Profile

PikaPiPi

ชอบ 'ความสวยงาม'



ได้ทดลองใช้ BSC Bio Perfect Color Lip ทั้งหมด 3 เนื้อสัมผัส และ 3 สี แล้ว ดังนี้

- เนื้อสัมผัส Creamy Matte สี R4 : ตัวนี้พอทาแล้วจะออกเป็นสีแดงอมส้ม พิกเมนท์แน่น สีชัดมากกก ชัดจนตกใจ คือ ทานิดเดียวเองนะ แต่สีชัดเวอร์ พอทาแล้วโดดเด่น ดูตัวเองในกระจกแล้ว รู้สึกสดใสมากจริงๆ ปากเนียน สวยด้วย เพราะตัวนี้ช่วยเบลอร่องปากได้ดีเลย เนื้อเนียน บางเบา ทาแล้วไม่หนักปาก

- เนื้อสัมผัส Drench สี P8 : ตัวนี้พอทาแล้วจะออกเป็นสีชมพูเปล่งประกาย Bling Bling หวานๆ น่ารักๆ ละมุนๆ เนื้อลื่น บางเบา เนียนละเอียด นุ่ม ชุ่มฉ่ำ แวววาวประกายมุกเล็กๆ

- เนื้อสัมผัส Shimmer สี N1 : ตัวนี้พอทาแล้วจะออกเป็นสีชมพูอ่อนระเรื่อๆ สวย น่ารักแบบธรรมชาติมากกกก ได้ลุคแบบ Makeup No Makeup เนื้อซาติน นุ่มละเอียด ทาแล้วสบายปาก

สรุป BSC Bio Perfect Color Lip ความเลิศเลอ กระแทกตาอันดับแรกเลยนะ คือ Package สวยมากกกก ใช้สีดำตัดกับสีทอง มันช่างลงตัวสุดๆ จริงๆ ให้ความหรูหรามากกกกก แล้วตัวแท่งก็มี Curve เบาๆ เหมือนกับเอวของหญิงสาว เวลาหยิบใช้นี่คือแบบภูมิใจมากกกก ชอบมากกกก
และทั้ง 3 เนื้อสัมผัส 3 สี ทาแล้วให้ความชุ่มชื่นกับริมฝีปาก แลดูสุขภาพดี สวยทุกสีเลย ชอบทุกสีด้วย แต่ว่าถ้าถามว่าชอบสีไหนที่สุด จะชอบ N1 เพราะว่าชอบแบบธรรมชาติๆ เหมาะกับ Everyday Look

แต่ขอหัก 1 คะแนน เรื่องความติดทนทาน เพราะทั้ง 3 เนื้อสัมผัส เราทาแล้วทำไมมันไม่ติดทนทานอ่า T^T คือแบบว่า แค่ทานข้าว น้องก็อันตรธานไปแล้วววว ต้องเติมระหว่างวันตลอดเง้อออ แถมบางทีมือเผลอไปโดนริมฝีปากตัวเองเบาๆ น้องก็ใจง่าย ติดมือเราออกมาเฉยเลย จะร้องงงงง T_T
  • เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
  • รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
  • ผลลัพธ์หลังการใช้ : คุ้มราคา,สีสวยชัด,ล้างออกง่าย,เหมาะกับผลิตภัณฑ์นี้,ชุ่มชื้น,เฉดสีหลากหลาย,แพ็กเกจสวย
  • ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
รีวิวเมื่อ 11 เม.ย. 2567, 22:24

Clean and Clear Acne Clearing Cleanser ได้ผลอันน่าประทับใจตั้งแต่ที่ใช้ในครั้งแรกเลย คือ Clean and Clear Acne Clearing Cleanser มีเนื้อสัมผัสเป็นเจลใสๆ ฟองน้อย มีกลิ่นหอมสมุนไพรอ่อนๆ เป็นกลิ่นที่หอมแบบผ่อนคลาย เมื่อใช้แล้ว จะรู้สึกถึงการทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างสะอาดหมดจดจริงๆ โดยเฉพาะปัญหาสิวเสี้ยนที่ปลายจมูก ที่เคยเป็นส่วนที่กังวลมาก เพราะปกติล้างหน้าเสร็จแล้วจะยังคงมีสิวเสี้ยนเป็นจุดสีดำๆ อยู่ แต่พอใช้ Clean and Clear Acne Clearing Cleanser สามารถทำความสะอาดได้ล้ำลึก ลดสิวเสี้ยนที่จมูกไปกว่า 80% ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้เลยทีเดียว แถมไม่ทำให้รูขุมขนกว้างด้วย อันนี้ปลื้มมาก

และหลังจากใช้ผิวหน้าก็จะนิ่มๆ ผิวมีความชุ่มชื้นมาก ชุ่มชื้นยาวนาน อันนี้ก็น่าประทับใจมาก เพราะขนาดบางวันลืมทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า ผิวก็ไม่แห้ง ยังคงชุ่มชื้นอยู่เลย

Clean and Clear Acne Clearing Cleanser ใช้แล้วก็ไม่แพ้ด้วยนะ รู้สึกเหมือนผิวใส สว่างมากขึ้นเมื่อใช้ต่อเนื่อง โดยรวมแล้วชอบมาก (แต่แอบหัก 1 ดาว เนื่องจากฟองน้อยไปหน่อย เพราะส่วนตัวเราชอบฟองเยอะๆ ก็เลยต้องบีบเนื้อผลิตภัณฑ์เยอะในการล้างหน้าแต่ละครั้ง ทำให้หมดเร็วนะ T^T)
  • เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
  • รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : เริ่มใช้
  • ผลลัพธ์หลังการใช้ : ชุ่มชื้น,อ่อนโยน,ทำความสะอาดได้ดี,กระจ่างใส
  • ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
รีวิวเมื่อ 23 มี.ค. 2567, 11:12

