BA นี่เชื่อไม่ได้เลยจริงๆเหรอ (เหมือนตอนไปซื้อ Yves Rocher --BA บอกว่าเขาใช้อยู่ดี มาก แต่เราดูหน้า BA แล้วไม่เห็นดีเลยเราก็เลยไม่ซื้อตัวนั้น ) มันล้างเกลี้ยงดี ให้ความรู้สึกดี พอดีว่าเราเป็นสมาชิก DHC ในไทย แต่ตอนนี้เลิกแล้ว เขาเลยส่งแม็กกาซีน Olive Club มาให้ เป็นหนังสือที่ให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์ดีนะ เพิ่งรู้ว่ามันมีส่วนผสมของมะนาวด้วย ใน olive club magazine บอกนะแบบว่ามีรูปมะนาวอยู๋ข้างๆโฟมอ่ะ แล้วก็บอกว่าช่วยกระชับรูขุมขน เราใช้ไม่เห็นกระชับเลย citrus unshiu peel extract (มะนาวหรือส้มก็ไม่รู้) แล้วก็มี myristic acid และ potassium hydroxide 3ตัวนี้เป็นส่วนผสมสีแดง -- ที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง โดยเฉพาะ myristic acid อยู่อันดับ2 ของส่วนผสมทั้งหมด ไม่น่าเลย (myristic asid --พบมากในพวกasian cleansing --kose softymo, kanebo kracie เป็น ต้น อันนี้มีหมด) แต่มันก็ล้างสะอาดทุกตัวที่บอกมาเราใช้แล้วก็ดี ไม่แพ้ แต่คงไม่ซื้อต่อ เพราะมันมีทางเลือกที่ดีกว่า

จริงๆเราไม่ชอบใช้สบู่ล้างหน้าแต่เขาบอกว่าดีเบยไปสอยมาที่ โชว์รูม ถอยๆสุขุมวิท 31/1 มั้ง มันก็ล้างเกลี้ยงดีนะ แต่ใช้ไปจนมันเหลือขนาดไม่ใหญ่มาก มัน ด้านอ่ะ แบบถูแล้วไม่ค่อยมีฟองเลย กลิ่นก็เปลี่ยนด้วยเหม็นขึ้น อ่ะ เราเลยเลิกใช้อย่างถาวร (อยากให้ dhc skincare basic set เป็นproduct ) ที่เราใช้ได้แล้วดี เพราะจริงๆแล้วเราชอบproduct ของ dhc มาก อีกอย่างเราเพิ่งรู้นะว่าสบู่ตัวนี้ มีส่วนผสมของ Alcohol Denat ซึ่งไม่ใช่แอลกอฮอล์ที่มีประโยชน์ต่อผิว(ดีต่อผิว) แต่มันก็ใส่ได้นะ เพราะถึงแม้จะไม่ดีต่อผิวเพราะมันอาจให้ก่อ การระคายเคืองแต่ในทางการแพทย์เขาใช้มันทำความสะอาด ดังนั้นเราคิดว่าที่เขาใส่แอลกอฮอล์ตัวนี้ก็คงเพราะอยากให้ ล้างสะอาดมั้ง ปล.แอลกอฮอล์มีหลายประเภทแบบที่ใส่เครื่องสำอางค์แล้วไม่ ก่อให้เกิดการระคายเคือง(บางตัวก็มีประโยชน์) เช่นตัวนี้ Cetyl Alcohol ใส่ได้ไม่มีผลไร ขี้เกียจพิมและ

