Profile

เนื่องจากเอมเป็นคนที่มีผิวผสมที่บ้างครั้งก็ค่อนไปทางแห้ง บางครั้งก็ค่อนมาทางมันแล้วแต่สภาพอากาศในช่วงนั้นค่ะ ซึ่งสิ่งหนึ่งที่เอมให้ความสำคัญตลอดมาก็คือเรื่องการเติมความชุ่มชื่นให้กับผิวของเอมอย่างสม่ำเสมอ 

SENKA Deep Moist Gel Cream ตัวนี้ค่อนข้างตอบโจทย์ผิวของเอมในหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเติมเต็มความชุ่มชื่นที่ทำได้ดีมากๆ และด้วยความที่เค้ามาเป็นเนื้อเจลมันช่างเหมาะกับคนที่มีผิวผสมแบบเอมมากๆ เพราะเวลาที่เอมทาเจลครีมที่ผิว เค้าก็จะซึมซาบเข้าสู่ผิวทันทีโดยที่ไม่ทิ้งความมันใดๆไว้บนผิวเลยค่ะ 

ส่วนตัวชอบเจลครีมตัวนี้มากๆ เอมสามารถทาได้ทั้งก่อนแต่งหน้าก็จะทำให้เครื่องสำอางติดทนทั้งวันมากขึ้น ทาก่อนนอนก็จะช่วยบำรุงให้ผิวนุ่มชุ่มชื่นตลอดทั้งคืน แม้ว่าจะนอนห้องแอร์ผิวก็ไม่แห้งกร้านด้วยนะคะ ดีงามมาขนาดนี้กลายเป็นเจลครีมลูกรักคนใหม่ไปเรียบร้อยแล้วค่ะ

เอมเป็นคนชอบใช้ครีมอาบน้ำในการชำระล้างร่ากายเป็นประจำอยู่แล้วค่ะ แต่เพิ่งจะได้ลองใช้ครีมอาบน้ำสูตรนี้เป็นครั้งแรก ซึ่งส่วนตัวค่อนข้างชอบกลิ่นของเค้ามากๆ เพราะเป็นกลิ่นส้มหอมอ่อนๆ ช่วยให้ผ่อนคลายเวลาอาบน้ำได้ดีมากค่ะ อีกทั้งเนื้อสัมผัสก็ดี ฟองเยอะแต่เนียนนุ่ม เมื่ออาบเสร็จล้างฟองออก ผิวก็เนียนเด้ง สดใสขึ้นทันที วันไหนที่ทำงานเหนื่อยมาใช้ครีมอาบน้ำตัวนี้บอกเลยว่าฟินแน่นอนค่ะ

เอมเพิ่งเคยได้ลองใช้ครีมกันแดดของ KA เป็นครั้งแรกค่ะ สำหรับตัวนี้ทางแบรนด์เคลมมาว่าเป็นกันแดดที่ควบคุมความมัน เนื้อบางเบา สบายผิว ที่สำคัญคือไม่หนักผิวด้วย ส่วนตัวที่ลองใช้ทดสอบ 1 วันเต็มๆ ก็รู้สึกว่าตั้งแต่ครั้งแรกที่บีบครีมออกมาจากหลอด ก็ได้กลิ่นหอมจางๆ เนื้อครีมสีขาว ค่อนข้างเกลี่ยง่ายเลยค่ะ พอทาที่ผิววนไม่กี่ครั้งก็ซึมเข้าผิวไปแล้ว ฟินิชของผิวหลังจากทาครีมกันแดดค่อนข้างแมทค่ะ ส่วนตัวชอบผิวแบบนี้มากกว่า เพราะถ้าเราทาครีมกันแดดที่มันตั้งแต่ครั้งแรก ลงผลิตภัณฑ์อะไรต่อไปแน่นอนว่าผิวระหว่างวันจะมันมากๆเลยค่ะ แต่สำหรับกันแดดตัวนี้ไม่เป็นค่ะ ในระหว่างวันผิวบริเวณทีโซนของเอมก็มีความฉ่ำนิดๆเหมือนกันค่ะ แค่ใช้กระดาษซับก็ใช้ชีวิตต่อได้ปกติ ค่อนข้างชอบและประทับใจกับครีมกันแดดตัวนี้มากๆค่ะ

