Profile

BIODERMA SEBIUM LOTION เขาเคลมว่า ลดความมัน / กระชับรูขุมขน / ชุ่มชื้น 8 ชม. ใช้ได้ทั้งแบบตบๆ หรือเทใส่สำลีแล้วเช็ดเป็นโทนเนอร์เลย กลิ่นสำหรับเราคือออกเขียวๆนะ แต่ก็มีความหอมอ่อนๆ ไม่ได้เหม็นเขียวเกินทน เนื้อโลชั่นซึมเร็วดี ไม่เหนียวเหนอะหนะ

ผลลัพธ์หลังใช้มาได้สักระยะหนึ่ง ที่เห็นชัดๆเลย คือ หน้ามันน้อยลง แต่ยังคงความชุ่มชื้นให้ผิวอยู่ จะเห็นได้ชัดเวลาแต่งหน้า เพราะเครื่องสำอางจะติดผิวหน้าได้ดีขึ้น ปกติเราแต่งหน้าออกจากบ้านทุกวัน แค่ครึ่งวันเมคอัพก็จะเยิ้มละ แต่พอมาเริ่มใช้อันนี้ แล้วมาสังเกตดูช่วงหลังเลิกงาน กลับมาถึงบ้านช่วง t-zone อาจจะมีมันบ้าง แต่เมคอัพไม่มีเยิ้มเลย ผิวดูละเอียดขึ้น หน้ากระชับขึ้น หลังหมดขวดนี้มีซ้ำแน่นอน เพราะใช้แล้วไม่แพ้ หน้าไม่มัน ผิวชุ่มชื้น ไม่แห้งเป็นขุย คิดจะใช้ต่อไปในระยะยาวเลยค่ะ

Nivea Micellair Expert Micellar Water คลีนซิ่งเป็นออยล์นิดๆ แต่หลังเช็ดแล้วผิวสะอาดดีค่ะ ไม่มันหรือเหนียวเหนอะหนะ และไม่ได้ทำให้ผิวแห้งตึง

ที่ชอบมากๆ คือ สามารถเช็ดเครื่องสำอางออกได้อย่างหมดจดในครั้งเดียว ไม่ว่าจะเป็น รองพื้น / blush on / eye shadow หรือ eye liner โดยไปต้องเช็ดซ้ำๆ ให้เกิดการทำร้ายผิว ไม่ระคายเคือง เช็ดบริเวณรอบดวงตาได้ ไม่แสบตาเลยค่ะ

ในส่วนของการเช็ดลิปสติกเนื้อ matte ก็ทำได้ดีค่ะ เคยลองคลีนซิ่งบางยี่ห้อ เช็ดริมฝีปากแล้วมีรสขมจากตัวคลีนซิ่ง แต่กับนีเวียตัวนี้ ไม่เจอปัญหานี้แน่นอนค่ะ

เซรั่มเนื้อใส เนื้อเซรั่มค่อนข้างเข้มข้นอย่างรู้สึกได้ตั้งแต่ตอนที่กดออกมาจากขวด ไม่ข้นหรือเหลวจนเกินไป พอทาลงบนใบหน้าแล้วรู้สึกว่าซึมซับได้ดี ตัวเซรั่มแมทท์ไปกับผิวหน้าโดยไม่ทำให้หน้ามันวาวเลยค่ะ คนผิวมันใช้ได้นะคะ ตัวเซรั่มมีกลิ่นเล็กน้อย แต่ไม่ถึงกับหอมหรือฉุนมากจนเกินไป แพ็คเกจใช้ง่ายดีค่ะ ชอบมาก เป็นแบบหมุนๆให้ตัวปั๊มเซรั่มโผล่ขึ้นมา กดเซรั่มออกมาใช้เสร็จก็หมุนหัวปั๊มลง

ตอนนี้ใช้มาประมาณ 7-10 วัน รู้สึกผิวหน้ากระจ่างใสขึ้น สีผิวดูสม่ำเสมอมากขึ้น แต่ส่วนตัวมีรอยฝ้าและกระด้วย อาจจะต้องรอดูผลอีกสักระยะค่ะ 