สิ่งแรกที่ประทับใจ VICHY LIFTACTIV SPECIALIST B3 SERUM เลยนะ ก็คือ Package โห้ยยย เห็นครั้งแรกก็หลงรักเลย เพราะเขามาเป็นขวดแก้วโปร่งแสงสีแดงเข้ม สวยมากๆ มองแล้วเหมือนพลอยทับทิมเลย เวลาหยิบใช้ทีไรปลื้มใจทุกที สวยยยย >///<

เดี๋ยวก่อนจะเพ้อไปไกลกับรูปลักษณ์ของเซรั่ม เรากลับมารีวิวกันต่อ
เซรั่มขวดนี้มีลูกเล่นด้วยนะ คือตอนแรกขวดจะปิดด้วยฝาเกลียวสีขาว แล้วเขาจะมีฝาเกลียวที่เป็นหลอดใสมาให้ด้วย ซึ่งก่อนจะใช้งาน เราก็ต้องนำฝาเกลียวหลอดใสนี้มาเปลี่ยนแทนฝาเดิม เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน โดยการบีบที่ตัวหลอดเป็นการกำหนดจำนวนหยดในการใช้งาน นอกจากนี้ฝาก็ยังสะดวกเก็บด้วยนะ เพราะว่าที่ปลายหลอดก็จะมีฝาเกลียวเล็กๆ ปิดอีกที ป้องกันเซรั่มหกออกมา แต่จริงๆ แล้วเราว่า ถ้าหากใช้ฝาตัวนี้ปิดมาตั้งแต่แรกก็ได้นะ เพราะว่าแน่นหนา แข็งแรงมากๆ แต่นะ ถ้าประกอบแบบนี้มาแล้วตั้งแต่ต้น เดี๋ยวพวกเราก็จะไม่มีลูกเล่นในการใช้งานอ่ะเนอะ อิอิ (แอบแซว)

ทีนี้มาถึงเรื่องเซรั่มบ้าง ตัวเซรั่มจะเป็นเนื้อสีขาว ใสปิ๊งเลย (สวยอีกแล้วววว ชอบ)
ตัวเนื้อเซรั่มจะบางเบา ไม่เหนอะหน้าเลย เพราะซึมไวมากกกก ก.ไก่ ล้านตัว

แล้วถ้าใครจะหวังเรื่องกลิ่น (สำหรับคนที่ชอบกลิ่นหอมๆ) จะบอกว่า "ไม่มีกลิ่นจ่ะ"
น้องแบบ...ไร้สี...ไร้กลิ่น...ไร้มลทิน...ช่างบริสุทธิ์ผุดผ่องอะไรเยี่ยงนี้ ว้าวววว

ผลลัพธ์ที่ได้ใช้มา ที่สังเกตได้ชัดเจนเลย คือ ผิวหน้าเราจะเรียบเนียนขึ้นมากกก คือรู้สึกได้ตั้งแต่ตอนที่ใช้ช่วงแรกๆ เลย บริเวณที่สิวชอบขึ้นบ่อยๆ ก็จะแห้ง แต่ไม่ตึงนะ มีความชุ่มชื้นอยู่ แต่หน้าก็ไม่มันนะ ประหลาดใจมาก ปลื้มตรงนี้

ในส่วนของรอยดำของสิวที่ฝังลึกของเราก็ค่อยๆ จางลงอย่างมีประสิทธิภาพ คือ ไม่ได้จางลงเร็วเกินไป อันนั้นเราจะกลัว แต่จะค่อยๆ จางลงเป็นลำดับ เห็นพัฒนาการ เราคิดว่า ถ้าได้ใช้จนครบ 4 สัปดาห์ น่าจะจางลงได้มากกว่านี้

แต่โดนรวมแล้วพึงพอใจมาก

แต่แอบขอหักคะแนนนิดนึง ตรงที่ตอนแรกทำให้เราตกใจ เพราะตอนที่ทาครั้งแรก ตอนกลางคืน ผิวหน้าตรงช่วงบริเวณปลายหัวคิ้วเราจะปูดขึ้นมานิดหน่อย ซึ่งเรากังวลมากว่า เอ...เราจะแพ้รึเปล่านะ แต่พอตอนเช้า ผิวตรงนั้นก็ยุบไป เราก็เลยโล่งใจ พอหลังจากทาไปเรื่อยๆ ทุกวัน ผิวลักษณะแบบนั้นก็ไม่ได้ขึ้นมาอีก เราคิดว่า ตอนแรกผิวเราคงจะเพิ่งได้ทำความรู้จักกับน้องเซรั่ม VICHY คนสวย ก็เลยตกกะใจ นางเลยแสดงอาการออกแบวเขินๆ อิอิ แต่พอได้รู้จักกันนานๆ ก็โอเค ผ่านจ้าาา ^O^

อ้อ อีกข้อนึงก็คือ จริงๆ การใช้งานเขาแนะนำให้ใช้ 2-3 หยดอ่ะนะ แต่เนื่องจากว่า น้องซึมไวมากกกก มากถึงมากที่สุด ไวจนเราตกใจ แบบทายังไม่ทันจะทั่วหน้าเลย น้องซึมหายไปหมดแล้ว อะไรเนี้ย??? ขัดใจมาก เราเลยต้องใช้ประมาณ 5-6 หยดทุกครั้ง ค่อนให้ความรู้สึกว่าได้ทาเซรั่มหน่อย เพราะเซรั่มจะซึมไวน้อยลงอีกนิสสส ให้เราได้ชื่นชมน้องอีกสักหน่อย ได้พออุ่นใจ แต่จะหมดไวรึเปล่านะ แง้ๆๆๆ T_T