ส่วนตัวใช้ครีมกันแดดสำหรับผิวกายแบรนด์นี้อยู่แล้วค่ะ ซึ่งรุ่นที่เอมรีวิวนี้เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งวางจำหน่ายเลย เอมรู้สึกว่ารุ่นใหม่นี้จะทำเนื้อครีมมาค่อนข้างดีเลยค่ะ บางเบา สบายผิว เหมาะกับอากาศร้อนๆในบ้านเรามากๆ อีกทั้งเรื่องการป้องกันแสงแดดให้กับผิวก็ทำได้ดีมากเช่นกัน เอมเป็นคนที่ผิวคล้ำได้ง่ายมากค่ะ ถ้าวันไหนลืมทากันแดดออกจากบ้าน วันนั้นผิวก็จะคล้ำทันทีเลย แล้วก็ครีมกันแดดตัวนี้นอกจากจะปกป้องแสงแดดให้กับผิวของเอมแล้ว ยังมอบความขาวกระจ่างใสให้กับผิวเอมด้วยนะคะ ทากันแดดตัวนี้จบเลย ไม่ต้องลงครีมทาตัวขาวหรือบีบีทาตัวเพิ่มเลยค่ะ ในเรื่องของกลิ่นหอมเค้าก็จัดมาให้เต็มเปี่ยมเลยค่ะ หอมจริงจังมาก ติดทนมากกว่ากันแดดตัวเดิมที่เอมเคยใช้เลยค่ะ

ด้วยความที่เราเป็นคนที่มีผิวกายแห้งมาก ถ้าช่วงหน้าหนาวก็คือจะแตกลอกทั้งแขนและขาเลย เราก็พยายามทาครีมนะคะ แต่ก็เหมือนว่าครีมที่ทาไม่ตอบโจทย์กับความแห้งของผิวเรา จนเมื่อเราได้มาใช้ Aveeno Skin Relief Moisturizing Lotion ครั้งแรกที่ทาก็รู้สึกได้เลยว่าผิวชุ่มชื่นมากกว่าที่เราเคยรู้สึก ผิวดูนุ่มไม่แห้งลอก ที่สำคัญก็คือไม่เหนียวเหนอะหนะด้วยค่ะ ส่วนตัวเป็นคนที่มีความจำเป็นต้องทาครีมเพราะผิวแห้งลอก แต่ถ้าใจจริงๆของเราแล้วถ้าให้เลือกได้เราไม่ชอบทาครีมที่เหนียวเหนอะหนะค่ะ แต่Aveeno Skin Relief Moisturizing Lotion ตัวนี้ไม่มีความเหนียวเหนอะหนะเลย มีแต่ความชุ่มชื่นให้กับผิว เอมทาหลังอาบน้ำแค่ครั้งเดียว ผิวก็ชุ่มชื่นทั้งวันโดยไม่มีอาการแห้งลอกแม้ว่าอยู่ในห้องแอร์เลยค่ะ ดีงามมากๆ ตอบโจทย์คนที่มีผิวกายแห้งอย่างเอมที่สุด

เรารู้สึกชอบตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ลองใช้เลย บอกตรงๆเมื่อก่อนรู้สึกไม่ค่อยชอบผลิตภัณฑ์ของพอนส์เท่าไหร่ เพราะส่วนตัวเมื่อก่อนใช้แล้วบางครั้งจะมีอาการระคายเคืองประมาณว่าคันผิวยิบๆเป็นบางที แต่เมื่อมาลองใช้ตัวนี้ เราถึงกับเปลี่ยนความคิดเลย ตัวนี้เขาทำออกมาได้ดีมากๆ ทั้งกลิ่น เนื้อสัมผัส ความชุ่มชื้นและการบำรุงต่างๆ เขาจัดหนักจัดเต็มจริงๆ ตอนนี้ชอบถึงขนาดที่ซื้อมาให้คุณแม่ได้ใช้ด้วยค่ะ ซึ่งท่านก็บอกเป็นเสียงเดียวกับเราว่าผลิตภัณฑ์ตัวนี้ดีกว่าที่เราคิดไว้มากจริงๆค่ะ 