เราใช้เป็นตัว Dry skin นะคะ *เริ่มทดลองจากการล้างเครื่องสำอางบนแขนก่อน* - จากรูปแรกเรียงจากด้านบนลงมา ก็จะเป็น บลัชออนแบบคุชชั่น บลัชออนเนื้อแมทท์ ลิปสติกแบบลิขวิด เนื้อแมทท์ คอนทัวร์เนื้อครีม อายแชว์โด - รูปสอง เทคลีนซิ่งลงบนสำลีแผ่นแล้วปาดจากบนลงล่าง 1 รอบ - รูปสาม ปาดด้วยสำลีแผ่นเดิมซ้ำเป็นรอบที่สอง ไม่ได้เทคลีนซิ่งเพิ่มนะคะ เป็นการเช็ดแบบปาดลงมา ไม่มีการขยี้ซ้ำใดใดทั้งสิ้น เท่ากับว่า ตัวคลีนซิ่งสามารถทำความสะอาดเครื่องสำอางเนื้อฝุ่นได้สะอาดในระดับหนึ่ง โดยที่เราไม่ต้องออกแรงเช็ดซ้ำๆวนๆให้เกิดการทำร้ายผิวนะคะ ส่วนลิปสติกที่เป็นเนื้อลิขวิดหรือกันน้ำก็อาจจะต้องเช็ดซ้ำหลายครั้งนิดหนึ่ง แต่โดยรวมถือว่าอยู่ในระดับที่ดีค่ะ *ในส่วนที่ลองกับผิวหน้า* - ชอบที่กลิ่นไม่แรง ปลื้มสุด คือ เช็ดรอบดวงตาได้โดยไม่แสบตา เช็ดริมฝีปากแล้วไม่รู้สึกว่ามีรสชาต (บางยี่ห้อที่เคยลองจะมีรสขมๆติดริมฝีปากค่ะ) - หลังเช็ดทำความสะอาด ไม่รู้สึกว่าหน้าแห้ง ลองเอามือแตะๆหน้า ผิวมันก็เย็นๆ เด้งๆ นะ ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า 555555 สรุปสอบผ่านค่ะ ทั้งเรื่องการทำความสะอาดที่ล้ำลึกดี และความอ่อนโยนต่อผิวหน้า หน้าชุ่มๆ เด้งๆ ดี๊ดี

ซึมซับเร็ว กลิ่นหอม ใช้แล้วรู้สึกว่าเห็นผลนะ หน้าดูขาวใสแล้วก็ชุ่มชื้นขึ้น ผิวเรียบเนียนดีด้วยค่ะ

ล้างหน้าและเครื่องสำอางได้สะอาดหมดจดดีค่ะ ผิวไม่แห้งตึงหลังล้าง ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่มีฟอง ตอนแรกแอบกังวลว่าจะล้างเกลี้ยงไหม แต่หลังล้างแล้วลองเอาสำลีชุบออยส์มาเช็ดหน้า ปรากฏว่าไม่มีคราบสกปรกติดออกมาหลังล้าง ปล. เคยแอบเอามาลองหยดใส่ฟองน้ำไข่ที่เปื้อนรองพื้น ปรากฏว่าคราบรองพื้นที่ฝังในฟองน้ำหลุดออกมาหมดจดเลยนะคะ ทึ่งมาก

สัมผัสแรกเลยคือ - ฟองน้ำนุ่มมากกกกกกกก สบายปากสุดๆ - เนื้อสีเกลี่ยง่าย เกลี่ยแล้วเนียนไปกับปากเลย - สีสวยชัดเจนดี สีตรงกับในตัวแพ็คเกจ - พอแห้งแล้วเป็นแมทท์ที่ปากไม่แตก ไม่แห้งเป็นขุยๆ สีไม่ตกร่อง ปากยังชุ่มชื้นอยู่ โดยรวม คือ ดีงาม พึงพอใจมากค่ะ ชอบสี 270 กับ 374 สุดๆ ><~