เอาล่ะ! สรุปจริงๆ แล้ว "น้อง VICHY เซรั่มคนสวย ดีงาม สมหน้าตาจ้าาา" >///<
  • เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
  • รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
  • ผลลัพธ์หลังการใช้ : ซึมซาบเร็ว,กระจ่างใส,ผิวเรียบเนียน,ฟื้นฟูสภาพผิว,คุ้มราคา,เหมาะกับผลิตภัณฑ์นี้,ชุ่มชื้น
  • ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
รีวิวเมื่อ 23 มี.ค. 2567, 11:03

เราเป็นคนผิวผสม ผิวค่อนข้างแห้งกร้าน ยิ่งช่วงหน้าหนาว ผิวจะแตกเป็นขุย เราเลือกทดลองใช้ Vaseline Body Wash Smooth Glow Glutaglow ขวดสีม่วง ต้องบอกว่าพึงพอใจมากๆๆ คือ ชอบตรงที่หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว ผิวเราไม่ลอกเป็นขุยเลย เพราะปกติหลังอาบน้ำ ผิวเราจะแห้งลอกเป็นขุยอยู่บ้าง ต้องทาโลชั่นซ้ำ เพื่อให้ผิวกลับมาชุ่มชื้น แต่ตั้งแต่ที่เราใช้ Vaseline Body Wash Smooth Glow Glutaglow หลังอาบน้ำเสร็จ ผิวเรายังคงชุ่มชื้น ไม่ลอกเป็นขุยเลย ไม่ต้องทาโลชั่นซ้ำ ประหลาดใจมาก แล้วก็ดีใจมากด้วย

และที่สำคัญที่สุดคือ หลังจากที่เราใช้ต่อเนื่องเป็นประจำ ผิวของเราดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ผิวกระจ่างใส ฉ่ำโกลว์ ตั้งแต่อาบน้ำ ผิวแลดูสุขภาพดีขึ้นมากจริงๆ ปลื้มมากกกกก ^_____^
  • เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
  • รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
  • ผลลัพธ์หลังการใช้ : ชุ่มชื้น,ล้างออกง่าย,ช่วยให้ผ่อนคลาย,กลิ่นหอม,ผลัดเซลล์ผิว,สดชื่น
  • ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
รีวิวเมื่อ 1 ก.พ. 2567, 05:12

ความโดดเด่นของ HERBAL GROUND Black Berry Rice And Honey Shampoo สิ่งแรกที่สะดุดใจเมื่อได้รับมาก็คือ "กลิ่นหอมมากกก" คือ หอมทะลุ Bubble กันเลยทีเดียว กลิ่นคือแบบว่า ดมแล้วสดชื่นมากๆ เหมือนกับ HERBAL GROUND กำลังชวนฉันว่า "สระผมกันเถอะๆ" อย่างนั้นเลย คือ...ดมแล้วแทบอยากจะพุ่งตัวไปอาบน้ำสระผมเพื่อใช้เธอ 555+

แล้วตอนแรกก่อนที่จะใช้ ยังแอบกังวลนิดหน่อยว่า ถ้าเป็นพวกสมุนไพร เมื่อสระผมเสร็จแล้วผมจะกระด้างไหมนะ? แต่ไม่เลย ผลลัพธ์หลังการใช้ก็คือ ผมสะอาด นุ่ม ลื่น มีน้ำหนัก แบบไม่ต้องใช้ครีมนวดจริงๆ ตามที่โฆษณาไว้เลย ดีงาม (เพราะเป็นคนขี้เกียจใช้ครีมนวด หลายขั้นตอนด้วย แฮะๆ) ><"

แล้วอีกสิ่งหนึ่งที่ชอบก็คือ บรรจุภัณฑ์ ขวดเธอน่ารัก ปุ๊กปิ๊กๆ จับถนัดมือมากกกก ใช้งานง่าย หัวปั๊ม ปุปุ นิดเดียว แชมพูสีเข้มๆ ก็ออกมาให้ใช้งานเลย ^^

อ่า...ปิดท้ายแอบมีการหักคะแนนเล็กน้อยก็คือ...ตอนที่สระผมอ่ะนะ แชมพูทำให้หนังศรีษะเย็นมากกกก คือ ตอนนี้หน้าหนาวด้วยไง พอสระผมด้วยแชมพูเย็นๆ แล้วยิ่งหนาวเลย ฮืออออ T^T ถ้าสระผมด้วย HERBAL GROUND ในหน้าร้อน คาดว่า...น่าจะดีนะ ศรีษะคงจะโปร่ง โล่ง เย็นสบาย ดับร้อนแน่ๆ เลย ^O^

โอเค! จบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้กั๊บ ไปชมรูปปลากรอบกัลลลลล ^^
  • เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
  • รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : เริ่มใช้
  • ผลลัพธ์หลังการใช้ : กลิ่นหอม,ช่วยให้ผมจัดทรงง่าย,ผมนุ่มลื่น/ไม่พันกัน,ช่วยให้ผมมีน้ำหนัก,ช่วยฟื้นฟูสภาพผม
  • ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
รีวิวเมื่อ 2 ม.ค. 2567, 01:26

สูตรที่ได้ทดลองใช้ คือ ครีมอาบน้ำ Parrot Oil in Bath White Perfect (สีชมพู) ซึ่งความประทับใจแรกเลย ตอนที่เห็นดีไซน์บรรจุภัณฑ์ครั้งแรกถึงกับร้อง "ว้าววว มันสวยมาก" ดูพรีเมี่ยม หรูหรามีระดับจริงๆ สีสันสวยดูโดดเด่น สะดุดตามาก น่ารักแหละ เห็นแค่บรรจุภัณฑ์ก็ดูน่าใช้แล้ว