เรื่องริ้วรอยเขาก็ทำให้มันจางลงอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นร่องแก้มหรือแม้แต่ริ้วรอยรอบดวงตาก็ตาม ผิวดูกระจ่างใสขึ้น ผิวดูสุขภาพดีชุ่มชื่นฉ่ำน้ำ แต่งหน้าติดทนได้มากขึ้น เอมเชื่อว่ายิ่งเราใช้ต่อเนื่องไปเรื่อยๆผลลัพธ์ที่ได้จะต้องดีมากขึ้นกว่านี้แน่นอนค่ะ 

ส่วนตัวชอบพอนส์ตัวนี้มากๆ จริงๆแล้วถ้าใช้คู่กับมาส์กของเขาก็ยิ่งเลิศเข้าไปอีกค่ะ ส่วนตัวถ้าอยากหน้าเด็กเราแนะนำพอนส์ค่ะ ราคาไม่แรง ใครๆก็จับต้องได้ แถมยังให้ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจอย่างนี้ ใครใช้ก็ต้องรักพอนส์เหมือนกับเรานี่ล่ะจ้า

เราได้สูตรแอปริคอทมาทดลองใช้ค่ะ เป็นเนื้อพุดดิ้งสีพีชที่ดูเด้งและฉ่ำมากค่ะ ให้ความชุ่มชื้นและช่วยให้ผิวกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น ด้วยคุณค่าของแอปริคอทจากธรรมชาติ ไม่ว่าจะมีผิวแบบไหนก็สามารถใช้ได้ค่ะ ผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้นะคะ

ส่วนตัวมีการทดลองใช้มาเป็นระยะเวลาเกือบเดือนแล้ว สิ่งที่สังเกตได้ก็คือ ผิวมีความกระจ่างใสขึ้นรูขุมขนดูเล็กลงและกระชับขึ้น ทำให้เราแต่งหน้าได้ติดทนและง่ายมากขึ้น ที่สำคัญเครื่องสำอางไม่ดรอประหว่างวัน เพราะว่าในผิวมีความชุ่มชื้นอย่างเพียงพอ ยิ่งใช้หน้าก็ยิ่งดียิ่งใช้ผิวก็ยิ่งใส ไม่ว่าเราจะแต่งหน้าด้วยลุคอะไร จะทำให้เราได้ผิวสวยอย่างเป็นธรรมชาติแน่นอนค่ะ ยิ่งถ้าใช้ร่วมกับโฟมล้างหน้าผิวจะยิ่งดีเร็วยิ่งขึ้นค่ะ ส่วนตัวชอบมากๆรับรองว่าซื้อใช้ต่อแน่นอนค่ะ

เนื้อมาส์กมีสีขาวขุ่น กลิ่นหอมผ่อนคลาย ให้ความชุ่มชื้นดี ให้มาในปริมาณเยอะมาก ชุ่มทั้งแผ่นมาส์ก ตอนมาส์กรู้สึกเย็นสบายผิว กลิ่นหอมๆช่วยให้ผ้อนคลายดีค่ะ ส่วนตัวชอบมาก ซื้อซ้าอีกแน่นอนค่ะ 

หลังจากที่เอมได้รับผลิตภัณฑ์ครีมอาบน้ำเนื้อน้ำนม แพรอท ออยล์ อิน บาธ มาทดลองใช้ทั้งหมด 3 สูตร ได้แก่

WHITE PERFECT (ขวดสีชมพู)
สุดยอดน้ำมันบำรุงผิวล้ำลึกจากโมร็อคโค มีส่วนผสมของ ออร์แกนนิค อาร์แกน ออยล์ สุดยอดน้ำมันบำรุงผิวล้ำลึกจากโมร็อคโค
ผสานวิตามิน B3 ให้ผิวแลดูกระจ่างใส อย่างเป็นธรรมชาติ

SOFT ROMANCE (ขวดสีเนื้อ)
มีส่วนผสมของ ออร์แกนิค อาร์แกน ออยล์ สุดยอดน้ำมันบำรุงผิวล้ำลึกจากโมร็อคโคผสานเชียบัตเตอร์ ให้ผิวเนียนนุ่ม น่าสัมผัส

HYDRO FRESH (ขวดสีฟ้า)
มีส่วนผสมของ ออร์แกนิค อาร์แกน ออยล์ สุดยอดน้ำมันบำรุงผิวล้ำลึกจากโมร็อคโคผสานน้ำแร่ธรรมชาติ ให้ผิวสดชื่นอิ่มน้ำ