ไม่รู้เหมือนกันนะว่าล้างเครื่องสำอางค์ออกรึป่าวเพราะเรา ไม่แต่งหน้าอ่ะ แต่เขาบอกว่าช่วยขจัดสิวเสี้ยน เราว่ามันไม่ ช่วยเลยอ่ะ ของเรากลับเพิ่มมากขึ้น ส่วนรูขุมขนกระชับรึป่าว ไม่รู้ เพราะใช้ขวดเดียวเอง เลิกใช้แล้ว อีอย่างไปอ่าน bloggang ของคุณปูเป้มา (เป็นคนที่น่ารักมาก ไปอ่านกันนะ จะเป็นประโยชน์กะทุกคนเลยเราว่าไม่มากก็น้อย) มันเป็น Average - เป็น Deep Cleansing Oil แบบมาตรฐานที่ใช้ Oil เป็น ส่วนผสมหลักในการละลาย Makeup ให้หลุดออกมากับน้ำมัน ส่วนผสมของ Emulsifier ที่ทำให้ส่วนผสมน้ำมันล้างออก ด้วยน้ำได้ง่ายขึ้นในที่นี้ก็คือ Sorbeth-30 Tetraoleate ส่วนผสมที่เป็นปัญหาในนี้ก็คือ Rosemary Leaf Oil ที่ก่อ การระคายเคืองและอาการแพ้ได้ ในปริมาณไม่มากหรืออยู่ หลังสุดก็ถือว่าไม่น่าจะเป็นปัญหามากนัก แต่ถ้าเป็นไปได้ก็ลอง หาผลิตภัณฑ์ที่ไม่ส่วนผสมของน้ำหอมจะดีกว่า ผลิตภัณฑ์ ที่มีส่วนผสมลักษณะแบบนี้ถือว่าธรรมดา พอใช้ได้ แต่ ดูแล้วก็น่าจะเหลือคราบมันตกค้างหลังล้างออกพอดู แถมมีสาร ก่อการระคายเคืองมาหน่อยนึงด้วย Ingredients : Olea Europaea (Olive) Fruit Oil, Caprylic/Capric Triglyceride, Sorbeth-30 Tetraoleate, Tocopherol, Phenoxyethanol, Propylparaben, Stearyl Glycyrrhetinate, Rosmarinus Officinalis (Rosemary) Leaf Oil

มันก็เนียนดีนะ กลิ่นหอมกุหลาบอ่อนๆกำลังดี แต่ไม่ปกปิดอะไร เลยอ่ะ

เราว่าก็ดีนะ หน้าดูเนียนเป็นธรรมชาติดี แต่เราว่ามัน ไม่ค่อยปกปิดเท่าไหร่ คือว่าเรามีรอยดำจากสิว เป็น ยี่ห้อที่ใช้ทาทั้งวันแล้วหน้าไม่มัน เราใช้เบอร์ 03natural

เราอ่านรีวิวของเพื่อนๆ วันนี้เลยลองไปซื้อมาจากสยาม เซ็นเตอร์ ลองทาดูแล้วกลิ่นก็หอมดี ปากดูชุ่มชื่น เงา แต่พอมันซึมจนแห้งหมดปากก็ยังแห้งอยู่ แต่ที่ตัดสิน ใจซื้อเพราะเห็นรีวิวกันบอกว่าใช้แล้วปากเป็นสีชมพู เลยอยากลอง ......ถ้าผลเป็นยังไงจะบอกอีกทีนะ คะ..............ปล. พี่ๆBA ร้านBloom สาขาสยามเซ็น เตอร์น่ารักมากๆๆๆเป็นกันเองสุดๆ คราวหน้าก็จะไปซื้อ อีกอ่ะ

ก่อนใช้ผิวมีปัญหาเยอะมาก ทั้งหมองคล้ำ ไม่สดใส มี ผดขึ้น รูขุมขนกว้าง ผิวไม่เรียบเนียน แต่พอใช้ตัวนี้ แล้วผิวนุ่มขึ้น รูขุมขนกระชับขึ้น ผิวเนียนใสจนมีคนทัก ราคาไม่แพง เมื่อเทียบกับปริมาณ ตอนแรกก็ไม่กล้า ใช้หรอกนะ แต่พี่ๆที่ขายเครื่องสำอางค์แนะนำว่าดีพอๆ กับ SK-II Facial Treatment Essenceเลย และ ถูกกว่าด้วย เราเองก็เคยใช้ SK-II Miracle Water แบบยก Set ยังสู้ Ipsa Metaboliser ไม่ได้เลย ก็ลอง ใช้ดูนะคะ --------ดีใจมากกกกกกกกหลังล้างหน้า เสร็จแล้ว หน้ามีเลือดฟาด ผิวดูสุขภาพดีมาก----เกือบ ลืมบอก Ipsa ตัวนี้ที่ญี่ปุ่น ฮิตมาก พวกนางแบบเขาใช้ กันแต่เขาใช้รุ่นR4 ส่วนเราใช้R2 ระดับเดียวกับ Dr:Ci:labo Aqua Collagen Gel เลย แต่ถูกกว่า เรา ConFirm!

ทาแล้วจะทำให้หน้าดูเงาๆมีมิติดี แบบว่าพอทาตามด้วย ฟาวเดชั่นของ RMK นะ หน้าจะดูขาวใส แบบว่าคนทัก แต่ถ้าคนที่ไม่ชอบอะไรแบบวาวๆเงาๆไม่ควรใช้ น่าจะ เหมาะกับทาไปงานอีเว้นมากกว่า