ส่วนเนื้อครีมอาบน้ำก็ชอบมาก เป็นแบบเจลใส แต่เหมือนจะแอบเห็นเหลือบๆ สะท้อนแสงเป็นสีชมพูอ่อนๆ อ่อนมากๆ จนเกือบมองไม่เห็นด้วยนะ สีสวย หวานดี ด้วยความที่เป็นเนื้อน้ำนม ผสมออร์แกนิค อาร์แกน ออยล์ สุดยอดน้ำมันบำรุงผิวล้ำลึกจากโมร็อคโค เนื้อฟองเลยมีสัมผัสที่นุ่ม ลื่น ละมุนผิว และอ่อนโยนมากๆ ส่วนกลิ่นก็หอม Cerry ผสมดอกไม้ละมุนอ่อนๆ เบาๆ แตะปลายจมูก เวลาอาบน้ำทำให้รู้สึกเหมือนกำลังอาบอยู่ท่ามกลางดงดอกไม้ยังไงอย่างงั้นเลย พอได้กลิ่นแล้วก็รู้สึกถึงความสะอาด และผ่อนคลายระหว่างอาบน้ำ ล้างออกก็ง่าย ไม่ทิ้งความเหนียว เหนอะหนะไว้ที่ผิว

และหลังอาบน้ำก็ให้ผิวสัมผัสเนียนนุ่ม ชุ่มชื่น ดูอิ่มน้ำขึ้นแบบไม่ต้องง้อโลชั่นจริงๆ ทำให้ผิวน่าสัมผัสมาก เพราะเราก็ลูบผิวเล่นทั้งวันเลย มันนุ่มๆ ลื่นๆ ดี ชอบ

และจากวิตามินบี 3 ทำให้ผิวแลดูกระจ่างใส อย่างเป็นธรรมชาติตั้งแต่ครั้งแรกที่อาบเลย เหมือนผิวสว่างขึ้นมา Level นึงเลยนะ

แต่ติดนิดเดียวสำหรับเราเรื่องกลิ่น ที่อาจจะอ่อนไปสักนิดนึง หลังอาบน้ำกลิ่นก็เลยจางง่ายไปสักหน่อย เพราะเราชอบกลิ่นที่แรงกว่านี้ ตัวนี้อาจจะละมุนไป แต่ก็หอมนะ

สรุปแล้ว น่าลอง น่าซื้อมาใช้มากๆ ล่ะ
  • เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ไม่ใช่
  • รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : เริ่มใช้
  • ผลลัพธ์หลังการใช้ : ผลัดเซลล์ผิว,กลิ่นหอม,ล้างออกง่าย,ช่วยให้ผ่อนคลาย,ชุ่มชื้น
  • ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
รีวิวเมื่อ 20 มี.ค. 2566, 01:41

พอดีได้รับโอกาสเป็นกลุ่มแรกที่ได้ทดลองรองพื้นและคอนซีลเลอร์สูตรใหม่จาก Clinique ซึ่งทาง Cosmenet.in.th จัดกิจกรรมขึ้น ซึ่งเราก็เลือกรองพื้นเป็นเฉดสีใหม่ ตามที่เราอยากจะได้มานาน (คืออยากให้หน้าสว่างขึ้นมาอีกระดับเฉดสีนึง) เลยเลือกเป็นเฉดสี 64 Cream Beige ดังนั้นคอลซีลเลอร์เราจึงได้มาเป็นเฉดสีเดียวกันนาจา

เอาล่ะ! ทีนี้มาเริ่มรีวิวกันตั้งแต่ Packaging Design กันก่อนเลย ตัวนี้น้องจะมาในรูปแบบแท่งแก้วจิ้มจุ่ม โดยมีก้าน Applicator ที่ปลายเป็นหัวปาดเฉียง ทำให้ใช้งานง่าย เวลาที่แต้มจุดบกพร่องบนใบหน้า ส่วนฝาน้องนั้นจะเป็นสีขาวสะอาดตา เรียบหรู ดูคุณหนูสุดๆ แล้วมาพร้อมกับฝาที่มีการออกแบบที่แตกต่างจากคอลซีลเลอร์ที่เคยเห็นทั่วๆ ไป คือ น้องจะมีหัวมนๆ กลมๆ น่ารัก ให้ความรู้สึกอ่อนโยน แล้วก็ดูเป็นมิตรมากเลย แต่ยัง...ยังไม่พอ งาน Design ยังไม่จบ น้องมีความพิเศษมากไปกว่านั้น คือตัวน้องนั้นแอบซ่อนฟองน้ำ Blurring Blender อยู่ที่ปลายสุดของตัวฝาด้วยนะ ที่ออกแบบมาให้ใช้เกลี่ยทุกจุดต่างๆ บนใบหน้าง่ายมากขึ้น โดยเฉพาะเวลาพกน้องไปข้างนอกอ่ะนะ ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ตัวอื่นเพิ่ม แต่ส่วนตัวเราอาจจะไม่ค่อยถนัด ชอบใช้แปรงเกลี่ยมากกว่า (แอบเล่าเรื่องตลกนิดนึง คืออยากบอกว่าเขาออกแบบมาได้มีความเรียบ เนียบ กริบสมกับเป็นคอลซีลเลอร์เลยนะ คือรอยต่อเนียนมากจนเราหา ฟองน้ำ Blurring Blender ไม่เจอในตอนแรก 55555+) แล้วก็นะ ฝาของน้องยังมีการปั๊มโลโก้ของแบรนด์เอาไว้อีกด้วย ดูสวยงามมากๆ โดยรวมทั้งหมดนี้เรื่อง Packaging Design นี่ให้เต็ม 10 ไม่หักกันเลยทีเดียว ถูกใจมาก