ซึ่งจากการทดลองใช้มาเป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์ เอมรู้สึกว่าผิวหลังจากการอาบน้ำดูชุ่มชื่นขึ้น จากเมื่อก่อนที่มักจะแห้งแตก เป็นขุย ดพราะเอมไม่ได้ทาครีมหลังอาบน้ำ แต่เมื่อเอมได้ลองใช้ครีมอาบน้ำตัวนี้ หลังจากอาบน้ำผิวกายก็ไม่ได้แห้งค่ะ กลับมีความชุ่มชื้นดีมาก ผิวตัวไม่แตก ไม่แห้งแล้วที่สำคัญกลิ่นกายหอมมากๆ ส่วนตัวเป้นคนที่มีผิวกายแห้ง จึงค่อนข้างชอบครีมอาบน้ำตัวนี้มาก แน่นอนว่าเอมจะต้องซื้อซ้ำแน่นอนค่ะ เพราะอยากมีผิวกายเนียนนุ่ม น่าสัมผัสแล้วก็มีกลิ่นหอมในเวลาเดียวกัน ใครที่มีผิวกายแห้งแตกเป็นขุยหลังอาบน้ำเหมือนเอม แนะนำเลยค่ะ

เดิมที่เราก็ใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้เป็นประจำอยู่แล้ว และชอบมากๆเพราะเราเป็นคนที่ผิวคล้ำเสียได้ง่ายมากๆ และพอผิวมันคล้ำแล้วกว่าจะทำให้กลับมากระจ่างสว่างใสเหมือนเดิมกลับยากยิ่งกว่า ผลิตภัณฑ์ตัวนี้จึงค่อนข้างตอบโจทย์คนที่ผิวคล้ำเสียง่ายอย่างเรามากๆ เพราะเขาสามารถช่วยฟื้นบำรุงผิวของเราให้กลับมาสว่างกระจ่างใสภายใน 7 วัน แล้วก็ยิ่งใช้ไปเรื่อยๆ ก็จะยิ่งกระจ่างใสมากขึ้นไปอีก ประเทศไทยมีแดดจัดทั้งปีอยู่แล้ว การที่เราจะมีตัวช่วยดีอย่าง Nivea Extra White C & E Vitamin Lotion จึงเป็นอะไรที่เหมาะสมที่สุดค่ะ อยากขาวไว ต้อง Nivea Extra White C & E Vitamin Lotion นะคะ ^^

เป็นสเปรย์กันแดดตัวแรกที่ได้ลองใช้และจะบอกเลยว่าประทับใจมากๆ ตั้งแต่แพคเกจ หัวสเปรย์ที่ฉีดง่ายกระจายตัวดี และที่สำคัญรักสิ่งแวดล้อม เพราะไม่มีสารที่ทำร้ายปะการัง ข้อนี้เลิฟมากๆค่ะ พูดถึงในตัวผลิตภัณฑ์เป็นสปรย์กันแดดที่ดี ฉีดง่ายกระจายตัวได้ทั่วดี และที่สำคัญติดทน กันน้ำและเหงื่อด้วย เราสังเกตที่ผิวมันจะมีความเงานิดๆเหมือนให้เรารู้ว่าตอนนี้ผิวของเธอได้รับการปกป้องจากฉันอยู่นะ ที่สำคัญก็คือซึมเข้าผิวได้เร็วดี ทำให้เราไม่ต้องเสียเวลารอนานๆ ใช้ได้ทุกสภาพผิว ฉีดได้ทั้งผิวหน้าและผิวกายด้วยค่ะ