ทีนี้มาว่ากันเรื่องประสิทธิภาพกันบ้าง คือน้องจะเป็นคอนซีลเลอร์เนื้อครีมเจล พอแต้มแล้วมันจะหนืดๆ แต่เกลี่ยง่าย (เคยทาทั้งหน้า คือแบบเหมือนมีเกราะอะไรสักอย่างอยู่บนใบหน้า แต่ไม่หนักหน้านะ บางเบาอย่างน่าประหลาด) แล้วน้องก็ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน ดังนั้นใช้แล้วก็ไม่เป็นสิวอุดตันเนอะ ส่วนการปกปิดนั้นด้วยความที่น้องมีส่วนประกอบอย่าง Optical Diffusers ช่วยปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอขึ้น รวมถึงปกปิดจุดด่างดำ และรอยคล้ำใต้ดวงตาได้ดี เรียบ เนียนกริ๊บทันทีที่ใช้เลยล่ะ เป็นที่น่าพอใจมาก แต่การปกปิดที่ดีนั้น เราทดลองใช้ก่อนลงรองพื้น แล้วก็ทับด้วยรองพื้น อันนี้คือไม่รอด น้องปกปิดได้ไม่ดีเท่าที่ควร โดยเฉพาะรอยคล้ำรอบดวงตานี่เห็นชัดเป็นน้องหมีแพนด้ากันเลยทีเดียว T^T แต่ถ้าใช้น้องทาทับรองพื้นล่ะก็ น้องเอาอยู่หมัด! เรียบเนียนจัดๆ ให้ Finished Look ที่ผิวสวยดูเป็นธรรมชาติมาก และน้องก็ยังมีส่วนประกอบของ Vitamin C และ Caffeine ที่ช่วยปรับผิวให้ดูสว่าง กระจ่างสดใสขึ้นเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง แถมปกปิดได้ดีอีก เราเลยใช้แบบเดี่ยวๆ (ตามที่แบรนด์เขาเคลมไว้ว่า สามารถใช้ทาเดี่ยวๆ ได้) ซึ่งผลคือ ปลื้มมาก ปลื้มในความที่น้องให้ Look แบบฉ่ำโกลว์ ชุ่มชื้น หน้าไม่แห้ง แล้วก็สว่าง กระจ่าง ออร่าพุ่งปรี๊ดกันเลยทีเดียว (จนแอบตกใจนี่ใช่หน้าเราไหมเนี้ย 555+ ผ่องผุดพรรณเกิ๊น เลยไม่กล้าใช้เดี่ยวๆ ออกไปข้างนอกจริงๆ) ซึ่งต้องใช้คู่กับรองพื้น Clinique Even Better Clinical™ Serum Foundation SPF 20 PA+++ หรืออาจจะใช้แป้งฝุ่น ถึงจะทำให้ผิวดู Balance มากขึ้น สวยแบบ Perfect เลยล่ะ ดูไม่หลอกจนเกินไป และประสิทธิภาพของน้องยังไม่หมดน้าาา น้องยังมีส่วนประกอบของ Hyaluronic Acid ที่ช่วยทำให้เส้นริ้วๆ ที่แห้งอย่างพวกใต้ดวงตา และร่องแก้ม ดูเรียบเนียนและชุ่มชื้นขึ้น โดยน้องไม่ตกร่องด้วยล่ะ แล้วนะ...น้องก็ยังติดทนทาน นานมั่ก สีไม่เปลี่ยนอีกต่างหาก แม้ว่าจะผ่านไปถึง 8 ชั่วโมง จะมีก็แค่ความมันที่เพิ่มขึ้นมาบริเวณ T-Zone เท่านั้นตามประสาผิวผสมแบบเรา

ก็สรุปเลยแล้วกันเนอะ เรื่องความคุ้มค่าของผลิตภัณฑ์เมื่อเทียบกับราคา ตัวนี้ที่ได้มาจะเป็นขนาด 6 ml. มูลค่า 900 บาท ก็รู้สึกว่าคุ้มกับราคามากกก แต่จะมากขึ้นไปอีกถ้าได้ปริมาณเท่ากับขวดรองพื้นได้ม๊ะ 555+ คือเพราะว่าน้องมีประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมมากอ่ะนะ จนอยากจะใช้เดี่ยวๆ เป็นรองพื้นไปเลยอ่ะ แบบว่ามันดีงามมากจริงๆ คะแนนเต็ม 5 คะแนน อยากจะให้คะแนนเต็มนะ แต่แอบ ขอหัก 1 คะแนนแล้วกัน โทษฐานออกแบบได้เนียนจนทำให้เราหาฟองน้ำ Blurring Blender ไม่เจอ อิอิ ^^
  • เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
  • รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
  • ผลลัพธ์หลังการใช้ : เหมาะกับผลิตภัณฑ์นี้,ไม่อุดตัน,คุ้มราคา,ปกปิดได้ดี,เกลี่ยได้ง่าย,ติดทน,ดูเป็นธรรมชาติ,เฉดสีหลากหลาย,ไม่เป็นคราบ
  • ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
รีวิวเมื่อ 15 ก.พ. 2564, 00:02

ต้องบอกก่อนว่า ปกติจะใช้รองพื้นเฉดสี 65 Neutral เนื่องจากตอนที่ไปซื้อที่ Shop แล้ว BA ก็แนะนำให้ว่าผิวเราควรใช้สีนี้ แต่พอลองซื้อมาใช้แล้ว กลับไม่ค่อยชอบเท่าไร เพราะรู้สึกว่าหน้ามันดูเข้มเกินไป ส่วนตัวชอบแบบหน้าสว่างๆ กว่านี้

ทีนี้พอมีกิจกรรมของทาง Cosmenet.in.th ที่ให้โอกาสเราเป็นกลุ่มแรกที่ได้ทดลองรองพื้นสูตรใหม่จาก Clinique ก็เลยขอตามใจตัวเอง เลือกเป็นเฉดสีใหม่ดูว่าจะเหมาะกับเราไหม เลยขอเลือกเป็นเฉดสีที่สว่างขึ้นมาอีกระดับนึง คือเฉดสี 64 Cream Beige (แอบลุ้นเหมือนกันว่า หน้าจะขาวเกินไปไหม) แต่พอได้มาทดลองใช้จริงๆ คือ อื้มมม สีกำลังดีเลยทีเดียว สว่างขึ้นแบบธรรมชาติ ถูกใจเลยแหละ โดยเฉพาะ Finished Look ที่เป็นเนื้อแบบซาติน ก็จะทำให้หน้าดูมีความฉ่ำวาวเล็กน้อย ดูสุขภาพดี แล้วก็มีมิติ ไม่ดูแห้งจนเกินไป เพราะปกติก็เป็นคนที่ผิวผสม ในบางจุดก็จะแห้งมาก ส่วน T-Zone ก็จะมันมาก (ดูเอาใจยากจริงๆ) แต่ก็ไม่เป็นไร ให้ความสำคัญกับ Zone ที่เป็นผิวแห้งดีกว่า อยากให้ผิวดูฉ่ำๆ หน่อย สไตล์สายเกา เพราะผิวส่วนที่แห้ง หน้าจะลอกแบบขุยๆ ยิ่งถ้าเป็นเนื้อแมตต์หน้าก็จะยิ่งดูแห้งไปกันใหญ่ ซึ่งรองพื้น Clinique Even Better Clinical™ Serum Foundation SPF 20 PA+++ ตัวนี้คือตอบโจทย์ เหมาะกับสภาพผิวเราเลยแหละ แถมไม่มีส่วนผสมของน้ำมันด้วย ก็ไม่ทำให้เป็นสิว แม้จะใช้รองพื้นยาวนานกว่า 8 ชั่วโมงต่อวัน แล้วรองพื้นตัวนี้ยังมีส่วนผสมของเทคโนโลยี 3 เซรั่ม ก็ทำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้นด้วย หน้าไม่แห้งเวลาที่อยู่ในห้องแอร์ หรืออยู่ในอากาศข้างนอกที่ไม่มีแอร์ ผิวก็เบาๆ สบายๆ ไม่หนักหน้า แถมตัวนี้มีส่วนประกอบที่ป้องกันผิวจากแสงแดดด้วยนะ ซึ่งเราก็ใช้แค่รองพื้นตัวนี้ตัวเดียว ไม่ได้ทาครีมบำรุง หรือว่าครีมกันแดดเพิ่มเลย ซึ่งพอใช้ต่อเนื่องกัน รู้สึกว่าผิวดูสว่างขึ้น (ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่านะ) เพราะเวลาเช็ดทำความสะอาดหน้า บางทีก็รู้สึกแปลกใจ ว่าทำไมหน้ายังดูขาวๆ สว่างๆ อยู่ นึกว่าตัวเองเช็ดหน้าไม่สะอาด 55555+

แต่ถ้าถามว่า การปกปิดเป็นยังไงบ้าง ส่วนตัวยังไม่ค่อยปลื้มเท่าไร เพราะรองพื้นตัวนี้ปกปิดได้แค่ระดับปานกลาง ซึ่งผิวของเราก็ค่อนข้างมีปัญหา คือรอยคล้ำใต้ดวงตา และรอยจุดด่างดำ ทั่วใบหน้า แม้จะลองใช้คู่กับแปรง หรือฟองน้ำก็ยังปกปิดได้ไม่ดีเท่าที่ควร แต่ถ้าอยากได้ Look ที่ Perfect จริงๆ ควรใช้รองพื้น ควบคู่กับ Even Better™ All-Over Concealer + Eraser ก็จะได้ผิวที่เรียบเนียนกระจ่างใสกริ๊บๆ มากขึ้น ตามที่แบรนด์เขาแนะนำเลยล่ะ

ทีนี้มาพูดกันถึง Packaging Design กันบ้าง โหหห อันนี้ต้องบอกเลย มันว้าวววมั่ก คือตอนที่ได้น้องมา พอเปิดกล่องปุ๊บ เจอน้องปั๊บ นี่อุทานเลย WoW!!! คือน้องน่ารักมาก น่ารักตั้งแต่กล่องบรรจุผลิตภัณฑ์เลย ทำสีได้แบบหวานนนมั่ก คือชอบมาก เป็นสี Pastel ละมุนสุดๆ แล้วยิ่งแกะเสื้อผ้า เอ้ย แกะกล่องน้องออกมา ยิ่งว้าวไปอีก น้องน่าร้ากกก ตะมุตะมิมาก คือเขาทำเป็นทรงอ้วนๆ กลมๆ อย่างกับตุ๊กตาล้มลุกอ่ะนะ เห็นละมันเขี้ยวมาก จับละก็เหมาะมือ น่าทะนุถนอม และด้วยความที่เขาออกแบบด้วยบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยตัวขวดผลิตจากแก้ว สามารถนำไปรีไซเคิลได้ และส่วนตัวฝาก็จะเป็นหัวปั๊มสีขาว ดูเรียบหรู แต่...มันจะมีรอยต่อระหว่างฝากับหัวปั๊ม และรอยต่อของหัวปั๊มกับตัวขวดแก้ว อันนี้คือแบบหักคะแนนไปนิดนึง เพราะเปิดฝายากไปหน่อย คือเปิดครั้งแรกฝาที่ปิดหัวปั๊มไม่เปิด แต่ดันเปิดตัวหัวปั๊มที่ติดกับขวดแก้วออกมาเฉย งงอยู่นานว่าทำไมไม่มีหัวปั๊มหว่า? บ้าบอมาก หาหัวปั๊มอยู่ตั้งนาน T^T