Nivea Micellair Skin Breathe Micellar Rose Water เป็นคลีนซิ่งที่เอมใช้บ่อยมาก เพราะว่าส่วนตัวเป็นคนที่ชอบกลิ่นหอมเวลาเช็ดล้างเครื่องสำอาง มันรู้สึกว่าผ่อนคลายดี ซึ่งคลีนซิ่งตัวนี้ก็ตอบโจทย์เราได้ดี อีกทั้งยังสามารถเช็ดล้างเครื่องสำอางแบบกันน้ำ เช่น อายไลเนอร์และมาสคาร่าได้อย่างหมดจด โดยไม่ทิ้งคราบใดๆไว้เลย เราใช้สำลีในการเช็ดเครื่องสำอางน้อยมากแต่ก็ยังสามารถเช็ดคราบเครื่องสำอางต่างๆออกได้อย่างหมดจด ทางเราชอบมาก ซึ่งหลังจากทำความสะอาดเครื่องสำอางออกจนหมด ผิวของเราก็ไม่ได้แห้งตึงอะไรนะคะ มีความชุ่มชื้นและกลิ่นหอมติดผิวอยู่ แต่คราบความมันใดๆ ไม่มีเลยจ้า หน้านุ่มดีนะ แล้วก็รู้สึกว่าผิวกระจ่างใสขึ้นด้วย ไม่รู้ว่าคิดไปเองมั้ย แต่เรารู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ส่วนตัวก็ใช้คลีนซิ่งของนีเวียอยู่แล้ว แต่พอได้มาลอง Nivea Micellair Skin Breathe Micellar Rose Water ก็ทำให้ยิ่งชอบมากขึ้นไปอีก แต่สำหรับคนที่อาจจะแพ้กลิ่นหอมๆ อาจจะว่ากลิ่นของผลิตภัณฑ์นี้หอมแรงไป ซึ่งตอนแรกเราก็รู้สึกแบบนั้น แต่พอได้ลองใช้จริงๆ เหลือกลิ่นหอมติดผิวแค่นิดหน่อยเอง ไม่ได้หอมน่ากลัวอะไรนะคะ แต่ถ้าใช้เช็ดตาก็ระวังนิดนึงอย่าเทมาในปริมาณเยอะๆนะคะ เพราะถ้าเข้าตา ยังไงก็แสบตาอยู่ดี ระวังนิดนึงนะ อีกอย่างก็คือรู้สึกว่าคลีนซิ่งแยกชั้นไวไปนิดนึง แต่ๆๆๆ พอเราเทคลีนซิ่งออกมาครั้งนึงก็เช็ดไปเกือบทั้งหน้าแล้วนะ เรื่องแยกชั้นไวก็เลยไม่ค่อยเป็นปัญหากับเราเท่าไหร่ค่ะ แล้วก็ที่ชอบอีกอย่างคือขวดใหญ่ ปริมาณสะใจมาก เราเป็นคนที่ต้องแต่งหน้าทุกวัน ปริมาณเยอะขนาดนี้จึงตอบโจทย์ความต้องการของเรามากๆค่ะ

สรุปคือ >ผลิตภัณฑ์นี้มีกลิ่นหอม >ทำความสะอาดได้หมดจด >ล้างเครื่องสำอางกันน้ำได้สะอาดดี >ให้ผิวชุ่มชื่น >กระจ่างใส >มีสารบำรุงผิว >ไม่แสบผิว >ขวดใหญ่สะใจด้วยค่ะ

สำหรับNivea Micellair Skin Breathe Micellar Rose Water เราให้ 5/5 คะแนน ไปเลย เพราะเราชอบทุกอย่างของผลิตภัณฑ์นี้จริงๆ ใช้ทุกครั้งก็ฟินทุกครั้งค่ะ ไม่มีปัญหาอะไรกับผิวเลยสักนิด ฟินมากๆๆๆ ^^