ก็สรุปเลยแล้วกัน เรื่องความคุ้มค่าของผลิตภัณฑ์เมื่อเทียบกับราคา ตัวนี้ที่ได้มาจะเป็นขนาด 30 ml. มูลค่า 1,950 บาท ก็รู้สึกว่าราคาจะสูงไปสักนิด ถ้าเทียบกับประสิทธิภาพอ่ะนะ คือถ้าผิวไม่มีปัญหา สามารถใช้รองพื้นเดี่ยวๆ ได้เลย แต่ถ้าผิวหน้ามีปัญหาอย่างเรา ใช้เดี่ยวๆ ไม่ได้ต้องใช้คู่กับคอนซีลเลอร์ ซึ่งมันทำให้เราเปลืองสตางค์ขึ้นไปอีกยังไงล่ะคุ้ณณณ 5555+

อ่ะ จากคะแนนเต็ม 5 คะแนน ให้ไป 4 คะแนนแล้วกันจ่ะ ^^
  • เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
  • รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
  • ผลลัพธ์หลังการใช้ : กระจ่างใส,ชุ่มชื้น,ฟื้นฟูสภาพผิว,ผิวเรียบเนียน,อ่อนโยน
  • ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
รีวิวเมื่อ 14 ก.พ. 2564, 22:11

ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนเลยว่า ไปรับ LANCÔME Teint Idole Ultra Wear Foundation ขนาดทดลองที่สาขา Paragon เป็นชิ้นสุดท้ายพอดี
ดังนั้น ก็จะไม่มีโอกาสได้เลือกเฉดสีที่เหมาะกับ
ตัวเอง
เฉดสีที่ได้รับ คือ PO-01 ตอนแรกก็แอบกังวลกับเฉดสีนี้ เพราะจริงๆ เราเป็นคนมีสีผิวกลางๆ
แต่เฉดสีที่ได้รับค่อนข้างเหมาะกับคนผิวขาวมากกว่า แต่ด้วยความที่แบรนด์ชูความเป็นรองพื้นระดับไอดอล ทำให้เราค่อนข้างมั่นใจ ว่า LANCÔME Teint Idole Ultra Wear Foundation จะทำให้เราดูดีไม่แพ้ไอดอลอย่างแน่นอน
เอาล่ะ! เกริ่นมานานละ เข้าเรื่องกันดีกว่า  LANCÔME Teint Idole Ultra Wear Foundation เป็นสูตรน้ำ ตอนทดลองเทลงหลังมือ รองพื้นก็จะไหลลงอย่างรวดเร็วเหมือนน้ำเลย ตามในภาพ
ดังนั้น บางคนที่นิยมนำไปหยดโดยตรงที่ใบหน้าก็อาจจะต้องระวังนิดนึงนะ
แต่เห็นเป็นสูตรน้ำแบบนี้ พอทาลงบนผิวหน้า
รองพื้นค่อนข้างเซทตัวเร็วมาก แอบตกใจ!
ดังนั้นเวลาใช้รองพื้นตัวนี้อาจจะต้องเพิ่ม Speed
ในการปาดนิดนึงนะจ๊ะ
และเนื่องจากเป็นแบบสูตรน้ำ เลยทำให้เนื้อรองพื้นเกลี่ยง่าย แต่กลับปกปิดได้ดีทีเดียว นี่ขนาดเป็นเฉดสีที่สว่างกว่าสีผิวจริง ทั้งที่คิดว่าจะทำให้เห็นรอยจุดด่างดำชัดเจนกว่าเดิม แต่เปล่าเลย
กลับปกปิดได้ดีจนต้องร้อง ว้าววว ^o^
(ตามในภาพ Before & After)
หลังจากแต่งหน้าครบทุกขั้นตอนจนได้แบบ Finished Look ในสไตล์ของตัวเองแล้ว
ก็จะได้ผิวหน้าแบบแมทท์ๆ เหมือนในภาพเลย
การแต่งหน้าครั้งนี้เราก็ทำการทดลองทั้ง 2 สภาพแวดล้อมเลยก็คือ ทั้งออกแดด แล้วก็อยู่ในห้องแอร์ (ห้างสรรพสินค้า)
พอผ่านไปประมาณ 6 ชั่วโมง รองพื้นก็ยังคง
ติดผิวหน้าอยู่เหมือนเดิม อาจจะมีความมันเกิดขึ้นที่
T-Zone บ้างเล็กน้อย อาจจะเพราะเราเป็นคน
ผิวผสมด้วย ซึ่งโดยรวมถือว่าโอเคนะ
แต่ที่ชอบมากๆ เลยก็คือ รู้สึกผิวหน้าเย็นๆ
สบายหน้ามากๆ เบาหน้าด้วย ไม่หนักหน้า
เหมือนไม่ได้แต่งหน้าเลย และที่ปลื้มไปกว่านั้นก็คือ ไม่ได้บอกใครว่าใช้ LANCÔME Teint Idole Ultra Wear Foundation แต่คนรอบข้างทักว่า
*หน้าเนียนจังเลยนะ ธรรมชาติมาก
แต่งหน้าได้บางมาก ไม่ดูหนาเหมือนทุกวัน*
เอาไปเลย 3 ผ่าน ^,^
  • เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ไม่ใช่
  • รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : เริ่มใช้
  • ผลลัพธ์หลังการใช้ : ติดทน,ดูเป็นธรรมชาติ
  • ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
รีวิวเมื่อ 23 ม.ค. 2564, 20:31