วันนี้จะมาแนะนำผลิตภัณฑ์ลดเลือนริ้วรอยที่เอมใช้มาตลอดในช่วงที่ผ่านมาค่ะ สิ่งนี้ก็คือ Neutrogena Rapid Wrinkle Repair Regenerating Cream เป็นครีมลดเลือนริ้วรอยที่มีส่วนผสมอันทรงคุณค่าที่จะช่วยให้ริ้วรอยต่างๆของเราลดเลือนได้ภายใน 7 วัน เนื้อครีมมีกลิ่นหอม ตอนที่ป้ายครีมลงบนผิวจะรู้สึกเย็นและสบายผิวมากค่ะ ไม่เหนียวเหนอะหนะ เนื้อครีมเกลี่ยง่าย ซึมเข้าสู่ผิวได้เร็วดี ไม่ทิ้งความมันใดๆไว้บนผิวเลยค่ะ ซึ่งส่วนตัวต้องบอกก่อนเลยว่าอายุเลยเลข 3 มานานมากแล้ว ริ้วรอยต่างๆก็ต้องมาเยี่ยมเยือนผิวหน้าของเราเป็นธรรมดามากๆ สิ่งเดียวที่เอมทำได้ก็คือหาครีมลดเลือนริ้วรอยดีๆสักตัวมาทาเพื่อป้องกันการเกิดริ้วรอยใหม่และช่วยลดเลือนริ้วรอยเก่าไปด้วยค่ะ สำหรับ Neutrogena Rapid Wrinkle Repair Regenerating Cream ตั้งแต่ใช้มาก็ไม่เคยทำให้ผิดหวังเลยค่ะ นอกจากเขาจะช่วยลดลเือนริ้วรอยไม่ว่าจะเส้นเล็กหรือเส้นใหญ่แล้ว เขายังช่วยให้ผิวของเอมดูชุ่มชื่น อิ่มน้ำ เหมือนได้รับการพักผ่อนและการบำรุงที่เพียงพอ ทั้งที่จริงๆแล้วเอมนอนดึกและพักผ่อนไม่ค่อยเพียงพอค่ะ แต่หลายๆคนที่ได้เจอเอมก็มักจะบอกเสมอว่าผิวหน้าดีมาก ผิวนุ่มเด้ง ริ้วรอยก็น้อย และนี่ก็คือเคล็ดลับของเอมค่ะ แหม...อายุขนาดนี้ก็ต้องมีตัวช่วยดีๆที่จะช่วยคงความอ่อนเยาว์ ผิวเด้ง ดูเต่งตึง ให้กับเราตลอดเวลาค่ะ ^^

สามารถเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางได้อย่างหมดจด แม้กระทั่งอายไลเนอร์หรือมาสคาร่าที่กันน้ำ กันเหงื่อแบบสุดพลัง ก็ยังเช็ดออกได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องออกแรงแต่อย่างใด เช็ดทำความสะอาดหน้าได้หมดจดและไม่ทิ้งความมันบนใบหน้าเลยค่ะ ปกติเอมจะต้องใช้รีมูฟเว่อร์เพื่อเช็ดรอบดวงตาและคลีนซิ่งเพื่อเช็ดผิวหน้า แต่ตอนนี้ง่ายและสบายกว่านั้นแล้วค่ะ

เอมได้ทดลองใช้ Natural Power C Miracle Advanced Brightening Serum จาก Oriental Princess ครั้งนี้เป็นครั้งแรกเลยนะคะ

ต้องบอกเลยค่ะว่าชอบตั้งแต่เรื่องแพคเกจจิ้งละ คือมีความดีมาก ดูใส่ใจเรื่องความสะอาดในการใช้ผลิตภัณฑ์แต่ละครั้งมากๆ เนื้อเซรั่มมีลักษณะใส มีกลิ่นหอมอ่อนๆคล้ายกลิ่นส้มด้วยนะคะ

แต่ที่เอมรู้สึกประหลาดใจคือเรื่องเนื้อสัมผัสของเซรั่มนี้ค่ะ คือเขาจะมีลักษณะคล้ายกับการที่เราทางไพรเมอร์น่ะค่ะ มันจะมีความเรียบๆลื่นๆ เวลาที่เราสัมผัสผิวหลังจากทาแล้วนะคะ ไม่ได้รู้สึกหนักหน้าอะไร

กลับรู้สึกชอบๆมากๆ เพราะเขาช่วยให้เครื่องสำอางเกาะบนหน้าได้ดีขึ้นค่ะ ระหว่างวันก็ไม่ทำให้หน้ามันด้วยนะคะ บอกเลยว่าเอมชอบมาก ^^

ภาพถ่ายเปรียบเทียบทั้งก่อนใช้และหลังใช้ภายในระยะเวลา 1 สัปดาห์ค่ะ ซึ่งตอนแรกเอมก็ไม่ได้รู้สึกอะไรหรอกนะคะเพราะเราเห็นตัวเองอยู่ทุกวันอยู่ละ แต่พอเอารูปที่่ถ่ายมาเปรียบเทียบกันเท่านั้นล่ะ คือตกใจมากว่า เขาช่วยทำให้หน้าเราดีขึ้นได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ มองตัวเองในกระจกหันซ้ายทีขวาที ก่อนจะตอบตัวเองว่า เออว่ะ!! ของเขาดีจริงๆ

หลังจากที่เอมได้ทดลองใช้ Lancome Teint Idole Ultra Wear Foundation สี BO-04 ต้องบอกเลยค่ะว่าเป็นเฉดสีผิวที่ตรงและเข้ากับผิวของเอมมากๆ เพราะผิวของเอมค่อนข้างออกเหลืองนิดค่ะ โชคดีมากที่เจอเฉดสีของตัวเองสักที แถมให้การปกปิดขั้นสูงแบบ Full Coverageติดทนตลอดวันโดยไม่ต้องเติมแป้ง ควบคุมความมันได้ยาวนาน เช้าจรดเย็น และ SPF สูงสุดถึง 38 PA+++เนื้อสัมผัสแบบแมทท์ เนื้อรองพื้นเกลี่ยง่าย มอบสัมผัสเบาสบาย ไม่เป็นคราบ ไม่ตกร่องระหว่างวัน และที่สำคัญหน้าไม่เทา ไม่หมองด้วยค่ะ เพราะเขาออกมาถึง 12 เฉดสีที่เข้ากับผิวคนเอเชียมากที่สุดแล้ว สังเกตได้จากรูปที่เอมลองทาครึ่งหน้าให้ทุกคนได้ชมกันนะคะ จะเห็นได้ชัดเจนเลยค่ะว่าเขาช่วยให้ใบหน้าของเรามีความกระจ่างใสขึ้นด้วย ริ้วรอยและจุดด่างดำต่างๆหายไปเลยนะคะ มันดีต่อผิว ดีต่อใจเอมมากๆเลยค่ะ สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่อยากได้งานผิว คุมมัน กันน้ำกันเหงื่อ และเฉดสีตรงกับผิวของตัวเองแบบสุดๆ เอมแนะนำให้ลอง Lancome Teint Idole Ultra Wear Foundation แล้วคุณจะไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ

หลังจากที่เอมได้ทดลองใช้ NIVEA Sun Body Daily Protect Whitening Sun Serum SPF50 PA+++ ต้องบอกเลยค่ะว่าประทับใจมาก คือเนื้อครีมของเขามีกลิ่นหอมอ่อนๆอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Nivea แล้ว ตอนที่ทาลงบนผิวก็ยังให้สัมผัสที่เรียบลื่นมากๆ ไม่มีอาการบาดผิวเลยแม้แต่น้อย เนื้อครีมซึมเข้าสู่ผิวได้ดีมาก ไม่มีอาการเหนียวหลงเหลืออยู่บนผิวเลย และที่สำคัญที่สุดคือระหว่างวันไม่รู้สึกเหนียวเหนอะหนะด้วยค่ะ สำหรับใครที่กำลังมองหาครีมกันแดดอยู่เอมขอแนะนำให้ลองตัวนี้นะคะ

หลังจากที่ได้ลองใช้ NIVEA Sun Protect & White Instant Aura Serum SPF50+ PA+++ สำหรับเราคือเราชอบมาก เนื้อครีมสีชมพู เนื้อสัมผัสเนียนนุ่ม เกลี่ยง่าย เรียบลื่นไปกับผิว เนื้อครีมซึมซาบเข้าสู่ผิวได้หมดจดดีมากเลยค่ะ และพอตอนที่เอามือสัมผัสกับผิวหน้าหลังจากทาครีมแล้ว มันมีฟีลแบบเหมือนเราได้ทาไพรเมอร์ด้วยน่ะค่ะ คือผิวจะลื่นๆนิด เวลาแต่งหน้าก็ทำให้เครื่องสำอางติดผิวได้ดีขึ้น เบลอรูขุมขนให้เราด้วยนะคะ สำหรับใครที่กำลังมองหาครีมกันแดดอยู่ล่ะก็ ห้ามพลาดที่จะลอง NIVEA Sun Protect & White Instant Aura Serum SPF50+ PA+++ เด็ดขาดเลยนะคะ