กันแดด Concept Physical Sun Protection Cream SPF50 PA+++ ไม่เคยใช้มาก่อนเลย หลังจากได้ทดลองใช้ รู้สึกว่าคุณสมบัติค่อนข้างน่าพึงพอใจทีเดียว เพราะเป็นครีมกันแดด 2 in 1 เป็นได้ทั้งครีมกันแดด และรองพื้น ซึ่งสีเบจของกันแดดตัวนี้สวยมาก พอทาแล้วทำให้หน้าสว่าง กระจ่างใสขึ้นแบบเป็นธรรมชาติเลย ตรงนี้ชอบๆ แถมช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดได้ดี และด้วย ACE PEP & White Ten ช่วยฟื้นบำรุงให้ริ้วรอยแลดูลดลงด้วยนะ พอเช็ดครีมกันแดดตัวนี้ ก็รู้สึกเหมือนผิวไม่หมองคล้ำเหมือนเคย และจุดด่างดำก็เหมือนจางลงเล็กน้อย

และที่ชอบมากๆ คือสูตรฟิซิคอลเนื้อครีมบางเบา ซึมซาบเร็ว ทาแล้วไม่หนักหน้า สบายผิว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ผิวเรียบเนียน และรู้สึกเหมือนผิวเย็นๆ (ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่านะ) ส่วนเนื้อครีมอาจจะแปลกๆ นิดนึงตรงที่ เวลาทาเนื้อครีมจะแตกตัวเป็นหยดน้ำ แต่ที่น่าแปลกใจไปกว่านั้น เห็นเป็นน้ำๆ แบบนี้ แต่สามารถกันน้ำได้ดีอีกต่างหาก เริ่ดไหมล่ะ

 

และสิ่งสำคัญที่สุดคือ ทาแล้วไม่แพ้เนอะ เพราะไม่มีส่วนผสมของสารกันเสียจำพวกพาราเบน

 

สรุปเลยดีกว่า เป็นกันแดดที่ดีงาม ควรค่าแก่การซื้อขนาดจริงมาใช้มั่กๆ ^^

  • เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
  • รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : เคยใช้
  • ผลลัพธ์หลังการใช้ : ควบคุมความมัน, กันแดดได้ดี, กันน้ำ/กันเหงื่อ, ล้างออกง่าย, ไม่เหนอะหนะ
  • ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
รีวิวเมื่อ 8 มี.ค. 2563, 23:19

เนื้อครีมเป็นสีขาวขุ่น เหลว เวลาทาบนผิวหน้าก็ซึมซาบสู่ผิวได้ดีพอสมควร เหมาะกับอากาศเมืองไทย ส่วนกลิ่นของครีมจะเป็นกลิ่นประเภทเวชสำอาง แต่กลิ่นบางมาก จนแทบไม่ได้กลิ่นเลย และผลลัพธ์หลังจากที่ทดลองใช้ประจำ เนื่องจากเป็นคนผิวผสม เลยรู้สึกว่าเรื่องความชุ่มชื่นอาจจะไม่ค่อยช่วยเท่าไร เพราะบริเวณแก้มจะรู้สึกแห้งระหว่างวัน และเวลาแต่งหน้าก็เป็นขุยเล็กน้อย ถ้าเรื่องลดเลือนจุดด่างดำ ค่อนข้างลดลง แต่สิวกลับขึ้นแทน ไม่รู้ทำไม แต่โดยรวมแล้วทำให้ผิวแข็งแรงขึ้นจริงๆ

  • เป็นเครื่องสำอางที่ใช้อยู่เป็นประจำใช่หรือไม่ : ใช่
  • รีวิวผลิตภัณฑ์เมื่อ : กำลังใช้
  • ผลลัพธ์หลังการใช้ : ลดริ้วรอย, ชุ่มชื้น, ลดจุดด่างดำ, ไม่เหนอะหนะ
  • ซื้อผลิตภัณฑ์จาก : กิจกรรม cosmenet.in.th
รีวิวเมื่อ 31 พ.ค. 2561, 23:52

REVIEW

Body Wash Glutaglow
Vaseline
Body Wash Glutaglow

หลังจากลองใช้ Vaseline Body Wash Youthful Glow Glutaglow มาได้ 7 วันเรารู้สึกได้ความชุ่มชื่นของผิว มีการช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพทำให้ผิวมีความเรียบเนียนขึ้น ใช้นิดเดียวก็สามารถใช้ได้ทั้งร่างกาย ล้างออกง่าย มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ทำให้ใช้แล้วรู้สึกสดชื่น
Body Wash Glutaglow
18 hour ago
mink thitima
Expert White Spot Protect Sunscreen SPF50+ PA++++
BSC
Expert White Spot Protect Sunscreen SPF50+ PA++++

BSC Expert White Spot Protect Sunscreen SPF50+ PA++++ เนื้อกันแดดจะไม่เหนอะหนะ เกลี่ยง่าย ไม่วอก ทาแล้วสบายผิว กันแดดมีความกลิ่นหอมอ่อนๆ
Expert White Spot Protect Sunscreen SPF50+ PA++++
22 hour ago
วรัญญา
Body Wash Glutaglow
Vaseline
Body Wash Glutaglow

ครีมอาบน้ำเซรั่ม สูตรนี้กลิ่นหอมเด่นชัดมาก กลิ่นคือเตะจมูกเลย อาบครั้งแรกรู้สึกผิวฉ่ำ แล้วล้างออกง่ายด้วย หลังอาบน้ำแฟนทักว่าใช้น้ำหอมอะไร กลิ่นหอมมากๆ
Peptide Acne Gel
MizuMi
Peptide Acne Gel

พกพาง่าย สิวยุบลงแต่าอาจจะไม่ใช่24ชม.ขนาดนั้น อยากให้มีปริมาณที่ใหญ่กว่านี้ ก็ถือว่าโอเคค่ะ
Peptide Acne Gel
Yesterday at 9:20
TingTing
more +