เราขอพูดในฐานะคนที่เพิ่งเคยใช้ Tomei นะคะ เนื่องจากเมื่อก่อนหน้านี้เราไม่ค่อยเป็นสิวแบบทีีหายากๆเท่าไหร่ คือแบบเป้ฯๆ เดี๋ยวก็หาย ไม่เคยทิ้งรอยสิวเลยค่ะ แต่ระยะมานี้เอมเริ่มเป้ฯสิวที่หายยากขึ้น มีรอยสิว รอยด่างดำจากสิวเสมอ ทำให้เอมเริ่มมองหาผลิตภัณฑ์ที่จะมาช่วยรักษาสิวเพิ่มมากขึ้น จนได้มาพบกับ Tomei นี่ล่ะค่ะ หลังจากที่เราได้ลองใช้ Tomei เป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์ ผลก็คือ สิวเล็กๆที่เอมมี ไม่ว่าจะเป็นที่คาง หรือข้างแก้ม ก็หายโดยปลิดทิ้ง ไม่มีรอยสิว ไม่รอยแผลเป็นเลยค่ะ หน้าใสขึ้นมากๆ บอกเลยว่าถ้าใครมีสิวที่หายยากหายเย็นแบบเอมนะคะ แนะนำให้ลองใช้ Tomei ดูเลยค่ะ แล้วคุณจะพบกับผลลัพธ์ที่คุณไม่เคยได้สัมผัสจากที่ไหนมาก่อนเลย ไม่เชื่อก็ลองดูสิคะ ^^

จากผมที่ชี้ฟู ไม่เคยมีน้ำหนักใดๆ ทำทุกวิธีก็แล้ว แต่พอได้มาลอง Dove Moisture Care Treatment ผมที่เคยแห้ง ไม่มีน้ำหนัก จัดทรงยากมากๆ ก็กลับมีชีวิตชีวามากขึ้น ปลายผมที่เคยชี้ฟูไม่รู้ทิศทาง ก็มีน้ำหนัก เรียบตรง เป็นทรงมากขึ้น จัดทรงก็ง่ายขึ้น กลิ่นหอมมาก รู้สึกสบายทุกครั้งที่ได้สระผม เหมือนว่าเรากำลังทำสปาผมอยู่เลยค่ะ สำหรับใครที่มีปัญหาผมแบบเดียวกับเอม จัดทรงยาก ไม่มีน้ำหนัก ชี้ฟูไร้ทิศทาง เอมแนะนำให้ลองใช้ Dove Moisture Care Treatment เลยค่ะ แล้วคุณจะรู้ว่าจริงๆแล้ว ผมคุณก็สวยได้ภายในไม่กี่ขั้นตอนเท่านั้นค่ะ หาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ Tops ทุกสาขา ทั่วประเทศเลยค่ะ

เอมได้ทดลองใช้เซรั่มตัวนี้มาประมาณ 8 วันแล้วค่ะ ผลลัพธ์สำหรับเอมคือดีมากๆเลยนะคะ เขาช่วยกระชับรูขุมขน คืนความกระจ่างใสทั้งยังให้ผิวที่อ่อนเยาว์ขึ้นด้วยค่ะ ลดเลือนริ้วรอยและความหมองคล้ำใต้ดวงตาของเอมด้วย ซึ่งตอนที่ทาลงผิวก็รู้สึกเหมือนเซรั่มทำปฏิกิริยากับผิวของเราน่ะค่ะ มันจะมีอาการตุ้บๆ เหมือนผิวกระตุกน่ะค่ะ เป็นสักพักเดียวแล้วก็หาย คนรอบข้างก็ทักว่าไปทำอะไรมาหน้าใสขึ้นมากๆ คนที่ได้รับคำชมอย่างเราก็ปลื้มมากๆเลยค่ะ ก็ต้องขอบอกตามตรงนะคะ เอมก็เป็นผู้หญิงคนนึงที่อายุก็เลยเลข 3 มาสักพักแล้วน่ะค่ะ การที่จะมีริ้วรอยหรือความหมองคล้ำใดๆปรากฎอยู่บนใบหน้า เอมก็ไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่นักหรอกค่ะ ซึ่งเอมเป็นคนที่ใช้เซรั่มมาเยอะนะคะ แต่ก็ยังไม่มีเซรั่มตัวใดเหมือนกับคุณคนนี้เลยค่ะ สังเกตจากรูปของเอมได้เลยค่ะ ว่าผิวใสขึ้นจริงๆ รอยคล้ำใต้ตาก็ดูดีขึ้นมากๆ รับรองเลยค่ะว่าต้องซื้อซ้ำและใช้ต่อเนื่องแน่นอน เพราะเรารู้สึกว่ายิ่งใช้ผิวก็ยิ่งดีขึ้นค่ะ หลงรักเข้าแล้วสิ คงยากที่จะถอนตัวแล้วล่ะค่ะ ^^